ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 5931
ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

นารายณ์สี่กร

[คัดลอกลิงก์]
นารายณ์สี่กร


ผมพยายามจะจดจำให้ได้ เทพศาสตราวุธหนึ่งในสี่พระกรของพระนารายณ์นั้นมีอะไรบ้าง แต่พอจะจำจากคำกลอนเก่า “อันนารายณ์นั้นมีสี่หัตถา ทรงตรีคทาจักรสังข์”

พอไปอ่านลิลิตโองการแช่งน้ำ สมุทโฆษคำฉันท์ คำพากย์รามเกียรติ์...ตรี...หายไป กลายเป็น ธรณี ธริษตรี และธาตรี ซึ่งหมายถึง “แผ่นดิน”
บางฉบับ...หนึ่งในสี่อาวุธหายไป เปลี่ยนเป็น “ปัทม” ดอกบัว

ในหนังสือทิพยนิยาย จากปราสาทหิน (สำนักพิมพ์เมืองโบราณ) คุณอรุณศักดิ์ กิ่งมณี เขียนถึงพระวิษณุ หรือพระนารายณ์ว่า เป็นหนึ่งในเทพตรีมูรติผู้ยิ่งใหญ่ในศาสนาฮินดู

พระพรหมผู้สร้างโลก พระวิษณุผู้รักษาโลก และพระศิวะผู้ทำลายโลก

พระวิษณุมีชายาคือพระนางลักษมี เทพีแห่งโชคลาภ มีพญาครุฑเป็นพาหนะในภาวะปกติ เมื่อโลกถูกทำลาย เรียกว่าสิ้นกัลป์ พระวิษณุจะบรรทมเหนือพญาอนันตนาคราชในเกษียรสมุทร

ปกติรูปเคารพพระวิษณุจะเป็นเทพเศียรเดียว มีสี่กร ถือเทพศาสตราวุธหลายอย่าง แต่ที่พบเสมอคือ จักร สังข์ คทา และดอกบัว

จักรมีอีกชื่อวัชรนาถ หรือจักรสุทรรศน์ เป็นจักรที่พระเพลิงมอบให้เมื่อครั้งที่พระนารายณ์ไปช่วยให้พระเพลิงไปเสวยป่าฑณฑพตามปรารถนา
ตำนานบางเล่มเล่าต่างออกไป วิษณุสร้างจักรขึ้นเอง จากรัศมีความร้อนของสุริยเทพ เป็นเครื่องหมายแทนดวงอาทิตย์ และวงโคจรรอบจักรวาล
สังข์อีกชื่อ ปาญจะชันยะ เดิมเป็นเปลือกหอยสังข์หุ้มกาย ปัญจชน อสูร ต่อมาถูกพระกฤษณะ อวตารปางหนึ่งของพระวิษณุตามไปสังหาร นำเปลือกหอยอสูรมาเป็นศาสตราวุธ

สังข์เป็นสัญลักษณ์ของน้ำ ชีวิต และความอุดมสมบูรณ์ ทั้งยังเป็นเครื่องเป่าประกาศขับไล่สิ่งชั่วร้าย

เริ่มต้นของเหตุการณ์อันเป็นมงคล

คทาอีกชื่อ เกาโมทก พระเพลิงมอบให้พร้อมจักรวัชรนาถ คทาบ่งบอกฐานะผู้คุ้มครอง สร้างระเบียบ ลงโทษผู้ทำความชั่วร้าย โดยเฉพาะเหล่าอสูรซึ่งเป็นศัตรูกับเทพเจ้า

ดอกบัวคือสัญลักษณ์ของโลกและการสร้างโลก บางครั้งดอกบัว ก็จะเป็นวัตถุรูปกลมๆ ในฝ่ามือ ซึ่งก็คือภู หมายถึงแผ่นดินอันเป็นสัญลักษณ์แทนโลกได้เช่นกัน

ตามเทวสถานฮินดู ทั้งในอินเดียและเอเชียอาคเนย์โบราณ รวมปราสาทหินในเขมร ไทย นิยมจำหลักภาพเล่าเรื่อง วิษณุอนันตศายินปัทมนาภิน หรือวิษณุบรรทมเหนืออนันตนาคราช บังเกิดดอกบัวผุดขึ้นจากพระนาภี

คัมภีร์ฮินดูหลายเล่มกล่าวถึง “นารายณ์บรรทมสินธุ์”ว่า เกิดขึ้นเมื่อครั้งโลกถูก (พระอิศวร) ทำลายจมอยู่ใต้น้ำ บรรดาเหล่าพระพรหม และฤาษีที่อยู่ในโลกเบื้องบน ได้อ้อนวอนพระวิษณุให้สร้างโลกขึ้นมาใหม่

พระวิษณุทำโยคะนิทรา บังเกิดดอกบัวทองดอกหนึ่งผุดขึ้นจากพระนาภี มีพระพรหมประทับอยู่บนนั้น

และพระพรหมก็จะทำหน้าที่สร้างโลกและสรรพสิ่งต่างๆในโลกขึ้นมาอีกครั้ง

ผมอ่านตำนานการสร้างโลกของฮินดูตอนนี้แล้ว ก็ขอเดาเอาว่า เมื่อโลกเกิดปัญหา มนุษย์ก็สร้างอาวุธใส่มือพระวิษณุ ยุคหนึ่งมีปัญหาหนึ่ง ก็ใส่อาวุธเพื่อใช้แก้ปัญหาหนึ่ง สมัยต่อมาปัญหาเปลี่ยนไป อาวุธก็เปลี่ยนตาม

http://www.thairath.co.th/content/350777
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-12-11 12:40 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พระ (นารายณ์) มาโปรด

โดย กิเลน ประลองเชิง 11 ธ.ค. 2558







มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พอจะยืนยันว่า คนอินเดียเมื่อราว พ.ศ.200 นับถือพระอิศวร และพระนารายณ์ ส่วนพระพรหมนั้น นับถือกันมาก่อนสมัยพุทธกาลแล้ว
(วิสุทธิ์นิพนธ์ รวมงานเขียนอาจารย์ วิสุทธิ์ บุษยกุล สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์ พ.ศ.2520)
คัมภีร์ปุราณะมีหลายฉบับ บางฉบับนับถือพระอิศวร บางฉบับก็นับถือพระนารายณ์ แต่ฉบับหนึ่งออกไปทางสมานฉันท์ รวมพระพรหมเข้าไป นับถือทั้งสามพระองค์ แบ่งหน้าที่เป็นเทวะผู้สร้าง เทวะผู้รักษา และเทวะผู้ทำลาย
เมื่อพระพรหมเทพเจ้าผู้สร้าง สร้างโลก ทวยเทพ คน และสัตว์แล้ว ก็เป็นอันหมดหน้าที่ จนกว่าโลกจะมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ พระนารายณ์ เทวะผู้รักษาก็จะอวตารมาปัดเป่า
อาจารย์วิสุทธิ์ ดูจะตั้งใจเล่าเรื่องพระนารายณ์...ท่านเล่าว่า เดิมทีพระนารายณ์มีนามว่า “วิษณุ” หรือ “พิษณุ” มาเปลี่ยนเป็น “นารายณ์” ในระยะหลัง
ตามรูปเขียน พระนารายณ์เป็นบุรุษหนุ่ม กายสีนิลแก่ สวมเครื่องอย่างกษัตริย์ เสื้อทรงสีเหลือง มีสี่กร ทรงอาวุธสี่...ตรี คชา จักร และสังข์ นานๆเข้าก็ทรงเบื่อ เปลี่ยนเป็น ธนู ดอกบัว และพระขรรค์บ้างตามพระอัธยาศัย
ไม่เพียงเปลี่ยนอาวุธ...สีกายพระนารายณ์ก็เปลี่ยน ในกฤตยุค ยุคแรกของโลก คุณธรรมความดีของคนมีเต็มเปี่ยม สีกายพระนารายณ์สีขาว ยุคที่สอง ไตรดายุค ธรรมะและคุณธรรมมนุษย์เหลือสามในสี่ สีกายพระนารายณ์สีแดง
ยุคที่สาม ทวาปรยุค คุณธรรมมนุษย์เหลือครึ่งเดียว สีกายเป็นสีเหลือง
ปัจจุบัน อยู่ในยุคที่สี่ กลียุค คุณธรรมมนุษย์ลดลงเหลือหนึ่งในสี่ สีกายพระนารายณ์ เปลี่ยนเป็นสีนิลแก่
ปางอวตารพระนารายณ์มีมาก แต่ที่นิยมกันมีเพียงสิบปาง ปาง 1 เป็นปลา ปาง 2 เป็นเต่า ปาง 3 เป็นหมู ปาง 4 เป็นนรสิงห์ ปาง 5 เป็นคนแคระ ปาง 6 เป็นปรศุราม
ตั้งแต่ปางที่ 1 ถึงปางที่ 5 คนไทยคุ้นน้อยกว่าปางที่ 7 รามาวตาร พระนารายณ์อวตารเป็นพระราม ปราบทศกัณฐ์ ในเรื่องรามเกียรติ์ ปางที่ 8 กฤษณาวตาร อวตารเป็นพระกฤษณะ ปราบพญากงส์หรือพาณาสูร
ปางนี้คนอินเดียชอบมาก ตอนที่กล่าวถึงความรัก ระหว่างพระกฤษะและหญิงเลี้ยงวัวชื่อนางราธา
ปางที่ 9 พุทธวตาร ชาวฮินดูอาจเห็นว่า ศาสนาพุทธกำลังรุ่งเรือง จึงผูกเรื่องว่า พระนารายณ์อวตารเป็นพระพุทธเจ้า ลวงให้คนเลวหลงเชื่อเพื่อให้คนเลวไม่ได้ขึ้นสวรรค์ ส่วนชาวฮินดูที่ไม่หลงเชื่อพระพุทธเจ้า คือชาวฮินดูแท้ จะได้ขึ้นสวรรค์
ปางที่ 10 กัลกยาวตาร...เมื่อความเลวทรามต่ำช้า อย่างในกลียุคนี้สิ้นสุดในโลกแล้ว พระนารายณ์อวตารเป็นมหาบุรุษ มาช่วยบันดาลให้โลกสงบสุข
ระหว่างที่รอ...พระนารายณ์มาโปรด ควรทำความรู้จักเจ้านายใหม่ เอาเรื่องหลังบ้านพระนารายณ์ก่อน คัมภีร์บางเล่มบอกว่า ทรงมีมเหสีถึงสามองค์ พระลักษมี พระสรัสวดี และพระคงคา
แม้โบราณว่า เมียสองต้องห้าม เมียสามงามกว่า ก็เชื่อไม่ได้ เพราะมเหสีทั้งสามนั้น ต่างก็มีทิฐิไม่ยอมอ่อนน้อมต่อกัน
(นี่อาจเป็นที่มา ทำให้ต้องทรงเปลี่ยนจากวิมานบนฟ้า เสด็จไปสงบใจ ในพระที่นั่งไวกูณฐ์ กลางเกษียรสมุทร นอนกระดิกพระบาทเล่นในน้ำ ชื่อวิษณุ เปลี่ยนเป็นนารายณ์ น่าจะได้จากตอนนี้)
ระหว่างที่ทรงนอนกระดิกพระบาทในน้ำล่ะกระมัง จึงทรงได้พระสติ...ตัดสินพระทัย ยกพระสรัสวดี ให้เป็นชายาพระพรหม ยกพระคงคา ให้เป็นชายาพระอิศวร
จึงทรงเหลือพระลักษมี เป็นมเหสีพระองค์เดียว
นับแต่นั้น เรื่องร้อนหูร้อนใจที่เกิดขึ้นในวิมานก็หมดไป ทรงอยู่กับพระลักษมีเป็นสุขด้วยกันเรื่อยมา
อ่านตามคัมภีร์ก็พอเห็นภาพ ตอนนี้พระนารายณ์กำลังทรงนอนพักชาร์จพระพลัง...รอเวลาสิ้นกลียุค ก็จะเสด็จมาโปรด เพื่อให้โลกสงบเย็นเป็นนิรันดร์ ในวันข้างหน้า...ซึ่งยังไม่รู้ว่านานแค่ไหน

http://www.thairath.co.th/content/547053



ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้