|
เมื่อย่างเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว คนไทยต่างลุ้นกันว่าฤดูหนาว อากาศจะหนาวนานหรือความหนาวจะมาเยือนแค่ระยะสั้นๆ
ซึ่งคนที่ลุ้นจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มแรก คือกลุ่มคนเมืองที่ความเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ป้องกันความหนาว ไม่ว่าจะเป็นผ้าห่ม เสื้อกันหนาวราคาแพงๆ อยากจะให้หนาวนานแบบยะเยือก เพื่อจะได้นำเสื้อผ้ามาสวมอวดกันหรือเตรียมพร้อมที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสอากาศหนาว
กลุ่มที่2คือกลุ่มคนที่อยู่ในชนบท บนภูเขาสูง จะลุ้นให้ความหนาวมาเยือนในระยะสั้นๆ เพราะทำให้การดำรงชีพค่อนข้างลำบาก ขาดผ้าห่มหรือเสื้อกันหนาวที่จะทำให้คลายหนาวได้
กลุ่มที่ 3 บรรดาเจ้าของรีสอร์ต โรงแรม ต่างลุ้นให้มีระยะเวลานาน เพราะเป็นช่วงที่สามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจอย่างเป็นกอบเป็นกำ
แต่ด้วยสภาพอากาศโลกที่แปรเปลี่ยนส่งให้ฤดูกาลในประเทศไทยแปรเปลี่ยนไปด้วย
ปีนี้ก็ลุ้นระทึกเช่นกันว่าฤดูหนาวที่มาเยือนจะหนาวแบบยะเยือก ระยะสั้นหรือระยะยาว จะปกคลุมถึงกรุงเทพฯและภาคตะวันออกหรือไม่?
คำถามนี้ "วันชัย ศักดิ์อุดมไชย" อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา มีคำตอบให้ว่า ในภาพรวมของฤดูหนาวในประเทศไทยปีนี้จะมีอากาศหนาวน้อยกว่าปกติ หรืออาจจะใกล้กับเมื่อปีที่ผ่านมา อีกทั้งจะมีระยะเวลาที่สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นสั้นกว่าปกติ
"ภาคเหนือในพื้นที่ราบอุณหภูมิบนที่ราบจะอยู่ที่ราวไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส ส่วนในเมืองหรือ กรุงเทพฯ อุณหภูมิจะลดลงเต็มที่ไม่เกิน 20 องศาเซลเซียส และจะลดลงเป็นระยะสั้นคือ 1-2 วันเท่านั้น อีกทั้งในบางช่วงเวลาอาจมีฝนหลงฤดูเข้ามาบ้าง
"ช่วงที่คาดว่าอากาศหนาวที่สุดน่าจะอยู่ที่รอยต่อระหว่างปลายธันวาคม ต้นเดือนมกราคม ที่จะมีความกดอากาศเสริมจากประเทศจีนแผ่ลงมาเสริมประเทศไทยตอนบนเป็นระยะ ส่งผลให้ในช่วงเวลาดังกล่าว บริเวณยอดดอย ยอดภู เทือกเขา จะมีอากาศหนาวและอากาศหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางวัน" วันชัยบอก พร้อมอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้ในฤดูหนาวครั้งนี้มีน้อยกว่าปกติว่า เนื่องจากปี 2558 เป็นปีของเอลนิโญ ซึ่งปรากฏการณ์เอลนิโญรอบนี้จะส่งผลให้หนาวน้อยและแล้งด้วย จะยังมีผลไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2559
ขณะที่ "ภุชพงค์ โนดไธสง" รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา บอกว่า การประกาศเข้าสู่ฤดูหนาวในประเทศไทยนั้นจะมีการพิจารณาผสมผสานกันระหว่างช่วงเดือน คือตั้งแต่หลังกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป คลื่นลมหนาวตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านมายังประเทศไทยต่อเนื่อง ในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 3 วัน
"ซึ่งเดิมทีในประเทศไทยมีแผนจะประกาศเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ปัจจัยด้านลมหนาวที่ผ่านมายังประเทศไทยไม่เอื้ออำนวย จึงได้เลื่อนการประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการไปอีก 1 สัปดาห์" ภุชพงค์ระบุ
ขณะที่บรรยากาศที่สะท้อนถึงฤดูหนาวมาเยือนเริ่มปรากฏสัญลักษณ์ให้เห็นโดยเฉพาะทางภาคเหนือ สภาพอากาศเริ่มเย็นลงอย่างต่อเนื่องทำให้ดอกพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยซึ่งขึ้นต้นตามเทือกเขาต่างๆ ใน จ.เชียงราย เริ่มผลิดอกเบ่งบานอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะที่ดอยช้างตั้งอยู่หมู่บ้านดอยช้าง หมู่ 3 ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ต้นซากุระตามสองข้างทางก่อนเข้าสู่หมู่บ้านประมาณ 10 ต้น ผลิดอกเบ่งบานเป็นสีชมพูอย่างสวยงามเป็นที่ประทับใจแก่ผู้ที่เดินทางขึ้นลงดอยช้างในช่วงนี้ บรรดานักท่องเที่ยวและบุคคลภายนอกที่ไม่เคยพบเห็นต่างจอดรถลงถ่ายภาพดอกซากุระที่เบ่งบานเต็มต้น
ทั้งนี้ในปัจจุบันมีต้นซากุระที่ปลูกในหลายพื้นที่ เช่น ดอยแม่สลอง ดอยตุง อ.แม่ฟ้าหลวง ดอยยาวดอยผาหม่นพื้นที่ระหว่าง อ.เวียงแก่น และ อ.เทิง ดอยวาวีและดอยช้าง อ.แม่สรวย ฯลฯ ซึ่งที่ผ่านมากลายเป็นมนต์เสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปสัมผัสลมหนาวได้คึกคักอย่างต่อเนื่อง
"ประสงค์มั่นสลุง"ผู้อำนวยการศูนย์วิชัยและพัฒนาเกษตรที่สูงเชียงราย อธิบายถึงปรากฏการณ์ซากุระเมืองไทยว่า ปกติดอกพญาเสือโคร่งที่อยู่ตามดอยสูงของ จ.เชียงราย โดยเฉพาะที่ดอยช้างจะเบ่งบานในช่วงกลางฤดูหนาวหรือราวเดือนธันวาคม-มกราคม คาบเกี่ยวปีเป็นประจำ แต่เนื่องจากในปีนี้มีลมหนาวพัดผ่านเข้ามายังพื้นที่ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม ทำให้มีความหนาวเย็นและดอกซากุระเมืองไทยจึงเบ่งบานก่อน ต้นที่ผลิดอกบานถือเป็นการบานนอกฤดูและเป็นจุดๆ ไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด หลังจากนี้เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวเต็มตัวจึงจะค่อยเบ่งบานพร้อมกันทั่วทุกขุนเขาต่อไป
"ที่ผ่านมาเชียงรายปลูกต้นซากุระเมืองไทยตามขุนเขาต่างๆ เอาไว้กว่า 300,000-400,000 ต้น แต่เนื่องจากช่วงแรกปลูกแออัดเบียดเสียดกันจึงเหลืออยู่ในปัจจุบันราว 100,000 ต้น ถือว่ามาก นอกจากนี้ที่ผ่านมาสมาคมซากุระประเทศญี่ปุ่นร่วมกับ จ.เชียงราย นำต้นซากุระสายพันธุ์ประเทศญี่ปุ่นมาปลูกตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งที่บริเวณโดยรอบศาลากลางจังหวัด ตามพื้นที่สูงนำไปปลูกที่ดอยช้างมูบ อ.แม่สาย ด้วยจึงเชื่อว่าปีนี้ทั้งดอกพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยและดอกซากุระสายพันธุ์ญี่ปุ่นจะเบ่งบานทั่วทั้งขุนเขาทั่วไปอย่างสวยงามแน่นอน"ประสงค์กล่าวทิ้งท้าย
เมื่อมองจากคำอธิบายถึงปรากฏการณ์แห่งฤดูหนาวจากผู้ที่เกี่ยวข้อง พอจะมองแนวโน้มออกว่าปีนี้ฤดูหนาวคงจะมาเยือนในระยะสั้นๆ
ยิ่งดอกดอกพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยผลิบานแล้วตั้งแต่ต้นตุลาคมพอบ่งบอกได้ว่าฤดูหนาวมาเร็วและจบเร็ว
จะทำให้คนชนบท คนบนภูสูงอาจปลื้ม แต่คนเมือง เจ้าของธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต อาจไม่ปลื้ม !!
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1446086440
|
|