ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนาน เรื่องเล่า เกร็ดความรู้ เรื่องลี้ลับ
»
ตำนาน น้ำท่วมโลก V.ฮินดู
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 2783
ตอบกลับ: 1
ตำนาน น้ำท่วมโลก V.ฮินดู
[คัดลอกลิงก์]
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2015-9-23 07:37
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
ตำนาน น้ำท่วมโลก V.ฮินดู
มีหลากหลายคติความเชื่อในเรื่องน้ำท่วมโลก อย่างเช่น เรือโนอาห์ในศาสนาคริสต์ หรือในศาสนาอิสลามก็มีเรื่องราวคล้ายคลึงกัน ทีนี่จะมาเล่าเวอร์ชั่นฮินดูให้ฟังกัน ซึ่งเป็นภาคหนึ่งในนารายณ์อวตาร ชื่อว่า
มัตสยาวตาร
เรื่องราวมีอยู่ว่า......เมื่อครั้งโลกมนุษย์สิ้นยุคไปหนึ่งชั่วกัลป์ พระพรหมทรงสร้างโลกใหม่ขึ้น หลังเสร็จสิ้นภาระกิจ พระพรหมจึงเสด็จเข้าบรรทมด้วยความเหนื่อยล้า ในระหว่างนั้นคัมภีร์พระเวททั้ง 4ประกอบด้วย ฤคเวท สามเวท ยชุรเวท และอาถรรพเวท ก็ไหลออกจากปากพระพรหม ตกลงสู่ท้องมหาสมุทร
มีอสูรอยู่ตนหนึ่งชื่อว่า “หัยครีพ” หรือ "สังขอสูร" (หอยสังข์ยักษ์) ที่ปกติอาศัยอยู่ใต้ท้องมหาสมุทร คอยจับสัตว์น้ำกินเป็นอาหาร
เมื่อเห็นภัมภีร์พระเวทตกลงมาจากสวรรค์ อสูรหัยครีพจึงตัดสินใจโผล่ขึ้นมาฮุบกลืนคัมภีร์พระเวท แล้วนำความรู้ของมวลมนุษย์ดำดิ่งสู่ใต้ท้องทะเล
เมื่อใดที่พระพรหมเข้าสู่บรรทม เมื่อนั้นโลกก็เข้าสู่ความมืดมน อนธการ น้ำจะท่วมโลก สิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะสูญสิ้นเผ่าพันธ์ุ (เพิ่งสร้างโลกใหม่แล้วแท้ๆ สงสัยต้องการจะล้างมนุษย์ชั่วๆทิ้งไปก็เป็นได้) ช่วงที่พระพรหมหลับไหล หรือที่เรียกว่า พรหมราตรี จะกินเวลายาวนาน 4,320 ล้านปี
พระนายณ์ด้วยเมตตามวลมนุษย์ จึงทรงอวตารแบ่งภาคลงมาเกิดเป็น ลูกปลากรายสีทอง (บ้างก็ว่า มีเขาบนหัวด้วย) ปลาน้อยตัวนี้ชื่อว่า สัปพลิ (่ สัป -พะ-ลิ)
เมื่อนั้นมีพระราชาสืบเชื้อมาทางสาย สุริยะวงศ์ ครองกรุงอโยธยา พระนามว่า “พระสัตยพรต” ราชาองค์นี้ฝักใฝ่ในธรรมะยิ่ง ไม่เสวยสิ่งมีชีวิตใดๆ จะเสวยก็เพียงแต่น้ำเปล่าอย่างเดียว
วันนึงขณะที่ท้าวสัตยพรต เสด็จไปชำระบาปที่ริมน้ำกฤตะมาลา ขณะที่พระองค์วักน้ำขึ้นมาชำระร่างกาย ก็ติดปลาตัวน้อย สัปพลิ ขึ้นมาในอุ้งมือ ปลาน้อยขอให้พระราชาสัตยพรตช่วยชีวิต ด้วยในแม่น้ำตนอาจถูกปลาตัวใหญ่กินไปก็ได้ พระราชาจึงเมตตานำปลาน้อยสัปพลิไปเลี้ยงในพระราชวัง
เมื่อถึงพระราชวัง ท้าวสัตยพรตก็ทรงนำปลาน้อยสัปพลิไปเลี้ยงไว้ใน หม้อ เมื่อเวลาผ่านไป 1 คืน ปลาน้อยเติบโตจนตัวใหญ่คับหม้อ พระราชาจึงย้ายปลาน้อยไปเลี้ยงไว้ใน อ่าง ผ่านไปอีก 1 คืน ปลาสัปพลิก็โตเต็มอ่างอีก จึงต้องย้ายไปเลี้ยงไว้ใน สระน้ำ ผ่านไปอีก 1 คืน ปลาสัปพลิก็โตเต็มสระอีก จึงต้องย้ายไปเลี้ยงไว้ที่ทะเลสาป ผ่านอีก 1 คืน ก็โตเต็มทะเลสาปอีก ท้ายที่สุดพระราชาสัตยพรต ก็ทรงนำไปปล่อยที่ มหาสมุทร
จากนั้นพระราชาสัตยพรตก็ทรงทำพิธีบูชาปลาสัปพลิด้วยความเคารพอย่างต่อเนื่อง ด้วยคิดว่าปลาสัปพลินี้ คงไม่ใช่ปลาธรรมดาเป็นแน่
เมื่อทดสอบศีลธรรม ความเมตตาปราณี ของท้าวสัตยพรตจนเป็นที่พอใจแล้ว พระนารายณ์หรือปลาสัปพลิ จึงกล่าวความลับต่อพระราชาว่าในอีกไม่นาน จะเกิดน้ำท่วมโลก ชีวิตทั้งหลายในโลกกำลังจะพินาศ พระนารายณ์แนะนำทางรอดให้ท้าวสัตยพรต ด้วยการให้พระองค์ต่อเรือลำใหญ่ แล้วอัญเชิญพระฤาษีระดับสูง 7 ตน มนุษย์บางกลุ่ม พร้อมต้นไม้นานาพรรณ และสิงสาราสัตว์อีกอย่างละ 1 คู่ ขึ้นเรือเพื่อให้รอดจากวิบัติภัยในครั้งนี้
ครั้นถึงเวลาที่พระพรหมหลับสนิท เมื่อนั้นท้องฟ้าก็มืดมิดสิ้นแสง เกิดพายุฝนอย่างรุนแรง ท้าวสัตยพรตและหมู่มวลบริวารจึงพากันอพยพขึ้นเรือ หลังจากนั้นเพียงนานก็เกิดคลื่นน้ำขนาดยักษ์กลืนทุกสรรพสิ่งไปไว้ใต้บาดาล
ท้าวสัตยพรตที่อยู่บนเรือ พระองค์ทรงเห็นซากศพสิ่งมีชีวิตลอยเต็มไปหมดทั่วพื้นน้ำ ก็ทรงเสียใจอย่างยิ่ง เหล่าฤๅษีเลยต้องเตือนสติให้ภาวนาถึงพระนารายณ์เข้าไว้
ขณะนั้นปลาสัปพลิก็ปรากฏกายขึ้นข้างเรือ พร้อมทั้งกล่าวให้ท้าวสัตยพรตนำพญานาคตนหนึ่งไปผูกไว้กับหัวเรือและส่วนเขาของตน จากนั้นปลาสัปพลิก็ลากเรือไปหลบไว้ในที่ปลอดภัย ท้าวสัตพรต และฤาษีทั้ง 7 พร้อมด้วยบริวาร ต่างพากันสรรเสริญพระนารายณ์ ด้วยการพร่ำสวดชื่อทั้ง 1000 พระนามของพระนารายณ์เป็นการบูชา
เมื่อกาลผ่านไป 4,320 ล้านปี พระพรหมก็ทรงตื่นจากบรรทม หมดสิ้นช่วงพรหมราตรี เข่าสู่ พรหมทิวา ทุกอย่างบนโลกก็กลับมาเป็นปกติดังเดิม พระราชาสัตยพรตและบริวารก็พากันอพยพลงจากเรือสู่พื้นแผ่นดิน เริ่มต้นยุคใหม่ โดยมีพระนารายณ์อำนวยอวยพรให้ครองโลกด้วยความผาสุข
จากนั้น พญาปลาสัปพลิก็ดำดิ่งสู่ใต้ท้องมหาสมุทร เพื่อนำคัมภีร์พระเวทที่อสูรหัยครีพนำไปซ่อนไว้คืนแก่พระพรหม
พอพบอสูรหัยครีพ ทั้งสองก็ตรงเข้าต่อสู้กัน อสูรหัยครีพเห็นท่าไม่ดี จึงรีบแปลงคืนร่างเดิมเป็นหอยสังข์ยักษ์ พญาปลาสัปพลิจึงตรงเข้าไปกัดฉีกท้อง จนอสูรหัยครีพสิ้นใจตาย นำคัมภีร์พระเวททั้ง 4 ไปคืนแก่พระพรหมได้สำเร็จ แล้วจึงเสด็จกลับทะเลไวกูณฐ์ที่ประทับของพระองค์...........จบเรื่อง
ด้วยเหตุที่สังขอสูร หรือ หัยครีพ ได้กลืนคัมภีร์พระเวทไปไว้ในท้อง หอยสังข์จึงถือเป็นสิ่งมงคลที่นิยมนำมาใช้ประกอบพิธีต่างๆของศาสนาพราหมณ์ หรือฮินดู และยังมีร่องรอยการโดนฉีกบริเวณท้องมาถึงกาลปัจจุบัน
ที่มา..
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1225646
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2015-10-3 06:36
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...