ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 3566
ตอบกลับ: 2
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

"แล้งหลอน" คอลัมน์ หลอน โดย นทธี ศศิวิมล

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2015-7-30 06:59



http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1438154739

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-7-30 06:53 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ปีนี้แล้งมาก แล้งชนิดต้องยืนดูต้นข้าวแห้งตายไปต่อหน้าต่อตา หลายปีมานี้ผมไม่เคยเห็นด้วยที่พ่อยังคงทำนา ผมอยากให้พ่อหยุด ไม่อยากให้เหน็ดเหนื่อยอีกต่อไป ผมอยู่ในฐานะที่ดูแลพ่อให้อยู่ได้อย่างสบาย แต่พ่อให้เหตุผลว่า "ข้าวที่ปลูกเองอร่อยกว่าข้าวที่ซื้อเขา"

ผมเป็นลูกชาวนาที่เคยทำนาแค่นานๆ ครั้งตอนกลับบ้านบางโอกาส ผมเห็นพ่อเหนื่อย ลำบากมาตั้งแต่เกิด เรื่องผลผลิตกำไรไม่ต้องพูดถึง ชาวนาที่ร่ำรวยในเมืองไทยมีสักกี่คนเชียว ผมจึงตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนจบและทำงานในกรุงเทพฯ อาศัยที่สมัยนี้การเดินทางรวดเร็ว ผมไปกลับบ้านที่ชัยนาทได้ตามแต่ใจอยาก กลับบ้านมาหนนี้สังเกตว่าพ่อดูล้าลงมาก พ่อเหมือนแก่ขึ้นสิบปีเพียงแค่จากกันหนก่อน กลับมาหนนี้พ่อพูดถึงแม่หลายครั้ง เฝ้าพูดวนไปวนมา ผมอยู่กับพ่อตั้งแต่เกิด แม่เสียตอนคลอดผม ผมรู้จักแม่เพียงเท่านี้ แทบไม่เคยได้ยินพ่อพูดถึงแม่ แม่ในความทรงจำของผมมีน้อยมาก


ตกดึกผมได้ยินเสียงตึงตังอยู่กลางบ้าน จึงลุกออกไปดู เห็นพ่อกำลังตักน้ำในโอ่งลงถัง พ่อหลับตาทำ แปลกชะมัด ใช่แล้ว พ่อละเมอ! นั่นเอง แล้วพ่อก็หิ้วน้ำออกจากเรือนเดินตัวปลิวสาดน้ำในถังใส่ต้นข้าวที่แห้งตายไปแล้ว ผมแทบน้ำตาไหล มันอยู่ในความคิดของพ่อตลอด มันเจ็บปวดแม้แต่ความฝัน ผมคิดแล้วสงสารพ่อจับใจ เฝ้ามองพ่อกลับขึ้นเรือนแล้วเข้าห้องหลับต่อเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น


ผมเข้าห้องนอนของตัวเองเช่นกัน ผมล้มตัวนอน ในความสะลึมสะลือเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกจากกลางกอข้าวแห้งๆ ที่ยืนตาย ผมตกใจมาก เรือนร่างสูงโปร่ง แบบบางอย่างหญิงสาวที่น่าทะนุถนอม แต่ชุดและกิริยาอาการของเธอนี่สิ ไม่ใช่คนแน่! เจ้าแม่โพสพหรือ ผมไม่เชื่อหรอก ไม่มีอยู่จริงหรอก

เหมือนเธอได้ยินผม เธอตอบมาว่า มีจริงสิ แต่ฉันไม่ใช่เจ้าแม่โพสพหรอก ฉันอยู่ที่นี่มานาน ช่วยฉันออกไปที เธอพูดอย่างนี้แล้วผมก็ตกใจตื่น เห็นตัวเองนอนบนพื้นไม้ในห้อง นี่ผมตกเตียงหรือนี่ บ้าชะมัด โตขนาดนี้แล้วยังนอนตกเตียงอีก


แหงนมองนาฬิกาแขวนผนัง ตอนนั้นราวตีสาม พ่อออกจากห้องมาดูผมที่ส่งเสียงดัง ผมเล่าเรื่องพ่อเดินละเมอตักน้ำรดข้าวแล้วก็เล่าเรื่องที่ฝันเห็นผู้หญิงให้ฟัง "ผมจะไปขุดที่ตรงเจอเจ้าแม่โพสพ" พ่อรีบห้าม พูดนั่นพูดนี่สารพัดเพื่อปรามแต่ผมไม่สนใจ


ขุดลงราวสองเมตรผมก็เจอโครงกระดูก! ไม่ใช่แล้วล่ะ ไม่ใช่เจ้าแม่โพสพแน่ๆ แถมในหลุมยังพบเศษถ้วยโถโอชามเก่าๆ! หรือจะเป็นโครงกระดูกมนุษย์โบราณ!!! ผมพูดกับพ่อที่มีสีหน้าแปลกๆ

ทางที่ดีคือแจ้งตำรวจ ผมบอกพ่อ แต่พ่อบอกว่าจะยุ่งยากขึ้นน่ะสิ จะยุ่งยากยังไง ปล่อยไว้แบบนี้มีใครมาเห็นเข้าเราจะลำบาก ที่บ้านเรามีกองกระดูกอยู่แบบนี้


พ่อมีสีหน้ายุ่งยากใจ ตอนนั้นเองที่พ่อน้ำตาไหล พ่อเริ่มต้นพูดสั้นๆ ด้วยคำว่า "นี่กระดูกของแม่เอ็งเอง"


ประโยคที่ทำให้ผมตกตะลึงมองพ่อราวกับมองคนแปลกหน้ากำลังเล่าเรื่องที่แสนไกลตัว

"ตอนแม่คลอดเอ็ง แม่แกเสียเลือดมาก สามสิบกว่าปีก่อนพ่อกับแม่จนมาก แม่เอ็งไม่ได้ไปฝากท้องที่อนามัยเหมือนคนสมัยนี้ พ่อเพิ่งมาอยู่ที่นี่ แม่เอ็งอยู่กับตายายของเอ็งมาก่อน แต่ตายายเอ็งเพิ่งเสียไปด้วยกันทั้งคู่ก่อนพ่อจะมาอยู่กินกับแม่เอ็ง พ่อเป็นคนใหม่ของที่นี่ พ่อกำพร้าอย่างที่เล่าให้เอ็งฟังตั้งแต่เอ็งยังเล็ก พ่ออาศัยข้าวก้นบาตร พอโตบวชเรียนได้พ่อก็บวชมาสึกก็หลังเจอแม่เอ็ง ตายายเอ็งเสียพ่อก็ย้ายเข้ามาอยู่กับแม่เอ็ง ไม่กี่เดือนแม่เอ็งก็ตั้งท้องเอ็ง พอคลอดเอ็งแม่เอ็งเสียเลือดมาก พ่อพยายามตามคนมาช่วย แต่สมัยก่อนบ้านที่ใกล้ที่สุดห่างไปเป็นกิโลๆ อนามัยก็ยังไม่มี แม่เอ็งตายตอนคลอดเอ็ง มันทั้งดึกทั้งมืดพ่อทำอะไรไม่ถูก พ่อกลัวไปหมด ชีวิตพระไม่เคยสอนพ่อเรื่องพวกนี้ พ่อจัดการฝังแม่เอ็งใกล้เรือน ทำความสะอาดตัวเอ็ง แล้วพาเอ็งไปหาหลวงพ่อที่วัด ปรึกษาหารือกับท่าน พ่อได้ลูกศิษย์คนหนึ่งของพ่อที่เป็นเจ้าหน้าที่อนามัย แต่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาแค่มากราบหลวงพ่อ ก็ได้เขานี่แหละดูแลเอ็งจนครบเดือน ก็น้าบุญสมคนนั้นแหละ คนที่เอ็งเคยเห็นที่วัดตอนเด็กๆ เขามาหาหลวงพ่อหาพ่อหาเอ็งบ่อย เขาเป็นน้องชายของหลวงพ่อ พอสิ้นน้าบุญสมกับหลวงพ่อท่าน ความลับนี้ก็ถูกเก็บไว้จนถึงวันนี้"


หน้าแล้งปีนี้นอกจากจะแล้งจนพ่อพูดว่าแล้งมากที่สุดตั้งแต่จำความได้ ยังเป็นหน้าแล้งที่ผมคงจดจำไปชั่วชีวิต
"แล้งหลอน" คอลัมน์ หลอน โดย นทธี ศศิวิมล
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1438154739
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-7-30 06:58 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

"ตอนแม่คลอดเอ็ง แม่แกเสียเลือดมาก สามสิบกว่าปีก่อนพ่อกับแม่จนมาก แม่เอ็งไม่ได้ไปฝากท้องที่อนามัยเหมือนคนสมัยนี้ พ่อเพิ่งมาอยู่ที่นี่ แม่เอ็งอยู่กับตายายของเอ็งมาก่อน แต่ตายายเอ็งเพิ่งเสียไปด้วยกันทั้งคู่ก่อนพ่อจะมาอยู่กินกับแม่เอ็ง พ่อเป็นคนใหม่ของที่นี่ พ่อกำพร้าอย่างที่เล่าให้เอ็งฟังตั้งแต่เอ็งยังเล็ก พ่ออาศัยข้าวก้นบาตร พอโตบวชเรียนได้พ่อก็บวชมาสึกก็หลังเจอแม่เอ็ง ตายายเอ็งเสียพ่อก็ย้ายเข้ามาอยู่กับแม่เอ็ง ไม่กี่เดือนแม่เอ็งก็ตั้งท้องเอ็ง พอคลอดเอ็งแม่เอ็งเสียเลือดมาก พ่อพยายามตามคนมาช่วย แต่สมัยก่อนบ้านที่ใกล้ที่สุดห่างไปเป็นกิโลๆ อนามัยก็ยังไม่มี แม่เอ็งตายตอนคลอดเอ็ง มันทั้งดึกทั้งมืดพ่อทำอะไรไม่ถูก พ่อกลัวไปหมด ชีวิตพระไม่เคยสอนพ่อเรื่องพวกนี้ พ่อจัดการฝังแม่เอ็งใกล้เรือน ทำความสะอาดตัวเอ็ง แล้วพาเอ็งไปหาหลวงพ่อที่วัด ปรึกษาหารือกับท่าน พ่อได้ลูกศิษย์คนหนึ่งของพ่อที่เป็นเจ้าหน้าที่อนามัย แต่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาแค่มากราบหลวงพ่อ ก็ได้เขานี่แหละดูแลเอ็งจนครบเดือน ก็น้าบุญสมคนนั้นแหละ คนที่เอ็งเคยเห็นที่วัดตอนเด็กๆ เขามาหาหลวงพ่อหาพ่อหาเอ็งบ่อย เขาเป็นน้องชายของหลวงพ่อ พอสิ้นน้าบุญสมกับหลวงพ่อท่าน ความลับนี้ก็ถูกเก็บไว้จนถึงวันนี้"


หน้าแล้งปีนี้นอกจากจะแล้งจนพ่อพูดว่าแล้งมากที่สุดตั้งแต่จำความได้ ยังเป็นหน้าแล้งที่ผมคงจดจำไปชั่วชีวิต
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้