เรื่องเล่าชาวสยาม ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ในอัลบั้ม: หลวงปู่ศุข
◎ อยากดูเรือกลไฟใกล้ๆ ◎ เรื่องอภินิหารของหลวงพ่อศุขนี้ มีเรื่องเล่าต่อกันมามากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ซึ่งไม่มีทางพิสูจน์ได้เลยทางวิทยาศาสตร์ เดิมข้าพเจ้าคิดว่าจะไม่เขียนถึงในเรื่องเหล่านี้ แต่ถูกร้องขอจากหลายท่านที่สนใจในชีวประวัติของหลวงพ่อศุขให้บันทึกไว้ ส่วนเรื่องใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้น เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลไป
เรื่องนี่เป็นเรื่องที่นายประเสริฐ เชื้ออภัย เป็นผู้ประสพมาด้วยตนเอง สมัยเมื่อเป็นเด็ก นายประเสริฐ เชื้ออภัยไปวิ่งเล่นที่วัดปากคลองมะขามเฒ่าเป็นประจำ และโดยเหตุที่เป็นบุตรของขุนเธียรแพทย์ (เทียน) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดของหลวงพ่อศุขผู้หนึ่ง เพราะฉะนั้นหลวงพ่อศุขจึงรู้เป็นอย่างดีว่า เด็กที่วิ่งเล่นในวัดเป็นใครและลูกผู้ใด
เรือกลไฟสมัยนั้นเรียกกันโดยทั่วไปว่าเรือโยง เป็นเรือใช้เครื่องจักรไอน้ำ ใช้ฟืนเป็นแหล่งกำเนิดความร้อน สมัยก่อนใช้โยงเรือข้าวเป็นส่วนใหญ่บ้านของผู้เล่าอยู่ที่ตลาดอำเภอวัดสิงห์จึงไม่มีเรือโยงผ่าน จะมีเฉพาะที่แม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้น
ข้าพเจ้ารู้จักผู้เล่ามาหลายปีรวมทั้งได้รู้เรื่องนี้มาบ้างเป็นเลาๆ เพิ่งจะทราบว่าผู้เล่าคือต้นเหตุของเรื่องนี้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๓ นี่เอง จึงได้ขอร้องให้ผู้เล่า บันทึกเรื่องราวให้ ซึ่งก็ได้รับความกรุณาด้วยดี ดังปรากฏตามข้อความซึ่งนายประเสริฐ เชื้ออภัยเขียนให้ข้าพเจ้าดังนี้
วัดปากคลองมะขามเฒ่า ตั้งอยู่ทางทิศจะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา และตั้งอยู่ทางทิศใต้ของต้นลำแม่น้ำท่าจีน วัดปากคลองมะขามเฒ่านี้เป็นวัดเก่าในสมัยหลวงพ่อศุขเป็นเจ้าคณะแขวง ท่านได้ราชทินนามเป็นพระครูวิมลคุณากร ท่านเรืองวิชาทางไสยศาสตร์มาก ดังที่ข้าพเจ้าผู้เขียนได้พบและประสบมากับตนเอง
คือเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. ๒๔๖๓ – ๒๔๖๔ ข้าพเจ้ากลับจากโรงเรียน มักจะชวนเพื่อนเด็กๆ ด้วยกันไปเก็บเมล็ดพิกุลเอามากัดเล่นบ่อยๆ อยู่มาวันหนึ่งท่านเรียกพวกผมไปบนกุฏิและท่านพูดขึ้นมาว่า พวกแกอยากดูเรือกลไฟไหม พวกผมบอกว่าอยากดู เพราะพวกผมอยู่ในตลาดไม่ค่อยจะได้เห็น ระยะวัดปากคลองกับตลาดห่างกันประมาณ ๒ กิโลเมตร เมื่อผมบอกกับท่านว่า อยากดูใกล้ๆ แล้วท่านก็ลุกขึ้นไปหยิบผ้าสบงที่พาดอยู่ที่ราวลูกกรงมาม้วน แล้วก็นั่งสมาธิอยู่พักหนึ่ง ท่านก็ลืมตา แล้วบอกกับพวกผมว่า เอาผ้านี้ไปพาดที่แพโบสถ์น้ำ ถ้าเมื่อมีเรือกลไฟวิ่งมาแล้วมันก็จะมาจอดให้ดูเอง
ผมก็ทำตามที่ท่านสั่ง เสร็จแล้วผมก็วิ่งเล่นอยู่ตามลานวัด เพื่อคอยให้เรือมา สักประมาณครู่ใหญ่ๆก็มีเรือกลไฟพ่วงเรือต่อมาพอดี เมื่อเรือวิ่งมาถึงตรงกับผ้าที่ผมเอาไปพาดนั้น เรือก็วิ่งไม่ขึ้น จะตรงอยู่ที่เดียวกับผ้า พวกเรือพยายามเร่งเครื่องใส่ไฟก็ไม่ไป จนต้องนำเรือค่อยๆ เบามาแพะตลิ่งตรงหน้าวัด เมื่อเรือมาแพะหน้าวัดพวกผมก็ไปนั่งดูกันใกล้จนเป็นที่พอใจ แล้วท่านก็บอกผมว่าถ้าจะให้มันแล่น ต้องไปก็ไปเอาผ้าที่พาดไว้นั้นกลับไปให้ท่าน เมื่อผมเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วพวกผมก็เอาผ้าที่ไปพาดออกไปให้ท่าน และผมเห็นพวกเรือนั้นไปหาท่าน ไปกราบ จากนั้นแล้ว เรือก็แล่นไปได้ตามปรกติ
ผู้บันทึก นายแพทย์สำนวน ปาลวัฒน์วิไชย
จากหนังสือประวัติพระครูวิมลคุณากร ( ศุข ) วัดปากคลองมะขามเฒ่า ตำบลมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท
สโมสรไลอ้อนส์ชัยนาท ร่วมด้วย ชมรมพระเครื่องชัยนาท จัดพิมพ์เผยแพร่ พิมพ์ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๒๘ จำนวน ๕,๐๐๐ เล่ม ( สงวนลิขสิทธิ์ ) ขอบคุณข้อมูลจากคุณ Ba Daeng
|