ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2020
ตอบกลับ: 2
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

พูดไปสองไพเบี้ยนิ่งเสียได้เก้าพัน

[คัดลอกลิงก์]



ซัดปล้นอำนาจประชาชน! อดีต สปช.-กมธ.ยกร่างฯ
เปิดใจเหตุลาออก กลางวงเสวนากลุ่มดาวดิน







วันนี้ (19 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เพจเฟสบุ๊กของกลุ่มดาวดิน เปิดเผยว่า  นางทิชา ณ นคร อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. และ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ  ได้เข้าร่วมเสวนาในวงคุยข้ามรุ่น ดาวดิน ปะทะ ผู้เฒ่า ในหัวข้อ“เริ่มด้วยคำถาม  เพื่อตามหาความฝัน”

โดยช่วงหนึ่ง นางทิชา เปิดเผยเหตุผลที่ได้ลาออกกลางครันขณะกำลังทำหน้าที่  ว่าในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญมีความรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องแสดงความเห็นอะไรเพราะไม่เกิดประโยชน์ มีเพื่อน  สปช.เเนะนำว่าขอให้อยู่เฉยๆเพื่อรับเงินเดือนและเบี้ยประชุมหลักเเสนก็พอ

ส่วนกรณีที่ลาออกนั้นเพราะเห็นว่าการดำรงตำแหน่งดังกล่าวไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไรยกเว้นตัวเลขของเงินเดือนในสมุดบัญชีที่เพิ่มขึ้นจนตนเองต้องนำไปบริจาคให้มูลนิธิ นอกจากนี้ยังแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่าสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติมักคิดว่าตนเองเป็นผู้ให้  มึงพยายามกำหนดกติกาต่างๆทั้งที่จริงๆแล้วเป็นผู้ที่ปล้นอำนาจของประชาชนไป

"ตอนเป็น สปช. เป็นกมธ.ยกร่างฯ ป้าเคยถามสปช.บางคนว่า  วันนี้ไม่แสดงความเห็นอะไรบ้างเหรอค่ะ เขาตอบกลับมาว่า พูดไปสองไพเบี้ยนิ่งเสียได้เก้าพัน...  หมายถึงเบี้ยประชุมประธานกรรมาธิการ 9000 บาท/วัน กรรมาธิการ 6000 บาท/วัน  บวกเงินเดือนอีกแสนกว่าบาท"

"ตอนป้าลาออก ป้าไม่ได้คิดว่า ป้ากล้าหาญอะไร ป้าแค่คิดว่าเบื่อว่ะ  ที่ทำอยู่ตอนนั้น มันไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไร... ยกเว้นเวลาปรับสมุดเงินเดือนมันเยอะเกิน  จนต้องบริจาคให้มูลนิธิ 3 เเห่ง 40  %."

"สปช.เขาคิดว่าเขาเป็นผู้ให้โดยผ่านการพยายามกำหนดกติกาต่างๆ  ซึ่งข้างนอกผู้คนล้วนหลากหลายเเตกต่าง การกระจายอำนาจให้เกิดการสร้างกติกาน่าจะเป็นการให้ที่แท้จริง.  แต่สปช.เขาคิดว่าเขาเป็นผู้ให้ ทั้งๆ ที่ สปช. เป็นผู้ปล้น...ปล้นอำนาจที่ประชาชนพึงมี..."

ทิชา  ณ นคร
วงคุยข้ามรุ่น ดาวดิน ปะทะ ผู้เฒ่า
“เริ่มด้วยคำถาม เพื่อตามหาความฝัน”



http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1437317226
ประเทศชาติ
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-7-28 07:15 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

ลัทธิบ้า



เมื่อ 2 วันก่อนมีคลิปที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ซึ่งช็อกคนทั้งสังคม เมื่อได้เห็นพ่อสั่งสอนลูกชายวัยแค่ 5 ขวบ ให้ทำการบ้าน


เมื่อโมโหที่สอนแล้วไม่จำ ผู้เป็นพ่อก็ระดมเตะใส่เด็กชายตัวเล็กๆ จนปลิวตามเท้า


แล้วลากมาเตะซ้ำแล้วซ้ำเล่า


ไม่ว่าใครที่เห็นคลิปนี้ล้วนต้องป่าวประณาม และเรียกร้องให้เอาตัวมาลงโทษ


ตอนนี้ตำรวจหาดใหญ่จับกุมพ่อใจร้ายมาได้แล้ว


ดำเนินคดีหลายข้อหา


รับสารภาพแต่โดยดี พร้อมทั้งสำนึกผิด เสียใจที่กระทำลงไป!


  ส่วนเด็กเหยื่อโหด มีกระทรวงพม.เข้าไปดูแลเยียวยาจิตใจแล้ว


ขณะที่ตำรวจเรียกร้องให้สังคมไทย ถือเอาคดีนี้เป็นอุทาหรณ์


อย่ารักลูกหรือสอนลูกอย่างผิดๆ เช่นนี้อีก!


  ส่วนพ่อรายนี้ ยอมรับว่า สาเหตุมาจากความเครียดที่ตกงาน และมึนเมาจากการเสพยา


ขณะเดียวกันก็ทำไปด้วยความโมโหลูกที่สอนอะไรไม่จำ


นี่แหละที่ตำรวจเขาเตือนว่า อย่ารักลูกแบบผิดๆ!!


  บางคนยังยึดติดกับระบบโหด เชื่อว่าทำให้ลูกหลาบจำ


เชื่อในกฎเหล็กระเบียบวินัยอะไรทำนองนั้น


แน่นอนว่า การสอนลูกสอนหลานต้องมีทั้งเหตุผลและต้องลงโทษเฆี่ยนตีบ้างตามสมควร


แต่ไม่ใช่ตีแบบเอาเป็นเอาตาย กระทั่งเลี้ยงด้วยแข้งแบบรายนี้


อีกส่วนหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ว่าสังคมไทย ในยุคการเมืองขัดแย้งแตกแยก


เกิดแฟชั่นใหม่ คนที่ก้าวร้าว จิกหัวด่าคน คิดต่าง ไล่ล่าฝ่ายตรงข้าม


กลับกลายเป็นผู้นำ เป็นฮีโร่ เป็นคนที่ยกย่องเชิดชูว่าไม่อ่อนข้อให้ใคร!!


  ระหว่างคนตรงกับคนบ้าบอคอแตก บางทีสังคมไทยก็แยกไม่ออก


ไม่เว้นแม้แต่การคัดคนบางคนเข้าไป ในองค์กรด้านสิทธิเสรีภาพ!

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1438015926
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้