ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 4322
ตอบกลับ: 2
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

"เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล"

[คัดลอกลิงก์]




เสียกรุงครั้งแรก .....“         ปีพศ. ๒๑๑๒        ในรัชกาลสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ        พม่าผู้รุกรานยังพยายามจะ        ตีไทยให้ได้        จากพงศาวดารได้กล่าวไว้ว่า        ถึงแม้บุเรงนองจะเก่งในการศึกแต่ไม่        เคยรบชนะไทยด้วยการนำทหารเข้าประจันบานเลย        แต่จะใช้เล่ห์เหลี่ยมและอุบาย        ต่างๆเข้าช่วยเสมอ        จึงใช้วิธีทำให้ไทยแตกแยกเป็น        ๒ ฝ่าย โดยพม่ายกพระมหา        ธรรมราชาให้เป็นใหญ่ทางเหนือ        หลังจากพระมหาจักรพรรดิทรงเสด็จออกผนวช        พระมหินทราธิราชขึ้นครองราชย์และทรงคิดกำจัดพระมหาธรรมราชา        จึงส่งสาสน์        ไปถึงพระไชยเชษฐาผู้ครองกรุงศรีสัตนาคนหุตให้ยกทัพมาตีพิษณุโลก        ทางพระ        มหาธรรมราชาจึงขอทหารจากเมืองหงสาวดีและกรุงศรีฯขึ้นมาช่วยป้องกันเมือง        พระมหินทร์ฯทรงแกล้งส่งพระยาสีหราชเดโชยกทัพไปช่วย        แท้จริงแล้วให้ร่วมกับ        ทัพพระไชยเชษฐาตีพิษณุโลก        แต่ว่าพระยาสีหราชเดโชแปรพักไปเข้ากับพระมหา        ธรรมราชาแล้วทูลความจริงให้ทราบ        พระมหาธรรมราชาจึงรับสั่งป้องกันเมืองไว้        ประจวบเหมาะกองทัพหงสาวดียกมาช่วยทัน        กองทัพพระไชยเชษฐาจึงถอยกลับ        เวียงจันทร์        เมื่อเหตุการณ์เริ่มบานปลายพระมหาจักรพรรดิทรงลาผนวช        แล้วเสด็จขึ้นครอง        ราชย์อีกครั้ง        ทรงยกทัพขึ้นมาเมืองพิษณุโลก        รับพระวิสุทธิกษัตรีพร้อมด้วยโอรส        ธิดาของพระมหาธรรมราชา(ขณะนั้นอยู่กรุงหงสาวดี)         ลงมาเป็นองค์ประกันอยู่ที่        กรุงศรีอยุธยา
        ทางพระมหาธรรมราชาเมื่อทราบว่าพระอัครชายาและโอรสธิดาถูกจับเป็นองค์        ประกันก็ทรงวิตกยิ่งนัก        แล้วรีบส่งสาสน์ไปยังพระเจ้าหงสาวดีให้ยกทัพมาตีกรุง        ศรีอยุธยารวมทั้งหมด        ๗ ทัพ มีกำลังพลร่วม ๕        แสนคน        ยกทัพมาทางด่านแม่        ละเมาเข้าเมืองกำแพงเพชร        ฝ่ายกรุงศรีอยุธยาเมื่อทราบว่าหัวเมืองทางเหนือเป็นของพม่าแล้ว        จึงเตรียมรบ        อยู่ที่พระนคร        นำปืนนารายณ์สังหารยิงไปยังกองทัพพระเจ้าหงสาวดีที่ตั้งอยู่บริ        เวณทุ่งลุมพลี        ถูกทหาร ช้าง        ม้าล้มตายจำนวนมาก        พม่าจึงถอยทัพมาตั้งที่บ้าน        พราหมณ์ให้พ้นทางปืน        แล้วพระเจ้าหงสาวดีจึงเรียกประชุมการศึก        พระมหา อุปราชเห็นสมควรให้ยกทัพเข้าตีไทยทุกด้านเพราะมีกำลังมากกว่า        แต่พระเจ้า        หงสาวดีไม่เห็นด้วยเพราะกรุงศรีอยุธยามีทำเลดีมีน้ำล้อมรอบ        จึงสั่งให้ตีเฉพาะ        ด้านตะวันออกเพราะคูเมืองแคบที่สุด        พม่าพยายามจะทำสะพานข้ามคูเมืองแต่        ถูกทหารไทยยิงตายเป็นจำนวนมาก         (         ศพแล้วศพเล่าที่นำดินมาถมสะพาน         )
ระหว่างการสงคราม        สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงประชวรและสวรรคตในเวลา        ต่อมา        พระเจ้าหงสาวดีได้โอกาสจึงสั่งให้ทหารเข้ามาตีพระนครด้านตะวันออก        พร้อมๆกัน        ฝ่ายไทยมีพระมหาเทพนายกองรักษาด่านอย่างเต็มสามารถ        ทำให้ พม่าล้มตายจำนวนมากจึงถอยข้ามคูกลับไป        ไม่ได้ด้วยฝีมือต้องใช้เล่ห์กล        พระเจ้าหงสาวดีจึงถามพระมหาธรรมราชาว่าจะ        ทำอย่างไรให้ชนะศึกโดยเร็ว        พระมหาธรรมราชาทรงแนะว่าพระยารามเป็นแม่ทัพ        สำคัญให้ได้ตัวมาการยึดพระนครจักสำเร็จ        จึงมีสาสน์มาถึงพระอัครชายาว่า         
....         การศึกเกิดจากพระยารามที่ยุยงให้พี่น้องต้องทะเลอะกัน        ถ้าส่งตัวพระยารามมา        ให้พระเจ้าหงสาวดีจะยอมเป็นไมตรี        ทางสมเด็จพระมหินทร์ฯ        ทรงอ่านสาสน์แล้ว        ปรึกษากับข้าราชการต่างๆจึงเห็นสมควรสงบศึกเพราะผู้คนล้มตายกันมากแล้ว        สมเด็จพระมหินทร์ฯทรงรับสั่งให้ส่งพระสังฆราชออกไปเจรจาและส่งตัวพระยาราม        ให้พระเจ้าหงสาวดี(บุเรงนอง)เพื่อเป็นไมตรี         
แต่พระเจ้าหงสาวดีตบัตสัตย์ไร้สัจจะวาจาไม่ยอมเป็นไมตรี        แต่กลับบอกว่าจะต้องยอมแพ้และเป็นเชลย        ทำให้สมเด็จพระมหินทร์ฯทรงพิโรธโกรธแค้นในการกลับกลอกของบุเรงนองอย่างมาก         ทรงรับ        สั่งให้ขุนศึกทั้งหลายรักษาพระนครอย่างเข้มแข็ง        ทางฝ่ายพม่าก็เห็นว่างานนี้ก็ยัง        ตีกรุงศรีอยุธยาไม่ได้        จึงส่งพระมหาธรรมราชามาเกลี้ยกล่อมให้ยอมแพ้        แต่ถูก        ทหารไทยเอาปืนไล่ยิงจนต้องหนีกลับไป        ด้วยความเจ้าเล่ห์ของพระเจ้าหงสาวดีจึงคิดอุบายจะใช้เจ้าพระยาจักรีที่จับตัวได้        ตอนสงครามช้างเผือกเป็นใส้ศึก         อนิจา..พระยาจักรียอมเนรคุณแผ่นดินไทยยอม        เป็นใส้ศึกให้พม่า โดยวางแผนจำคุกพระยาจักรีในค่ายด้านตะวันออก        แล้วแกล้ง        ปล่อยให้หนีในตอนกลางคืน(มีเครื่องพันธนาการโซ่ล่ามมาด้วย)         รุ่งเช้าพม่าทำที        เป็นตามหาแต่ไม่พบเลยจับตัวผู้คุมมาตัดหัวเสียบไว้ริมแม่น้ำเพื่อให้ไทยหลงกล        สมเด็จพระมหินทร์ฯทรงดีพระทัยที่พระยาจักรีหนีมาได้        จึงทรงแต่งตั้งให้เป็น        ผู้บังคับบัญชาการรบแทนที่พระยาราม        แผนชั่วร้ายจึงเริ่มขึ้นพระยาจักรีได้ใส่        ร้ายให้พระศรีสาวราชว่าเป็นกบฏจึงถูกสำเร็จโทษ        นอกจากนี้พระยาจักรียังได้        ย้ายแม่ทัพที่รบเก่งๆเอาไปไว้ในตำแหน่งที่ไม่สำคัญทำให้การป้องกันพระนคร        เริ่มอ่อนแอ        แผนชั่วร้ายได้ดำเนินมา        ๒        เดือนเมื่อเห็นว่าได้เวลาอันควรพระยา        จักรีจึงให้สัญญาณแก่พม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยาทุกด้าน        ในที่สุดไทยจึงเสียกรุงแก่พม่าเพราะมีใส้ศึกคนขายชาติ         (มิได้เสียกรุงเพราะ        ความสามารถทางการรบ )         รวมเวลาที่พม่าล้อมกรุงศรีฯเอาไว้        ๙ เดือน

คนทรยศต่อแผ่นดินยังมี        พระยาพลเทพอีกหนึ่งคน        ตามคำบอกกล่าวของ        ชาวกรุงเก่าว่า “         เมื่อพระเจ้ากรุงศรีฯเห็นว่าทัพเริ่มแตกจึงรับสั่งให้ทหารปิด        ประตูเมืองและรักษาหน้าที่เชิงเทินเอาไว้ให้มั่น        แต่ทางพระยาพลเทพผู้ทรยศ        ได้แอบส่งอาวุธ        เสบียงอาหารให้พม่า        พร้อมทั้งรับปากว่าจะเปิดประตูเมือง        ทางด้านตะวันออกให้เมื่อพม่าบุกเข้าตี         ”


กรรมตามสนอง ......หลังจากที่ไทยได้เสียกรุงแก่พม่าแล้ว         (หลังจากพระมหาจักรพรรดิสวรรคต        ๕ เดือน)         พระเจ้าหงสาวดี(บุเรงนอง)ได้ให้พระมหาธรรมราชาปกครองกรุงศรีอยุธยา        ซึ่งขึ้นต่อกรุงหงสาวดี        การรบครั้งนั้นถึงแม้จะชนะแต่พม่าก็เสียไพล่พลเป็นจำนวนมากมาย        จึงกวาดต้อนชาวเมืองไปเป็นเชลยจำนวนมากเหลือไว้เพียง        ๑๐๐๐ คน        ส่วนสมเด็จพระมหินทร์ฯและพระญาติรวมทั้งข้าราชการได้ถูกนำตัวไปไว้ยังเมืองหงสาวดี        แต่สมเด็จพระมหินทร์ฯทรงประชวรและสวรรคตระหว่างทาง        พระมหาธรรมราชาได้ขอสมเด็จพระนเรศวรเพื่อมาช่วยราชการ        ขณะนั้นพระองค์ มีพระชนมายุ        ๑๕ พรรษา        พระเจ้าบุเรงนองยินยอมแต่ต้องแลกกลับพระสุพรรณกัลยาณีซึ่งเป็นพระพี่นางสมเด็จพระนเรศวร        โดยนำไปเป็นพระชายาและองค์ประกันแทน         ทางด้านพระยาจักรีผู้ทรยศ        ในพงศาวดารได้กล่าวว่า        พระเจ้าบุเรงนองได้ให้เป็นเจ้าเมืองพิษณุโลกแต่ทางพระยาจักรีไม่ต้องการจะขอไปรับราชการที่กรุงหงสาวดี        ฝ่ายบุเรงนองเลี้ยงพระยาจักรีไว้ไม่นานเพราะว่าพระยาจักรีทรยศแม้กระทั่งแผ่นดินเกิด        จึงพาลหาข้อผิดกล่าวโทษเพื่อประหารชีวิตเสีย (         นี่เป็นกรรมตามสนองในครั้งที่พระยาจักรีให้ร้ายพระศรีสาวราชน้องยาเธอ        จนถูกสำเร็จโทษ )











คนอกตัญญู ยากที่จะเจริญได้
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้