ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ตำนานว่าน

[คัดลอกลิงก์]
21#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-6-21 01:03 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านพะตะบะ
ลักษณะ ต้นเหมือนต้นขมิ้นอ้อย ทั้งต้นและใบมีสีเขียว หลังใบมีคราบคล้ายใบลิ้นเสือ หัวเหมือนขมิ้นอ้อยแต่ใหญ่กว่านิดหน่อย ตะเกียงยาวก้าวก่าย มีรสร้อนฉุนจัด เนื้อในมีสีขาว แสดงลักษณะว่ามีธาตุปรอทที่มีอิทธิฤทธิ์มาก

ประโยชน์ใช้ป้องกันภูตผีปีศาจได้เก่งนัก แม้แต่ใบหรือราก หรือดินที่ปลูกว่านนี้เมื่อเอาซัดเข้าไปยังผู้ที่ถูกปีศาจสิงอยู่ สามารถขับไล่ปีศาจออกได้ หากมีว่านนี้ติดตัวไปด้วยภูตผีทั้งปวงกลัวยิ่งนัก ไม่กล้าสำแดงฤทธิ์เดชอภินิหารอย่างใด ๆ ใช้กับผีได้ทุกชนิดหมด ตลอดทั้งพรายน้ำพรายบก และพรายอากาศทั่วไป ผู้ที่ถูกปีศาจเข้าสิงอยู่พอแลเห็นผู้มีว่านนี้เข้ามักจะแสดงอาการเกรงกลัว ให้เห็นเป็นพิรุธทันที

ว่านนี้จึงใช้กันตัวได้ทุกแห่งหน จะไม่มีปีศาจชนิดใดมาสำแดงการหลอกหลอนได้เลย จนตลอดทั้งตามป่าดงพงสูง ผีป่า ผีปอบ ผีชมบ ผีที่มีชื่อใด ๆ ก็ตามย่อมเกรงกลัวว่านนี้ทั้งสิ้น

ปีศาจเข้าใครอยู่ เอาว่านนี้ไปซุกไว้ใต้ที่นอนโดยไม่ให้รู้ตัว มันจะกระโดดลุกหนีเพราะปรากฏว่า ที่นอนนั้นร้อนเป็นไฟแก่มันขึ้นมา ปีศาจใดหากกลัวพอถือว่านนี้เข้าไปใกล้ก็จะล้มลงชักในทันที

การคลอดบุตรไม่ต้องใช้ยันต์ เพียงแบ่งหัวว่านนี้ผูกแขวนไว้ตรงหัวนอนหญิงคลอดบุตร และแขวนไว้ที่กระโจมเด็กเพียงชิ้นเล็ก ๆ ก็สามารถป้องกันได้ทุกอย่าง เด็กนอนสดุ้งผวา เอาว่านผูกข้อมือจะหลับสบาย ผู้ใหญ่หลับตาเห็นแต่ภูตผีปีศาจ เอาว่านนี้ใส่ไว้ใต้หมอนก็จะหายได้ มีว่านนี้อยู่กับตัวพรายแม่ที่ตายไปจะมารบกวนลูกไม่ได้ และพรายลูกที่ตายไปก็ไม่อาจมารบกวนแม่ได้เช่นเดียวกัน

การจะปลูกใช้ดินร่วนปนทราย หรือ ดินร่วน การปลูก ใช้ฝังหัวให้พอมิด รดน้ำวันละครั้ง ต้องปลูก วันข้างขึ้น ตรงกับ วันอังคาร พฤหัสเสาวร์ ก่อนปลูกต้องท่องคาถา นะโม 3 จบ อิติปิโส 3 จบ
เวลารดน้ำ ต้องกั้นใจท่อง นะโมพุทธายะ 3 หน จึงรดน้ำ

http://www.nanagarden.com/%E0%B8 ... B8%B0-142694-4.html

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
22#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-6-21 01:05 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ชื่อวิทยาศาสตร์: Chrysopogon aciculatus (Retz.) Trin.
วงศ์: POACEAE
ชื่ออื่น: หญ้ากร่อน;หญ้ากระเตรย;หญ้าก่อน (ภาคเหนือ);หญ้าขี้ครอก;หญ้าขี้เตรย (ภาคใต้);หญ้านกคุ่ม (ภาคกลาง);หญ้าน้ำลึก (ตราด)


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้นทอดนอนไปตามพื้นดินได้ไกลๆ ลำต้นเก่ามีกาบแก่หุ้ม ลำต้นตั้งตรงไม่ค่อยแตกแขนง
ใบ: มักมีมากที่โคนต้น กาบใบยาว 3-6 เซนติเมตร หุ้มรอบลำต้น มีลายตามยาว บางทีมีสีม่วง มีขนยาวนุ่มประปราย ที่รอยต่อระหว่างก้านใบกับตัวใบ ตัวใบกว้าง 3-5 มิลลิเมตร ยาว 2-8 มิลลิเมตร ใบบนสุดเล็กมาก ขอบใบสาก และหยักห่างๆ
ดอก: ออกเป็นช่อตั้งตรงที่ปลายยอด สีม่วงแกมแดง
ผล: รูปขอบขนาน ติดไปกับผ้าได้ง่าย


สรรพคุณทางสมุนไพร


ราก : แก้ท้องเสีย ,ต้น : เป็นยาขับปัสสาวะ และถอนพิษบางชนิด เถ้าจากต้นกินแก้ปวดข้อ
แก้ไข้ทับระดู
หญ้าเจ้าชู้มาหนึ่งกำมือ ล้างให้สะอาดมัดเป็นสามเปลาะใส่หม้อต้ม ใส่น้ำให้ท่วมตัวยา ต้ม  10 นาทีแล้วตักกินครั้ง  1  แก้ว ถ้ากินหนึ่งแก้วให้แก้มัดหนึ่งเปลาะพอกินครบสามเปลาะอาการจะหายทันที



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
23#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-6-21 01:06 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
"ว่าน" เป็นคำที่ใช้เรียกนำหน้าชื่อต้นไม้
ส่วนใหญ่เป็นต้นไม้ที่ใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร และบางครั้งเป็นไม้ประดับ
ตำรากระบิลว่านให้คำนิยามว่า ‘ว่าน คือพืชที่มีหัวบ้าง ที่ไม่มีหัวบ้าง
ใช้เป็นยาบ้าง ใช้อยู่ยงคงกระพันบ้าง’

สมัยหนึ่งว่านเป็นที่นิยมในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์
สามารถบันดาลโชคลาภ อำนาจ วาสนาให้แก่ผู้เลี้ยงได้
หากดูแลว่านเป็นอย่างดีและมีคาถาเสกกำกับ
ความนิยมนี้แพร่หลายในช่วงปี 2464 และสร่างซาลงไปในปี 2484
และค่อยกลับมาอีกครั้งในปี 2500 (ถ้าเปรียบก็คงเปรียบได้
เหมือนกระแสของจตุคามรามเทพในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา
ข้อนี้สะท้อนให้เห็นว่าเมืองไทยเรานี้มีเอกลักษณ์อยู่หนึ่งอย่าง
นั่นคือผู้คนจะมีความนิยมสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างฟู่ฟ่าและฮือฮากันไปทั่วทั้งเมือง
พอกระแสความนิยมสร่างซาไปแล้ว คนส่วนใหญ่ก็หันไปฮือฮากับอย่างอื่นต่อ)

กระนั้น ว่านที่นำมาพูดคุยกันในวันนี้

เครดิต...คุณririka
ก็เยื้องย่างเข้ามาทำความรู้จักกับเราอย่างสง่าผ่าเผย
ด้วยคุณลักษณะที่ไม่ได้ด้อยค่าลงไปตามกาลเวลา
ว่านนี้มีชื่อพ้องกับพระนามหนึ่งของพระอิศวร
ซึ่งเราอาจพอจะได้ยินชื่ออื่นของพระองค์บ้าง
ไม่ว่าจะเป็น พระศิวะ พระวิศวนาถ หรือพระมหาเทวะ
แต่อีกชื่อหนึ่งที่มีความหมายลึกซึ้งคือ “มหากาฬ”
ซึ่งแปลว่า ผู้ที่มีอยู่เหนือเวลาและความตาย
ว่านนี้ได้ชื่อนั้น...

ว่านมหากาฬเป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก มีรากขนาดใหญ่ ลำต้นอวบน้ำสีม่วง
ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปลักษณะของใบคล้ายหอก ขอบใบหยักห่างๆ
ก้านใบสีเขียวสว่างแต่โดยรอบใบเป็นสีม่วงคล้ำคล้ายสีพระศอของพระศิวะ
ที่เกิดจากการดื่มยาพิษจากมหาสมุทรไม่ให้ทำลายล้างโลก
(บ้างก็ว่ารักแท้คือสีดำ มีที่มาจากสีของพระศอของพระศิวะ
ที่เสียสละพระองค์ดื่มยาพิษแทนมวลมนุษย์นี้เอง)
นี่คงเป็นที่มาของชื่อว่าน แต่เมื่อหันไปดูชื่อทางวิทยาศาสตร์ของว่านมหากาฬ
จะพบว่า นักวิทยาศาสตร์เขามองพืชชนิดนี้ในแง่มุมของดอกช่อที่สวยงาม

ว่านมหากาฬมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gynura pseudochina (L) DC.
และจัดในอยู่ในวงศ์ Asteraceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับดอกดาวเรือง
ทานตะวัน เบญจมาศ และบานชื่น
ดอกของว่านมหากาฬเป็นดอกช่อกระจุกแน่นออกที่ปลายยอด
กลีบดอกสีเหลืองทอง (บางท้องถิ่นเรียกว่านนี้ว่า “ดาวเรือง” เสียด้วยซ้ำ)

มาต่อที่สรรพคุณกันบ้าง หัวของว่านมหากาฬมีสรรพคุณดับพิษ
แก้ไข้ แก้พิษอักเสบ ใบมีสรรพคุณถอนพิษต่างๆ แก้ปวดแสบปวดร้อน
ขับระดู แก้ปวดบวม คนโบราณใช้ว่านมหากาฬมาตำพอกหรือฝนกับน้ำปูนใส
ทาบริเวณที่เป็นฝีและแผลพุพอง ก็ช่วยให้ฝีและแผลหายได้อย่างทันตาเห็น
ปัจจุบันว่านมหากาฬเป็นสมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน
ใช้บรรเทาอาการแบบเดียวกับที่โบราณสืบทอด
คำโฆษณาที่ปรากฏบางที่มีบอกว่าว่านมหากาฬสามารถแก้เริม
งูสวัด และไฟลามทุ่งได้ดีกว่ายาฝรั่งเสียอีก

ข้อนี้ผู้เขียนก็อยากจะเห็นผลจริงจังเหมือนกัน
เมื่อไรจะมีคนไทยใจกล้า ลงมือพิสูจน์ความจริงให้โลกรู้กันเสียที

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
24#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-6-21 01:08 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ว่านนี้มีชื่อ                  เลื่องลือยิ่งนัก                                 

พญากาสัก                 ว่านยิ่งใหญ่

หลายนามเรียกขาน   เช่นว่านหอกหล่อ               

บางถิ่นเรียกต่อ          ว่านเสือร้องไห้

ใบใหญ่ยิ่งเหลือ         เรียกเสือนั่งร่ม                     

สรรพคุณน่าชม         มีมากมาย

หัว ใบ เข้ายา             รักษา ฝีแผล                        

เขาว่าดีแท้                 แก้โรคหนองใน

สรรพคุณสำคัญ        คงกระพันชาตรี                  

ออกรบราวี                ควรมีติดกาย



นักรบโบราณ           ใช้งานสืบมา                     

ครั้งอยุธยา                และสุโขทัย

สักเสกเลขยันต์         ว่านนั้นทำหมึก                    

เข็มสักจึ๊กจึ๊ก             ก็กินว่านไป

ต้มกินทั้งต้น              ได้ผลค้นพบ                          

เจ็ดครั้ง อาบครบ      หนังเหนียวเกินใคร

อุทธัง อุทโธ              นโมพุทธายะ                        

คาถาอักขระ             เจ็ดคาบเสกใส่

ว่านจะศักดิ์สิทธิ์        มีฤทธิ์ป้องกัน                       

ไม่ต้องไหวหวั่น        ภยันตราย

ปลูกไว้ต่อเติม          สร้างเสริมชีวี                       

เกิดบารมี                เป็นเจ้าเป็นนาย

ศัตรูยำเยง               กลัวเกรงอำนาจ                  

จักมิสามารถ            ทำอันตราย

พญากาสัก               คุณนักอนันต์                        

รีบหาปลูกกัน           สุขสันต์ใจกาย

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
25#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-6-21 01:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พอดีได้ไปอ่านตำหรับของหลวงพ่อกวยมาครับ

เรื่องเล่าจาก ศิษย์หลวงพ่อ เรื่องที่ 1(จากศิษย์แพร่ง)
ผมกำลังจะเขียนถึงมนต์พระกาฬ หรือมนต์มหากาฬ ซึ่งมีฤทธิธานุภาพในการสะท้อนกลับ ของหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท  
ครั้งนี้จะถือโอกาสพูดถึงอีก เพราะเป็นที่ประจักษ์ใจผมว่า กับคนที่คิดไม่ดีต่อลูกศิษย์หลวงพ่อกวย  มักจะมีเหตุให้วิบัติเป็นไปต่างๆ นานา เสมอ ซึ่งก็เป็นไปตามสรรพคุณของมนต์บทนี้ ที่คุ้มครองผู้ที่มีพระของหลวงพ่อไว้ ทุกประการ
เพื่อนบ้านคนนี้ มีบ้านอยู่ติดกันกับผม อยู่กันมาตั้งแต่แรกเริ่ม เมื่อครั้งยังไม่มีฐานะอะไร พอมีพอกิน ก็มีนิสัยใจคอก็เรียบร้อย เจียมเนื้อเจียมตัวดี แต่ภายหลังมา เมื่อฐานะความเป็นอยู่ก็ดีขึ้น มีเงิน มีรถหลายคัน พฤติกรรมก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะฝ่ายภรรยา ที่มักสร้างความเอือมระอากับเหล่าเพื่อนบ้านจนไม่มีใครอยากคบด้วย ไม่ว่าจะเรื่องความเห็นแก่ตัว เอาเปรียบคนอื่น และปากร้าย  ในบรรดาทุกบ้าน ของผมถือว่าได้รับผลกระทบสุด เพราะที่ข้างบ้านผมเธอก็ถือวิสาสะใช้เป็นที่จอดรถของตัว แถมพ่นสีบนกำแพงบ้านผม ห้ามคนอื่นมาจอดเสียด้วย และที่น่าเกลียดที่สุด คือ การเอาถังขยะมาไว้ข้างบ้านผม แทนที่จะไว้หน้าบ้านตัวเองเหมือนบ้านหลังอื่นๆ ไม่สนใจว่าบ้านผมจะเดือดร้อนกับกลิ่นขยะของเขามากน้อยขนาดไหน แต่พอผมเอาขยะมาทิ้งร่วมถังไปด้วย ก็แสดงความไม่พอใจ ไปนินทาว่าร้ายผมต่างๆ นานา  
ปัญหาที่มีกับบ้านนี้ ผมได้แต่อุเบกขาวางเฉย และอดทนมาตลอด เพราะไม่อยากมีเรื่องผิดใจกัน คิดเสียว่าใครทำอะไร ก็ต้องได้อย่างนั้น เมื่อกล้าเอาความเดือดร้อนมาให้คนอื่น ตัวเขาเองก็ต้องพร้อมที่จะรับคืนไปสักวัน โดยเฉพาะเมื่อมาทำกับผมที่เป็นศิษย์หลวงพ่อกวย แห่งวัดโฆสิตาราม จ. ชัยนาท ยิ่งต้องได้เห็นกันแน่ ไม่ช้าก็เร็ว...
ครอบครัวนี้ ตอนหลังมา เมื่อ ปลาย ปี 2550 สามีเลิกภรรยา สาเหตุจาก ภรรยาไปมีกิ๊ก ทำชั่วเสียเอง ส่วนลูกๆ ก็เหมือนแพแตก พลัดพรากกันไปคนละทิศทาง จบชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นไปอย่างขมขื่น เป็นที่ประหลาดใจของเพื่อนบ้าน แต่ไม่น่าประหลาดใจสำหรับผม.. นี่คือผลแห่งมนต์มหากาฬครับ

ด้วยจิตคารวะ
ศิษย์แพร่ง ศิษย์หลวงพ่อกวย
http://www.apichoke.org/index.php?topic=1113.0;wap2
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้