ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนาน เรื่องเล่า เกร็ดความรู้ เรื่องลี้ลับ
»
รศ.112
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 2438
ตอบกลับ: 1
รศ.112
[คัดลอกลิงก์]
รามเทพ
รามเทพ
ออฟไลน์
เครดิต
8069
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2015-1-10 07:01
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
เหตุการณ์ รศ.112 พศ.2436 คศ.1843
ในสมัยรัชกาลที่ 5 ฝรั่งเศษยึดกัมพูชาและเวียตนามเอาไว้ได้ และกำลังจะเข้ามายึดครองลาวเป็นประเทศต่อไป แต่เนื่องจาก ในขณะนั้น ลาวยังเป็นดินแดนในอาณัติของรัฐบาลไทย โดยทางรัฐบาลไทยได้ส่งพลตรีพระบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าน้องยา เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมให้ขึ้นไปตั้งกองบัญชาการลาวพวนอยู่ที่เมืองหนองคายและมีพระยอดเมืองขวัญรักษาการณ์อยู่ที่เมืองคำมวน ซึ่งฝรั่งเศสอ้างว่า ดินแดนลาวเคยเป็นของเวียตนามมาก่อน (เจ้าอนุวงศ์เคยทำสัญญายกเมืองลาวให้เวียดนาม เพื่อขอลี้ภัยการเมือง
ในคราวที่เจ้าอนุวงศ์ก่อกบฏในสมัยรัชกาลที่ 3) เมื่อเวียตนาม เป็นดินแดนในอาณัติของฝรั่งเศสแล้ว จึงสมควรที่ลาวต้องเข้ามาอยู่ในอาณัติของฝรั่งเศษด้วย ฝรั่งเศษจึงบุกเข้ายึดเมืองคำมวนและจับพระยอดเมืองขวัญกับพวกเอาไว้ แต่มีทหารมา ช่วยพระยอดขวัญกับพวกเอาไว้ได้ และได้ฆ่าทหารฝรั่งเศสตายเกือบหมด
เหลือรอดกลับไปเพียง 3 คนหลัง จากนั้นพระยอดเมืองขวัญและรัฐบาลไทยก็ได้ทำหนังสือประท้วงไปยังฝ่ายฝรั่งเศษ แต่ก็ไม่ได้ผล ฝรั่งเศษกลับกล่าวหาว่าไทยเป็นผู้รุกรานโดยพระยอดเมืองขวัญพร้อมทหารและอาวุธครบมือบุกเข้าไปยังเขตยึดครองของฝรั่งเศษ การที่ฝรั่งเศสจับพระยอดเมืองขวัญ นั้นชอบแล้ว
วันที่ 13 กรกฎาคม 2436
ฝรั่งเศษจึงส่งเรือรบ 2 ลำเข้ามาทางปากแม่น้ำ ทางรัฐ บาลไทยได้ทำการประท้วง แต่ฝรั่งเศษก็ทำเฉย จ ึงเกิดการยิงกันขึ้นที่ป้อมพระจุลฯ เป็นผลทำให้ฝ่ายไทยตาย 15 คนและฝ่ายฝรั่งเศสตาย 2 คน ในที่สุด เรือรบฝรั่งเศษ ก็แล่นเข้ามาถึงกรุงเทพฯ และจอดทอดสมออยู่ที่หน้าสถานฑูต
วันที่ 2 กรกฎาคม 2436
ฝรั่งเศษยื่นคำขาดให้รัฐบาลไทย ยอมยกดินฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงให้กับตน โดยให้เวลาที่ไทยจะต้องตอบภายใน 24 ชม. เมื่อฝรั่งเศษไม่ได้คำตอบ
วันที่ 26 กรกฎาคม 2436
ฝรั่งเศสจึงสั่งให้เอกอัคราชฑูตออกจากประเทศไทย
สุดท้ายเพื่อเป็นการรักษาดินแดนส่วนใหญ่ของชาติเอาไว้ ฝ่ายไทยจึงต้องยอมตามที่ฝรั่งเศสเรียกร้อง โดย ได้มีการทำสนธิสัญญาระหว่างไทยกับฝรั่งเศษในวันที่ 3 ตุลาคม 2436 ซึ่งในสนธิ
สัญญามีรายละเอียดดังนี้คือ
1.ไทยจะยอมสละกรรมสิทธิ์ทั้งหมดเหนือดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงรวมทั้งบรรดา เกาะทั้งหมดที่อาจมีขึ้นเมื่อน้ำลดหรือในบรรดาที่มีมาก่อน
แล้วนั้น ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของฝรั่งเศส
2.ไทยจะไม่มีเรือรบไปไว้ หรือใช้ดินแดนในทะเลสาป หรือลำน้ำที่แยกจากแม่น้ำโขงซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้มีการกำหนดกันไว้แล้ว
3. ไทยจะต้องไม่มีค่ายทหารในเขต 25 กม. ตลอดแนวแม่น้ำ รวมทั้งพระตะบอง และ เสียมเรียบ
4. การป้องกันเมือง หรือเขตที่กำหนดในข้อ 3 สามารถทำได้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
5. ไทยและฝรั่งเศษจะทำสัญญาการค้าในเวลา 6 เดือนนับจากนี้ และไม่เก็บภาษี ระหว่าางกัน
6. ในการสร้างท่าเรือหรือกิจกรรมต่างๆ ตามลำแม่น้ำทั้ง 2 ฝั่ง ถ้าฝรั่งเศษร้องขอ
ความช่วยเหลือเช่น การใช้พื้นที่ ไทย จะไม่ปฏิเสธและจะให้ความช่วยเหลือในทันที
7. ไทยจะให้ความสะดวกแก่คนในบังคับฝรั่งเศษในการเข้าออกไปมาในเขตที่ได้มี การกำหนดในข้อ 3
8. ฝรั่งเศษสามารถตั้งกงศุลได้ตามที่เห็นสมควร
9. ถ้ามีความเห็นหรือความเข้าใจที่ไม่ตรงกันในสัญญาฉบับนี้ ให้ถือเอาภาษาฝรั่งเศสป็นหลัก
10. สัญญานี้ ให้มีผลบังคับใช้ใน 4 เดือนนอกจากสัญญาดังกล่าว ยังมีภาคผนวกต่อท้ายมาด้วยคือ
-ไทยต้องถอนกำลังออกไปจากพื้นที่ภายใน 1 เดือน
-ไทยต้องรื้อค่ายออกไปให้หมดด้วย
ผลจากสนธิสัญญาฉบับนี้ ทำให้ไทยต้องเสียสิทธิในการปกครองลาวตั้งแต่บัดนั้น
รวมทั้งบรรดาเกาะแก่งทั้งหลายในแม่น้ำโขง แม้จะห่างจากฝั่งไทยเพียง 1 เมตร ก็ให้ถือว่าเป็นดินแดนของลาวจนถึงปัจจุบัน
ฝรั่งเศสยังได้เรียกร้องเงินค่าปรับจำนวนหนึ่ง
รัชกาลที่ 5 จึงทรงใช้เงินที่เรียกว่า เงินถุงแดง มอบให้กับฝรั่งเศส เงินถุงแดงนี้
เป็นเงินซึ่งรัชกาลที่ 3 ทรงได้กำไรมาจากการทำการค้ากับต่างประเทศ โดย
เฉพาะกับเมืองจีน แล้วพระองค์ได้เก็บเงินเหล่านั้นไว้ในถุงแดง ในคราวเกิดเหตุ
การณ์ รศ. 112 นี้ รัชกาลที่ 5 ก็ทรงนำเงินดังกล่าวออกมาเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย
ให้ฝ่ายฝรั่งเศสรวมกับเงินที่เรี่ยไรจากข้าราชบริพาร รวมเป็นเงินจำนวน 3 ล้าน
บาท
เหตุการณ์ รศ.112 นี้ สร้างความเจ็บชํานําพระทัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเป็นอย่างมาก ถึงขนาดทรงเสียพระทัย
บางบันทึกแสดงไว้ว่าพระองค์จะปลงพระชนม์ชีพพระองค์เอง
เหตุการณ์ รศ.112 นี้ ทําให้ กรมหลวงชุมพรเจ็บแค้นเป็นอย่างมาก ถึงกับทรงสัก ตราด 112 ไว้ที่บริเวณพระอุระ เพื่อเตือนใจ
และทหารเสือกรมหลวงชุมพร ก็คือนักเรียนนายเรือรุ่นแรก กรมหลวงชุมพรก็ทรงสักหน้าอกนักเรียนทุกคนด้วยพระองค์เอง
ลูกหลานไทยลืมความสําคัญของวันนี้สิ้นกันแล้วแล
ลายพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ 10 เมษายน พ.ศ.2436 (รศ.112) ได้ทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงเสนาบดี ที่ประชุมกันอยู่บนเรือพระที่นั่งมหาจักรี
รศ.112 นี้ ไทยต้องสูญเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงถึง 143,000ตารางกิโลเมตร(ประเทศลาวปัจจุบัน)
เป็นเหตุให้รัชกาลที่ 5 ทรงเสียพระทัยเป็นอย่างมาก ที่ไม่สามารถรักษาดินแดนของบุรพกษัตริย์ไว้ได้
ถึงกับประชวรและไม่ยอมเสวยพระโอสถ ไม่ประสงค์ที่จะมีพระชนชีพอยู่อีกต่อไป ดังปรากฏในพระราชนิพนธ์คำฉันท์
เจ็บนานนึกหน่ายนิตย์ มานะเรื่องบำรุงกาย
ส่วนจิต บมีสหาย ศิระกลุ้มอุราตรึง
ตริแต่จะถูกรึง อุระรัดและอัตรา
กลัวเป็นทวิราช บ ตริป้องอยุธยา
เสียเมืองต้องนินทา บละเว้นฤวางวาย
คิดใดจะเกี่ยงแก้ ก็ บ พบซึ่งเงื่อนสาย
สบหน้ามนุษย์อาย จึงจะอุดและเลยสูญ
พระเจ้าน้องยาเธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงกราบทูลห้ามไว้
เปรียบเหมือนเรือถ้าขาดกัปตัน ก็ไร้ทิศทางคงวุ่นวาย พสกนิกรจะหันหน้าไปพึ่งใครได้
สยามประเทศคงไปไม่รอดแน่นอน จึงทรงตอบพระนิพนธ์ดังนี้
ดุจเหล่าพละนา วะเหว่ว้ากะปิตัน
นายท้ายฉงนงัน ทิศทางก็คลางแคลง
อึดอัดทุกหน้าที่ ทุกข์ทวีทุกวันวาร
เหตุแห่งบดียาน อันเคยไว้น้ำใจชน
สรุปการเสียดินแดน
1 เสียเกาะหมาก(ปีนัง)ให้กับอังกฤษเมื่อ11สิงหาคม 2329 สมัย ร.1
2 เสียมะริด ทวาย ตะนาวศรีให้กับพม่า เมื่อ 16 มกราคม 2336 สมัย ร.1
3 เสียบันทายมาศ(ฮาเตียน)ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ พศ. 2336 สมัย ร.2
4 เสียแสนหวี เชียงตุงให้กับพม่า เมื่อ พศ. 2368 สมัย ร.3
5 เสีย รัฐเปรัคให้กับอังกฤษ เมื่อ พศ. 2369 สมัย ร.3
6 เสียสิบสองปันนาให้กับจีน เมื่อ 1 พค.2397สมัย ร.4
7 เสียเขมรให้กับฝรั่งเศส เมื่อ 15 กค. 2410 สมัย ร.4
8 เสียสิบสองจุไท ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ 22 ธค. 2431 สมัย ร.5
9 เสียฝั่งซ้ายแม่น้ำสาละวินให้กับอังกฤษ เมื่อ พศ. 2433 สมัย ร.5
10 เสียฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง (ลาว)ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ 3 ตค.2436 สมัย ร.5
11 เสียฝั่งขวาแม่น้ำโขง ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ 12 กพ.2446 สมัย ร.5 เพื่อแลกกับจันทบุรี
12 เสียเสียมราฐ พระตะบอง ศรีโสภณ ให้กับฝรั่งเศส เมื่อ 12 กพ.2449 สมัย ร.5 เพื่อแลกกับ จ.ตราด ด่านซ้ายและเกาะกง แต่ยึดเกาะกงต่อ
13 เสียกลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี ปะริศให้กับอังกฤษ เมื่อ 30 มีค. 2451 สมัย ร.5 เพื่อแลกกับอำนาจศาล
ครั้งที่ 14 เสียเขาพระวิหาร ให้กับเขมร เมื่อ 15 มิย. 2505 สมัย ร. 9
1 ตกไปเป็นของฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ.๒๔๑๐ (ร.ศ.๘๖)
2 ตกไปเป็นของฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๑ (ร.ศ.๑๐๗)
3 ตกไปเป็นของฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๖ (ร.ศ.๑๑๒)
4 ตกไปเป็นของฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๗ (ร.ศ.๑๒๓)
5 ตกไปเป็นของฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๐ (ร.ศ.๑๒๖)
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
majoy
majoy
ออฟไลน์
เครดิต
24694
2
#
โพสต์ 2015-1-10 19:23
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คิดแล้วก็ละลาย ทุกวันนี้ทำงานเป็นขี้ข้าฝรั่งเพื่อเงิน ให้มันจิกหัวใช้ หากมีทางไป เลี้ยงครอบครับได้ จะไม่สนใจมันเลย
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...