ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1610
ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

วิชาชุบตัวเเละอาบว่านยา

[คัดลอกลิงก์]
วิชาชุบตัวเเละอาบว่านยา
ในตำราของหลวงพ่อกวย ต้นว่านนี้หมายถึง ไม้มงคลหรือไม้ประเภทมีฤทธิ์ เป็นต้นไม้มีหัวเเละราก นำมากินไปเเล้วจะมีือำนาจทางอยู่ยงคงกระพัน ว่านพวกนี้ เป็นต้นไม้ที่มีเทวดารักษา นี่คือลักษณะของต้นว่าน
คนโบราณหรืออาจารย์โบราณ มักปลูกว่าน โดยหวังผลทางด้านเมตตามหานิยมหรือทางคงกระพัน ว่านบางอย่างกินเข้าไปจะทำให้ผิวหนังรัดตัว มีความเเข็งเเกร่งหรือเหนียว สามารถป้องกันคมมีดคมดาบได้ ตามความเชื่อ ยิ่งกินว่าน เเล้วมีอาคมเสกด้วย ยิ่งดีใหญ่
ว่านที่เป็นเสน่ห์ เมตตามหานิยมนั้น มักมีดอกหอม เช่นว่านเสน่ห์จันทร์ ว่านบางอย่างที่มีเทวดารักษา คนมักจะปลูกไว้เพื่อเฝ้าบ้าน ไว้คอยปกป้องรักษา เเต่ว่านบางอย่างก็มีความน่ากลัว เพราะมีภูตผีอาศัยอยู่ เช่นว่านกระสือ ว่านปอบ ว่านเเบบนี้มีประโยชน์บางอย่าง เเต่ก็เเฝงไว้ด้วยอันตราย เหมือนดาบสองคม มีทั้งคุณเเละโทษ
ว่านที่มีอานุภาพทางคงกระพันนั้น เช่น ว่านหนังเเห้ง ว่านสบู่เลือด ว่านหนังคางคก เป็นต้น ดังนั้น จึงมีการทำวิชาอาบว่านขึ้นมา
วิชาอาบว่าน เป็นที่นิยมมากของทางภาคใต้ เเละสำนักที่โด่งดังในเรื่องนี้ คือ สำนักเขาอ้อนั่นเอง เนื่องจากสรรพคุณต่างๆ จึงมีการนำว่านต่างๆมาผสมพระเครื่องด้วย เพื่อให้เกิดอานุภาพยิ่งขึ้น
การกินว่านเพื่ออาศัยอานุภาพนั้น จะอยู่ได้ไม่นาน ต้องกินเพิ่มอยู่เรื่อยๆ เขาว่า ถ้าใครกินว่านมากๆ พอหน้าหนาว ว่านออกดอก อาจมีอาการเเพ้ว่าน จะทำให้มีจุดขาวๆตามตัว คล้ายรอยเกลื้อน
การอาบว่านโดยใช้อาคมกำกับ เมื่อเเช่ว่านนานๆนั้น คนที่เเช่ว่านเมื่อมีอายุมาก ฤทธิ์ว่านจะออกตามลิ้น  เช่นเวลากินข้าว จะมีรสไม่อร่อย คือมีรสขมของว่าน ถ้าอาบหรือเเช่มากๆ ทำให้ผิวหนังรัดตัวมาก รูขุมขน ไม่สามารถระบายไขมันเเละเหงื่อออกได้ จะทำให้เป็นสิวทั้งตัวเลย
ปัจจุบัน วิชาจำพวกนี้ ไม่ค่อยมีคนทำเเล้ว เเทบเสื่อมสูญ เหลือเเต่เพียงคำบอกเล่า
หลวงพ่อกวยเคยชุบตัวให้ศิษย์โดยมีว่านยาเป็นตัวประกอบ หลวงพ่อเรียนมาจากครูรุน ครูเพ็ง อาจารย์เเหล่ม วัดท่าช้าง ทั้งสามท่านนี้ เป็นศิษย์รุ่นเดียวกับอาจารย์เฮง ไพรวัลย์ เรียนกับหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ในบันทึกหลวงพ่อท่านเรียกชื่อเป็นหลวงพ่อกลั่น วัดทะยาน
ในตำรา หลวงพ่อได้ระบุว่านยาเอาไว้ พร้อมวาดรูปวิทยาธรที่รักษาว่านยาเอาไว้ด้วย ท่านเขียนไว้ว่า
( รูปเพ็ชพยาทร รักษาอยู่ที่ต้นยา มีฤทธิ์ เมื่อขุดต้องเบิกก่อน ถ้าอาคมไม่กล้า เขาไม่กลัวเราเลย เอามาทำก็ไม่ได้ผล )

เครื่องยาที่หลวงพ่อใช้ทำพิธีอาบว่านชุบตัว มีดังนี้
๑.รากพญารากดำ
๒.รากพญาย้า
๓.รากชะมัด
๔.รากตีนต่าง
๕.รากคาง
๖.รากเถาวัลย์เปรียง
๗.ตาไม่ไผ่ ๗ ตา
ให้เอาเครื่องยาทั้ง ๗ อย่าง เเช่น้ำค้าง ปลุกด้วยคาถาอมพิสหนูครูเเก้ว... ก่อน
เวลาอาบ ให้ตั้งเครื่องบูชาครู ให้อาบที่บันไดขั้นเเรก เเล้วกลับบันไดลง ปลุกด้วยคาถาให้ได้ ๗ ครั้ง อาบ ๓ วัน ถ้าจะลอง ให้ลองด้วยขวานโยน ๗ เล่ม ดาบ ๗ เล่ม ขวากหรือหลาวเสี้ยมเเหลม ใช้ไม้ลวก ๗ อัน
เมื่อจะเก็บเครื่องยา ให้ว่าคาถาเบิกเเละคาถาเรียกก่อน
สมัยที่ีหลวงพ่อทำพิธีอาบว่านยาเพื่อชุบตัวให้ศิษย์นั้น นอกจากจะอาบที่บันไดเเล้ว หลวงพ่อยังทำเเคร่ไม้ไผ่ ให้ศิษย์ขึ้นไปนอนบนเเคร่ เเล้วอาบว่าน ใต้เเคร่หลวงพ่อได้ปักขวากเอาไว้ เป็นไม้รวกเสี้ยมเเหลม ๗ อัน เมื่ออาบจนพอใจ หลวงพ่อจะถีบเเคร่ให้ล้มลง หรือหลุดจากเสา ศิษย์ที่นอนอาบว่านจะตกลงไปด้านล่างที่มีขวาก ๗ อันปักอยู่ ผลคือ ขวากจะตำไม่เข้าเลย เเสดงถึงความมั่นใจในอาคมของท่านมาก สมัยนั้น ถ้าไม่เเน่จริง ไม่เก่งจริง มีสิทธิ์ติดคุกเเน่ ไม่้เหนียวจริง ขวากตำทะลุหลังเเน่
ศิษย์รุ่นเก่าๆที่ท่านอาบว่านให้ เช่น ลุงเยื้อน ลุงทอด ลุงสมาน ปานน้อย อาจารย์เตี้ย วัดสามเอก
อาจารย์เตี้ย วัดสามเอก เคยเล่าว่า ครั้งนั้น เมื่ออาบว่านเเล้ว หลวงพ่อจะให้กระโดดลงสระ หลวงพ่ออ้างว่า เพื่อชุบตัว เเต่จริงๆเเล้ว หลวงพ่อได้ปักขวากเอาไว้ อยู่ในสระเต็มไปหมด เเสดงว่า วิชาของหลวงพ่อดีจริงๆ เเละท่านก็มั่นใจในอาคมของท่านมาก
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้