ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1970
ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

“ศักดิ์ศรี”

[คัดลอกลิงก์]




ศักดิ์ศรี........มันกินไม่ได้...แต่เท่ห์!!!!!

เกิดมาพร้อมกับคำว่า “ศักดิ์ศรี” ถึงแม้ว่า ชีวิตระหกระเหิรเร่ร่อน จน แต่หยิ่งค่อต ชีวิตเหมือนนิยายน้ำเน่าเน่าเลยล่ะค่ะ ถ้าใครติดตามงานเขียนของปอง พอจะทราบว่า ยัยนี่ มันรันทดแท้น๊อออออออ
เริ่มต้นการมีศักดิ์ศรีรอบแรก คือ โดนพ่อดุ แม่ด่า หาว่า ดื้อรั้นสอนไม่เคยฟัง อนาคตลำบากแน่ พึ่งพาตัวเองไม่ได้ยังอวดดีอีก น้อยใจอย่างหนัก เลยหอบกระเป๋าย่าม(ไม่มีเสื่อผืนหมอนใบหรอกค่ะ) ด้วยวัยเพียง 13 ฉันจะไปตามหาฝัน คอยดูนะ จะทำให้พ่อแม่รู้ว่า ฉันพึ่งพาตัวเองได้



ฉันหนีโซเซ โบกรถฟรี จนมาถึงอ.วารินชำราบ ของอุบล คือสถานีรถไฟ จุดหมายปลายทางน่ะเหรอ คือกรุงเทพ กะว่า ฉันจะไปทำงานหาเงินให้ได้เยอะๆ จะส่งให้พ่อแม่กินอยู่สบาย ฉันจะทำให้ได้คอยดูดิ
ฉันเมารถอาเจียนจนเป็นลมหลายรอบ เพราะไม่เคยเดินทาง แต่นายแน่มาก ช่างกล้าตัดสินใจวัยเพียง 12 ย่าง 13 จบป.ขี้ไก่มาหมาดๆ ด้วยมีวาสนาหรือมีบุญค้ำชูหน่อยๆ จึงไปเตะตาอาม่าใจบุญย่านเยาวราชให้ อาม่านั่งสามล้อเครื่องตระเวนไหว้เจ้า แลเห็นเด็กหญิงตัวน้อยๆมอมแมม นอนหมดสติอยู่วงเวียน 22 (มาทราบภายหลังว่า ผีขนุนผีมะขามตรึม) อาม่าปิ๊งนู๋หิ่น ณ บัดนั้น จึงเก็บไปเลี้ยงดูฟูมฟักรักยังกับลูกหลาน เพราะอาม่ารวยมาก แต่ลูกหลานไม่เหลียวแล เลยประชดด้วยการเลี้ยงเด็กสร้างบ้านนี่ล่ะ สุดท้ายแผนอาม่าสำเร็จ ลูกหลานพากันมาเอาอกเอาใจอาม่ามากขึ้น และแอนตี้นู๋หิ่นอย่างแรง โทษฐานเด็กนอกไส้ ไหงอาม่ารักจัง
ตอนนั้น เท่ห์มาก ด้วยความใสซื่อ ว่านอนสอนง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน นานครั้ง สันดานเดิมจะออก คืออาการปริ๊ด ปริ๊ดได้ก็ต่อเมื่อถูกเอารัดเอาเปรียบจนต้องสู้นั่นล่ะ
พอสิ้นบุญอาม่า นู๋หิ่นก็เคว้งคว้าง อาม่าฝากฝังกับลูกหลานว่า อย่าทิ้งอีนา...อีน่าสงสาร อีเป็นเด็กดี อีควรมีการศึกษา อย่างน้อย อนาคตอีก็พึ่งพาตัวเองได้ พวกลึ ไม่ต้องให้เงินทองอี แต่ให้การศึกษาอีก็พอเลี่ยว....อาม่าสั่งการไว้ก่อนไปเดินเล่นที่สวรรค์
ชีวิตที่มีศักดิ์ศรี จึงระหกระเหิร ด้วยความหยิ่งทระนงของตัวเอง ไม่ยอมให้ใครมาด่า หรือดูถูกเหยียดหยาม แม้ว่าจะจน เป็นคนบ้านนอก แต่ก็ทนไม่ได้ในบางเรื่องบางราว หลายๆครั้งที่เขาโอนนู๋หิ่นไปให้พี่ พี่โยนให้น้อง สุดท้าย น้องเล็กก็รับนู๋หิ่นแบบขอไปที นู๋หิ่น เป็นทั้งญาติคนหนึ่ง และ คนรับใช้ในบ้านนั้นไปในตัว(ที่มาของฉายา นู๋หิ่นที่ตั้งเองไงล่ะ) แต่มีดีกว่าตรง มีสิทธิ์เท่าเทียมลูกๆเขาทุกคน ได้กิน ได้นอนเตียงนุ่มๆในห้องแอร์ ได้ท่องเที่ยวทั่วไทย เขาไปไหน เราก็ไปด้วยตลอดมา แต่ทุกๆอย่าง เรารู้สึกได้ว่า...เขาดูถูกเราตลอดมา จึงอดทน จนเรียนจบไม่สูงมาก แต่พอหางานทำสบายๆได้อยู่โดยไม่ต้องเป็นกรรมกร
นู๋หิ่น ปีกกล้าขาแข็ง จึงพยายามหนีจากบ้านหลังนั้นจนสำเร็จ ด้วยคำสบประมาทพ่วงมาด้วยว่า ไปไม่รอดหรอก เดี๋ยวมันก็ซมซานกลับมา อย่าไปตามมัน.... นู๋หิ่นไม่เคยเสียดาย เงินที่เขาฝากเป็นทุนการศึกษาเดือนละห้าพัน ร่วมสิบปี  เป็นเงินก็หลายแสน รถคันนั้นที่เขาบอกว่า เรียนจบมันจะเป็นของปอง แต่ก็ไม่เอา หนีมาตัวเปล่าๆ เหมือนก่อนเข้าไปอยู่บ้านเขานั่นล่ะค่ะ
ซมซานหางานทำทุกอย่างไม่เคยเกี่ยงสักงาน กรรมกรบ.ก่อสร้างก็ทำมาแล้ว วุ้ยยยยยยย สากกะเบือยันเรือรบ ลองหมดแล้วค่ะ สิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวคือ “ศักดิ์ศรี” นั่นเอง
วันก่อนโทรคุยกับพี่สาวที่บ้าน พี่สาวบ่นๆตามประสาคนแถวนั้นที่เขามีแนวคิดเหมือนๆกันว่า ไอ้คนนี้ มันไม่เห็นได้ร่ำเรียนอะไร ทำงานคาราโอเกะ มันยังได้แฟนรวยมากๆ วันๆนั่งกินนอนกิน มรึงน่ะ เรียนมาเสียเปล่า ได้ข่าวว่า แฟนที่คบอยู่ก็เป็นถึงเจ้าของกิจการใหญ่โต ทำไมต้องทำงานงกๆ ทั้งขายปาท่องโก๋ แพ็คข้าวสารขาย ทำสังขยา ขายกาแฟ และไหนจะงานเดิมที่ยังทำอีกล่ะทำไมต้องเหนื่อยขนาดนั้น ปองเลยบอกพี่สาวว่า ถ้าพูดงี้อีกหนูจะวางสายนะ เขารวยก็เงินเขา ไม่ใช่เงินเรา สู้เรายืนอยู่ด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่ต้องแบมือขอใครมันเท่ห์!!!จะตาย เขารวยก็ส่วนเขาสิ เขาให้ก็รับอยู่นะเงินน่ะไม่ปฏิเสธ แต่จะไม่ขอเด็ดขาด และที่หนูทำงานเหนื่อยมาตลอดชีวิต ก็เพราะหนูมีศักดิ์ศรีไง
พี่สาว เลยเข้าใจในการมีศักดิ์ศรีค้ำฟ้าของหนูหิ่น ตอนกลับบ้านปีใหม่ พี่ไม่ปริปากสักคำ ได้แต่มองแล้วอมยิ้ม  คงคิดในใจว่า.....น้องตรูก็มีศักดิ์ศรีอยู่นี่หว่า...ฮ่วย!!  ^_^



ขอบคุณบทความดีๆของหนูปอง ว.ว.22 ที่ส่งเสริมยั่วยุเติมเติมกำลังให้"เย่อหยิ่งทรนงในศักดิ์ศรี"



http://www.oknation.net/blog/print.php?id=675671

เยี่ยม
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้