การศึกษา : ได้ไปศึกษาเล่าเรียนและอุปสมบทที่วัดในจังหวัดตรังต่อมาได้มาศึกษาพระธรรมวินัย และจำพรรษา ที่วัดวังลำปำ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง (ซึ่งขณะนั้นลำปำเป็นที่ตั้งของตัวเมืองพัทลุง) ปี พ.ศ.2444 เมื่ออายุ 25 พรรษา ชาวบ้านนิมนต์มาจำพรรษาที่วัดนาท่อม ขณะนั้นมีตาหลวงขรัวคงเป็นเจ้าอาวาสวัดนาท่อม เมื่อตาหลวงขรัวคงมรณภาพแล้วก็มี พระคงอีกรูปหนึ่งทำหน้าที่แทนเจ้าอาวาสอยู่ระยะหนึ่ง ต่อมาเจ้าอาวาสวัดนาท่อมมรณภาพลง ตาหลวงเหลื่อมได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดนาท่อม อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ตั้งแต่นั้นเรื่อยมาตลอดระยะเวลา หลวงพ่อเหลื่อม ได้ส่งเสริมการศึกษาให้เยาวชนได้ศึกษาเล่าเรียนโดยใช้ศาลากลางวัดเป็นที่เรียน สมณศักดิ์ :
ปี พ.ศ.2478 ได้รับสมณศักดิ์ชั้นประทวน เป็นพระครูเหลื่อม อินทสโร
ปี .พ.ศ.2481 ได้รับสมณศักดิ์ชั้นสัญญาบัตร เป็นพระครูประภัสสรคุณาทร ด้านการสนับสนุนส่งเสริมการศึกษาและพัฒนา : งานพัฒนาท่านได้บำรุงวัดและสร้างเสนาสนะขึ้นหลายหลัง เมื่อปี พ.ศ.2459 ท่านได้สร้างโรงเรียนขึ้นในวัด โดยมีพระเป็นผู้สอน ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2464 เมื่อพระราชบัญญัติประถมศึกษาเกิดขึ้นแล้วทางกระทรวงธรรมการสมัยนั้นได้ส่ง ครูมาช่วยสอนร่วมกับพระที่ในวัด โรงเรียนประชาบาลวัดนาท่อม จึงได้เปิดสอนเป็นการถาวร ปี พ.ศ.2477 ท่านได้เริ่มสร้างอาคารเรียนเป็นเอกเทศในที่ดินของวัด จนสำเร็จและใช้เป็นที่เล่าเรียนได้ในปี พ.ศ.2480 การบริจาคที่ดินเพื่อสาธารณะประโยชน์ จำนวน 345 ไร่ 1.วัดนาท่อมจับจองในนามโรงเรียนวัดนาท่อมเพื่อการศึกษา 2.โรงเรียนประภัสสรรังสิตขอใช้ที่ดินเพื่อก่อสร้างอาคารเรียนประภัสสรรังสิต 3.อบต.นาท่อมขอใช้ที่ดินเพื่อจัดสร้างที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลนาท่อม 4.โรงเรียนพัทลุงขอใช้ที่ดินเพื่อการเรียนการสอนสาธิตงานเกษตรของโรงเรียนพัทลุง ปี พ.ศ.2478 ได้รับสมณศักดิ์ชั้นประทวน เป็น พระครูเหลื่อม อินทสโร การมรณภาพ : ปี พ.ศ.2485 ท่านเริ่มมีอาการป่วยมีอาการเท้าบวม ตั้งแต่เข่าไปถึงฝ่าเท้า ทั้งเท้าซ้ายและเท้าขวา ทำการรักษามาตลอดแต่อาการก็ไม่หายขาด จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2489 ท่านมรณภาพรวมศิริอายุ 67 พรรษา
ข้อมูลจากไฟล์รูปโดยคุณมหาชาตรีใหญ่ รูปพระสังกัจจายน์หลวงพ่อเหลื่อมจากคุณก้องหาดใหญ่ ชมรมคนรักพระเครื่อง
|