ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2205
ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

คนที่ตั้งหน้าทำแต่ความดี ทำไมจึงไม่ได้ดีเหมือนคนชั่วบางคน?

[คัดลอกลิงก์]


คนที่ตั้งหน้าทำแต่ความดี ทำไมจึงไม่ได้ดีเหมือนคนชั่วบางคน?
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ตอบปัญหาธรรม
จากหนังสือ "สู่แสงธรรม" โดย พล.อ.ต.มนูญ ชมภูทีป


"หลวงพ่อครับ คนที่ตั้งหน้าตั้งตากระทำแต่ความดี ทำไมจึงไม่ได้ดีเหมือนคนชั่วบางคนเล่าครับ"

"ถ้าคุณเริ่มปลูกต้นมะม่วงในวันนี้ คุณจะเก็บมะม่วงกินได้สักเมื่อใด?" หลวงพ่อย้อนถาม

"เอ ผมก็ไม่ค่อยจะมีความรู้ในเรื่องของมะม่วง แต่ที่บ้านผมปลูกไว้ไม่ต่ำกว่า ๕ ปี จึงจะออกผลครับ" ข้าพเจ้าตอบ ชักลังเลไม่แน่ใจว่าหลวงพ่อฟังเรื่องที่ข้าพเจ้าเล่า หรือฟังคำถามของข้าพเจ้าหรือเปล่า

"เอ้อ ตอนปลูกคุณเหนื่อยไหม?" หลวงพ่อถามเรื่อยๆ

"เหนื่อยสิครับ เพราะดินที่บ้านผมเป็นดินเปรี้ยว ต้องขุดหลุมกว้างถึง ๑ เมตร ยาว ๑ เมตร ลึก ๑ เมตร แล้วหาดินใหม่มาใส่แทน อีกทั้งต้องให้ปุ๋ยและเอาปูนขาวลงไว้รอบๆ หลุมอีกด้วยครับ" ข้าพเจ้าตอบตามความเป็นจริง

"ปลูกต้นมะม่วงเหนื่อย แต่ก็ยังไม่ได้กินผลในทันที แล้วตอนนี้คุณต้องคอยดูแลต้นมะม่วงของคุณอีกหรือไม่?" หลวงพ่อยังถามเรื่อยๆ

"ไม่แล้วครับ ปล่อยทิ้งๆ ขว้างๆ หากเกิดขยันเมื่อไรผมจึงรดน้ำให้บ้าง แต่ก็นานๆ ทีครับ" ข้าพเจ้าตอบ

"แล้วมันออกลูกให้คุณกินทุกปีไหม?" หลวงพ่อถามยิ้มๆ

"ทุกปีแหละครับ มากบ้างน้อยบ้าง สุดแล้วแต่ว่าเพลี้ยจะลงหรือไม่ครับ" ข้าพเจ้าตอบตามความเป็นจริง

"คุณคิดบ้างไหมว่า ในขณะนี้คนอื่นๆ ที่เขาเพิ่งเริ่มปลูกมะม่วงน่ะ เขาอิจฉาคุณนะ เพราะเขาคิดว่าเขาต้องลงทุนลงแรงเหน็ดเหนื่อย ถางหญ้า ขุดหลุม รดน้ำ พรวนดิน ให้ปุ๋ย ฉีดยาฆ่าแมลง เพื่อทำนุบำรุงต้นมะม่วงของเขาอยู่ทุกวี่ทุกวัน มิหนำซ้ำมะม่วงก็หาได้ออกผลมาให้เขาได้ชื่นชมเก็บมากินได้บ้างเลย ผิดกับคุณซึ่งนั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ มะม่วงของคุณ ก็ออกผลมาให้คุณกินอยู่ทุกปี มิได้ขาด" หลวงพ่อพูดเรื่อยๆ

"อ้าว เขาจะมาคิดอิจฉาผมอย่างนั้นก็ไม่ถูกซิครับ เขาน่าจะคิดว่าย้อนกลับไปเมื่อ ๕-๖ ปีที่แล้วซิว่า ในขณะที่เขามัวแต่เที่ยวเตร่หาความสุขอยู่นั้นน่ะ ผมต้องลงทุนลงแรง อาบเหงื่อต่างน้ำมากับเจ้าต้นมะม่วงของผม มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่าเขาเลยนะครับ หนอยแน่ พอเริ่มลงมือปลูก ก็จะกินผลเลยเป็นไปได้ยังไงกัน ก็ต้องเหนื่อยไปก่อนซิครับ อีก ๕-๖ ปีโน่นจึงค่อยคิดจะกินมะม่วงที่ปลูก ผมเองก็ต้องรอมาก่อนเหมือนกันนะครับ" ข้าพเจ้าตอบด้วยเหตุด้วยผล

"นี่คุณกำลังตอบคำถามของคุณเอง แทนฉันไปหมดสิ้นแล้วนะ"

หลวงพ่อพูดยิ้มๆ และเมื่อเห็นข้าพเจ้ายังนั่งงงอยู่ ก็อธิบายว่า

"คนที่เขาร่ำรวยมั่งมีศรีสุข หรือประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานนั้น ก็เพราะเขาได้สร้างสมกรรมดีมาแล้วในอดีตชาตินั่นเอง ดังนั้น เมื่อเขาเกิดมาในชาตินี้ บุญที่เขาได้สร้างสมมา จึงมาตอบสนองให้เขามีชีวิตอย่างสุขสบาย แต่ถ้าเขามัวแต่นั่งกินบุญเก่าอยู่ โดยไม่สร้างบุญใหม่เพิ่มเติมในชาตินี้ มิหนำซ้ำกลับสร้างแต่กรรมชั่ว ดังที่คุณได้เล่ามาแล้ว ก็นับว่าเขาเหล่านั้นตกอยู่ในความประมาทอย่างมาก และเป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก เพราะถ้าเมื่อใดบุญเก่าหมด กรรมชั่วจะตามมาตอบสนองเขาทันที อาจจะได้รับผลกรรมทันตาเห็นในชาติปัจจุบันก็ได้นะ แต่ถ้าบุญกุศลที่เขาสร้างสมมาแต่อดีตชาติมีมาก ผลของกรรมชั่วแม้จะตามมาตอบสนองไม่ทันในชาตินี้ เขาก็จะต้องไปรับกรรมชั่วในชาติหน้า ภพหน้าอยู่ดี หนีไม่พ้นหรอกนะ"
                                       
.....................................................................................

ที่มา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=47505

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้