เมื่อสัจจกนิครนถ์ได้สนทนากับพระอัสสชิ และทราบถึงหลักคำสอนของพระสมณโคดม
แล้ว ก็ยิ่งเกิดความลำพองใจเป็นยิ่งนัก หมายใจมั่นว่าการท้าประลองวาทะครั้งนี้ ตนก็จักเป็น
ผู้มีชัย เช่นทุกคราที่ผ่านมาเป็นแน่นอน ครั้นวันต่อมา สัจจกนิครนถ์จึงเข้ากราบทูลกษัตริย์ลิจฉวี ว่าตนประสงค์จักสนทนา
เพื่อถามปริศนาธรรมกับพระสมณโคดม พร้อมชักชวนสานุศิษย์กว่า ๕๐๐ คน ซึ่งล้วนแต่เป็น
พระราชบุตร พระญาติวงศ์ของกษัตริย์ลิจฉวีร่วมติดตามไปเป็นสักขีพยานในการโต้วาทะครั้งนี้ด้วย ครานั้น องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเข้าสู่มหากรุณาสมาบัติแผ่ข่ายสัพพัญญุตญาณ
( พระปรีชาญาณหยั่งรู้ อดีต ปัจจุบัน อนาคต ) เล็งเห็นอุปนิสัยแห่งสัจจกนิครนถ์ จักประกอบด้วย
ปัญญาสมบัติอันยิ่งยวดในอนาคตชาติ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธองค์ทรงมีพระดำริ
จักเสด็จโปรดสัจจกนิครนถ์ในวันรุ่งขึ้น ครั้นอรุณรุ่ง องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จพระราชดำเนินพร้อมภิกษุสาวกเข้าสู่
กรุงไพศาลี เสด็จประทับ ณ กูฏาคารศาลา กลางป่ามหาวัน บ่ายคล้อยนั้น สัจจกนิครนถ์พร้อมสานุศิษย์กว่า ๕๐๐ คน เดินทางเข้าป่ามหาวัน
มุ่งตรงยังกูฏาคารศาลาอันเป็นที่ประทับของพระผู้มีพระภาคเจ้า
|