|
พระนอนหงาย ลักษณะเหมือนกับพระนอนที่เมืองกุสินารา |
| [size=+1]ในโอกาสวันมาฆบูชาพุทธศาสนิกชนหลายๆท่านคงจะใช้เวลาในวันหยุดยาว เข้าวัด ทำบุญ ไหว้พระ ฟังเทศน์ฟังธรรม ซึ่งในเมืองไทยนั้นสามารถหาวัด เข้าไปไหว้พระพุทธรูปได้ทั่วไปตั้งแต่เหนือจรดใต้
[size=+1]ส่วนใครที่จะหาวัดที่มีพระพุทธรูปลักษณะแปลกๆนี่ก็ต้องเสาะหา และค้นคว้าข้อมูลกันนิดหน่อย แต่เมื่อปีที่แล้วทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้ก็ได้จับเอาจุดเด่นของพระพุทธรูปลักษณะแปลกๆ มาผนวกกับกิจกรรมท่องเที่ยว โดยบรรจุให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวมุมมองใหม่เมืองไทย หรือ อันซีนไทยแลนด์ ที่ ณ วันนี้กลายเป็นหนึ่งในคำฮิตติดปากของคนไทย
[size=+1]สำหรับพระพุทธรูปอันซีนที่ททท.คัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 50 แหล่งท่องเที่ยวอันซีนและแนะนำลงในหนังสืออันซีนไทยแลนด์ก็มี พระนอนหงาย ที่ จ.สุพรรณบุรีและพระผุด ที่ จ.ภูเก็ต
|
|
พระผุดองค์จริง(ซ้าย)กับองค์จำลองที่ให้คนปิดทอง |
| [size=+1]โดยพระนอนหงายนั้น ประดิษฐานอยู่ภายในมณฑปทรงจัตุรมุขริมน้ำ ที่วัดพระนอนวังมัจฉา ซึ่งพระนอนองค์นี้มีความแปลกและโดดเด่น ตรงที่เป็นพระ“นอน”จริงๆ คือเป็นพระนอนหงายราบลงไปกับพื้น ต่างจากพระนอนทั่วๆไป ที่ส่วนมากจะเป็นพระนอนตะแคงด้านขวาหรือที่เรียกว่าสีหไสยาสน์
[size=+1]ที่มาที่ไปของพระนอนองค์นี้ก็ค่อนข้างไม่ธรรมดา คือทางคนสร้างต้องการให้พระนอนองค์นี้เป็นดังเครื่องรำลึกถึง และเพื่อแสดงความเคารพบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าคราวเสด็จปรินิพพาน จึงได้สร้างพระนอนขึ้นมาให้มีลักษณะเหมือนกับพระนอนที่เมืองกุสินารา สถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ในประเทศอินเดีย
[size=+1]และพระนอนองค์นี้แหละชาวบ้านแถวนั้นบอกว่าเป็นผู้ทำให้เกิดอุทยานมัจฉาที่วัดพระนอนวังมัจฉาขึ้นมา โดยมีเรื่องเล่าว่าท่านเจ้าอาวาสฝันว่า องค์พระนอนมาบอกให้ทางวัดเลี้ยงแม่น้ำท่าจีนในแม่น้ำท่าจีนที่อยู่ติดกับด้านหนึ่งของวัด เพื่อช่วยในการอนุรักษ์พันปลา ที่วัดนี้จึงมากมายไปด้วยปลานานาชนิด ทั้งปลาสวาย ปลาตะเพียน ปลาแรด ปลาตะโกก นับแสนๆตัว |
|
พระพุทธไสยาสน์ถ้ำภูค่าว พระนอนตะแคงซ้ายที่หาชมได้ยาก |
| [size=+1]ใครที่เดินทางไปวัดพระนอนฯ นอกจากจะได้สักการะองค์พระนอนแล้ว ก็ยังได้เพลิดเพลินกับการทำบุญให้อาหารปลาอีกด้วย จากพระนอนก็ไปกันที่พระพุทธรูปลักษณะแปลก อย่างพระผุด แห่งวัดพระทอง จ.ภูเก็ตกันบ้าง โดยความโดดเด่นผสมความแปลกของพระพุทธรูปองค์นี้ก็คือ เป็นพระที่ ดูคล้ายกับโผล่ขึ้นมาจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ ชาวบ้านจึงเรียกขานพระองค์นี้ว่า “พระผุด” หรือ “หลวงพ่อพระทอง” โดยที่มาที่ไป ไม่มีหลักฐานปรากฏแน่ชัด
[size=+1]แต่ในนิทานพื้นบ้านได้พูดถึงกำเนิดของพระผุดเอาไว้ว่า มีเด็กคนหนึ่งนำควายไปผูกล่ามไว้กับหลัก พอตกเย็นเด็กกลับบ้านก็เสียชีวิตพร้อมควายโดยไม่ทราบสาเหตุ
[size=+1]ครั้นต่อมาพ่อเด็กก็ฝันไปว่าลูกชายของตนได้นำควายไปผูกไว้ที่พระเกตุมาลาก่อนจะเสียชีวิต รุ่งขึ้นจึงไปดูจึงรู้ว่าเป็นพระพุทธรูป ก็พยายามขุดลงไป แต่ก็ขุดได้เพียงครึ่งองค์เท่านั้น |
|
พระพุทธรูปปางพระพุทธเจ้าเข้านิพพาน |
| [size=+1]และในพ.ศ. 2328 คราว ที่พม่ายกทัพบุกเข้าตีเมืองถลาง ก็ได้พยายามที่จะขุดเอาพระผุด แต่พอขุดก็ไปเจอมดคันพิษและต่อแตนต่อย ทำให้ขุดไม่ได้ หลังจากนั้นก็มีพระธุดงค์มาปักกลดแถวนั้น เมื่อเห็นพระผุดจึงได้สร้างโบสถ์ขึ้นคลุมพระผุด พร้อมๆกับอันเชิญเป็นพระประธานของโบสถ์ ซึ่งจะว่าไปแล้วนี่อาจเป็นพระประธานเพียงหนึ่งเดียวในโลกก็ได้ที่เพียงครึ่งองค์ โดยชาวบ้านแถวนั้นต่างเชื่อว่าหากใครไปกราบไหว้พระผุดแล้ว ก็จะสัมฤทธิ์ผลได้ตามที่ปรารถนา
[size=+1]ปัจจุบันที่โบสถ์วัดพระทองได้สร้างพระผุดครึ่งองค์เล็กขึ้นบนฐาน เคียงคู่กับพระผุดองค์ใหญ่ของจริงเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ปิดทอง |
|
พระพุทธรูปประธาน ในวัดภูมินทร์แปลกเพราะหลังชนกันทั้ง 4 ทิศ |
| [size=+1]นั่นคือพระพุทธรูปลักษณะแปลกที่ถูกคัดเลือกเป็นหนึ่งในโครงการอันซีนไทยแลนด์ ซึ่งในเมืองไทยยังมีพระพุทธรูปสวยงาม และพระพุทธรูปลักษณะแปลกๆที่รอให้คนไปสักการะอีกหลายที่ ส่วนใครที่ไม่มีโอกาสได้ไปไหว้พระพุทธรูปลักษณะแปลกๆ ก็สามารถเดินเข้าไปไหว้พระพุทธรูปใกล้ๆบ้านได้ตามแต่สะดวก เพราะว่ายังไงๆศรัทธานั้นสำคัญที่จิตใจมากกว่า
[size=+1]นอกจากพระพุทธรูปอันซีน 2 องค์ ในหนังสืออันซีนไทยแลนด์ ททท.ของแต่ละภูมิภาคต่างก็ชูพระพุทธรูปลักษณะแปลกๆในพื้นที่ของตน ขึ้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีน ซึ่งพระแต่ละองค์ต่างก็มีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไป
[size=+1]พระพุทธไสยาสน์ถ้ำภูค่าว ตั้งอยู่ในเขตวัดพระพุทธนิมิตร แห่งบ้านนาสีนวล ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เป็นพระพุทธรูปสลักจากหินใต้เพิงผา มีความแปลกจากพระพุทธรูปทั่วไป คือเป็นพระนอนตะแคงซ้าย(ทั่วไปเป็นพระนอนตะแคงขวา) โดยท่านอนนี้สอดคล้องกับเรื่องราวบางตอนในพระไตรปิฎก เมื่อคราวพระพุทธองค์ทรงประทับบนเตียงเพื่อบรรทม หรือคราวเสด็จปรินิพพาน ซึ่งนับเป็นที่เคารพของชาวบ้านทั่วไปในละแวกนั้น โดยในทุกๆปีชาวบ้านจะจัดงานนมัสการปิดทองกันในวันตรุษสงกรานต์ |
|
พระเจ้านั่งดิน ที่ไม่มีใครสามารถยกขึ้น |
| [size=+1]พระพุทธรูปปางพระพุทธเจ้าเข้านิพพาน ตั้งอยู่ในวิหารพระพุทธเจ้าเข้านิพพาน หรือ วิหารแกลบ แห่งวัดใหญ่ หรือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง พิษณุโลก ซึ่งเป็นวัดที่โด่งดังเนื่องจากเป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช โดยลักษณะของพระพุทธรูปปางนี้ เป็นหีบพระพุทธสรีระที่มีพระยุคลบาทของพระพุทธเจ้ายื่นออกมา มีพระมหากัสสปะเถระ นั่งนมัสการพระบรมศพอยู่รอบๆ ซึ่งว่ากันว่าเป็นการจำลองเรื่องราวในพุทธประวัติช่วงก่อนที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จปรินิพพาน
[size=+1]พระเจ้านั่งดิน แห่งวัดพระเจ้านั่งดิน ต.เวียง อ.เชียงคำ จ.พะเยา พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองเชียงคำ ที่แม้จะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยเหมือนทั่วๆไป แต่ว่าก็มีความโดดเด่นตรงที่เป็นพระพุทธรูปที่ไม่มีฐานชุกชีสูงๆ สวยงามรองรับ แม้ว่าจะมีคนพยายามที่จะสร้างฐานชุกชีให้ แต่พออัญเชิญไปประดิษฐานก็ไม่สามารถยกขึ้น พระเจ้านั่งดินจึงเป็นพระพุทธรูปที่นั่งติดกับพื้นดินเลย
[size=+1]พระพุทธรูปประธาน ในวัดภูมินทร์ อ.เมือง จ.น่าน นี่ก็ทั้งสวยงามและทั้งแปลก คือเป็นพระพุทธรูปนั่งสมาธิหันหลังจนกันทั้ง 4 ทิศ แบบจัตุรมุข ซึ่งก็นับว่าเป็นหนึ่งเดียวในเมืองไทยเช่นกัน |