แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2019-10-16 09:26
การแต่งกายในสมัยก่อนที่เราเห็นในละครส่วนใหญ่จะเป็นชุดที่แต่งเต็มยศของเหล่าคนชั้นสูง แต่หากถ้าเป็นการแต่งกายของทาส และไพร่สมัยก่อนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่อาจจะไม่เหมือนกับที่เห็นในละคร เพราะเอาจริงๆเสื้อผ้าก็ไม่ค่อยมีให้ใส่กัน การแต่งกายจึงเป็นแบบตามมีตามเกิด ยิ่งเป็นคนแก่ด้วยแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เรียกได้ว่าอล่างฉ่างกันเลย เนื้อตัวเหม็นสาบเหงื่อไคล เพราะต้องทำงานทั้งวันได้อาบน้ำแค่ก่อนนอน ไม่ได้ประทินผิวใดๆ เสื้อผ้าแทบจะเรียกได้ว่าดีกว่าผ้าขี้ริ้วนิดเดียวเท่านั้น ไม่ได้สวยหล่อแบบในละคร
ก่อนที่เราจะมาดูการแต่งกาย ขออธิบายเป็นเกร็ดความรู้สักนิดว่าสยามมีทาสกี่แบบ
ทาส หมายถึง บุคคลซึ่งถูกนับสิทธิเสมือนสิ่งของของผู้อื่น ไม่มีอิสระในการดำรงชีวิต และมีหน้าที่รับใช้ผู้อื่นโดยมิได้รับการตอบแทนจากเจ้าของ (นายทาส) เช่น การรับใช้ทางด้านแรงงาน และหากไม่เชื่อฟังคำสั่ง อาจถูกลงโทษได้ตามแต่นายทาสจะกำหนด ยกเว้นเป็นการกระทำอันทำให้ถึงแก่ความตาย
ประเภท
ในสยาม ทาสได้ถูกแบ่งออกเป็น 7 ชนิด (ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมา โดยในสมัยก่อนหน้านั้นยังเป็นข้อถกเถียงของนักวิชาการ) ได้แก่
- ทาสสินไถ่- เป็นทาสที่มีมากที่สุดในบรรดาทาสทั้งหมด โดยเงื่อนไขของการเป็นทาสชนิดนี้ คือ การขายตัวเป็นทาส เช่น พ่อแม่ขายบุตร สามีขายภรรยา หรือขายตัวเอง ดังนั้น ทาสชนิดนี้จึงเป็นคนยากจน ไม่สามารถเลี้ยงดูครอบครัวหรือตนเองได้ จึงได้เกิดการขายทาสขึ้น โดยสามารถเปลี่ยนสถานะกลับไปเมื่อมีผู้มาไถ่ถอน และทาสชนิดนี้ที่ปรากฏในวรรณคดีไทยคือนางสายทองซึ่งขายตัวให้กับนางศรีประจันนั่นเอง
- ทาสในเรือนเบี้ย-เด็กที่เกิดขึ้นระหว่างที่แม่เป็นทาสของนายทาส ทาสชนิดนี้ไม่สามารถไถ่ถอนตนเองได้
- ทาสที่ได้รับมาด้วยมรดก - ทาสที่ตกเป็นมรดกของนายทาส เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนายทาสคนเดิมเสียชีวิตลง และได้มอบมรดกให้แก่นายทาสคนต่อไป
- ทาสท่านให้ - ทาสที่ได้รับมาจากผู้อื่นอีกทีหนึ่ง
- ทาสที่ช่วยไว้จากทัณฑ์โทษ - ในกรณีที่บุคคลนั้น เกิดกระทำความผิดและถูกลงโทษเป็นเงินค่าปรับ แต่บุคคลนั้น ไม่มีความสามารถในการชำระค่าปรับ หากว่ามีผู้ช่วยเหลือให้สามารถชำระค่าปรับได้แล้ว ถือว่าบุคคลนั้น เป็นทาสของผู้ให้ความช่วยเหลือในการชำระค่าปรับ
- ทาสที่ช่วยไว้ให้พ้นจากความอดอยาก - ในภาวะที่ไพร่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองให้ประกอบอาชีพได้แล้ว ไพร่อาจขายตนเองเป็นทาสเพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือจากนายทาส
- ทาสเชลย - ภายหลังจากได้รับการชนะสงคราม ผู้ชนะสงครามจะกวาดต้อนผู้คนของผู้แพ้สงครามไปยังเมืองของตน เพื่อนำผู้คนเหล่านั้นไปเป็นทาสรับใช้
การพ้นจากความเป็นทาส
การพ้นจากความเป็นทาสสามารถเกิดขึ้นได้ จากเหตุการณ์ดังต่อไปนี้
- โดยการหาเงินมาไถ่ถอน
- การบวชเป็นสงฆ์โดยได้รับความยินยอมจากนายทาส
- ไปการสงครามและถูกจับเป็นเชลย หลังจากนั้น สามารถหลบหนีออกมาได้
- แต่งงานกับนายทาสหรือลูกหลานของนายทาส
- ไปแจ้งทางการว่านายทาสเป็นกบฏ และผลสืบสวนออกมาว่าเป็นจริง
- การประกาศไถ่ถอนจากพระมหากษัตริย์ ในช่วงของการเลิกทาส
ทาสสยาม สมัยรัชกาลที่ 5 จากหอสมุดดำรงราชานุภาพ
ไพร่-ทาส แรงงานสยามในอดีต (ภาพจากเวปไซต์ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการวิกฤติแรงงาน)
|