ต่อมาไม่นาน หลวงปู่ก็ได้เห็นว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกจากบ้านเฉลียงลับ เมื่อเดินมาถึงก็กราบหลวงปู่แล้วพูดว่า “ท่านอาจารย์ ดิฉันหมดเกษียณภพชาติมนุษย์ จะได้ไปสู่เมืองนรก ใจร้อนเหมือนไฟ ขออนุโมทนาส่วนบุญกับท่านบ้างเถอะ” หลวงปู่ก็เลยอุทิศส่วนบุญให้ว่า “แม่หนูน้อยจงตั้งใจยินดีในการโมทนารับส่วนบุญกับหลวงพ่อนะ บุญกุศลทั้งปวงที่ได้บำเพ็ญมา ขอแบ่งครึ่งให้นะแม่หนูน้อยจงตั้งใจโมทนารับเอาไปเถิด” เมื่อเธอได้รับบุญนั้นไปแล้วก็กล่าวว่า “ใจร้อน ๆ เมื่อสักครู่ เมื่อได้รับส่วนบุญจากหลวงปู่แล้วใจก็เย็นสบายดี จะไปตกนรกไหม ?” หลวงปู่จึงปลอบใจว่า “ไม่ตกหรอกแม่หนูน้อย จงบริกรรม พุทโธ ธัมโม สังโฆ เสมอ อย่าได้ลดละ อย่าได้ประมาท เมื่อไปถึงนรกแล้ว จ่ายมบาลเขาจะซักไซ้ไต่ถามเรื่องเทวทูต ๕ และอำนาจของพุทโธ ธัมโม สังโฆ ที่ฝังอยู่ที่จิตใจของแม่หนูน้อยนั้นจะตอบได้โดยเร็วพลัน สมบัติทั้งหลาย ทั้งปวงนั้นล้วนเกิดขึ้นจาก พุทโธ ธัมโม สังโฆ ทั้งนั้น” เธอก็รับคำว่า “เจ้าค่ะ” จากนั้นก็กราบเสียสามครั้ง แล้วขอลาออกเดินทางตามนายนิรยบาลไป หลวงปู่ก็จดจำรูปร่างลักษณะของสาวน้อยคนนั้นไว้ เป็นคนผิวขาว ไว้ผมยาว ใบหน้ารูปใบโพธิ์ สวมเสื้อผ้ากลางเก่ากลางใหม่ มีผ้าขาวเฉลียงบ่า นุ่งผ้าซิ่นมีลวดลายที่ปลายทั้งสอง ในขณะนั้นเป็นเวลาตีสามกว่าแล้ว จิตก็เลยถอนออกจากสมาธิ พอจิตถอนออกแล้วได้ยินเสียงร้องไห้มาจากบ้านเฉลียงลับ ซึ่งวัดกับบ้านอยู่ไม่ไกลกัน พอตื่นเช้าก็ออกบิณฑบาต พอกลับมาถึงวัด ก็มีโยมที่เป็นผู้ชายนำอาหารอันประณีตมาถวาย แล้วจึงพูดว่า “ท่านอาจารย์ครับ เมื่อคืนลูกสาวของข้าพเจ้า เธอได้ขาดใจตายเสียแล้ว เมื่อเวลาประมาณตีสาม” ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเมื่อคืนนี้ตอนที่หญิงสาวคนนั้นไปหาหลวงปู่ในนิมิตนั้น ก็เป็นช่วงระยะเวลาตีสาม พอดีก็เลยพูดกับโยมด้วยความถ่อมตนไปว่า “อาตมาเพิ่งมาอยู่ใหม่ ไม่เคยพบเห็นลูกสาวของโยม แต่ก็จะแถลงไขให้ทราบ ลูกของโยมคนนั้นหมดเกษียณภพชาติเพียงแค่นั้นเพราะบุญเก่าเขาเอามาน้อย มีนายนิรยบาลแปดคน มาเอาตัวไปพวกนายนิรยบาลก็มาสนทนากับอาตมาอยู่ที่วัดนี้แหละ เขาบอกว่ามีหญิงสาวอายุแค่ ๑๖ ปี หมดเกษียณภพชาติเพียงแค่นั้น แล้วทีนี้ลูกสาวของโยมเป็นคนผิวขาว ไว้ผมยาว ใบหน้ารูปใบโพธิ์ สวมเสื้อกลางเก่ากลางใหม่ มีผ้าเฉลียงบ่า นุ่งผ้าซิ่นมีลายคล้ายงูเหลือมใช่ไหม ” “ใช่แล้วครับ ไม่ผิดหรอก ลักษณะถูกต้องตรงทุกอย่าง” “ลูกของโยม เป็นคนมีกิริยามารยาทดูงดงาม เรียบร้อย สุภาพ มีท่าทางเป็นนักปราชญ์ใช่ไหม ?” “ใช่แล้วครับ ลูกของข้าพเจ้าเมื่อเกิดมาพอรู้เดียงสาแล้ว ถ้าเขาไม่ได้ทำบุญแล้วจะไม่ยอมไปโรงเรียน ไม่ว่าจะมีงานบุญบวช บุญกฐิน หรือบุญอะไรที่ไหนใกล้หรือไกล ที่บ้านน้อยเมืองใหญ่ เป็นต้องไปร่วมทั้งนั้น บางทีก็ไปนานเป็นสิบวันหรือยี่สิบวัน แล้วกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ” พอหลวงปู่ได้ฉันเช้าเสร็จแล้ว โยมผู้เป็นทายกก็นิมนต์ไปทำพิธีเพื่อเผาศพลูกสาวของเขาตั้งแต่เช้า เมื่อไปถึง หลวงปู่เปิดฝาโลงดูก็เห็นศพมีรูปร่างหญิงสาวเหมือนอย่างที่เขาไปหาในนิมิตเมื่อคืน พอทำกิจพิธีทุกอย่างเสร็จแล้วก็เผาศพเป็นการเสร็จสิ้น เรื่องนี้หลวงปู่จันทา ถาวโรท่านได้เห็นด้วยตนเอง ว่านรกนั้นมีแน่นอน เพราะได้เห็นทูตานุทูตคือนายนิรยบาล เป็นผู้ส่งข่าวสารให้ทราบ พร้อมทั้งมีคนตายให้เห็นเป็นพยานอีกด้วยท่านก็สิ้นสงสัยที่ในเรื่องนรกสวรรค์ที่เคยมีมาทั้งหมด ในเรื่องเล่าของหลวงปู่นั้น ไม่ได้ระบุว่าหญิงสาวที่ท่านได้พบจะมีสุคติหรือทุคติเป็นที่ไป แต่เมื่อพิจารณาจากกรรมของหญิงสาวแม้เธอจะมีอายุสั้น แต่ก็มีข้อปฏิบัติในขณะที่ยังมีชีวิตเป็นอย่างดี และมีความเย็นใจในตอนสุดท้ายที่ได้มาขอส่วนบุญกับหลวงปู่ไป เชื่อได้ว่าเธอน่าจะไปเกิดในภพภูมิที่ดีได้ แม้ในเรื่องเล่านั้นจะมีแต่การเผชิญหน้าของหลวงปู่กับ นายนิรยบาล เป็นการถามตอบปัญหาธรรมซึ่งกันและกัน แต่เราก็จะเห็นได้ว่า “ทัศนคติ” หรือ “จิต” ที่ถูกตั้งเอาไว้ดีแล้วจะเป็นเหตุให้มีภพภูมิที่ดีเป็นที่ไป คนที่จะตกนรกในแง่มุมจากเรื่องเล่าของหลวงปู่ก็น่าจะเป็น คนที่ไม่เชื่อเรื่องบุญบาป ไม่เชื่อผลของกรรม ทำให้ขาดความรู้ในการดำรงชีวิตที่ถูกต้อง จุดประสงค์เพื่อเผยแผ่กิตติคุณเป็นสังฆบูชา
|