ประวัติความเป็นมา ถ้ำเขาบิน อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ได้ชื่อมาจากตำนานที่เล่าว่า มีพ่อค้าชาวจีนแล่นเรือสำเภาใหญ่ผ่านมา เรือเกิดชนหัวเขาด้านหนึ่งบิ่นไป เขาบินก็เลยถูกสันนิษฐานว่าเรียกเพี้ยนมาจากเขาบิ่น บ้างก็สันนิษฐานว่า มาจากเอกลักษณ์ภายในห้องๆ หนึ่งของถ้ำซึ่งมีลักษณะหินย้อยสีขาวหม่นยื่นออกมาเหมือนนกเขากำลังกระพือปีกเหมือนกำลังจะบินจึงได้ชื่อว่าเขาบิน เขาบินมียอดสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 272 เมตร ปากถ้ำสูงจากพื้นดิน 5 เมตร เนื้อที่ภายในถ้ำประมาณ 5 ไร่เศษ ภายในถ้ำประดับไฟทำให้เห็นความสวยงาม ของหินงอก หินย้อย ได้อย่างชัดเจน องค์การบริหารส่วนตำบลหินกองได้เข้ามาบริหารจัดการดูแลแหล่งท่องเที่ยวถ้ำ เขาบินหลังจากที่จังหวัดราชบุรีได้ถ่ายโอนมาให้องค์การบริหารส่วนตำบลกำกับ ดูแลและบริหารจัดการเอง โดยนายหิรัณย์ เลขวัฒนะโรจน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหินกองมีเป้าหมายในการส่งเสริมการท่อง เที่ยว เพื่อพัฒนาในเกิดการเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวของจังหวัด ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายการพัฒนาท้องถิ่นให้เป็นตำบลที่น่าอยู่ต่อไป นำเที่ยวภายในถ้ำเขาบินถ้ำเขาบินมียอดสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 272 เมตร ปากถ้ำสูงจากพื้นดิน 10 เมตร มีเนื้อที่ในถ้ำประมาณ 5 ไร่เศษ ทางเข้าถ้ำได้รับการพัฒนาจากจังหวัด ให้เป็นแนวดินราบเรียบจากปากถ้ำเข้าไปประมาณ 50 เมตร จะมีทางแยกเป็นสองทาง ทางซ้ายเป็นทางเข้าก้นถ้ำมีความลึก 300 เมตร ขวามือเป็นทางอ้อมตามลักษณะโครงสร้างของสันเขาเข้าสู่ก้นถ้ำลึกประมาณ 200 เมตรภายในถ้ำประดับไฟฟ้าทำให้เห็นความสวยงานของหินงอก หินย้อย เสาหินและหลอดหินย้อยซึ่งเกิดใหม่ อย่างชัดเจนสวยงามตลอดปี ภายในถ้ำเขาบิน แบ่งออกเป็น 8 ห้อง ใหญ่
ซึ่งแต่ละห้องนั้นจะมีชื่อเรียกขานตามลักษณะหินงอก หินย้อยที่เกิดขึ้น และประวัติที่เล่าสืบกันมา ดังต่อไปนี้ 1. โถงอาคันตุกะ
เปรียบเสมือนเป็นห้องรับแขกที่ใช้ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยหินงอกหินย้อยที่กำลังเกิดใหม่อย่างสวยงามหากผู้ใดที่เข้ามาในห้องแห่งนี้นับว่าเป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่และเป็นผู้มีเพื่อนฝูงมากมาย เมื่อเดินผ่านห้องนี้ไปเรื่องเศร้าโศกใดๆ ก็จะหายไปด้วยด้านของหินด้านบนมีรูปใบหน้าของชายชราปรากฏให้เห็นที่ผนังถ้ำด้านบน
2. ศิวะสถาน
ผู้ใดที่ได้เข้ามาสัมผัสกับเสาหินที่เปรียบเสมือนเสาหลักเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ประจำถ้ำผู้นั้นจะได้รับความสุขสมหวังคิดทำการใดจะสำเร็จสมอารมณ์หมายอาการเจ็บไข้จะหายไปในทันใด โชคลาภที่คอยมานานก็จะได้รับในทันทีนอกจากนั้นที่ประตูทางเข้ายังมีม่านหินปูน ที่ย้อยห้อยระย้าและทำนบหินปูนที่สวยงาม 3. ธารอโนดาต ผู้ที่ได้เข้ามาสู่ห้องศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ผู้ที่จะได้รับยศถาบรรดาศักดิ์ประดุจดังน้ำตกหินปูนลักษณะคล้ายธารน้ำตกที่ี่หลั่งไหลมาสู่ผู้มาเยือนและมีม่านเบคอนที่มีสีสันสวยงามแตกต่างจากหินทั่วไป และห้องเล็กๆ ที่ผนังถ้ำเต็มไปด้วยฟองหินมีสวนหินย้อยคล้ายปะการังใต้ทะเล
4. สกุณชาติคูหาความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่เนรมิตให้หินปูนที่มีรูปร่างคล้ายนกกางปีกบินซึ่งเป็นที่มาของชื่อถ้ำเชื่อว่าผู้ที่ได้พบเห็นจะเป็นผู้มีสายตาที่กว้างไกลดุจดัง
พญาอินทรีย์ เมื่อเดินทางไปแห่งหนตำบลใดจะมีความปลอดภัยทั้งตนเองและคนเคียงกาย ผนังถ้ำประกอบไปด้วยเสาหินที่แข็งแรงด้านบนหลังนกอินทรีย์มีถ้ำเล็กๆ ที่ลึกลับรอการพิสูจน์จากผู้มาเยือน
|