จิตจักเจริญได้ ต้องอาศัยความเพียร เจริญสมถะและวิปัสสนาอย่างสม่ำเสมอ
อย่าปล่อยให้จิตเป็นไปตามแบบปลาตายลอยน้ำ
จักต้องรู้จักฝึกจิต ทรมานจิตให้คลายจากอารมณ์เกาะติดในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสให้ได้นี่เป็นจุดต้น
แต่ถ้าหากจักตัดให้เป็นอุกฤษฎ์ ก็คือสังวรจิต ฟอกอารมณ์หลงเอาไว้เสมอ ๆ
(โดยขู่มันว่า หากตายตอนนี้เจ้าจะไปไหน) และอย่าลืม อย่าตั้งความหวังไว้แค่พระอนาคามี ให้ตั้งไว้ให้ได้ถึงความเป็นพระอรหันต์ให้ได้
เพราะนั่นแหละ จึงจักถึงซึ่งพระนิพพานได้ในปัจจุบัน ในการปฏิบัติจริง ๆ แล้ว ให้ตัดสังโยชน์ ๓ ให้ได้ก่อนโดยเอาอธิศีลเป็นพื้นฐาน
เมื่อได้แล้ว สังโยชน์ ๔-๕ ไม่ต้องตัด ให้รวบรัดตัดอวิชชาข้อที่ ๑๐ ของสังโยชน์เลย เพราะในคนฉลาดที่มีบารมีเต็มหรือกำลังใจเต็ม
ทรงให้ตัดข้อเดียวคือสักกายทิฏฐิ ตัดโดยไม่มีอวิชชาครอบงำ ก็พ้นทุกข์ได้
อุบายที่ทรงพระเมตตาแนะนำ วิธีเข้าสู่พระนิพพานแบบง่าย ๆ
สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานได้สังโยชน์ ๓ ข้อแรกแล้ว ก็คือ รู้ลม รู้ตาย รู้นิพพาน” ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๙
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
|