|
๗. เรื่องกรรมบถสิบหมวดวาจา ๔(ไม่พูดโกหก-คำหยาบ-ส่อเสียด-และเรื่องไร้สาระ) บุคคลที่ขาดความดีในหมวดนี้ จึงหลงลืมพูดวาจาลบหลู่ดูหมิ่นพระแม่ทั้ง๕ เพราะมีโมหะ-โทสะ-ราคะ เป็นเหตุ ใช้คำพูดว่าดินมันแข็ง , น้ำมันท่วม , ลมมันพัดหรือมันร้อน , ไฟมันไหม้ ,ข้าวมันแข็ง มันเหนียว มันแฉะ มันไหม้ มันบูด เป็นต้น ล้วนแต่เป็นคำหยาบที่ใช้กับผู้มีพระคุณทั้งสิ้น จะโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ดี ล้วนแต่ยังมีจิตหยาบขาดกรรมบถสิบ หมวดวาจา ๔ ทั้งสิ้น หากไม่ระวังและแก้ไขจิตตนเอง จิตก็จะชินในความชั่วเรื่องวจีกรรม ในที่สุดกลายเป็นนิสัย เป็นสันดานประจำจิต และที่สุดก็อาจปรามาสพระรัตนตรัยโดยไม่ตั้งใจ โดยเอาคำว่ามันนำหน้า เช่น พระมัน , ครูมัน , แม่มัน ผลเมื่อกายพังก็ต้องตกนรกไปตามกรรมที่ตนเองทำไว้ทั้งสิ้น
๘. พระพุทธองค์เคยเมตตาให้ดูตัวอย่างของจริง ตอนที่หลวงพ่อฤๅษียังมีชีวิตอยู่ มีความสำคัญสั้น ๆ ดังนี้ ทรงบอกล่วงหน้าว่า ให้สังเกตบุคคลท่านหนึ่งซึ่งจะร่วมวงกินข้าวด้วยในวันนี้ ซึ่งมีนิสัยกินไปบ่นไป ว่าข้าวมันแฉะ ข้าวมันไหม้ ข้าวมัน...แล้ว จะเห็นผลปรากฏ ผลก็จริงตามนั้น เขาผู้นั้นกินไปติกรรมของพระแม่โพสพไป ทำให้เกิดอาการสำลักข้าว และอาหารที่กินจนเกือบจะหายใจไม่ออกตาย และทรงเมตตาตรัสสอนต่อไปว่า บุคคลเหล่านี้มักจะมีอาการธาตุ ๔ ไม่สมดุลกัน ทำให้เกิดอาการท้องเสีย หรือเป็นโรคเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหารเสมอ (โรคกระเพาะและลำไส้) จึงขอเตือนผู้อ่านบทความนี้ไว้ ให้ระมัดระวังเรื่องการตำหนิกรรมของพระแม่ทั้ง ๕ เพราะไม่มีคำว่าสายเกินแก้ในพระพุทธศาสนา เมื่อรู้ว่าผิดรู้ว่าไม่ดี รู้ได้ที่ใจเราก่อนทั้งสิ้น กรุณาอ่านเรื่องอุบายละความชั่วที่ใจเราประกอบจะมีประโยชน์มาก
ด้วยพระคุณของพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ อันหาประมาณมิได้เป็นที่ตั้ง ผมขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านจงโชคดี อ่านแล้วจำได้ก่อน จึงค่อยนำไปคิดพิจารณาเพื่อให้เกิดความเข้าใจหรือตัวรู้ อันเป็นตัวปัญญาที่แท้จริงในพระพุทธศาสนา ทำให้เกิดผล มีดวงตา (ใจ) เห็นธรรมได้ตามลำดับ จนถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยกันทุกท่านเทอญพล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน ผู้รวบรวม
อ้างอิง www.tangnipparn.com |
|