ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มาติดตามข่าวสารต่างๆที่น่าสนใจกันครับ

[คัดลอกลิงก์]
71#
โพสต์ 2015-8-20 16:55 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โจ๋เผ่นกระเจิง นั่งตกปลาคุยกับเพื่อนเรื่องคนโดดสะพานตาย ถึงกับอึ้งเบ็ดติดศพหญิงสาวลอยน้ำ


วันที่ 20 สิงหาคม  พ.ศ. 2558 เวลา 09:51 น.




เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 20 ส.ค. ร.ต.ท.อนวัช แสนอินทร์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุพบศพหญิงลอยน้ำติดข้างเรือภายในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าจอดเรือวัดโบสถ์ หมู่ที่ 4 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แพทย์เวรสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม

ที่เกิดเหตุพบศพหญิงสาว 1 รายทราบชื่อต่อมา น.ส.วราภรณ์ พาคำ อายุ 26 ปี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีฟ้า สวมกางเกงยีน จากการชันสูตรไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย จึงนำส่งไปผ่าชันสูตรที่สภาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อีกครั้ง

ร.ต.อ.อนวัช เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากสภ.เมืองปทุมธานีว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา รับแจ้งมีหญิงสาวลักษณะดังกล่าวชื่อน.ส.วราภรณ์ กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ลงมาจากสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสะพานปทุมธานี 2 ลงมาในแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วถูกกระแสน้ำพัดจมหายไป จึงประสานให้ทางนักประดาน้ำ มูลนิธิร่วมกตัญญูที่เข้าเวรในวันดังกล่าวมางมหา ใช้เวลาหลายชั่วโมงก็ไม่พบ จึงยุติการค้นหาในวันดังกล่าว กระทั่งมาพบศพในวันนี้



ด้าน น.ส.วราทิพย์ พาคำ อายุ 22 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต ให้การว่า พี่สาวทำงานอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา และพักอยู่ห้องเช่าเขต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีโรคเครียดในครอบครัวไม่ค่อยพูดจากับใคร กระทั่งหนีออกไปจากห้อง และมาทราบว่าเดินทางมากระโดดสะพานฆ่าตัวตายดังกล่าว

สอบสวน นายเมธาวี บุญรอด อายุ 19 ปี คนตกปลา ผู้พบศพคนแรก ให้การว่า ก่อนที่จะมาพบศพ ตนเองและกลุ่มเพื่อน 4-5 คน ชอบมานั่งตกปลาแถวท่าจอดเรือ โดยระหว่างที่รอปลาติดเบ็ด พูดคุยกันถึงเรื่องผี หรือจิตวิญญาณและพูดถึงกรณีของหญิงสาวที่กระโดดสะพานฆ่าตัวตายในแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วถูกกระแสน้ำพัดจมหายตามที่เป็นข่าว ตามหน้าหนังสือพิมพ์แต่ยังหาร่างไม่เจอ โดยตนยังพูดทีเล่นทีจริงว่า เกิดตกได้ศพขึ้นมาจะทำอย่างไรกันดี ปรากฏว่ายังพูดไม่ทันขาดคำ สายคันเบ็ดก็ติดวัตถุขนาดใหญ่ที่ลอยมาตามน้ำ จึงบอกเพื่อนๆ ให้ช่วยกันดึงสายเอ็นขึ้นมา เพราะนึกว่าต้องเป็นปลาตัวใหญ่แน่นอน แต่เมื่อลากเข้ามาในฝั่งก็ต้องผงะ เมื่อพบว่าเป็นศพหญิงสาวคนดังกล่าวจริง จึงวิ่งหนีเผ่นกระเจิงไปตั้งหลัก แล้วกลับมาแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้พวกตนจะไปทำบุญให้ด้วย


ที่มา..http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1440039127
72#
โพสต์ 2015-8-25 16:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
นักวิเคราะห์ต่างชาติชี้บึ้มราชประสงค์
มุ่งกลุ่มเกรย์วูล์ฟ แก้แค้นเรื่องอุยกูร์





ที่มาเฟซบุ๊กบีบีซีไทย
บีบีซีไทย รายงานเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ว่า นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงเสนอแนวคิดใหม่อธิบายเหตุระเบิดราชประสงค์ ตัดประเด็นทั้งการเมืองเรื่องภาคใต้ ไม่เกี่ยวกับไอเอสหรืออัลไคดา ตีโจทย์คนลงมือต้องเป็นกลุ่มต่างประเทศ เอ่ยชื่อกลุ่มเกรย์ โวลฟส์ในตุรกี ชี้เป็นการจับมือเฉพาะกิจต้องการแก้แค้นเรื่องอุยกูร์

แอนโทนี เดวิส นักวิเคราะห์ประจำประเทศไทยของกลุ่มไอเอชเอส - เจนส์ ซึ่งเป็นกลุ่มวิเคราะห์ข้อมูลด้านข่าวความมั่นคงและการทหาร เปิดประเด็นความเป็นไปได้ของกลุ่มลงมือกรณีระเบิดราชประสงค์ว่า ต้องเป็นกลุ่มที่มีความสามารถพิเศษในการใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะลักษณะของระเบิดที่ใช้และลักษณะของการลงมือชี้ว่าต้องอาศัยการวางแผน อย่างดี รอบคอบและมีคนสนับสนุน โดยดูจากทั้งที่ราชประสงค์และที่สาทร

เดวิสซึ่งอยู่ในประเทศไทยร่วมสามสิบปี ติดตามงานด้านความมั่นคงตลอดจนปัญหาสามจังหวัดภาคใต้มานานนำเสนอความเห็นของ เขาในวงเสวนาเรื่อง “ระเบิดในกรุงเทพฯ: ที่จริงแล้วเรารู้อะไรบ้าง” The Bangkok Bombing : What do we really know? ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศค่ำวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมาโดยชี้ว่า ในความเห็นส่วนตัวของเขา ระเบิดหนนี้ไม่ใช่การลงมือโดยคนคนเดียวอย่างแน่นอน เพราะ ลักษณะของการลงมือที่บ่งบอกว่าต้องวางแผนมาอย่างดีดังกล่าว มีการจัดวางกำลังชัดเจน ประการถัดมาสิ่งที่ชัดเจนคือมุ่งหมายทำร้ายชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเรื่องนี้มีนัยสำคัญยิ่งกว่าข้อเท็จจริงที่ว่าเป็นการโจมตีเป้าหมายที่ มีความสำคัญทางศาสนา เขาระบุว่ามีสามกลุ่มที่ควรพิจารณา กลุ่มแรกคือกลุ่มการเมืองในประเทศที่เกิดจากความแตกแยกกัน กลุ่มที่สองคือกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐในสามจังหวัดภาคใต้ และกลุ่มที่สามคือกลุ่มจากต่างประเทศ

นักวิเคราะห์ของไอเอชเอส - เจนส์บอกอีกว่า เขาตัดกลุ่มแรกที่กระทำด้วยมูลเหตุจูงใจในเรื่องการเมืองออกไปเพราะจาก ประสบการณ์ที่เห็นเมืองไทยมานานทำให้เห็นได้ชัดว่า ระดับของความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับระเบิดราชประสงค์ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เคย เกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ “ระเบิดเมื่อวันจันทร์ที่แล้วเป็นความรุนแรงระนาบใหม่ มันเป็นเกมแบบใหม่ไม่ใช่แบบที่เราเคยเห็นจากประสบการณ์ที่ผมอยู่เมืองไทยมา สามสิบปี เห็นการนองเลือดมาหลายหนแต่ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ ลักษณะแบบนี้ไม่ใช่ลักษณะการลงมือแบบไทย”

ส่วนในเรื่องว่าระเบิดนี้อาจจะเป็นการลงมือของกลุ่มผู้เห็นต่างในภาคใต้ ซึ่งที่จะมีศักยภาพทำได้ก็มีเพียงกลุ่มเดียวคือกลุ่มบีอาร์เอ็น เดวิสบอกว่า ลักษณะระเบิดที่ใช้ไม่เหมือนในภาคใต้ซึ่งใช้วัตถุระเบิดที่แตกต่างกว่ากัน มาก ระเบิดที่ราชประสงค์เป็น “industrial type” คือมีลักษณะใช้เทคโนโลยีสูง ในทางเทคนิคไม่ใช่แบบที่ใช้ในภาคใต้ นอกจากนั้นการลงมือส่วนใหญ่ในภาคใต้เพื่อต้องการดึงดูดความสนใจหรือทำเพื่อ บ่งบอกอะไรอย่างใดอย่างหนึ่ง แม้จะมีคนบาดเจ็บเสียชีวิตแต่ไม่ได้หวังทำลายชีวิตมากเท่านี้ นอกจากนี้เดวิสบอกว่าเขาได้ยินมาว่าบีอาร์เอ็นได้พยายามสื่อสารเงียบๆไปยัง ฝ่ายต่างๆว่าตนไม่เกี่ยวข้อง “บีอาร์เอ็นเองก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรในอันที่จะยอมให้มีกลุ่มย่อยแยกตัวออกมา แล้วไปสังหารคนสร้างความเสียหายมากขนาดนี้

เดวิสชี้ว่า สิ่งที่เป็นไปได้คือระเบิดหนนี้เป็นการทำงานของกลุ่มนอกประเทศ ต้องเป็นกลุ่มที่มีลักษณะจัดตั้ง มีศักยภาพที่จะทำได้ และมีมูลเหตุจูงใจที่จะทำ เขาชี้ว่า กลุ่มที่อยู่ในข่ายคือกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ซึ่งไม่จำเป็นต้องปฏิบัติการจากพื้นที่ในครอบครองในตะวันออกกลางเท่านั้น แต่เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนในต่างแดนตอบสนองด้วย มีกลุ่มผู้สนับสนุนที่ไปร่วมรบไอเอสทั้งในอินโดนีเซียและมาเลเซีย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีกลุ่มที่ขึ้นต่อไอเอสเรียกว่า Katibah Nusantara และประเด็นที่เป็นมูลเหตุจูงใจก็คือไม่พอใจวิธีที่รัฐบาลไทยปฏิบัติต่อ มุสลิมในประเทศ

กลุ่มต่างประเทศกลุ่มถัดมาที่เดวิสเห็นว่ามีศักยภาพทำได้คือกลุ่มอัลไคดา ซึ่งก็มีกลุ่มย่อยที่มีความเชื่อมโยงเป็นพันธมิตรที่เรียกว่า Turkistan Islamic Party ซึ่งก็คือกลุ่มคนเชื้อชาติเดียวกันกับอุยกูร์ แต่แอนโทนี เดวิสชี้ว่า ทั้งสองกลุ่มนี้ก็ยังไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดที่ราชประสงค์ เพราะแม้จะมีศักยภาพและมีมูลเหตุจูงใจ แต่ทั้งไอเอสและอัลไคดา ดำเนินการก่อเหตุเพราะต้องการดึงดูดความสนใจ ในขณะที่ระเบิดราชประสงค์ผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์โดยที่ไม่มีใครตัวอ้างเป็น ผู้ลงมือ อีกอย่าง ลักษณะการลงมือของกลุ่มเหล่านี้มักมีจุดเด่นคือเป็นลักษณะพลีชีพ

นักวิเคราะห์ไอเอชเอส - เจนส์สรุปว่า กลุ่มที่เขาเห็นว่ามีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากในบรรดากลุ่มต่างๆที่กล่าวมา เป็นกลุ่มจิฮาดในต่างประเทศที่เขาใช้คำว่า “พันธุ์ผสม” และไม่จำเป็นต้องมีชื่อหรือเป็นที่รู้จัก แต่มีลักษณะของการเป็นองค์กรจัดตั้งและเกี่ยวพันกับกลุ่มในตุรกี เดวิสชี้ให้จับตากลุ่ม Grey Wolves ซึ่งเป็นกลุ่มใช้ความรุนแรงขวาสุดโต่ง เกี่ยวพันกับการก่อเหตุมาแล้วในอดีตในความขัดแย้งหลายกรณีตั้งแต่นากอร์โน คาราบัค เชชเนีย ไซปรัส เป็นกลุ่มที่รวมตัวกันรวมๆ สนับสนุนอุยกูร์อย่างมากและมีบทบาทอยู่แถวหน้าในการประท้วงและเข้าโจมตีสถาน ทูตไทยในตุรกีหลังเหตุการณ์ไทยส่งอุยกูร์ให้จีน เขาเชื่อว่ากลุ่มนี้มีความสัมพันธ์กับกลุ่มอาชญากรรมของคนเชื้อสายตุรกีทั่ว ไปไม่ว่ากลุ่มที่ทำเรื่องลักลอบค้ายาเสพติดหรือค้ามนุษย์ และกลุ่มที่เป็นกลุ่มอาญากรรม จับมือกับกลุ่มที่มีแนวความคิดหรืออุดมการณ์ลงมือในงานนี้โดยเฉพาะ แต่ทั้งนี้เขาระบุว่า “ผมไม่ได้บอกว่าอุยกูร์เป็นคนลงมือ อุยกูร์ต่อสู้ในประเทศไม่มีอะไรเลย ศักยภาพไม่ถึงขั้น”

ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและโฆษก สตช.กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่ยากเป็นพิเศษ ลักษณะระเบิดใช้วัสดุที่หายากในไทย ทำลายตัวเองเกือบหมด มีแรงทำลายล้างสูง ไม่ใช่ระเบิดที่จะทำได้โดยง่าย ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยมีกรณีเช่นนี้ เมื่อถามว่าระเบิดนี้น่าจะประกอบในไทยหรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิชี้ว่าน่าจะประกอบในไทยแต่ไม่ใช่ในกรุงเทพฯ ส่วนเรื่องที่ว่าเจ้าหน้าที่กำลังตามหาชายคนหนึ่งพร้อมระบุชื่อด้วยนั้น พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวปฏิเสธ พร้อมกันนั้นชี้กับผู้สื่อข่าวว่า ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงาน ที่ผ่านมาทุกคนทำงานกันเต็มที่จนหลายคนไม่ได้นอน “มันเพิ่งผ่านมาเจ็ดวันนะครับ ไม่ใช่เจ็ดปี”

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1440486485
73#
โพสต์ 2015-9-3 05:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
พาดหัวแม่นยำ



ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

แฟนๆ หนังสือพิมพ์ข่าวสดแสดงความชื่นชมในการเสนอข่าวอย่างแม่นยำ จากการพาดหัวข่าวในฉบับเช้าวันรุ่งขึ้นหลังเหตุระเบิดศาลพระพรหม ราชประสงค์

โดยชี้ชัดๆ เพียงฉบับเดียวว่า วงจรปิดจับภาพคนร้ายได้เป็นแขกขาว และสาเหตุเชื่อมโยงถึงปัญหาอุยกูร์


วันนี้เมื่อตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ ซึ่งมีพยานหลักฐานยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับระเบิดครั้งนี้แน่นอน


โดย นายอะเด็ม คาราแด็ก ที่ถือพาสปอร์ตตุรกี อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าของจริงหรือปลอม ที่จนมุมในห้องพักอพาร์ตเมนต์ย่านหนองจอก พร้อมอุปกรณ์ประกอบไปป์บอมบ์จำนวนมากนั้น


สรุปได้แล้วว่า เป็นเครือข่ายตุรกี และร่วมในขบวนการอพยพชาวอุยกูรณ์นั่นเอง


ขณะที่บทสรุปของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หลังตำรวจทลายรังมือระเบิดแก๊งนี้ได้ก็คือ


เป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับขบวนการขนคนอุยกูร์ และมีความเจ็บแค้นส่วนตัวแทนญาติพี่น้องที่ถูกส่งกลับ


ทั้งหมดนี้ตรงเป๊ะกับที่ข่าวสดพาดหัวไปตั้งแต่วันแรก!


กรณีนายอะเด็ม ผู้ต้องหาที่จนมุมรายแรกนั้น ทราบจากการสืบสวนของตำรวจพบว่า มีหลักฐานการไปปรากฏตัวในคืนวันระเบิดด้วยแน่นอน


โดยไปโผล่ที่บริเวณหัวลำโพง


ช่วงเวลาที่ปรากฏตัว ตรงกับที่คนร้ายผู้ใส่เสื้อเหลืองไปลงรถแท็กซี่ที่จุดนั้น


เป็นไปได้มากว่า นายอะเด็มจะเป็นผู้นำเป้บรรจุระเบิดไปรอส่งมอบให้เสื้อเหลือง


ก่อนเสื้อเหลืองจะหอบเป้ขึ้นรถตุ๊กตุ๊ก มาลงที่ใกล้ศาลพระพรหม จากนั้นเดินเข้าไปนั่ง วางเป้ไว้ก่อนเดิน ออกมา


แล้วเกิดเหตุขึ้นจนนำมาสู่การสูญเสียชีวิตของ นักท่องเที่ยวจำนวนมาก!


ตามการสืบสวนของตำรวจยังพบข้อมูลน่าสนใจอีก


ในคืนระเบิดศาลพระพรหม มีคนในกลุ่มเครือข่ายตุรกี 3-4 คน ปรากฏตัวอยู่บริเวณนั้นร่วมกับชายเสื้อเหลือง ผู้วางเป้ระเบิด


ตอนนี้กำลังตามล่าอย่างกระชั้น และคงจะทยอยได้ตัวมาเรื่อยๆ


ถ้าไม่หลบหนีไปไกลเสียก่อน!?!


ส่วนนายอะเด็มที่ถูกจับคนแรก แน่นอนว่าไปโผล่ที่หัวลำโพง และเมื่อตรวจเครื่องโทรศัพท์ที่ติดตัวนั้นเปื้อนสารระเบิดด้วย


ต้องสัมผัสกับระเบิดลูกนี้ด้วย


ถึงขณะนี้ภาพของกลุ่มวางระเบิดราชประสงค์และท่าเรือสาทร เริ่มชัดเจนขึ้น


บินมาจากอิสตันบูล ลงเวียดนาม เข้าลาว แล้วมาไทย


รวมทั้งบางคนในกลุ่มนี้อยู่หน้าสถานกงสุลไทยในตุรกีวันประท้วงทำลายด้วย!



ที่มา..http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1441211914

74#
โพสต์ 2015-9-3 05:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2015-9-3 05:10

ต้องทบทวน "รถไฟฟ้าไทย-จีน"



เมืองไทย 25 น.

ทวี มีเงิน


รถไฟความเร็วสูงขนาดรางมาตรฐาน 1.43 เมตร หนองคาย-มาบตาพุด ระยะทาง 734 ก.ม. เชื่อม คุนหมิง ตอนใต้ของจีน และเส้น "แก่งคอย-บ้านภาชี" ระยะทาง 133 ก.ม. กำลังจะเป็นจริง

ข่าวว่าจะมีการลงนามความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนอย่างช้าไม่เกินตุลาคมนี้

แต่ไม่รู้ว่าเมื่อเปลี่ยนรัฐมนตรีคมนาคม จาก "พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง" มาเป็น "อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" จะยังเดินหน้าตามแผนเดิมหรือไม่


ไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรเส้นทางรถไฟฟ้าสายนี้เริ่มต้นเป็น "ลำไม้ไผ่พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" ซะอย่างงั้น แม้จะเริ่มมีคนทักท้วงแต่ยังอยู่ในแวดวงคนที่รู้เรื่องจริงๆ เท่านั้น

จะว่าไปแล้วหากยังเดินหน้าโครงการนี้ก็ไม่ได้ต่างจากโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่หลายคนพากันคัดค้านไม่เห็นด้วยแต่อย่างใด

แต่วันนี้กลับไม่มีใครค้านสักแอะ


โชคดีที่ยังมี "ชมรมวิศวกรรม จุฬาฯ ร่วมปฏิรูปประเทศไทย" ที่ได้ทำหนังสือถึง "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี โดยอรรถาธิบายเหตุผลว่าโครงการนี้มีปัญหาตรงไหน ทำไมจีนได้ประโยชน์ ไว้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเทคนิค

อีกคนหนึ่งที่ "คุณอาคม" ต้องฟังและอาจปรึกษาเพิ่มเติม คือ ความคิดเห็นของ "ดร.โกร่ง" หรือ "ดร.วีรพงษ์ รามางกูร" ที่เคยเขียนในมติชนรายวัน ที่มองถึงความคุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจไว้ดีมาก


ทั้ง "ชมรมวิศวกรรม จุฬาฯ" และ "ดร.โกร่ง" ฟันธงงานนี้จีนได้ประโยชน์แบบเต็มๆ


เท่าที่ติดตามมาบ้างต้องบอกว่าโครงการนี้มา "บิดเบี้ยว" ตอนไหนไม่รู้ เพราะเดิมทีจะเป็นการยกระดับรางรถไฟที่มีอยู่เดิมให้เป็นรางคู่เพื่อให้การสับหลีกรวดเร็วขึ้น สามารถเพิ่มความเร็วจาก 120 ก.ม.ต่อชั่วโมง เป็น 160 ก.ม.ต่อชั่วโมง ซึ่งเหมาะสำหรับขนถ่ายสินค้าเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน


สุดท้ายกลายมาเป็นรางขนาด 1.43 เมตร ซึ่งไม่สอดคล้องกับรางรถไฟขนาดมาตรฐานประเทศเพื่อนบ้าน 1 เมตรเท่ากับของไทยตอนนี้ ฉะนั้นที่บอกว่าเชื่อมกับเพื่อนบ้านนั้นก็แค่มโนกันไปเอง

จึงอยากให้ "ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกฯ ทบทวนใหม่ว่าโครงการนี้ "ซ้ำซ้อน" กับของเดิมที่มีอยู่หรือไม่ หากซ้ำซ้อนถือว่า "สิ้นเปลือง" งบประมาณอย่างน่าเสียดาย


ที่สำคัญต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบว่า โครงการนี้คุ้มกับเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 7.4 แสนล้านบาทหรือไม่ และผลประโยชน์ระหว่างไทยกับจีนนั้นจะไปตกกับใครมากกว่ากัน


ที่มา..http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1441214616

75#
โพสต์ 2015-9-22 16:01 | ดูโพสต์ทั้งหมด
อัยการสอบเพิ่มเติมคดี
กบฎ กปปส.
กรณีอ้างคำพิพากษาศาลรธน.
ว่าการชุมนุมถูกกฎหมาย



เมื่อวันที่ 22 ก.ย. นายชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีอัยการสั่งฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นางทยา ทีปสุวรรณ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก น.ส.จิตภัสร์  กฤดากร  และแกนนำ กปปส.อื่นรวม 51 คน ในข้อหาร่วมกันเป็นกบฏและความผิดอื่นรวม 8 ข้อหาว่า ขณะนี้สำนวนยังอยู่ระหว่างที่อัยการสอบพยานและรวบรวมหลักฐานเพิ่ม เนื่องจากทางแกนนำ กปปส.ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมในประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยการชุมนุมของ กปปส.ว่า เป็นการชุมนุมโดยชอบด้วยกฎหมายได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นการชุมนุมโดยสงบ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้อัยการได้นำตัวแกนนำกปปส.ส่งฟ้องศาลไปแล้ว 4 ราย ประกอบด้วย นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นายสกลธี ภัททิยกุล นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการ เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ซึ่งคดีอยู่ระหว่างศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1442910528
76#
โพสต์ 2015-10-5 06:24 | ดูโพสต์ทั้งหมด

คดีระเบิดกรุง 20 ศพ มีนายอ๊อดลี้ลับ ตำรวจตกม้าตายตอนจบ ตัวใครตัวมัน

ข่าวข้นคนเข้ม

ข้าวตอกแตก


หนังสือพิมพ์ข่าวสด ครบทุกรส สดทุกเรื่อง ฉบับนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 5 เดือนตุลาคม พุทธศักราช 2558 แรม 8 ค่ำ เดือน 10 ปีมะแม เป็นวันพระ...

ตุลาคมเดือนแห่งการรำลึกถึง 2 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์การเมือง การประเทศ 6 ตุลา 2519 กับ 14 ตุลา 2516 แต่ในท่ามกลางการบริหารปกครองบ้านเมืองไม่ปกติ งานคงไม่คึกคักเหมือนแต่ก่อน อย่างมากแค่ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้วีรชน กิจกรรมทางการเมืองอาจสุ่มเสี่ยงได้...

ล่วงเลยมากว่า 40 ปี ความจริงหลายอย่างของ 2 เหตุการณ์ ยังมืดมน คลุมเครือ ยิ่ง 6 ตุลา ล้อมปราบกันกลางสนามหลวง ในสนามบอลธรรมศาสตร์ ผ่านการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนจากพวก ชนชั้นนำ กระทำต่อฝ่าย นักศึกษา ประชาชน ไม่น่าเชื่อ ณ ปัจจุบัน กลุ่มพลังล้าหลัง ยังมีอิทธิพลกดขี่ กลุ่มพลังก้าวหน้า...

วันนี้คงได้รู้ มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา มือกฎหมายหลายรัฐประหาร ตอบรับนั่ง ประธาน กรธ. หลังหารือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำรัฐบาล-คสช. พร้อมโฉมหน้าอีก 20 กรธ. ผู้ที่จะมาร่างรัฐธรรมนูญ กฎกติกาการเข้าสู่อำนาจ บริหารปกครองประเทศ...

โจทย์ใหญ่กติกาฉบับใหม่ คงวนๆ อยู่กับทำอย่างไรให้มี อำนาจพิเศษ กำกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศ คงคล้ายๆ กับ คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ ฉบับ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ...

รวมถึงกำหนดวิธีการเข้าสู่อำนาจ โดยไม่ผ่านกระบวนการเข้าคูหา กาบัตร เนื้อหาก็คงป้วนเปี้ยน ไปๆ มาๆ อยู่แถวนี้แหละ หรือจะต้องทำให้ประชาชนพลเมืองอยู่ดีกินดีเสียก่อน แล้วค่อยมีประชาธิปไตย ล้วนสวนทางกับเหตุผลของชาวบ้านส่วนใหญ่ ประชาธิปไตยต่างหาก ที่จะช่วยยกระดับ ฐานะทางเศรษฐกิจ เพราะให้สิทธิให้เสียงต่อรอง กับขั้วอำนาจบน...

ไม่ง่ายอย่างคิด แนวคิดเรื่อง ซิงเกิล เกตเวย์ รวบรวมช่องทางเข้า-ออกอินเตอร์เน็ต ให้ผ่านประตูเดียว เสียงคัดค้านกระหึ่มไปทั่ว แต่ที่หนักแน่นสุดต้อง ศุภชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย...

บิ๊กบอสค่ายทรู ยืนยันชัดเจนไม่เห็นด้วย เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใช้เน็ต เสนอหากทำเพื่อความมั่นคงของประเทศ ควรหาวิธีอื่นที่ไม่ใช่ซิงเกิล เกตเวย์ ผู้เกี่ยวข้องตัวจริงเสียงจริงออกโรงเอง รัฐบาลคิดหนัก...

น่าเสียดาย คดีระเบิดกรุง 20 ศพ ตำรวจไทยโชว์สืบสวน จนจับกุมได้ พร้อมหลักฐานมากมาย ออกหมายจับอีกเป็นพรวน ทั้งรู้ลึกไปถึงขบวนการเบื้องหน้า เบื้องหลัง เกี่ยวข้องกับ อุยกูร์ ยังไง แต่พอแถลงปิดคดีกลับมี นายอ๊อดลี้ลับ สังคมหัวร่อยกใหญ่ ตกม้าตายตอนจบ ตัวใครตัวมัน...

ข่าวข้น คนเข้ม วันนี้, 08.00 น. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ เปิดโครงการทบทวนความรู้สู่มหาวิทยาลัยกับสหพัฒน์ ครั้งที่ 18 หอประชุมใหญ่ ม.หอการค้าไทย... 09.00 น. หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับ กระทรวงการต่างประเทศ จัดงานสัมมนา "โอกาสและความท้าทายในการค้าและการลงทุนในเมียนมา...จากกูรู" ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ... 10.00 น. ณรงค์ รัตนานุกูล เลขาธิการป.ป.ส. แถลงนโยบายปี 59 มุ่งมั่นแก้ปัญหายาเสพติดในทุกมิติ ห้องประชุมอาคาร 2 สำนักงานป.ป.ส. ดินแดง... 13.30 น. สุวณา สุวรรณจูฑะ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นำคณะเยี่ยมคารวะและแสดงความยินดี วีระพล ตั้งสุวรรณ์ ประธานศาลฎีกาคนใหม่ ห้องรับรองประธานศาลฎีกา อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์...

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1443973766
77#
โพสต์ 2015-10-14 05:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด




เมืองไทย 25 น.

ทวี มีเงิน


ดราม่า"ฟองเบียร์"แสนล้าน

   ปรากฏการณ์ "ดราม่า" ในธุรกิจน้ำเมา เป็นประเด็น ขึ้นมาเมื่อ "เฟซบุ๊กชื่อ" Todd Piti ของ "ปิติ ภิรมย์ภักดี" บิ๊กบอสค่าย "เบียร์สิงห์" ออกมาตำหนิกรณีที่ "โดม ปกรณ์ ลัม" โพสต์ภาพกำลังริน "เบียร์ช้างโฉมใหม่" ผ่านไอจีพร้อมกับคำสั้นๆ ว่า "Let the party begin" น่าสังเกตตรงที่ ลักษณะการรินเบียร์จับที่ก้นขวดเหมือนจงใจจะสื่อให้เห็นยี่ห้อสินค้าชัดเจน


   กรณีนี้เป็นการชิงไหวชิงพริบในธุรกิจฟองเบียร์ที่มี เดิมพันสูงถึง 1.3 แสนล้าน จึงต้องรีบเตะสกัดชนิดตาต่อตาฟันต่อฟันก่อนถูกคู่แข่ง "ตีกิน" ไปมากกว่านี้ ซึ่งไม่เฉพาะกรณี "โดม" แต่มีดาราชาย หญิง มีพฤติกรรมคล้ายๆ กันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุอีก 30 รายซึ่งแต่ละคนอ้างว่าไม่ได้จ้างแค่ช่วยเพื่อน และไม่ใช่เฉพาะเบียร์ช้างเท่านั้น แต่สินค้าน้ำเมาทุกยี่ห้อ ต่างใช้วิธีโฆษณาผ่านไอจีเหมือนๆ กัน


   อันที่จริง การโฆษณาสินค้าผ่านไอจีส่วนตัวดารามีมานานแล้ว กำลังเป็นที่นิยมของเจ้าของสินค้า ดารา เซเลบที่รับโฆษณาผ่านไอจีส่วนตัว ทำรายได้ เป็นกอบเป็นกำ จะว่าไปแล้วโฆษณาวิธีนี้ทั้งคนจ้างและคนรับจ้าง วิน-วินทั้งคู่ ซึ่งดาราจะมีแฟนคลับคอยติดตามทุกอิริยาบถชนิดตาไม่กะพริบ อย่าง "โดม ปกรณ์ ลัม" มีผู้ติดตามถึง 1.4 ล้านคน เรียกว่าสินค้าต้องผ่านสายตานับล้านคู่ เจ้าของสินค้าถือว่า คุ้มมากๆ


   แต่ที่เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาเพราะงานนี้โฆษณาเครื่องดื่ม "น้ำเมา" ซึ่งกฎหมายห้ามโฆษณาในสื่อทีวี สิ่งพิมพ์และบิลบอร์ด ทำให้มีการตั้งข้อสงสัยว่ากรณีนี้ "เลี่ยงบาลี" ด้วยการใช้โฆษณาผ่านไอจี หรือเฟซบุ๊กแทนหรือไม่


   คงต้องตีความกันว่าขัดกับแนวทางปฏิบัติของ พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ห้ามไม่ให้ ดารา นักร้อง นักกีฬา ผู้มีชื่อเสียงในสังคม หรือเด็กต่ำกว่าอายุ 20 ปี โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือไม่


   เชื่อว่าในที่สุดผลออกมาแบบไทยๆ คือ จะหยวนๆ กันไป


   แต่ถ้าเรื่องนี้ เป็นการสมรู้ร่วมคิดระหว่างบริษัทเบียร์ กับดาราจริง ในแง่ของจิตสำนึก ถือว่าไม่เหมาะสมใครๆ ก็รู้ว่า ดารา นักร้อง คนดังมีอิทธิพลกับเด็กและเยาวชนให้เกิดพฤติกรรมเอาอย่างได้


   อย่างไรก็ตาม ข่าวที่ปรากฏออกมา ในเชิงจรรยาบรรณถือว่าเป็นภาพลบกับสินค้า แต่อีกด้านหนึ่ง ไม่ว่าข่าวที่ปรากฏออกมาจะลบหรือบวกก็ตาม แต่ผู้บริโภคก็ได้รับรู้และจดจำภาพของสินค้าไปเรียบร้อยแล้ว ...คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

ที่มา....http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1444752242
78#
โพสต์ 2015-10-15 07:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เมียอุ้มลูกโร่พึ่งศาล ผัวขอเลิก หลังถูกหวย30ล.
ขอแยกทางกัน ผ่านเอสเอ็มเอส สาวเรียก10ล้าน




เป็นค่า-เลี้ยงดู หนุ่มรปภ.ดวงดี แจงวุ่นไม่ได้หนี

เมียอุ้มลูก 8 เดือนฟ้องศาลเรียกค่าเลี้ยงดู หลังสามีถูกหวย 30 ล้านแล้วชิ่งหนี เผยเป็นรปภ.ที่ดวงเฮงถูกรางวัลงวด 16 ก.ย. แต่พอรับเงินแล้วก็ให้เมียกลับไปเลี้ยงลูกที่อุดรฯ รับปากเป็นมั่นเหมาะจะซื้อ ที่ทำรีสอร์ตให้บริหาร แต่สุดท้ายก็ปิดโทรศัพท์ ติดต่อไม่ได้ แต่ส่งข้อความทางมือถือ ระบุขอแยกทาง แล้วจะกลับไปเคลียร์หลังออกพรรษา เผยชีวิตสุดช้ำ พบรักกัน ที่อุดรฯ ก่อนที่พี่สาวฝ่ายหญิงจะฝากงานให้ทั้งคู่ แถมตอนที่ซื้อสลากก็ยืมเงินไปซื้อ โดยที่ผ่านมาโอนเงินให้ 3 ครั้งรวม 1.2 ล้าน จึงจำเป็นต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม


จากกรณีนาย ยงยุทธ หรือธรรมรงค์ แก้วสวนจิก อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 ม.14 บ้านหนองบ่อ ต.หนองบ่อ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี รปภ.และหัวหน้าคนงานโรงงานผลิตเสื้อยี่ห้อหนึ่งในกรุงเทพฯ พร้อมด้วยภรรยา ชื่อ น.ส.เสาวณี ทองวิเศษ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ม.10 ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี พนักงานโรงงานผลิตปลั๊กไฟฟ้า ในกรุงเทพฯ เช่นกัน ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 ก.ย. 2558 หมายเลข 743148 รวม 5 คู่ ได้เงินรางวัลรวม 30 ล้านบาทจนเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วประเทศมาก่อนหน้านี้


ความ คืบหน้า เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดอุดรธานี ถ.ทหาร ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี น.ส.เสาวณี ทองวิเศษ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ม.10 ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี อุ้มลูกชายวัย 8 เดือน พร้อมด้วยนางบุญมา ทองวิเศษ อายุ 58 ปี แม่ น.ส.อุไรพร เข็มตูม อายุ 36 ปี พี่สาว เข้ายื่นฟ้องรับรองบุตร เรียกค่าอุปการะเลี้ยงดู เป็นเงิน 10 ล้านบาท กรณีนายยงยุทธ สามี ทอดทิ้ง โดยมีนายธีระพล โภชนุกูล ทนายความ และร.ต.ท.อุดมโชค สิงหกุลศิริ ผู้ช่วยทนายความ ผู้รับมอบอำนาจให้ดำเนินการฟ้องร้อง เข้ายื่นคำร้อง โดยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี รับคำฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ 339/2558


โดยน.ส.เสาวณีกล่าวว่า เมื่อประมาณ 2 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา ตนทำงานอยู่ในหมู่บ้าน และรู้จักกับนายยงยุทธ ซึ่งเป็นคนต่างอำเภอมาเก็บเงินค่าเครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าในหมู่บ้าน จนเกิดชอบพอกัน ต่อมา น.ส.อุไรพร พี่สาวของตน ซึ่งทำงานอยู่ในโรงงานที่กรุงเทพฯ ชักชวนไปทำงานด้วยกัน และฝากงานให้นายยงยุทธเข้าทำงานที่โรงงานผลิตเสื้อผ้า จนเมื่อเดือนก.พ.57 ตนกับนายยงยุทธได้อยู่กินกันฉันสามีภรรยาแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส และมีบุตรด้วยกัน กระทั่งต้นปี 2558 ตนลาพัก กลับมาอยู่ที่บ้านแม่ เพื่อเตรียมตัวคลอดบุตร


น.ส.เสาวณีกล่าวต่ออีกว่า วันที่ 1 ก.พ. 58 ตนคลอดบุตรที่โรงพยาบาลกุมภวาปี ได้ลูกชาย สามีได้บอกให้ตนเลี้ยงดูลูกอยู่ที่บ้าน ซึ่งตนก็ทำตาม เลี้ยงดูลูก จนลูกหย่านมเป็นเวลานานถึง 6 เดือน จึงกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง ก่อนวันหวยออกนายยงยุทธ สามี ขอเงินตนไป 400 บาท เพื่อเอาไปซื้อลอตเตอรี่ จนถูกรางวัลที่ 1 เป็นเงิน 30 ล้านบาท ตนและนายยงยุทธ ก็เดินทางไปที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อขึ้นเงิน โดยนายยงยุทธได้เอาเงินทั้งหมด 30 ล้านบาทเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชีนายยงยุทธ จากนั้นก็บอกให้ตนกลับมาบ้าน


น.ส.เสาว ณีกล่าวอีกว่า นายยงยุทธบอกให้ตนกลับมาบ้านเลี้ยงลูก และให้หาทำเลจะซื้อที่ดินสร้างบ้าน และสร้างรีสอร์ตติดกับทะเลบัวแดงให้ตนกับลูก เพื่อเป็นรายได้ ซึ่งตนก็ทำตาม ไปจับจองมัดจำซื้อที่ดินเอาไว้ จากนั้นอีกไม่นาน นายยงยุทธโอนเงินมาให้ตนจำนวน 5 แสนบาท โอนเงินให้แม่ของตนอีก 5 แสนบาท และโอนให้ลูกชายอีก 2 แสนบาท จากนั้นก็ไม่ยอมติดต่อมาอีกเลย และบ่ายเบี่ยงบอกว่าไม่ว่าง บางครั้งปิดโทรศัพท์หนี และมีข้อความมาบอกว่า "แยกกันอยู่ซะ ออกพรรษา จะไปเคลียร์" และพร้อมต่อว่าหาว่าตนมีชู้ ซึ่งไม่เป็นความจริง ทำให้ตนเสียหายและต้องการความเป็นธรรม ตนกับลูกจะได้รับเงินเพียงเท่านี้หรือ ได้เงิน 30 ล้านบาท แบ่งให้ 1.2 ล้านบาท มันยุติธรรมแล้วหรือ


ต่อมาในช่วงค่ำ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 114 ม.14 บ้านหนองบ่อ ต.หนอง หาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เพื่อไปขอทราบข้อเท็จจริงจากนายยงยุทธ สามีของน.ส.เสาวณี เมื่อถึงบ้านดังกล่าวญาติๆ แจ้งว่า นายยงยุทธ แก้วสวนจิก ไปปรับปรุงที่ดิน 40 ไร่ ที่เพิ่งซื้อมาในราคากว่า 5 ล้านบาท บริเวณท้ายหมู่บ้านเพื่อเตรียมสร้างเป็นที่พักรีสอร์ต และโฮมสเตย์ และพบตัวนายยงยุทธ กำลังขับรถไถปรับหน้าดิน


โดยนายยงยุทธ กล่าวว่า ตนเป็นคนติดดิน ทำไร่ทำสวนมาตั้งแต่เกิด อยู่ดูแลพ่อแม่จนแก่เฒ่า พ่อตายแม่ก็ตายไปหลายปีแล้ว สำหรับแม่ตนดูแลท่านจนวาระสุดท้ายเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านรู้จักตนดีในฐานะลูกกตัญญู จากนั้นตนก็ไปทำงานเป็นเด็กปั๊มน้ำมันที่ อ.หนองหาน และไปทำงานเก็บเงินค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า จนได้รู้จักกับ น.ส. เสาวณี และไปทำงานกรุงเทพฯด้วยกัน จนอยู่กินกันฉันสามีภรรยา เมื่อภรรยาตั้งท้อง ก็ให้มาคลอดลูกที่บ้าน และเพิ่งจะกลับไปอยู่ด้วยกันแค่เดือนเดียว ก็มาถูกลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท จึงให้ภรรยากลับมาอยู่บ้านดูแลลูก ส่วนตนจะสร้างบ้านและสร้างฐานะให้ครอบครัวและลูกชายคนเดียว แต่มามีเรื่องเมื่อภรรยาไม่เข้าใจ หาว่าตนไม่แบ่งเงินให้คนละครึ่ง


นาย ยงยุทธกล่าวต่ออีกว่า ตนไปหาลูกบอกว่าพ่อฝากเงินไว้ให้ลูกกับกรุงไทย แอ็กซ่า ปีละ 5 แสนบาท ครบ 6 ปี จะเป็นเงิน 3 ล้านบาท เมื่อครบ 10 ปี ลูกชายของตนจะได้เงิน ทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยคนอื่นถอนไม่ได้


ส่วน เงินที่เหลือที่ตนให้ภรรยา แม่ยาย และค่านมลูกชายรวม 1.2 ล้านบาท ที่เหลือ ก็เอาไปใช้หนี้ให้ญาติๆ และซื้อรถกระบะ โตโยต้า 1 คัน ราคา 9 แสนกว่าบาท เพื่อเอามาใช้งาน ซื้อรถไถคูโบต้า 1 คัน ซื้อที่ดินจำนวนรวมแล้วเกือบ 40 ไร่ ในราคากว่า 5 ล้านบาท โดยเป็นที่ดินที่พ่อของตนเคยเช่าทำกินมาก่อนในอดีตอยู่ท้ายหมู่บ้าน ตอนนี้ตนเหลือเงินประมาณ 20 ล้าน ก็ฝากไว้กับธนาคารแบบฝากประจำ 8 เดือนเพื่อกินดอกเบี้ย โดยทางธนาคารบอกว่าจะได้ดอกเบี้ยประมาณเดือนละหมื่นกว่าบาท เพื่อป้องกันการใช้เงินฟุ่มเฟือย กลัวว่าเงินจะหมดก่อน


ตน อยากจะบอกว่า ที่ทำแบบนี้เพราะสงสารลูก ตนต้องการสร้างบ้านให้เสร็จ เพื่อลูกเมียจะได้มาอยู่ด้วยกันไม่ได้หนีไปไหน ส่วนที่ดินที่ภรรยาจะไปซื้อที่ใกล้ทะเลบัวแดงเพื่อทำรีสอร์ตนั้นมันแพงเกิน ไป ตนจึงตัดสินใจมาซื้อที่ตรงนี้ใกล้บ้านของตน ตนจะสร้างเป็นรีสอร์ตและโฮมสเตย์เอาไว้ให้ลูกและภรรยาของตน แต่ยอมรับว่าเสียใจมากที่ภรรยาไปฟ้องร้อง ทำให้ตนเสียหาย ใครๆ จะเข้าใจผิดหาว่าตนทิ้งลูกเมีย มีอะไรก็มาคุยกัน อย่าฟังคนรอบข้างให้มากนัก ใครสงสัยให้มาถามตนได้ ตนมีหลักฐานทุกอย่าง จากนี้หลังจากออกพรรษาก็จะไปง้อภรรยาด้วยตัวเอง

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1444790319
79#
โพสต์ 2015-10-23 08:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
′ตู่′ ถาม ′บิ๊กตู่′ ไม่สนใจรื้อคดีเก่า
′ปรส.-โรงพัก′ที่รบ.เสียหาย มาตรวจสอบบ้างหรือ?

เมื่อวันที่18 ตุลาคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวในรายการมองไกล ผ่านยูทูปว่า ทำไมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ไม่สนใจให้รื้อคดีองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) และโครงการก่อสร้างโรงพักทั้ง 396 แห่งทั่วประเทศมาตรวจสอบ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงการทุจริตครั้งมโหฬารของประเทศไทย โครงการปรส. เกิดขึ้นในช่วงเดียวกับโครงการโฮปเวลล์ และทำให้รัฐเสียหายมากกว่า 6.5 แสนล้านบาท พร้อมกับมี  ดอกเบี้ยด้วย โดยเงินจำนวนนี้นำมาจ่ายให้นักธุรกิจที่สมคบกับต่างชาติ แล้วโกงและล้มบนฟูก  ซึ่งเป็นการปล้นประเทศไทย


นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างโรงพักทั่งประเทศจำนวน 396 แห่ง  ที่มีการประมูลงานเพียงรายเดียว จึงเป็นการคิดทุจริตสำเร็จรูปมาตั้งแต่ต้น  เพราะไม่มีใครสามารถบริหารสัญญาการก่อสร้างได้ทั่วประเทศ ดังนั้นจึงมีการรับเหมาช่วง  แล้วเรียกเก็บค่าหัวคิว กินเปอร์เซ็นต์จาก 15 ได้ 5 หรือสมมุติ 20% ก็ได้ 8%


นายจตุพร กล่าวอีกว่า  คดีเก่าที่อยู่ในความสนใจของรัฐบาลและให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย  รื้อมาตรวจสอบกันใหม่ถึง 12 คดีนั้น ต้องการปราบการทุจริตจริงจังหรือไม่  เพราะการเลือกฟื้นคดีเก่าบางคดีขึ้นมา แล้วละเว้นบางคดีนั้น สะท้อนถึงวิธีคิด  โดยเฉพาะคดีก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านไม่ใช่เรื่องใหม่  แต่เป็นคดีที่หลอกให้รัฐกลายเป็นผู้เสียหายแล้วต้องจ่ายเงินชดเชยให้เอกชน ซึ่งนายวิษณุ ย่อมรู้เรื่องดี  นายวิษณุรับรู้โครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านมาตั้งแต่เป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี พ.ศ.2536-2545 วันยกเลิกสัญญายังเป็นรองนายกรัฐมนตรี (2545-2549) ในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร  ดังนั้นถ้าการยกเลิกสัญญาเป็นความผิดและต้องชดใช้ความเสียหายแล้ว  นายวิษณุต้องร่วมชดใช้ด้วย


นายจตุพร กล่าวอีกว่า  กรณีรัฐบาลจะออกคำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหายโครงการจำนำข้าวจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น เชื่อว่าเป็นการกระทำด้วยสะใจในการเห็นความทุกข์ของคนอื่นเป็นความสุขของตัวเอง  เพราะคดีนี้ไม่เกี่ยวกับการทุจริต และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยังไม่ได้พิพากษา  ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจพยานเท่านั้น  แต่คำสั่งทางปกครองกลับเป็นการพิพากษาถึงขั้นต้องยึดทรัพย์กันแล้ว การกำหนดยุทธศาสตร์ทำลายคนเก่า  เพื่อให้จำคนใหม่ โดยที่คนใหม่ไม่ต้องทำความดีอะไรเลย ประชาชนรักความเป็นธรรมจะเกิดความรู้สึกว่า  ถูกท้าทาย ดังนั้นรัฐบาลควรทำในสิ่งที่ถูกต้อง อย่าเร่งรีบจนไม่สนใจความรู้สึกของคนรักความเป็นธรรม

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1445168843
80#
โพสต์ 2015-11-3 06:17 | ดูโพสต์ทั้งหมด











ข่าวข้นคนเข้ม

ข้าวตอกแตก

คดียากๆทำมามาก แต่พอทุจริต 396 โรงพัก
วิชา มหาคุณ กลับอ้างซับซ้อน!?






หนังสือพิมพ์ ข่าวสด ครบทุกรส สดทุกเรื่อง ฉบับนี้ตรงกับวันอังคารที่ 3 เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช 2558 แรม 7 ค่ำ เดือน 11 ปีมะแม...










ดูจากท่วงท่า ท่านผู้นำ ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ แล้วต้องเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ ท่านออกทีวีส่งสัญญาณมาแล้วอย่างน้อย 2 เรื่อง ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้น อาจขึ้นภาษี กับ ห้ามม็อบเกษตรกรเคลื่อนไหว แต่รัฐบาลจะช่วยเหลือให้เองอย่างเหมาะสม...










แค่ขึ้นต้น แค่ชื่อก็พิสดาร ระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ฉบับ มีชัย ฤชุพันธุ์ นำคะแนนของผู้สมัครที่ไม่ได้รับเลือกตั้งส.ส.ในระบบเขต มาคำนวณเพื่อให้ได้ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ ไม่รู้แค่โยนหิน หรือเอาจริง เสียงสวดมากกว่าชม...

ปู่มีชัย ให้เหตุผล อ้างต้องการให้ทุกคะแนนมีความหมาย ไม่สูญเปล่า เคารพทุกเสียงของประชาชน ฟาก เพื่อไทย ไม่ต้องพูดถึง คัดค้านรุนแรง ถึงขั้นใช้คำว่า ทำลายหลักการเสียงข้างมาก ส่วน ประชาธิปัตย์ ยังแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ค้านหัวชนฝา...










ถึงขั้นนี้จึงพอมองออก ฝ่ายหลักๆ ทางการเมือง ต้องการรัฐธรรมนูญแตกต่างกันไป เพื่อไทย เรียกร้องให้ยึดฉบับ 2540 ประชาธิปัตย์ ชอบฉบับ 2550 ส่วน กรธ. ก็ต้องพยายามร่างให้ถูกใจ แป๊ะ มากที่สุด เนื้อหาจึงยุ่งๆ เข้าไว้ คุมนั่นนี่ ทำท่าอีหรอบเดียวกับ ฉบับบวรศักดิ์...


คดียากๆ ทำมาแล้วมากมาย แต่พอกับ ทุจริตโครงการก่อสร้าง 396 โรงพัก มูลค่าเสียหายเกือบ 6 พันล้าน ไฉน วิชา มหาคุณ ป.ป.ช. หัวหน้าทีมไต่สวน อ้างซับซ้อน เรื่องตรวจสอบเส้นทางการเงิน ทั้งที่วิธีการโกงก็รูปแบบเก่าๆ เอกชนผู้ประมูลงานก็รายเดียว ชาวบ้านไม่ได้กินแกลบ...

น่าเห็นใจเป็นที่สุด ชาวสวนยางภาคใต้ ทำหนังสือถึง นายกฯ บิ๊กตู่ เรียกร้องช่วยเหลือปัญหาราคาตกต่ำ อยากได้ ไม่ต่ำกว่า ก.ก.ละ 50 บาท ปัจจุบันลดฮวบเฉียด 3 โลร้อย ต่างลิบลับกับ 1-2 ปีก่อน ให้ 120 บาทต่อ ก.ก. ยังไม่พอใจ เพราะการเมืองอย่างอคติ ตามแผนชัตดาวน์ประเทศ...


นับวันยิ่งกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ต่อสู้ทางประชาธิปไตยไปแล้ว ลุงนวมทอง ไพรวัลย์ โชเฟอร์แท็กซี่ชนรถถัง ยุครัฐประหาร 19 กันยาฯ 2549 เมื่อ 31 ตุลาฯ ที่ผ่านมา มีพิธีรำลึกการจากไปครบรอบ 9 ปี บริเวณจุดที่ผูกคอตาย กับแยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน ผ่านไปราบรื่นไม่มีเหตุวุ่นวาย ควรแล้วที่ รัฐบาล-คสช. ปล่อยให้ กลุ่มพลังประชาธิปไตย มีรูระบายบ้าง...


กลับมาปะทุอีก วางระเบิดจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถล่มถี่ 3-4 วันติด หรือตีความ ต้องการสื่อไปยังรัฐบาลส่วนกลาง ถึงข้อตกลง ข้อเรียกร้องของฝ่ายขบวนการจากเวทีพูดคุยกันในมาเลเซียก่อนหน้านี้ ที่เงียบกริบ...

ข่าวข้น คนเข้ม วันนี้, 09.30 น. กิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กฤษน์ ศรีชวาลา ประธานกรรมการบริหาร บริษัทในกลุ่มฟิโก้ และ นริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) จัดพิธีลงนามการเข้าซื้อกิจการ Jupiter Hotels ในสหราชอาณาจักร ห้องบอลรูม 1 พูลแมน แกรนด์ สุขุมวิท 21... 10.30 น. แถลงข่าว "บนเส้นทางวิศวกรรม ครั้งที่ 10" พบ "คุณลำไย" หุ่นยนต์ไทยรับใช้งานบ้านที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ห้องประชุมอาคารนานาชาติ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน... 14.30 น. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ประธานพิธีเปิดสถาบันอนุญาโตตุลาการ และปาฐกถาเรื่อง "กระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือกฯ" ชั้น 26 อาคารภิรัชฯ เอ็มควอเทียร์...


ที่มา.http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1446473497
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้