ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

รวมสุดยอดผงวิเศษ แห่งอาณาจักรสยาม

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รามเทพ เมื่อ 2014-5-28 23:06





ผงวิเศษ 5 ประการ สมเด็จโต และวิธีการปลุกเสก (จากหนังสือของตรียัมปวาย)



พุทธาคมกรรมวิธี
หลวงวิจิรวาทาการ กล่าวไว้ว่า “เราเชื่อว่าคนไร้การศึกษาเท่านั้นที่เชื่อ
เรื่องคาถาอาคม แต่ต้องเปลี่ยนความคิด เพราะ สมเด็จพระวันรัต เขมจารีมหาเถระวัดมหาธาตุ อาจารย์ของข้าพเจ้า จบเปรียญ 9 ประโยค
เป็นผู้จัดการศึกษาให้วัดมหาธาตุ ท่านไม่เชื่อเรื่องเวทย์มนต์คาถา
หาว่าลวงโลก ต่อมามีการสังคยนาพระไตรปิฎก
ท่านรับภาระจัดการเรื่องหมวด พระอภิธรรม ซึ่งเป็นหมวดใหญ่
หลังชำระเสร็จสิ้น สังเกตุท่านเปลี่ยนไปท่านบอกว่าแต่ก่อนเข้าใจผิด
ต่อมายอมประพรมน้ำมนต์ และเสกเป่าให้คนทั่วไป

ผงวิเศษ 5 ประการ
คือ ผงอิธะเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และ ผงตรีนิสิงเห
ผงทั้งห้านี้ผงวิเศษ 5 ประการ มิได้เกิดจากการนำผง 5 ชนิดมารวมกัน
แต่เกิดจากผงชุดเดียวกันผ่านกรรมวิธี ถึง 5 ครั้ง  

ขั้นแรก ทำดินดสอผงวฺเศษ ด้วยส่วนผสม คือ ดินโป่ง 7 โป่ง ดินท่า 7 ท่า
ดินเสาหลักเมือง 7 หลักเมือง ขี้เถ้าไส้เทียนบูชาพระประธานพระอุโบสถ
ดอกกาหลง ยอดสวาท ยอดรกซ้อน ขี้ไคลเสมา ขี้ไหคลประตูวัง
ขี้ไคลเสาตะลุงช้างเผือก ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ พลูร่วมใจ พลูสองหาง
กระแจะตะนาว จ้ำมันเจ็ดรส และดินสอพอง มาผสมกัน ป่นละเอียด
เจือน้ำ ปั้นเป็นแท่งดินสอ

กรรมวิธีทำผงวิเศษ กระทำในพระอุโบสถ เตรียมเครื่องสักการะ
หน้าพะประธาน กล่าวคาถาอัญเชิยครู ประกาศอัญเชิญเทพยดา
ทำประสะน้ำมนต์พรมตัว เรียกอักขระเข้าตัว และอัญเชิยครุเข้าตัว
ผงปถมัง  เป็นผงเริ่มต้น  นำดินสอผงวิเศษมาเขียนสูตร และลบออก
เป็นผงปถมังมีอานุภาพ หลายด้าน แต่หนักไปทาง คงกรพันชาตรี
มหาอุด แคล้วคลาด กำบังล่องหนและป้องกันภูตผีปีศาจและคุณไสย
ผงอธิเจ  นำผงปถมังมาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตร ลบผงเป็นผงอธิเจ
มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมอย่างสูงรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
ผงมหาราช นำผงอธิเจ มาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตร ลบผง
เป็นผงมหาราช มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมอย่าสูงป้องกัน
และถอนคุณไสย และแคล้วคลาด
ผงพุทธคุณ นำผงมหาราช  มาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตร
ลบผงเกี่ยวกับพุทธคุณนานาประการ ให้อานุภาพด้านเมตตามหานิยม
อย่างสูง กำบัง สะเดาะ และล่องหน
ผงตรีนิสังเห นำผงมหาราช  มาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตร
ลบผงเกี่ยวกับยันตร์ตรีนิสิงเหหรือยันตร์นารายณ์ถอดรูป แล้วมียันต์
พระควัมบดี และยันต์ตราพระสีห์  อานุภาพด้าน เมตตามหานิยม
ป้องกันถอนคุณไสย และภูตผี ป้องกันสัตว์เขี้ยวเล็บงา รักษาโรค
อุบัติภัยอันตรายทั้งปวง

คาถาการปลุกเสกพระสมเด็จ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตรัสถามเจ้าพระคุณว่า
พระเครื่องของหลวงพี่ปลุกเสกด้วยคาถาใด จึงงได้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
เจ้าพระคุณ ตอบว่า  ปลุกเสกด้วยชินบัญชรคาถา
คาถาชินบัญชร ได้อัญเชิญพระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์ และพระอรหันต์
สำคัญมากมาย รวมทั้งอัญเชิญพระสูตรสำคัญ ทั้ง 7 สูตร คือ
1.รัตนสูตร มีคุณวเศษทางป้องกันภูตผีปีศาจ และโรคระบาด
2.กรณีเมตสูตร มีคุณวิเศษทางมหานิยม ปัดรังควานภูตผีปีศาจ และอำนวยผล
สำเร็จในการงาน
3.องคุลีมาลปริตร มีคุณวิเศษช่วยในการคลอดบุตร บำบัดฌรค และสิริมงคล
4.ธชัคสนูตร  ทำใจให้บันเทิง อาจหาญ บำราบภยัยตรายที่เผชิญหน้าให้แคล้ว
คลาดไป
5.ขันธปริตร  ป้องกันสัตว์เขี้ยวเล็บงาและอรพิษน้อยใหญ่
6.โมรปริตร เป็นผล นิรันตราย แคล้วคลาดจาก ศาตราวุธ และภยันตรายทั้งปวง
7.อาฎานาฏิยปริตร ป้องกันภูติพราย อมนุษย์ และคุณไสยทั้งปวง
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-29 08:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ผงจิตรลดา



ส่วนที่ 1 ส่วนในพระองค์ ประกอบด้วย

  • ดอกไม้แห้ง จากมาลัยที่ประชาชนได้ทูลเกล้าฯ ถวายในการเสด็จพระราชดำเนินเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรและได้ทรงแขวนไว้ที่องค์พระตลอดเทศกาล
  • เส้นพระเจ้า ซึ่งเจ้าพนักงานได้รวบรวมไว้หลังจากทรงพระเครื่องใหญ่ทุกครั้ง
  • ดอกไม้แห้ง จากมาลัยที่แขวนพระมหาเศวตฉัตรและด้ามพระแสงขรรค์ชัยศรี ในพระราชพิธีฉัตรมงคล
  • สี ซึ่งขูดจากผ้าใบที่ทรงเขียนภาพฝีพระหัตถ์
  • ชันและสี ซึ่งทรงขูดจากเรือใบไมโครมด เป็นเรือใบพระที่นั่งขณะที่ทรงตกแต่งเรือใบพระที่นั่ง
  • ส่วนที่ 2 วัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์จากทุกจังหวัด ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ] ถวาย ประกอบด้วย
    • วัตถุที่ได้มาจากปูชนียสถานหรือพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนเคารพบูชาในแต่ละจังหวัด
    • ดอกไม้ ผงธูป เทียนบูชาพระแก้วมรกต ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระพุทธชินสีห์วัดบวรนิเวศวิหารพระพุทธชินราชวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก
    • ดอกไม้ ผงธูป เทียนบูชาจากพระอารามหลวงที่สำคัญ
    • ดิน ตะไคร่น้ำแห้งจากใบเสมา จากสังเวชนียสถานในประเทศอินเดีย และประเทศศรีลังกาซึ่งสมณทูตได้ถวายเก็บไว้ในเจดีย์ที่วัดเสด็จ จังหวัดปทุมธานี
    • ดิน ตะไคร่น้ำแห้งจากใบเสมา จากทุกจังหวัดในประเทศไทย เช่น จากพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม วัดพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่
    • น้ำจากบ่อน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้เคยนำมาใช้เป็นน้ำสรงมุรธาภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และน้ำอภิเษก
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-11-13 12:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เดี๋ยวหาข้อมูลเพิ่มให้ครับ
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-11-18 07:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วัดสัมฤทธิ์" ตั้งอยู่ในเขตหมู่ที่ ๑๒ ตำบลหัวสำโรง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี สันนิษฐานว่า ได้สร้างขึ้นมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง และได้กลายสภาพเป็นวัดร้างไปเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๑๐ เพราะหนีภัยสงครามพม่า ที่วัดสัมฤทธิ์มีพระพุทธรูป ซึ่งเชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มากอยู่ ๓ องค์
มีผู้คนมากราบไหว้ขอพรกันมิขาดเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีผู้ได้พบผงศักดิ์สิทธิ์ ซึ้งเชื่อกันว่าเป็นผง “อิทธิเจ” ซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่บางส่วนอีกด้วย

ผงวัดสัมฤทธิ์ คือ ผงอิทธิเจ ที่คาดว่าน่าจะมีอายุอยู่ประมาณ ๔๐๐ ปีขึ้นไป เพราะวัดสัมฤทธิ์นี้เป็นวัดร้างที่สร้างขึ้นในยุคอยุธยาตอนกลาง

น่าจะราวๆสมัยพระเจ้าปราสาททองหรือสมเด็จพระนารายณ์มหาราช(พบใบลานจารอักขรบอกไว้ว่าเป็นผงอิทธิเจ)





ปาฏิหาริย์ของผงนี้ มีมากมาย เป็นที่ประจักแก่ผู้คนทั้งลพบุรี และอ่างทอง ตลอดจนผู้คนในบริเวณใกล้เคียงทั้งย่านแม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำเจ้าพระยา รู้จักกันดีในวงการพระสงฆ์ว่า วัดทุกวัดในเขตภาคกลางนี้เมื่อมีวาระจะต้องสร้างพระเครื่อง จะต้องมาขอแบ่งผงนี้ไปเป็นมงคลวัตถุผสมอยู่ด้วยทุกครั้ง จนปัจจุบันนี้หา ผงนี้เกือบจะหาอีกไม่ได้อีกแล้ว คงเหลืออยู่เล็กๆ น้อยๆ กับคนที่รู้จริงและบรรจุใส่ตลับบ้าง
ใส่หลอดบ้างเอาไว้บูชากัน แต่ก็หวงแหนกันยิ่งชีวิต..!!!!!

อันผงวัดสัมฤทธิ์ หรือที่หลายคนเรียกว่าผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้ มีพุทธคุณศักดิ์สิทธ์ยิ่งนัก มีประสบการณ์ต่างๆมากมาย ตั้งแต่การใช้แก้คุณไสย ถูกของถูกกระทำ มีตัวอย่างสำคัญๆที่ต้องเล่าเป็นการเฉพาะเท่านั้น มีพุทธคุณด้านปกป้กษ์คุ้มครองมากมายทั้งรถยนต์การเดินทาง และแม้แต่ในสนามรบทหารหาญเมืองลพบุรีที่ได้ไปต่างทราบกันดี

และพุทธคุณ ที่หลายคนปรารถนาคือ สามารถอธิษฐานขอในสิ่งที่ต้องการได้..!!!!!!!! แม้แต่ในวัดสัมฤทธิ์เวลานี้ มีการเจาะบ่อบาดานใกล้ๆกับแหล่งที่พบผงอิธิเจนี้ น้ำที่โยกขึ้นมากก็กลายเป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่เคารพบูชาของคนแถวนั้นตราบเท่าทุกวันนี้

ประสบการณ์ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์แก้ดวงตก แก้กรรมได้ เคยมีคนชะตาตกแบบที่เรียกว่าคอขาด หรือถึงฆาต พระอาจารย์ใช้ผงฯ นี้ทำน้ำมนต์ให้อาบ และดื่มกินทุกวัน จนวันจะกลับบ้านท่านก็ให้พระสมเด็จที่ผสมผงวัดสัมฤทธิ์แขวนคอไปด้วย แต่ด้วยความที่ดวงไม่ดีก็ไปเจอเรื่องเข้าอีกจนได้ คราวนี้เจอคู่อริรุมซ้อมแต่ก็หนีเอาตัวรอดกลับมาได้ ปรากฎว่าร่างกายไม่บอบชำบาดเจ็บมากนัก แต่พระสมเด็จที่ห้อยคอไปถึงกับหักเป็นสองท่อนทั้งที่อยู่ในเลี่ยมตลับ สเตนเลสอย่างดี ? หรือว่าพระท่านจะมารับกรรมแทนตน !!?? จนเจ้าตัวอยู่รอดปลอดภัยมาจนทุกวันนี้

ประสบการณ์ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ เกี่ยวการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้ผู้บูชาต้องระลึกถึงบารมีของหลวงพ่อสัมฤทธิ์ และผู้สร้างผงฯนี้เก็บไว้ เพื่ออธิษฐานของสิ่งที่ตนต้องการ เคยมีนายทหารกลุ่มหนึ่งบูชาและอธิษฐานขอให้ได้เลื่อนตำแหน่ง ก็ได้อย่างไม่น่าเชื่อ นับแต่นั้นมาจึงเกิดการไล่ตามเก็บเช่าบูชากันมาก ทำให้พระที่เคยแจกจ่ายออกมาจากวัดหายไปจนไม่ค่อยมีใครพบเห็นอีกเลย

ดังนั้นข้าราชการท่านใดที่ต้องการให้สมประสงค์เรื่องขั้นเรื่องตำแหน่งก็ควร จะมีไว้บูชา ท่านใดที่มีแล้วอย่าลืมท่านต้องระลึกถึงผู้สร้างและหลวงพ่อสัมฤทธิ์เพื่อ อธิษฐานขอแล้วท่านจะประสบผลตามสมประสงค์ทุกประการ

ผงวัดสัมฤทธ์นี้ มีพระเกจิอาจารย์หลายท่าน นำไปสร้างเป็นพระเครื่อง และอธิษฐานขอให้การสร้างวัดสำเร็จ ก็สามารถสร้างวัดได้สำเร็จมาแล้วหลายวัดด้วยกัน รวมทั้งมีพระอาจารย์บางท่านได้ทำการก่อสร้างจนเป็นหนี้เป็นสินมากมายมหาศาล แต่ก็สามารถอธิษฐานขอ จนหมดหนี้หมดสิน(ปลดหนี้)และสร้างวัดได้สำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ

อนึ่ง การค้นพบผงสัมฤทธิ์ในอดีตตลอด ๕๐ ปีที่ผ่านมา พบว่าวัตถุมงคลที่เข้าผงวัดสัมฤทธิ์หรือมีผงวัดสัมฤทธิ์เข้าไปเป็นส่วนประกอบ เช่น พระเครื่องชุดแพพัน แพ๒พัน พระชุดของหลวงปู่โต๊ะ วัดสระเกศ พระชุดของวัดเยื้องคงคาราม พระผงสมเด็จวัดคำหยาด โดยพระอาจารย์บุญลือ โดยเฉพาะพระเครื่องชุดที่สร้างโดยวัดยวด ( วัดเจ้าคณะอำเภอท่าวุ้ง ในจังหวัดลพบุรี ) ล้วนเข้าผงวัดสัมฤทธิ์ทั้งสิ้น ล้วนมีประสบการณ์ ในทางค้ำชูดวงชะตา เป็นมหาสำเร็จสมปรารถนา ขอเพียงผู้ใช้ตั้งสัจจะอธิฐาน โดยไม่เกินวาสนาของตน มีความเชื่อถือกันมาในหมู่คณาจารย์ ผู้รู้ทั้งหลายว่า ผู้สร้างผงพุทธคุณวัดสัมฤทธิ์ทรงอภิญญาสูงส่ง ดำรงจิตอยู่ในพรหมวิหาร ๔ วางจิตนิ่งอยู่ในอุเบกขาเป็นนิจ เห็นเพื่อนมนุษย์และสัตว์โลกย่อมเป็นไปโดยกรรมของตน

เมื่อผู้ใดตั้งสัจจะอธิฐาน ผู้ทรงอภิญญานั้นจะคลายจิตลงสู่เมตตา กรุณา เป็นอารมณ์ จึงมีผู้คนจำนวนมากที่ใช้พระที่เข้าผงสัมฤทธิ์พบปาฏิหาริย์ในทางโชคลาภ ในทางมหาเสน่ห์ ในทางมหานิยม ในทางขอตำแหน่งหน้าที่การงาน ในทางรักษาโรคภัยไข้เจ็บ รวมไปถึงถอนคุณไสยต่างๆ ได้อย่างมหัศจรรย์..!!!!!!!!!!! เป็นที่เลื่องลือกล่าวขวัญและเสาะแสวงหาอย่างยิ่งยวดมาเท่าถึงทุกวันนี้


5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-11-20 06:11 | ดูโพสต์ทั้งหมด
>> "ผงโสฬสมหาพรหม" <<


การปลุกเสกที่วัดสัมพันธวงศ์

คุณประถมได้กล่าวถึงการปลุกเสกที่วัดสัมพันธวงศ์ไว้ในหนังสือพลังเหนือโลกซึ่งมาจากบันทึกของอาจารย์คุณประถมคือพระอริยคุณาธาร เป็นลักษณะที่พิสูจน์ยากเพราะเป็นเรื่องของการพิจารณาด้วยตาทิพย์ คนธรรมดามองไม่เห็น นำมาลงให้พิจารณาไตร่ตรองกันเอง


ในพิธีที่วัดสัมพันธวงศ์มีผู้เก่งกาจอยู่มากมายอาทิ โยคีโยฮาเล็บ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นต้นแต่ทุกคนต่างเห็นตรงกันว่าพระอริยคุณาธาร ท่านมีความรู้กว้างขวางที่สุดจนโยคีโยฮาเล็บ ขนานนามท่านว่า โยคีสันตจิตจึงเชิญท่านมาช่วยตรวจสอบการอัญเชิญพรหมชั้นต่างๆจริงเท็จอย่างไร
การปลุกเสกพระที่พระอุโบสถ วัดสัมพันธวงศ์ เจ้าการพิธีได้จัดให้มีการอัญเชิญพรหม เสด็จลงทำการปลุกเสกพระ และนิมนต์พระสงฆ์( ตามที่กล่าวถึงในเรื่องมวลสารการสร้างพระแล้วนั้น) ปลุกเสกซ้ำอีกครั้งหนึ่ง โยคีโยฮาเล็บ (อาจารย์ชื่น จันทร์เพ็ชร) บ้านพรานนก และ พ.ต.ท.ชลอ อุทกภาชน์ เป็นเจ้าพิธีอัญเชิญพระพรหม พระอริยคุณาธารได้เข้าร่วมในงานพิธีนี้ และเพื่อสอบว่าพระพรหม รับอัญเชิญมาประกอบพิธีหรือไม่


พิธีเริ่มตอนบ่าย 4 โมงโดยมีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ต่อจากนั้นโยคีโยฮาเล็บและ พ.ต.ท. ชลอฯได้ทำพิธีอัญเชิญพระพรหมเป็นภาษาปากฤตเป็นภาษาเก่าแก่ที่สุดของชมพูทวีป เก่ากว่าบาลี-สันสกฤต เมื่ออัญเชิญเสร็จแล้ว ปรากฏมีรัศมีสว่างรุ่งเรืองมาจากเบื้องบน แล้วลงมาปรากฏที่แท่นบูชาตามตำแหน่งที่เจ้าพิธีจัดไว้ สักครู่เจ้าพิธีอัญเชิญพระกาลซึ่งเป็นพรหมสูงสุดประทับทรงในร่างทรงที่เตรียมมา



ต่อนั้นอัญเชิญพระพรหมอื่นๆลงมาประทับร่างทรงที่เตรียมไว้ภายใต้การบงการของ


พระพรหมสูงสุด(คือพระกาล)


แล้วกระทำการปลุกเสกประมาณครึ่งชั่วโมง คำบริกรรมที่เหล่าพระพรหมใช้ในการบริกรรมปลุกเสกทราบจากเจ้าพิธีว่าเป็นภาษาคูโบ๊ส ซึ่งเป็นภาษาเก่าแก่ สำเนียงคล้ายภาษาแขก พระพรหมผู้ทำการปลุกเสกนั้นทราบว่าเป็นโสฬสมหาพรหมทั้งสิ้น มีพระกาลเป็นประธานในการปลุกเสก


นอกจากนั้นเจ้าพิธีได้อัญเชิญพระพรหมนารอมาประทับ ณ แท่นบูชามุมตะวันออกเฉียงเหนือของพระอุโบสถ ทำหน้าที่พิทักษืป้องกันภยันตรายจากมารที่จะมาทำลายพิธีการ พระพรหมองค์นี้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์เป็นชางลพบุรีก่อนสมัยพุทธกาล


วัยชราท่านได้ออกบวชเป็นฤาษีพร้อมพะสหายคือพญาตาไฟ บำเพ็ญพรตอยู่เขาวุ้ง(สมอคอน)ลพบุรีนี่เป็นส่วนหนึ่งในบันทึกของพระอริยคุณาธารซึ่งก็มรณภาพไปแล้ว จริงเท็จเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ท่านผู้อ่านพิจารณากันมวลสารในการสร้างพระ

จากบทความของคุณประถม( จากเรื่องฤาษี สันตจิต เส็ง ปสฺโส) กล่าวว่าท่านเจ้าคุณพระรัชมงคลมุนี ท่านทำอะไรจะต้องใหญ่และมีจำนวนมากดังนั้นการลบผงจึงทำไม่ทันแน่ ท่านจึงให้ พ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์ สิทธิวิหาริกไปดำเนินการ พ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์จึงไปหารือกับโยคีโยฮาเล็บ



ผู้เป็นอาจารย์ฝ่ายพรหมศาสตร์ ท่านโยคีโยฮาเล็บจึงประยุกต์โดยการนำว่านเกสร ดินสอพอง ปูนขาว


มาเป็นจำนวนมากขนาดต่อลังไม้ขนาดยาวบรรจุมวลสารดังกล่าว แล้วอัญเชิญวิญญาณพรหมฤาษีชั้นสูงประทับทรง


ร่ายมนตร์เสกเป่าคุ้ยกันจนฟุ้งไปหมด ส่งภาษาคูโบ๊สกันลั่นบ้าน


และในบริเวณปริมณฑลพิธีมีฝ่ายสงฆ์ประกอบพิธีอีกแรงหนึ่ง ดังในหนังสือมังคลามหานุภาพ กล่าวว่า บรรจุพระพุทธมนต์ลงในน้ำ และผงที่จะสร้างพระโดยนิมนต์อาจารย์จากหลายวัดเข้าพิธีปลุกเสกเช่น พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ)วัดบวรนิเวศวิหาร พระวรเวทย์คุณาจารย์ (เมี้ยน ปภสฺสโร)วัดพระเชตุพนวิมลมัคลาราม พระสะอาด อภิวฒฺฒโน วัดสัมพันธวงศ์ พระครูนอ วัดกลางท่าเรือ พระอาจารย์บุ่ง วัดใหม่ทองเสน พระชอบ สัมมารี วัดอาวุธวิกสิตารามเป็นต้น และยังมีผงจากพระอาจารย์ต่างๆ ว่าน108 อย่าง ดอกไม้บูชาพระ 108 ผงที่ทำด้วยดินจากท่าน้ำ7 ท่า สระ7 สระ ผงจากคัมภีร์และใบลานเก่า ผงจากดินสังเวชนียสถาน 4 แห่ง และดินจากสถานที่สำคัญในพุทธศาสนาอีก 9 แห่ง ผงปูนขาวหินจากราชบุรี ผงปูนซิเมนต์ขาว ดินเหนียวอย่างดีสีเหลือง และน้ำอ้อย นำมาประสมกับผงที่ทำใหม่บดให้ละเอียด กรองด้วยผ้าป่าน ผสมน้ำมนตร์ที่ทำไว้พิมพ์เป็นรูป พระมงคลมหาลาภบ้าง สมเด็จบ้าง ส่วนพิมพ์อื่นๆสร้างด้วยดินผสมผงเผาแล้วนำมาเข้าพิธีปลุกเสกในคราวเดียวกัน อาจารย์ประถมเขียนสรุปรายละเอียดการปลุกเสกไว้เพิ่มเติมว่า

เมื่อโยคีโยฮาเล็บ เจ้าพิธี สร้างผงวิเศษด้วยวิธีประยุกต์ของท่านแล้วอัญเชิญพรหมชั้นโสฬสมาทำการปลุกเสกผง เสร็จพิธีแล้ว



ท่านพ่อลี วัดอโศการามเข้าไปเดินดูในโบสถ์ว่าทำอะไรกัน ก็ยื่นมือไปหมายlสัมผัสดูก็สะดุ้งโหยง” เฮ้ยหยังแรงจังซี้ “


ก็เลยขอผงไป 1 บาตร เพื่อสร้างพระพุทธจักรของท่านที่วัดอโศการาม ต่อจากนั้นทางวัดก็จัดหาว่าน เกษรดอกไม้ ผงต่างๆ


ตามที่ได้เขียนรายละเอียดไปแล้ว นำไปให้อาจารย?ชอบ วัดอาวุธเป็นแม่งานจัดสร้าง เพราะมีฝีมือทางนี้ น่าเสียดายที่เนื้อพระแก่ปูนทำให้เนื้อหามวลสารไม่สะดุดตา ต่อมาก็ให้โหรวางลัคนาฤกษ์


ปลุกเสกตรงกับเพชรฆาตฤกษ์คือถือว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ในระหว่างเพชรฆาตฤกษ์ เป็นฤกษ์ชนะมาร


แต่ทางโหราศาสตร์ถือเป็นฤกษ์ที่เหมาะแก่การยาตราทัพ ฤกษ์ตีค่าย นับว่าเป็นฤกษ์แข็ง ที่หลวงพ่อพระอริยคุณษธาร บันทึกว่าปลุกเสกพระ น่าจะเป็นวาระสอง หลังการสร้างผงวิเศษ การทำพิธีก็แปลก ใช้เบ็ญจาห้าชั้นถึง1,500ต้น สำหรับประดิษฐานพระเครื่องห่อหุ้มด้วยแพรเขียว 1,500 ห่อใหญ่ๆ และถวายพระนามว่า พระมงคลมหาลาภ ( แต่มิได้ประกอบด้วยมหัทโนฤกษ์ )


อาจารย์ชั้นเยี่ยมถูกนิมนต์เข้าร่วมพิธีเป็นส่วนใหญ่ รวมระยะเวลาปลุกเสก 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยเริ่มต้นพร้อมกัน ฝ่ายพรหมช่วยเสก 1 ชั่วโมงก็กลับ ส่วนพระสงฆ์เสกต่ออีก 1 ชั่วโมงโยคีโยฮาเล็บ กับพระอริยคุณาธารก็ลงมือเสกด้วย คุณประถมบอกว่าเสียดายช่วงนั้นอยู่ชายแดนไม่งั้นอาจได้พระงดงามกว่านี้ ต่อจากนั้นก็ได้นำพระมงคลมหาลาภไปที่วัดสารนาถธรรมาราม



เพื่อเข้าพิธีพุทธาภิเษกพระประธาน โดยนิมนต์พระสายท่านอาจารย์มั่น ภิริทัตโต ประมาณ 30 รูป เสกกัน 18 วัน 18 คืน สวดลัคขีคือห้องพระพุทธคุณ อิติปิโสภควา เล่นกันแสนจบทีเดียว เป็นพระที่ตรวจพบว่าอยู่ในชั้นนพปดลเสวตฉัตรเช่นเดียวกับพระหลวงปู่ใหญ่พระครูโลกอุดร แต่รังสีไม่ใช่ทองคำเป็นสีเขียว เรื่องแคล้วคลาดอย่าบอกใครด้วยฤาษีนารอทท่านนั่งมองอยู่ ไม่ต้องเที่ยวแสวงหาพระรอดมหาวันให้เหนื่อยยาก คุณประถมกล่าวอีกว่าตัวท่านเองใช้พระครูโลกอุดร สมเด็จวัดระฆัง พระมงคลมหาลาภห้อยคอบูชา











6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-11-20 06:12 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รามเทพ เมื่อ 2017-11-20 06:14

พระผงมงคลมหาลาภทุกขนาด



การปลุกเสกที่วัดสัมพันธวงศ์

คุณประถมได้กล่าวถึงการปลุกเสกที่วัดสัมพันธวงศ์ไว้ในหนังสือพลังเหนือโลกซึ่งมาจากบันทึกของอาจารย์คุณประถมคือพระอริยคุณาธาร เป็นลักษณะที่พิสูจน์ยากเพราะเป็นเรื่องของการพิจารณาด้วยตาทิพย์ คนธรรมดามองไม่เห็น นำมาลงให้พิจารณาไตร่ตรองกันเอง

ในพิธีที่วัดสัมพันธวงศ์มีผู้เก่งกาจอยู่มากมายอาทิ โยคีโยฮาเล็บ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นต้นแต่ทุกคนต่างเห็นตรงกันว่าพระอริยคุณาธาร ท่านมีความรู้กว้างขวางที่สุดจนโยคีโยฮาเล็บ ขนานนามท่านว่า โยคีสันตจิตจึงเชิญท่านมาช่วยตรวจสอบการอัญเชิญพรหมชั้นต่างๆจริงเท็จอย่างไร
การปลุกเสกพระที่พระอุโบสถ วัดสัมพันธวงศ์ เจ้าการพิธีได้จัดให้มีการอัญเชิญพรหม เสด็จลงทำการปลุกเสกพระ และนิมนต์พระสงฆ์( ตามที่กล่าวถึงในเรื่องมวลสารการสร้างพระแล้วนั้น) ปลุกเสกซ้ำอีกครั้งหนึ่ง โยคีโยฮาเล็บ (อาจารย์ชื่น จันทร์เพ็ชร) บ้านพรานนก และ พ.ต.ท.ชลอ อุทกภาชน์ เป็นเจ้าพิธีอัญเชิญพระพรหม พระอริยคุณาธารได้เข้าร่วมในงานพิธีนี้ และเพื่อสอบว่าพระพรหม รับอัญเชิญมาประกอบพิธีหรือไม่

พิธีเริ่มตอนบ่าย 4 โมงโดยมีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ต่อจากนั้นโยคีโยฮาเล็บและ พ.ต.ท. ชลอฯได้ทำพิธีอัญเชิญพระพรหมเป็นภาษาปากฤตเป็นภาษาเก่าแก่ที่สุดของชมพูทวีป เก่ากว่าบาลี-สันสกฤต เมื่ออัญเชิญเสร็จแล้ว ปรากฏมีรัศมีสว่างรุ่งเรืองมาจากเบื้องบน แล้วลงมาปรากฏที่แท่นบูชาตามตำแหน่งที่เจ้าพิธีจัดไว้ สักครู่เจ้าพิธีอัญเชิญพระกาลซึ่งเป็นพรหมสูงสุดประทับทรงในร่างทรงที่เตรียมมา ต่อนั้นอัญเชิญพระพรหมอื่นๆลงมาประทับร่างทรงที่เตรียมไว้ภายใต้การบงการของพระพรหมสูงสุด(คือพระกาล)แล้วกระทำการปลุกเสกประมาณครึ่งชั่วโมง คำบริกรรมที่เหล่าพระพรหมใช้ในการบริกรรมปลุกเสกทราบจากเจ้าพิธีว่าเป็นภาษาคูโบ๊ส ซึ่งเป็นภาษาเก่าแก่ สำเนียงคล้ายภาษาแขก พระพรหมผู้ทำการปลุกเสกนั้นทราบว่าเป็นโสฬสมหาพรหมทั้งสิ้น มีพระกาลเป็นประธานในการปลุกเสก นอกจากนั้นเจ้าพิธีได้อัญเชิญพระพรหมนารอทมาประทับ ณ แท่นบูชามุมตะวันออกเฉียงเหนือของพระอุโบสถ ทำหน้าที่พิทักษืป้องกันภยันตรายจากมารที่จะมาทำลายพิธีการ พระพรหมองค์นี้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์เป็นชางลพบุรีก่อนสมัยพุทธกาล วัยชราท่านได้ออกบวชเป็นฤาษีพร้อมพะสหายคือพญาตาไฟ บำเพ็ญพรตอยู่เขาวุ้ง(สมอคอน)ลพบุรี

พระอริยคุณาธาร(เส็ง)

นี่เป็นส่วนหนึ่งในบันทึกของพระอริยคุณาธารซึ่งก็มรณภาพไปแล้ว จริงเท็จเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ท่านผู้อ่านพิจารณากันมวลสารในการสร้างพระ

จากบทความของคุณประถม( จากเรื่องฤาษี สันตจิต เส็ง ปสฺโส) กล่าวว่าท่านเจ้าคุณพระรัชมงคลมุนี ท่านทำอะไรจะต้องใหญ่และมีจำนวนมากดังนั้นการลบผงจึงทำไม่ทันแน่ ท่านจึงให้ พ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์ สิทธิวิหาริกไปดำเนินการ พ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์จึงไปหารือกับโยคีโยฮาเล็บ ผู้เป็นอาจารย์ฝ่ายพรหมศาสตร์ ท่านโยคีโยฮาเล็บจึงประยุกต์โดยการนำว่านเกสร ดินสอพอง ปูนขาว มาเป็นจำนวนมากขนาดต่อลังไม้ขนาดยาวบรรจุมวลสารดังกล่าว แล้วอัญเชิญวิญญาณพรหมฤาษีชั้นสูงประทับทรงร่ายมนตร์เสกเป่าคุ้ยกันจนฟุ้งไปหมด ส่งภาษาคูโบ๊สกันลั่นบ้าน และในบริเวณปริมณฑลพิธีมีฝ่ายสงฆ์ประกอบพิธีอีกแรงหนึ่ง ดังในหนังสือมังคลามหานุภาพ กล่าวว่า บรรจุพระพุทธมนต์ลงในน้ำ และผงที่จะสร้างพระโดยนิมนต์อาจารย์จากหลายวัดเข้าพิธีปลุกเสกเช่น พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ)วัดบวรนิเวศวิหาร พระวรเวทย์คุณาจารย์ (เมี้ยน ปภสฺสโร)วัดพระเชตุพนวิมลมัคลาราม พระสะอาด อภิวฒฺฒโน วัดสัมพันธวงศ์ พระครูนอ วัดกลางท่าเรือ พระอาจารย์บุ่ง วัดใหม่ทองเสน พระชอบ สัมมารี วัดอาวุธวิกสิตารามเป็นต้น และยังมีผงจากพระอาจารย์ต่างๆ ว่าน108 อย่าง ดอกไม้บูชาพระ 108 ผงที่ทำด้วยดินจากท่าน้ำ7 ท่า สระ7 สระ ผงจากคัมภีร์และใบลานเก่า ผงจากดินสังเวชนียสถาน 4 แห่ง และดินจากสถานที่สำคัญในพุทธศาสนาอีก 9 แห่ง ผงปูนขาวหินจากราชบุรี ผงปูนซิเมนต์ขาว ดินเหนียวอย่างดีสีเหลือง และน้ำอ้อย นำมาประสมกับผงที่ทำใหม่บดให้ละเอียด กรองด้วยผ้าป่าน ผสมน้ำมนตร์ที่ทำไว้พิมพ์เป็นรูป พระมงคลมหาลาภบ้าง สมเด็จบ้าง ส่วนพิมพ์อื่นๆสร้างด้วยดินผสมผงเผาแล้วนำมาเข้าพิธีปลุกเสกในคราวเดียวกัน อาจารย์ประถมเขียนสรุปรายละเอียดการปลุกเสกไว้เพิ่มเติมว่า

เมื่อโยคีโยฮาเล็บ เจ้าพิธี สร้างผงวิเศษด้วยวิธีประยุกต์ของท่านแล้วอัญเชิญพรหมชั้นโสฬสมาทำการปลุกเสกผง เสร็จพิธีแล้ว ท่านพ่อลี วัดอโศการามเข้าไปเดินดูในโบสถ์ว่าทำอะไรกัน ก็ยื่นมือไปหมายผัสสะดูก็สะดุ้งโหยง” เฮ้ยหยังแรงจังซี้ “ก็เลยขอผงไป 1 บาตร เพื่อสร้างพระพุทธจักรของท่านที่วัดอโศการาม ต่อจากนั้นทางวัดก็จัดหาว่าน เกษรดอกไม้ ผงต่างๆ ตามที่ได้เขียนรายละเอียดไปแล้ว นำไปให้อาจารย?ชอบ วัดอาวุธเป็นแม่งานจัดสร้าง เพราะมีฝีมือทางนี้ น่าเสียดายที่เนื้อพระแก่ปูนทำให้เนื้อหามวลสารไม่สะดุดตา ต่อมาก็ให้โหรวางลัคนาฤกษ์ปลุกเสกตรงกับเพชรฆาตฤกษ์คือถือว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ในระหว่างเพชรฆาตฤกษ์ เป็นฤกษ์ชนะมาร แต่ทางโหราศาสตร์ถือเป็นฤกษ์ที่เหมาะแก่การยาตราทัพ ฤกษ์ตีค่าย นับว่าเป็นฤกษ์แข็ง ที่หลวงพ่อพระอริยคุณษธาร บันทึกว่าปลุกเสกพระ น่าจะเป็นวาระสอง หลังการสร้างผงวิเศษ การทำพิธีก็แปลก ใช้เบ็ญจาห้าชั้นถึง1,500ต้น สำหรับประดิษฐานพระเครื่องห่อหุ้มด้วยแพรเขียว 1,500 ห่อใหญ่ๆ และถวายพระนามว่า พระมงคลมหาลาภ ( แต่มิได้ประกอบด้วยมหัทโนฤกษ์ ) อาจารย์ชั้นเยี่ยมถูกนิมนต์เข้าร่วมพิธีเป็นส่วนใหญ่ รวมระยะเวลาปลุกเสก 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยเริ่มต้นพร้อมกัน ฝ่ายพรหมช่วยเสก 1 ชั่วโมงก็กลับ ส่วนพระสงฆ์เสกต่ออีก 1 ชั่วโมงโยคีโยฮาเล็บ กับพระอริยคุณาธารก็ลงมือเสกด้วย คุณประถมบอกว่าเสียดายช่วงนั้นอยู่ชายแดนไม่งั้นอาจได้พระงดงามกว่านี้ ต่อจากนั้นก็ได้นำพระมงคลมหาลาภไปที่วัดสารนาถธรรมาราม

เพื่อเข้าพิธีพุทธาภิเษกพระประธาน โดยนิมนต์พระสายท่านอาจารย์มั่น ภิริทัตโต ประมาณ 30 รูป เสกกัน 18 วัน 18 คืน สวดลัคขีคือห้องพระพุทธคุณ อิติปิโสภควา เล่นกันแสนจบทีเดียว เป็นพระที่ตรวจพบว่าอยู่ในชั้นนพปดลเสวตฉัตรเช่นเดียวกับพระหลวงปู่ใหญ่พระครูโลกอุดร แต่รังสีไม่ใช่ทองคำเป็นสีเขียว เรื่องแคล้วคลาดอย่าบอกใครด้วยฤาษีนารอทท่านนั่งมองอยู่ ไม่ต้องเที่ยวแสวงหาพระรอดมหาวันให้เหนื่อยยาก คุณประถมกล่าวอีกว่าตัวท่านเองใช้พระครูโลกอุดร สมเด็จวัดระฆัง พระมงคลมหาลาภห้อยคอบูชา

….หลังจากอ่านแล้ว ถึงรู้ว่า พระผงมงคลมหาลาภนั้น ไม่ได้สร้าง 84,000 องค์ มีเพียง 15,000-17,000 องค์เท่านั้น
น่าจะมีพระพิมพ์อื่นที่ร่วมสร้างจนครบจำนวน 84,000 องค์

และเป็นที่เชื่อได้ว่าพระผงมงคลมหาลาภนั้นสร้างจากผงโยคีฮาเล็บล้วนๆ

https://prasaksit.wordpress.com


ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้