"นครพนม" สร้างองค์พญาศรีสัตตนาคราช - Baan Jompra

วันนี้ (26 ส.ค.59 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากการเติบโตของการท่องเที่ยว จังหวัดนครพนมที่มีอย่างต่อเนื่อง ด้วยจังหวัดนครพนมนั้นมีสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย ทั้งที่เป็นโบราณสถาน โบราณวัตถุ สถานที่รำลึกประวัติศาสตร์ที่สำคัญ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมถึงที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวนครพนม โดยเฉพาะเส้นทาง 3 ที่สุด ของจังหวัดนครพนม ประกอบไปด้วยสวยที่สุดอย่างสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 นครพนม – คำม่วน งามที่สุดในเรื่องวิวทิวทัศน์ริมสองฝั่งโขง และศักดิ์สิทธิ์ที่สุดอย่างองค์พระธาตุพนม แต่อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพในด้านการท่องเที่ยวให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เข้าสู่อาเซียนแล้วนั้นหมายถึงเม็ดเงิน ที่จะก่อให้เกิดเป็นรายได้กับพี่น้องประชาชนจำนวนมหาศาล อันจะเป็นการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน

ดังนั้นจังหวัดนครพนม จึงวางแผนขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยว โดยการสร้างแลนด์มาร์คเพิ่มเติม โดยการสร้างองค์พญาศรีสัตตนาคราช ขึ้นมาดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยงบประมาณกว่า 9,000,000 สำหรับที่มาขององค์พญาศรีสัตตนาคราช นั้นก่อสร้างขึ้นตามความเชื่อ ความศรัทธาของชาวนครพนม ที่มีประวัติและเรื่องเล่ามาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ถึงความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิฤทธิ์ต่างๆขององค์พญาศรีสัตตนาคราช ที่คอยดูแลปักปักษ์รักษาคนในแถบลุ่มน้ำโขง

โดยแลนด์มาร์คแห่งนี้ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงการประกอบองค์พญาศรีสัตตนาคราชที่มีความสูงประมาณ 9 เมตร หล่อขึ้นรูปด้วยโลหะทองเหลืองทั้งตัวเข้ากับแท่นประดิษฐาน กว้าง 6 เมตร ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะมีความสูงถึง 14 เมตรเลยทีเดียว สำหรับลักษณะองค์พญาศรีสัตตนาคราช นั้นจะขดตัว ชูเศียร 7 เศียรพ่นน้ำไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ลงสู่แม่น้ำโขง โดยจะตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพริมแม่น้ำโขง บริเวณลานพนมนาคา ถนนสุนทรวิจิตร หน้าสำนักงานป่าไม้ที่ 6 นครพนม เพื่อให้นักท่องเที่ยว ผู้ที่มีความศรัทธา และประชาชนได้เดินทางมากราบไหว้ขอพร ตลอดจนถ่ายภาพเก็บความทรงจำดีๆเอาไว้

โดยจังหวัดได้กำหนดจัดพิธีบวงสรวงใหญ่ พิธีพุทธาภิเษก และพิธีสมโภชใหญ่ รวม 9 วัน 9 คืนระหว่าง วันที่ 9 – 17 กันยายน 2559 จึงขอเชิญพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยวและผู้มีจิตศรัทธามาร่วมประกอบพิธีในครั้งนี้ด้วยกันเพื่อความเป็นสิริมงคล