Baan Jompra
ชื่อกระทู้: ท่านบ๋าวเอิง [สั่งพิมพ์]
โดย: oustayutt เวลา: 2016-9-22 23:10
ชื่อกระทู้: ท่านบ๋าวเอิง
§ ผู้เปิดปรโลกสื่อสารวิญญาณ §
....หลวงพ่อบ่าวเอิง วัดญวณฯ….
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
ในวาระนี้อยากนำเรื่องราวของท่าน องสรภาณมธุรส หรือ หลวงพ่อบ๋าวเอิง วัดญวณสะพานขาว (วัดสมณานัมบริหาร) ตามเคยได้เกริ่นไปบ้างแล้วว่าท่านเป็นหนึ่งในศิษย์ของ หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร และอยากบอกเล่าให้ทราบกันถึงพรสวรรค์ของท่านว่า ท่านเป็นผู้ยิ่งในทางวิญญาณศาสตร์ สามารถสื่อสารติดต่อกับเหล่าดวงวิญญาณได้สุดแสนอัศจรรย์ แต่ในส่วนประวัติการได้พบกับหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร นั้นขอยกไปกล่าวในวาระต่อไป เพื่อไม่ให้เนื้อหาปะปนและยืดเยื้อจนเกินไป
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
¤ เชิญวิญญาณเสด็จในกรมฯ ¤
หลวงพ่อบ๋าวเอิงท่านเคยอัญเชิญวิญญาณบุคคลสำคัญหลายท่าน เช่น วิญญาณของนายพลเรือโท พระวรวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๐๒ โดยมาประทับทรงสตรีวัยกลางฅนผู้หนึ่งชื่อ นางเยื้อน อายุ ๓๔ ปี มีอาชีพทำสวน ภูมิลำเนาอยู่ตำบลตลิ่งชัน (สมัยนั้น) มีความรู้เพียงประถมปีที่ ๓ และอ่านเขียนหนังสือไม่ใคร่ได้เท่าใดนัก ต่อเมื่อดวงพระวิญญาณได้เข้าประทับทรง ปรากฏว่าสามารถเขียนยันต์ด้วยตัวอักษรขอม และภาษาคูโบ๊สผสมกันได้สวยงามถูกต้อง เรื่องนี้เป็นสิ่งที่หาคำตอบทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ชัดเจน แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดว่าทำไมสตรีชาวบ้านธรรมดา สามารถเขียนภาษาเทพและภาษาขอมได้ถูกต้อง
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
ในระหว่างพระอาจารย์สามรูป คือ หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา - หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด – หลวงพ่อบ๋าวเอิง ท่านทั้ง ๓ มีความสนิทสนมเกี่ยวเนื่องกันแนบแน่นพอสมควร แม้นอยู่ห่างไกลกันแต่ท่านมักติดต่อสื่อสารกันโดยส่งกระแสจิตกันอยู่บ่อยครั้ง ตัวอย่างคราวหนึ่งหลวงพ่อบ๋าวเอิงจะทำพิธีเรียกวิญญาณของเด็กชายผู้หนึ่ง ท่านต้องการให้ดวงวิญญาณอขงเด็กผู้นี้กลับมาเข้าร่างดังเดิม หลวงพ่อบ๋าวเอิงจึงส่งกระแสจิตไปปรึกษากับหลวงพ่อโอภาสี ซึ่งหลวงพ่อโอภาสีทักท้วงว่า
--
#หลวงพ่อโอภาสี :
** วิญาณเด็กผู้นั้นแข็งนักและได้ไปอุบัติเป็นเทพยดาไม่กลับมาอีกแล้ว ขืนเรียกมาก็คงไม่มาแต่อาจมีวิญญาณอื่นมาเข้าร่างแทน อันจะเป็นศัตรูกับบิดา-มารดา และวงศาคณาญาติของเด็กผู้นั้น ก็จะเกิดความวิบัติในครอบครัวเด็กผู้นั้นนานาประการ **
--
หลวงพ่อบ๋าวเอิงท่านก็เชื่อและเห็นด้วยในคำแนะนำของหลวงพ่อโอภาสี
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
¤ เด็กน้องผู้ที่ร่างไม่เน่าเปื่อย ¤
เรื่องวิญญาณเด็กที่ตายไปแล้วผู้นี้ มีผู้เล่าถึงเรื่องราวเป็นมาว่า :-
เด็กชายผู้นี้ชื่อปั๋ม อายุราว ๑ ขวบปี พ่อ – แม่ เป็นเศรษฐีมีลูกเพียงฅนเดียว เด็กผู้นี้ป่วยเป็นไข้ วันเดียวตาย ทุกฅนอาลัยรักมากจึงเก็บศพใส่โลงไว้ในบ้าน พ่อ-แม่ ก็เปิดดูอยู่ทุกวันด้วยความรักอาลัย แต่ก็ได้รับความแปลกใจอย่างมากที่เห็นว่าเวลาผ่านไปตั้ง ๗ วันแล้ว เด็กชายปั๋มก็ไม่เน่า ต่อมา พ่อ-แม่ ของเด็กได้มานิมนต์หลวงพ่อบ๋าวเอิง ไปทำพิธีกงเต๊กที่บ้านคลองสิบ ทำบุญสามสิบวันให้แก่เด็ก หลวงพ่อบ๋าวเอิงก็เปิดโลงออกดู ปรากฏว่าเวลาผ่านไปตั้ง ๓๐ วัน แต่ร่างเด็กก็ยังหาเน่าเปื่อยไม่ คงมองดูเหมือนเด็กชายปั๋มกำลังนอนหลับสบายอยู่อย่างฅนธรรมดา ซ้ำเนื้อหนังก็ยังไม่เหี่ยวแห้ง เหล่าวงศาคณาญาติต่างมากอด ส่งเสียงร้องไห้โศกเศร้า โศกา ด้วยความอาลัยรัก พวกชาวตลาดคลองสิบที่มาร่วมงานก็มามุงดู พอเห็นก็ร้องไห้กันขึ้นส่งเสียงระงมด้วยความอาลัย หลวงพ่อบ๋าวเอิงเห็นว่าจะเอิกเกริกกันไปใหญ่ จึงสั่งให้รีบบรรจุจัดแจงปิดโลงศพไว้ดังเดิม
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
¤ พิธีเรียกวิญญาณเด็กน้อย ¤
ต่อมาเหล่าญาติ และ พ่อ-แม่ ของเด็กชายปั๋ม จึงขอร้องให้หลวงพ่อบ๋าวเอิง ใช้วิชาช่วยเชิญวิญญาณของเด็กชายปั๋ม มาผ่านร่างมาเพื่อไต่ถามทุกข์สุขในปรโลก หลวงพ่อบ๋าวเอิงท่านก็รับนิมนต์ ได้เดินทางไปบ้านคลองสิบ แล้วทำพิธีบนบ้านหลังใหญ่ของปู่ เด็กชายปั๋ม ในการนี้มีเหล่าญาติสนิทและชาวตลาดคลองสิบที่คุ้นเคยกับครอบครัวราว ๑๐ กว่าฅนอยู่ร่วมพิธี หลวงพ่อบ๋าวเอิง นำดอกไม้และธูปเทียนบูชาพระและเทพเทวดา แล้วเดินเอาธูปไปปักไว้นอกตัวบ้าน แล้วหันมาสั่งให้ทุกฅนมองดูที่ควันธูป ส่วนตัวหลวงพ่อก็เข้าที่นั่งบริกรรมภาวนามนต์วิเศษ
--
เวลาผ่านไปราว ๕ นาที จู่ จู่ ปรากฏว่ามีเด็กหญิงผู้หนึ่ง มีศักดิ์เป็นน้าของเด็กชายปั๋มได้กรีดร้อง !! แล้วล้มฟุบลงนั่งพับเพียบ หลวงพ่อบ๋าวเอิงทำพิธีต่ออีกครู่หนึ่ง แล้วจึงหันมาซักถามได้ความว่า ท่านผู้ที่มาเข้าสิงร่างเด็กสาวนั้น ท่านเป็นเทวดาประจำทิศทั้งสี่ เมื่อทราบว่าทุกฅนต้องการพบเด็กชายปั๋มจึงช่วยนำพามา พูดจบวิญญาณเทพท่านก็ออกไป ครู่หนึ่งวิญญาณของเด็กชายปั๋มก็เข้าสวมร่างต่อ หลวงพ่อบ๋าวเอิง ก็สั่งให้ผู้สิงเรียกชื่อ ปู่ - ย่า -พ่อ - แม่ ตลอดจนญาติทุกฅนก็บอกได้ถูกต้องหมด แม้นญาติที่จากบ้านไปอยู่กรุงเทพฯ นานแล้ว ตัวผู้เป็นน้าสาว (ร่างทรง) ไม่รู้จักก็สามารถบอกชื่อได้ถูกต้องหมด
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
¤ วิญญาณไปอุบัติในภพภูมิใหม่ ¤
หลวงพ่อบ๋าวเอิงจึงถามวิญญาณในร่างนั้นว่า เมื่อตายแล้วบัดนี้ไปอยู่ ณ ที่แห่งใด ก็ได้ความจากวิญาณว่าไปอยู่เมืองบาดาล เหตุที่ไปอยู่เมืองบาดาลไม่ได้ไปสวรรค์ ก็เพราะเด็กชายปั๋มนั้นในอดีตเคยเป็นบุตรของพญานาคชื่อว่า เล่งจืออ๋อง ส่วนที่มาเกิดในเมืองมนุษย์ก็เพราะมาท่องเที่ยวชั่วคราว ขอทุกท่านอย่าได้เป็นห่วงใยเลย ผลสุดท้ายวิญญาณอดีตเด็กชายปั๋มที่บัดนี้เป็นนาคมานพ ได้สั่งให้ญาติพี่น้องนำเอาร่างของตนนี้มาบรรจุไว้ที่ วัดสัมณานัมบริหาร (วัดญวนสะพานขาว) พระนคร
............
❀
โดย: oustayutt เวลา: 2016-9-22 23:11
❀❀❀❀❀❀❀
............
¤ รักษาอาการป่วยด้วยวิธีประหลาด ¤
หลวงพ่อบ๋าวเอิงรูปนี้นอกจากเชี่ยวชาญในพิธีกรรมเชิญวิญญาณทั้งหลายแล้ว ท่านยังมีความสามารถทางรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างอัศจรรย์ เช่น รักษาฅนเป็นโรคอัมพาตให้หายจนเดินได้เป็นปกติ โดยใช้เวลารักษาเพียงไม่กี่วัน เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๙๗ หนังสือพิมพ์ศรีกรุง ได้เคยนำเรื่องราวของท่านตีพิมพ์จนเป็นข่าวอย่างเอิกเกริกเกี่ยวกับ หลวงพ่อบ๋าวเอิง ว่า #หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ชุบฅนเดินได้ ข้อความในหนังสือพิมพ์พอสรุปได้ว่า
--
**หลวงพ่อวัดญวณ หรือ องค์พจนะสุนทร (สมณะศักดิ์ในสมัยนั้น) ได้รักษาฅนไข้ด้วยวิธีแปลก โดยที่ท่านไม่ค่อยมีความชำนาญในทางแพทย์ และทางตัวยาซักเท่าใด แต่เมื่อมีผู้เจ็บไข้มาขอให้ท่านช่วย ท่านก็ได้ใช้วิธีบำเพ็ญตะบะด้วยสมาธิจิตอย่างเต็มที่ โดยยึดพระรัตนะตรัยเป็นที่พึ่ง และด้วยพลังอำนาจจิตอันบริสุทธิ์นี้เอง จึงประจักษ์แจ้งด้วยญาณวิเศษถึงเครื่องยาสมุนไพร พร้อมทั้งมนต์และวิชารักษาผู้ป่วย อันมีคุณานุภาพพอที่จะรักษาฅนไข้เจ็บนั้นให้คลายหายได้ (ทราบในสมาธิ) อันโรคทั้งหลายที่ท่านรักษาได้หายนี้ ท่านจะใช้วิธีเข้าสมาธิสอบถามวิธีและตัวยาจากในสมาธิเช่นนี้ น่าแปลกที่โรคทั้งหลายที่ท่านรักษาก็หายคลายลงได้อย่าไม่น่าเชื่อแทบทุกราย**
--
ที่เสนอไปนี้เป็นเรื่องราวเพียงเสี่ยวหนึ่งของ หลวงพ่อบ๋าวเอิง วัดญวณสะพานขาว แท้จริงเรื่องราวของท่านล้วนแปลกอัศจรรย์ ทั้งมีเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับ หลวงปู่เดินหน อิเกสาโร อยู่อีกพอสมควรที่ล้วนน่าสนใจ ในโอกาสต่อไปจะขอนำเรื่องราวที่น่าสนใจมานำเสนอต่อไป เพื่อให้ผู้ฅนรุ่นหลังได้ทราบถึงความอัศจรรย์ สิ่งลี้ลับและเรื่องราวของโลกวิญญาณที่น่าศึกษายิ่ง ให้รับรู้เตือนใจว่า #โลกหลังความตายมีจริง #บาปบุญมีจริง เพื่อให้ตั้งมั่นในความสุจริตเป็นสัมมาทิฏฐิ เพื่อห่างไกลความผิดชั่วบาปทั้งปวง อันเป็นการปิดหนทางสู่อบายภูมิเทอญ
............
#คลิปเสียงเรื่องหลวงปู่เดินหน
https://youtu.be/-5CZ7ijHCtM
**
............
#ไม่ใช่พวกใส่ชุดขาวหลับตาเพื่อสร้างภาพ
#เป็นเพียงแค่ฅนบาปที่ผ่านมา
// #ฅนขลัง #คลังวิชา //
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
สนใจบทความติดตามได้
โดยกด ==>> #Likeเพจ << ==
ทุก #Like / #Share คือ กำลังใจ
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนใจ •:*
❀❀❀❀❀❀❀❀
..........
เขียน / เรียบเรียง โดย : ฅนขลัง คลังวิชา
..........
Cr. ข้อมูลและภาพประกอบบทความจาก
หนังสืออิทธิปาฏิหาริย์เกจิอาจารย์
โดย ดวงธรรม โชนเชิดประทีป
flash-mini.com
watkaokrailas.com
oknation.net
bloggang.com
โดย: Sornpraram เวลา: 2016-9-23 06:50
โดย: oustayutt เวลา: 2017-1-1 10:52
เรื่องของท่านบ๋าวเอิง
เก็บความจากหนังสือประสบการณ์ทางวิญญาณเล่มที่ ๑๔ ของคุณทองทิว สุวรรณทัต
โพสท์ในเวบสวนขลังดอทคอม เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2551
องสรภาณมธุรส หรืออีกนัยหนึ่งคือ ท่านบ๋าวเอิง แห่งวัดญวนสะพานขาวเคยเล่าว่า มีเด็กคนหนึ่งตายได้หนึ่งเดือนแล้วแต่ร่างกายไม่เน่าเปื่อย บิดา-มารดาของเด็กได้มาหาท่านขอให้ช่วยชีวิตลูกของเขากลับคืนมา ท่านบ๋าวเอิงฟังเรื่องการไม่เน่าไม่เปื่อยของเด็กที่ตายไปแล้วก็อยากจะรู้ ความจริง จึงได้ทำพิธีเรียกวิญญาณเด็กคนนั้นมาถามก็ได้ความว่า
"เป็นลูกชายพญานาคมาเที่ยวเมืองมนุษย์ ถึงเวลาแล้วต้องกลับ"
บิดา-มารดาของเด็กทราบความก็อยากให้ลูกฟื้นคืนชีวิตมาอีก ซึ่งเรื่องนี้ท่านบ๋าวเอิงได้บอกกับลูกศิษย์ที่อยู่ในที่นั้นว่า
"อาตมาขอปรึกษาท่านโอภาสีที่บางมดก่อน"
ลูกศิษย์ท่านบ๋าวเอิงถามว่า "หลวงพ่อจะไปถึงบางมดเชียวหรือครับ"
ท่านบ๋าวเอิงตอบว่า "เดี๋ยวจะนิมนต์วิญญาณท่านโอภาสีมา"
ลูกศิษย์จึงแย้งว่า "ท่านโอภาสียังมีชีวิตอยู่วิญญาณของท่านจะมาได้อย่างไร"
ท่านบ๋าวเอิงจึงบอกว่า "ตามปกติท่านโอภาสีฉันเพลแล้วจะทำสมาธิถอดวิญญาณออกจากร่างไปเที่ยวในที่ ต่างๆ ได้"
เมื่อได้เวลาท่านบ๋าวเอิงก็เข้ากุฏิทำสมาธินิมนต์วิญญาณ ท่านโอภาสีมาสนทนาถามไถ่ถึงปัญหาต่างๆจากนั้นจึงเล่าให้ลูกศิษย์ฟังในเวลา ต่อมาว่า
"หลวงพ่อโอภาสีมาบอกว่าวิญญาณของเด็กคนนี้แข็งมากเพราะ เป็นลูกชายของพญานาคมาจุติ เมื่อออกจากร่างเด็กก็ไปเลยไม่กลับมาอีก ถ้าจะให้เด็กมีชีวิตอยู่ต่อ ก็ต้องให้วิญญาณของคนตายไม่นานมาเข้าร่างเด็กแทน ถ้าวิญญาณใหม่ที่เข้าร่างเด็กนี้เป็นอริกับพ่อ-แม่ก็จะล้างผลาญพ่อ-แม่ให้ เกิดความเสียหายได้ ไหนๆ เด็กก็ตายไปแล้วอย่าได้อาลัยอยู่เลย เร่งทำบุญต้อนรับลูกคนใหม่เถิด" นอกจากนี้ท่านบ๋าวเอิง ยังได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับวิญญาณอีกว่า
วันหนึ่งใน พ.ศ.๒๔๘๙ นายเซ่งหลี ลืออำรุงได้มานิมนต์ทำพิธีกงเต็กให้แก่บิดาชื่อ นายฮ้วย แซ่หลือ ซึ่งได้ถึงแก่กรรมเมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒
พิธีกงเต็กเริ่มขึ้นเมื่อเวลา ๑๖.๐๐ น. โดยให้เจ้าภาพสมาทานศีลและสอนเจ้าภาพให้อธิษฐานบูชาธูปต่อพระรัตนตรัย อัญเชิญมาเป็นองค์ประธานสูงสุด กล่าวชุมนุมเทพเจ้าทั้งสิบทิศ มีพระสยามเทวาธิราชเป็นต้นเป็นองค์ทิพยพยานแล้วพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
ต่อจากนั้นก็ถึงพิธีเชิญวิญญาณของนายฮ้วย แซ่หลือ มาสู่ดวงวิญญาณทิพย์ (ที่สมมติทำด้วยกระดาษให้วิญญาณสถิตย์) พระสงฆ์สวดพระคาถามีการบรรเลงมโหรีคลอไปตามทำนองลีลาการสวดในพิธีกงเต็ก
เวลาล่วงเลยไปประมาณ ๑๘.๐๐ น. ขณะที่ท่านบ๋าวเอิงสำรวมจิตภาวนาระลึกถึงพระบารมีของพระพุทธองค์ ให้ทรงโปรดประทานนำดวงวิญญาณของนายฮ้วย แซ่หลือ มาสิงสถิตในดวงวิญญาณทิพย์ เพื่อวิญญาณจะได้ฟังธรรม จำศีล รับส่วนกุศลผลศีลผลทานของบุตรผู้มีความกตัญญูกตเวที อุทิศให้
พอสักครู่ได้เกิดนิมิตเห็นแสงสว่างดังดวงไฟฉายส่องแสง เป็นลำพุ่งมายังตัวของท่านเป็นทางยาว จากต้นตอที่มาของแสงสว่างเป็นจุดเล็กๆเคลื่อนเข้ามาทุกที จนปรากฏชัดเป็นภาพของมนุษย์สวมเสื้อกุยเฮง กางเกงปั๋งลิ้นสีดำ ร่างกายผอมหลัง ค่อมเล็กน้อย กิริยาท่าทางที่เดินเข้ามาดูเร่งรีบ เมื่อมาใกล้ดวงวิญญาณทิพย์ก็หายวับ
ท่านบ๋าวเองบอกว่า "ท่านไม่เคยเห็นตัวจริงหรือแม้แต่ภาพถ่ายของผู้ตายมาก่อนเลย แต่เมื่อบุตรของผู้ตายนำมาให้ดูภายหลังหน้าตาก็เหมือนกับที่ท่านได้เห็นในนิมิต"
เก็บความจากหนังสือประสบการณ์ทางวิญญาณเล่มที่ ๑๔ ของคุณทองทิว สุวรรณทัต
เรื่องของหลวงพ่อบ๋าวเอิงนั้นขอขัดตาทัพเอาไว้ก่อนเพียงแค่นี้ เรื่องอื่นๆ รอคุณรณธรรมมาเล่า โดยเฉพาะ เรื่องเชิญวิญญาณพ่อปู่หมอชีวกโกมารภัตมา ปรากฏที่เล็บมือเพื่อปั้นรูป เดี๋ยวคุณรณธรรมไม่ได้ออกโรงเอง สมาชิกที่รออยู่จะได้หายเหงา หายคิดถึง
โดย: Sornpraram เวลา: 2017-1-3 07:47
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) |
Powered by Discuz! X3.2 |