เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าจากปากหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้เล่าไว้ถึง หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ผู้มีอภิญญาขั้นสูงสามารถล่วงรู้วาระจิตและอนาคตได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังมีเมตตามาก ใครกำลังตกทุกข์ได้ยาก หากท่านเห็นว่าคนๆ นั้นจะมีโชค ท่านจะบอกหวยให้ แต่หากว่ามีโชคเพียงน้อยหรือไม่มีเลย ท่านก็จะบอกให้เล่นน้อย หรือไม่ก็บ่ายเบี่ยงไปเลย ...ดังเรื่องราวต่อไปนี้...
“ เรื่องการให้หวยและการรู้หวยนี่ มีนักวิพากษ์วิจารณ์กันมากสำหรับอาตมาเองเมื่อก่อนนี้ก็เป็นนักต่อต้านเหมือนกัน ไม่เชื่อเขา เมื่อสมัยที่เลขท้าย 3 ตัวออกมาใหม่ๆ ได้ยินข่าวว่าพระวัดนั้นให้หวย พระวัดนี้ให้หวย ก็สงสัยว่าเขาจะรู้ได้ยังไงเมื่อเลขหวยยังไม่ออก ก็อุตส่าห์วิ่งเรือตระเวนไปทั่วทิศทั่วทาง ไปในที่ต่างๆ ว่าพระอาจารย์องค์ไหนให้หวยก็ไปขอท่าน ขอให้เขียนเลขมา บางอาจารย์ก็ถูกเพียง 2 ตัวบ้าง บางอาจารย์ก็ถูกตัวเดียว บางอาจารย์ไม่ถูกเลย บางรายก็ให้มาเป็น 2 ชุด 3 ชุด นี่แสดงว่าไม่รู้จริง ก็เลยเอาเรื่องแน่นอนอะไรไม่ได้
ในที่สุดก็ไปพิสูจน์หลวงพ่อเขียน หลวงพ่อเขียนวัดบางขุนเณร ท่านให้มา 20 งวด รางวัลที่ 1 เขียน 6 ตัว ตรงหมดทุกงวด แต่ว่ารับปากกับท่านว่าจะไม่เล่นก็ไม่เล่น เอามาดู นี่เรื่องหลวงพ่อเขียนยังไม่ถึง ทิ้งไว้ก่อนนะ มาว่ากันถึงหลวงพ่อจง
เรื่องการให้หวยนี่นะ บรรดาท่านผู้ฟัง พระที่ได้อตีตังสญาณ หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ว่ากันง่ายๆ ก็คือทิพยจักขุญาณ ถ้าได้แล้วนะ เขารู้หวยได้ แต่เขาก็รู้เหมือนกันว่าคนที่มาขอเขาน่ะ จะถูกหรือไม่ถูก จะมีลาภหรือไม่มีลาภ ในเมื่อรู้หวยได้ก็ต้องรู้ใจคนได้ รู้วาสนาบารมีของคนได้ ถ้าคนที่ไม่มีลาภให้ไปตรงๆ เสร็จ พระมีความผิดถ้าเป็นคนที่มีลาภ ให้ได้
แต่ว่าถ้ารู้ว่าเขาจะเล่นมากเกินไป ก็ต้องให้แบบพลิกแพลง ต้องให้คิด แล้วให้หลายๆ แบบ ต้องไปซื้อหลายๆ แบบ เงินจะได้น้อยลงมา หรือถ้าหากรู้ว่าเขาจะเล่นไม่เกินกำหนดก็ให้ตรงๆ ได้ แล้วก็ถ้าหากว่าท่านสงสัย ว่าพระทำไมถึงไม่เล่นเอง อย่าลืมนะ ว่าการรู้หวยจะต้องตัดโลภะ ความโลภในจิตของตนออก ถ้าตัวเองมีความโลภทะเยอทะยานอยากอยู่ รู้ไม่ได้ แบบเดียวกับคนเห็นทรัพย์ใต้ดินเหมือนกัน ถ้ายังอยากจะขุดทรัพย์ใต้ดินอยู่ ก็ไม่มีทางเห็นได้
ถ้าหากว่ามีปฏิญาณในใจ มีสัจจะในใจว่าเราจะไม่รบกวนทรัพย์สินของเขา มันอยู่ที่ไหนเราก็จะเห็นได้ตามอัธยาศัย ที่ต้องการจะเห็น บางทีไม่ต้องการจะเห็นก็เห็นเลย เขาก็ชี้อวดเสียด้วยว่ามีทองเท่านั้นมีเงินเท่านั้น มีเพชร มีพลอยเท่านี้ นี่เป็นเรื่องของจิตบริสุทธิ์ เรื่องการเห็นหวยเขาก็เห็นได้ หลักสูตรในพระพุทธศาสนามี
เคยเห็นลงหนังสือพิมพ์บ้าง พูดกันบ้าว่าถ้าพระรู้หวยจริงๆ แล้วก็จะต้องเรี่ยไรทำไม ทำไมไม่ซื้อหวยเล่นเสียเอง จะได้สร้างวัดให้มันสวย นี่ก็ว่ากันประเภทคนไม่มีความรู้ในเรื่องราวของพระพุทธศาสนาจริง ถ้าจะรู้ก็รู้ตามตำราว่าดะไปยังงั้น ศีล 5 ก็ไม่ครบ สรณาคมน์ก็ไม่ครบ คนประเภทนี้รู้จริงไม่ได้ คนจะรู้จริงได้ต้องเป็นคนมีศีล 5 ครบ มีสรณาคมน์ครบถ้วน แล้วก็มีอะไร มีนิวรณ์ 5 ระงับได้ตามอัธยาศัย สามารถสร้างทิพยจักขุญาณให้ปรากฏ แต่ว่าการจะทำแบบนี้ได้ จิตโลภะ โทสะ โมหะ มันต้องบาง ถ้ายังหนาอยู่ไม่มีทาง ถ้ากิเลสยังท่วมตัวอยู่ เลยหัวไปนิดๆ ไม่มีทางเพราะกิเลสมันทับลูกตา บังลูกตาเสีย เหมือนกับคนเราเอาตัวจมลงไปในดินเลยศีรษะแล้วก็กลบเสียด้วย จะมองเห็นคนเดินบนภาคพื้นดินได้ยังไง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าของเล็กๆ แล้วยิ่งไม่เห็นใหญ่ ข้อนี้มีอุปมาฉันใด คนเราถ้ามีกิเลสเลยศีรษะ มันทับลงมาหมด เหมือนกับดินที่มาทับคนหนาทึบไปหมดจะมองเห็นหวยได้ยังไง
ตานี้ คนที่จะเห็นหวยได้ก็ต้องเป็นคนดีมีกิเลสบาง จิตนะอาด ไม่มีความโลภ ไม่คิดว่าจะทำลายทรัพย์สินของเขา นี่ว่ากันถึงคนที่รู้จริงนะ แล้วก็รู้ด้วยว่าตัวควรจะซื้อหรือไม่ซื้อ ควรจะเล่นหรือไม่เล่น ถ้าคิดว่าจะเล่น เจ๊ง เพราะความโลภมันเกิด ต่อไปรู้เหมือนกัน รู้ใหม่ คราวนี้รู้ชัดกว่าเก่า แต่กินหมดไม่ตรงตามความเป็นจริง นี่เล่าสู่กันฟัง
ทีนี้มาว่ากันถึงคนเล่นหวยสีกุก ตาคนนี้แกชื่ออะไรจำไม่ได้ อาตมาเคยเห็นหน้าแก เคยคุยกัน แต่เวลานี้นึกชื่อไม่ออก วันหนึ่งแกไปหาหลวงพ่อจง อาตมานั่งอยู่ที่นั่น ไปกราบๆ บอกขอหวยสัก 3 ตัว บอกตรงๆ เวลานั้นเป็นเดือนเมษา คือเดือน 5 แกบอกว่าเดือน 6 คือเดือนพฤษภาจะบวชลูกชาย แล้วตั้งใจจะซื้อหวยเลขที่หลวงพ่อจงให้ไปสัก 200 บาท บอกราคาเสร็จ บอกว่าจะเอาเงินบวชลูกชาย หลวงพ่อจงบอกให้ก็ไม่เล่น แกบอกว่าเล่นขอรับท่านก็บอกว่าเอาเถอะน่า ถึงให้ไปก็ไม่ซื้อหรอกหวยของฉันน่ะ แกไม่ซื้อ แกยังไม่มีลาภ แกก็เลยบอกว่าขอให้หลวงพ่อให้ก็แล้วกันผมต้องซื้อแน่ ท่านก็ยืนยันว่าตาคนนี้ไม่ซื้อ ในที่สุดอาตมาก็ยกมือขึ้นพนม กราบเรียนท่านว่าหลวงพ่อ ให้เขาเถอะขอรับ เขาจะซื้อหรือไม่ซื้อก็เป็นเรื่องของเขา เพราะตั้งใจจะไปทำบุญ ท่านก็มองๆ หน้าอาตมา แล้วบอกให้ได้แต่ไม่ซื้อ คนนี้ยังไม่มีลาภ เขาก็ถามว่าเลขอะไร ท่านก็เลยบอก เขียนให้ก็ได้ ท่านก็เขียนให้สามตัว แล้วท่านบอกไม่ต้องกลับนะ หวยรางวัลที่ 1 คราวนี้ออกตามนี้ ตาคนนั้นได้แล้วก็เอาใส่กระเป๋าไป อาตมาก็ขอลอกเขาไว้ อยากจะรู้ว่าหวยออกจริงตามนั้นไหม
เมื่อเวลาหวยออกจริงๆ ตรงเป๋งไม่ต้องกลับ แล้วไปฟังข่าวว่าตานั่นแกรวยเท่าไหร่ มีเรือยนต์อยู่ลำหนึ่งชาวบ้านเขาซื้อให้ ก็วิ่งไปหน้าวัดสีกุก พอไปถึงวัด ก็ไปถามพระปลัดเที่ยง ถามว่ารู้จักโยมคนนั้นไหม ท่านบอกว่ารู้จัก ถามว่าบ้านนั้นเขารวยหวยเท่าไรรู้ไหม โดยมากคนที่ถูกล็อตเตอรี่ใต้ดินมักจะมีข่าวไม่ยาก ประเดี๋ยวเดียวข่าวก็กระจายไปทั่วทุกทิศ เพราะเสมียนผู้จ่ายเขาเป็นคนโฆษณา เพราะเขาจะได้ขายได้คล่องๆ พระปลัดเที่ยงก็บอกว่าถูกที่ไหนล่ะ จะยิงตัวตายถึงกับต้องห้ามกัน ถามว่าทำไมล่ะ ก็ปรากฏตามเรื่องท่านบอกว่า แกไปขอหวยหลวงพ่อจงมา ได้เลขมา 3 ตัว หลวงพ่อจงบอกว่าเล่นไม่ต้องกลับ แต่ว่าที่ไหนได้ เมื่อเวลาหวยออกเข้าจริงๆ เสมียนเขามาจด แกไม่ได้ซื้อหวยของหลวงพ่อจง ลืมเลขไปเล่นหวยอาจารย์อื่นเสียเพลินไปหมดไปหลายร้อยบาท แกเขียนไว้แล้ว เลขของหลวงพ่อจงจะซื้อ 200 บาท แต่ลืมหยิบออกมา พอหวยออกปรากฏว่าแกไม่ถูก ไปเห็นเลขของหลวงพ่อจงเขียนทิ้งไว้ในกระเป๋าไม่ได้ซื้อไปกับเสมียนผู้จด เสียใจ วิ่งเข้าห้อง คว้าปืนจะยิงตัวเอง ชาวบ้านต้องห้ามกันถึงเอาปืนไปเก็บไว้ เวลานี้ก็ต้องมีคนคุม ไม่กล้าห่างแก เกรงว่าจะทำลายชีวิตตัวเอง
นี่แหละท่านผู้ฟัง ไอ้เรื่องหวยเรื่องลาภน่ะมันเป็นยังงี้นา กฎของความเป็นจริงมันมี คนที่ไม่มีลาภมันก็ไม่เล่นหรอกของดีไม่เอาเขาไม่ชอบกัน แต่คนที่มีลาภจริงๆ ถึงแม้ไปพบอุจจาระเข้าก็ยังคิดเป็นหวยได้เลย”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :http://board.palungjit.org
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) | Powered by Discuz! X3.2 |