"พระกฤษณะ" มหาเทพผู้แห่งความหลุดพ้น ชี้ทางมนุษย์ไปสู่ความสุขสมบูรณ์ที่แท้จริง ขอขอบพระคุณ :ตรีมูรติ อภิมหาเทพของฮินดู อรุณศักดิ์ กิ่งมณี / สำนักพิมพ์ Museum Press | ||||||
|
ภาพบูชาพระกฤษณะ การสังเกตุว่าเป็นพระกฤษณะมีวิธีง่ายๆคือ พระองค์จะทรงขลุ่ย ขนยกยูงทัดที่ผม มีโคเป็นบริวาร การบูชาพระกฤษณะ นิกายพระกฤษณะ ได้แพร่กระจายออกไปยัง ยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และ สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันมีชาวตะวันตกนับถืออยู่มากมาย เนื่องจากในเรื่อง มหาภารตะ ได้มีคัมภีร์ ภควัทคีตา บรรจุอยู่ คัมภีร์นี้เองเป็นสิ่งที่ชาวตะวันตกให้ความสนใจศึกษากันมากมาย ปัจจุบันถือว่า คัมภีร์ภควัทคีตา เป็นคัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์ฮินดูที่แพร่หลายมากที่สุด (แพร่หลายมากกว่าคัมภีร์พระเวททั้งสี่) เนื่องจากสมัยโบราณ คัมภีร์พระเวท เป็นสิ่งที่คนวรรณะอื่นห้ามอ่านนอกจากวรรณะพราหมณ์เท่านั้น พระเวทจึงค่อยๆลดบทบาทลง แต่ภควัทคีตาเป็นสิ่งที่พราหมณ์ในนิกายที่นับถือพระกฤษณะสั่งสอนให้ผู้คนศึกษา เพื่อนำมาปรับใช้ในชีวิต จึงเข้าถึงผู้คนได้กว้างขวาง การกราบไหว้บูชาพระกฤษณะ จึงไม่สามารถกราบไหว้อย่างเดียวหรือถวายของเฉยๆได้ แต่จะต้องมีการศึกษาหนังสือ 2 เล่มควบคู่ไปด้วย นั่นคือ 1.มหากาพย์มหาภารตะ 2.คัมภีร์ภควัทคีตา มิฉะนั้นการบูชาพระกฤษณะจะไม่บังเกิดผล (ที่มีการกำหนดเช่นนี้ก็เพราะต้องการให้มนุษย์ศึกษาคำสอนในคัมภีร์) ผู้ที่ปฏิบัติตนเป็นผู้ติดตามพระกฤษณะ หรือ ผู้นับถือศรัทธาในพระกฤษณะ เรียกว่า ผู้ภักดี โดยในภควัทคีตาจะสอนเรื่อง ภักดีโยคะ และการเข้าถึงบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งพระกฤษณะมหาเทพนี้ก็เป็นบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระผู้เป็นเจ้าทุกพระองค์ สามารถอ่านเรื่องภควัทคีตาได้ในบทความต่อไป คลิกที่นี่ - ภควัทคีตา มนต์บูชาพระกฤษณะมหาเทพ เรียกกันในนิกายว่า "มหามนต์" ในปุราณะต่างๆ กล่าวไว้ว่า การบูชาพระกฤษณะ อาจทำได้โดยไม่ต้องบูชาพระพิฆเนศก่อน (เป็นมหาเทพเพียงองค์เดียวที่ไม่ต้องกล่าวบูชาผ่านพระพิฆเนศได้อย่างสนิทใจ) มหามนต์บูชาพระกฤษณะ ฮะเร กฤษณะ ฮะเร กฤษณะกฤษณะ กฤษณะ ฮะเร ฮะเร ฮะเร รามะ ฮะเร รามะ รามะ รามะ ฮะเร ฮะเร การสวดมหามนต์ 4 บรรทัดนี้ ผู้สวดสามารถใส่ทำนองลงไปได้อย่างอิสระ (จะนำเพลงมหามนต์นี้มาให้ดาวน์โหลดไปฟังกันเป็นตัวอย่างต่อไปครับ) ......................................................................................................................................... | ||
|
พระกฤษณะ เผยสภาวะที่แท้จริงแก่ท้าวอรชุน ว่าตนคือ พระวิษณุ (นารายณ์อวตาร) ในมหาสงคราม ณ ทุ่งกุรุเกษตร (คุรุเกษตร) |
พระนารายณ์เปิดโลก เป็นภาพที่ผู้ศรัทธาบูชาทั้ง พระวิษณุ และ พระกฤษณะ เป็นภาพตอนที่พระกฤษณะเผยตนว่าเป็นนารายณ์อวตารในมหาภารตะนั่นเอง |
เรื่องราวใน มหาภารตะ และ ภควัทคีตา เป็นเรื่องราวที่ควรศึกษาอย่างยิ่ง |
ภาพจากมหากาพย์เรื่อง "มหาภารตะ" |
ภควัทคีตา - คัมภีร์แห่งมวลมนุษยชาติ |
พระกฤษณะมหาเทพ |
พระนางราธา ยอดสาวกผู้ภักดีของพระกฤษณะ จาก - ศรีมณเฑียร ทรรศน์ / สมาคมฮินดูสมาช http://wongmalatorn-say.exteen.com/20071115/entry พระศรีกฤษณะ เป็นพระเป็นเจ้าผู้สูงสุดแห่งสัจธรรม ทรงปรากฏอยู่ทุกหนทุกแห่ง และอำนาจของพระองค์ (การทำให้ทุกๆ คนสบายใจ) นั้น คือพระนางราธา แม้ทั้งสองพระองค์ มองดูเป็นเหมือนต่าง ๆ กัน แต่พระองค์ก็เป็นหนึ่งเดียวและอย่างเดียวกัน ภัควันกฤษณะนั้น พระองค์เองได้ทรงบอกแก่พระนางราธาว่าดังนี้ ยถา ตวมฺจ ตถาหมฺ จ เภโท หิ นวโย ธรุวมฺ ยถา ขยีเร ชวลยมฺ ยถาคโน ทหิก สติ ยถา ปริถิวยมฺ คนฺธศจ ตถาหมฺ ตุอยี สนฺตตมฺ ความหมายก็คือว่า เจ้าก็เป็นอย่างเดียวกัน อย่างที่ข้าฯ เป็นอย่างแน่นอน ไม่มีความแตกต่างกันระหว่างเรา เพราะมีความขาวอยู่ในน้ำนม มีอำนาจการเผาไหม้อยู่ในกองไฟ และมีกลิ่นหอมอยู่ในตน ในทำนองเดียวกัน ข้าฯ ก็อยู่ในเจ้า นั่นหมายความว่าทั้งสองแยกออกจากกันไม่ได้ เพราะอำนาจที่ปรากฎของพระองค์ก็อยู่ ในทุกๆ อณูของ พระนางราธา พระองค์นั้นย่อมเป็นที่รู้จักกัน ราธารามันด้วยเหมือนกัน ราธานั้นย่อมเป็นที่รู้กันว่า “ราธิกา” เพราะพระนางทำการบูชาพระกฤษณะอยู่ตลอดเวลา พระนางราธาและพระกฤษณะทั้งสอง เป็นชื่อที่เป็นประโยชน์มากสำหรับมนุษยชาติ รา “RA” ศพฺโท อุจรนฺธ ภกฺโต ภคฺติม มุกติม จ รติเส ธา “DHA” ศพฺโทอุจรนฺธ ธวตเยว หเร ปทมฺ ความหมายก็คือ ผู้ภักดีย่อมได้ความภักดีและความหลุดพ้น โดยการท่องคำว่า “RA” และผู้เข้าถึงพระบาทของพระเป็นเจ้า โดยการท่องคำว่า “DHA” พระ นางราธาได้พิจารณาเห็นว่าพระศรีกฤษณะย่อมเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเธอและใน ทำนองเดียวกันพระกฤษณะก็ทรงเห็นว่าพระนางราธาว่า เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของพระองค์ หญิงงามอื่น ๆ ทั้งหมด ถามพระนางราธาอย่างประหลาดว่า ราเธ ตู บาร ภคินี เกาน ตปสย เกอัน ตีนโลกเก โอธิปติ โสตุมหาเร อธีน ความหมายก็คือ เฮ ราเธ ท่านมีโชคดีมาก (การบูชา) ที่ท่านได้ทำส่งผลให้ พระเป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของโลกทั้งสามโลกนั้นอยู่ในการควบคุมของท่าน พระนางราธา ไม่มีความสนใจในความสุขสบายทางโลก ชีวิตของพระนางไม่ได้สูญเสียไปโดยพิษภัยของสิ่งที่ชั่วที่ได้รับทางอายตนะ แต่ชีวิตของพระนางเต็มไปด้วยความรักอันบริสุทธิ์ พระนางพิจารณาเห็นความรักของเธอสำหรับพระกฤษณะนั้นว่ายิ่งใหญ่กว่าสิ่งหนึ่ง สิ่งใดอื่น ยิ่งใหญ่กว่าทรัพย์สมบัติของโลกทั้งสาม เรื่องราวดังต่อไปนี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงดังต่อไปนี้ ครั้งหนึ่ง ภัควันกฤษณะ อุทานนามของพระนางราธาด้วยความภักดีที่เข้มข้นมากซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อได้เห็นการอุทานของพระกฤษณะอันนี้ ราชินีทั้งหลายเช่นพระนางรุกมณี และราชินีอื่น ๆ ก็กลับอิจฉาริษยาพระนางราธาอย่างมาก และถามพระกฤษณะว่า พระนางราธามีคุณสมบัติอะไรเป็นพิเศษหรือที่ทำให้พระองค์ไม่สนพระทัยต่อพวก เรา แต่พระองค์กลับหมกมุ่นอยู่ในพระนางราธา พระกฤษณะ ทรงบอกให้พวกราชินีเหล่านั้นทราบว่า พระองค์จะทรงตอบคำถามนี้ในเวลาอันควร หลังจากนั้น พระองค์ทรงประชวรปวดพระนาภีอย่างแรงมาก หลังจาก ได้ทำการรักษาหลาย ๆ ครั้ง อาการก็ไม่ดีขึ้น ทันใดนั้น ฤาษีนารอดก็มาเยี่ยมพระองค์ และราชินีทั้งหมดก็ทรงถามพระองค์ว่าจะทำการรักษาพระองคให้หายจากความเจ็บปวด ได้อย่างไรหรือ พระองค์ทรงตอบว่า การรักษาโรคนี้ง่ายมาก บุคคลผู้มีความรักในพระกฤษณะมากที่สุด ควรนำเอาเมล็ดทรายที่ใต้เท้าของเขาหรือเธอที่เหยียบแล้วนั้น และ เอาทรายเมล็ดเดียวกันนั้นใส่ลงไปในน้ำ และให้พระกฤษณะเสวย และความเจ็บปวดก็จะหายไป แต่บุคคลนั้น (ผู้มีความรักในพระกฤษณะมากที่สุด) จะต้องไปตกนรกอย่างน้อยหนึ่งกัลป์ ราชินีทั้งหมดมีความกลัวที่จะไปตกนรก จึงพยายามที่หลีกเลี่ยงการรักษาพยาบาลเช่นนั้น โดยการให้คำแนะนำของพระกฤษณะ ฤาษีนารอดไปหาพระนางราธา เมื่อได้ทราบการป่วยของพระกฤษณะ พระนางราธาก็กระวนกระวายพระทัยเป็นอย่างมาก เหมือนปลิงที่ปราศจากน้ำ แต่เมื่อได้ยินฤาษีนารอดแนะนำเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พระนางก็ตรัสขึ้นทันทีว่า ถ้า เพียงแต่เอาทรายที่สัมผัสกับเท้าของฉัน พระองค์ทรงหายจากการประชวร แล้วดิฉันตั้งใจที่จะไปตกนรกโดยไม่จำเป็นที่จะพูดถึงเพียงกัลป์เดียวเท่า นั้น แต่ฉันไม่สามารถจะทนดูให้พระกฤษณะทรงได้รับความเจ็บปวดต่อไปได้ ทันทีนั้นพระนางก็เอาทรายที่สัมผัสด้วยบาทาของพระนางใส่ลงไปในน้ำ และมอบให้ฤาษีนารอดนำไปทูลถวายพระกฤษณะ เมื่อพระกฤษณะทรงเสวยน้ำนั้นแล้ว ความเจ็บปวดก็หายไปทันที ภัควันกฤษณะทรงบอกแก่ราชินีทั้งหมดเหล่านั้นถึงเหตุผลที่พระองค์ทรงนึกถึง พระนางราธาอยู่ตลอดเวลา เพราะพระนางไม่สนใจที่จะไปตกนรก ทั้งพระนางก็ไม่ต้องการความสุขสบายใจในทางโลก พระนางต้องการฉันเพียงผู้เดียวเท่านั้น พระนางมีพระทัยแน่วแน่อยู่ที่ฉัน และท่องนามของฉันอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ฉันจึงจำเป็นต้องตอบแทน และระลึกนึกถึงชื่อของพระนางตลอดเวลาเช่นกัน เมื่อได้ทราบเรื่องราวนี้แล้ว ราชินีทั้งหมดก็รู้สึกละอายใจ พระนางราธามีความรักในพระกฤษณะอย่างรุนแรงมาก เหมือนคนบ้า การที่พระนางรักอย่างรุนแรงในพระกฤษณะ บางครั้งพระนางตะโกนออกมาดังๆ ว่า โอที่รัก โอที่รัก หรือบางครั้ง พระนางเต้นรำเหมือนนกยูงรำแพน บางครั้งพระนางทุรนทุรายเหมือนกับปลาที่ปราศจากน้ำ เพราะความรักอันบริสุทธิ์ของพระองค์ พระนางราธาจึงเป็นหัวข้อเรื่องอันสำคัญที่นักกวีทั้งหลาย นักศิลปินหรือผู้คงแก่เรียนทางวรรณคดีนำมากล่าวถึง เมื่อพระนางหลุดพ้นจากความอยากได้ทางโลกทั้ง หมดแล้ว พระนางก็ต้องการพระกฤษณะเพียงผู้เดียวเท่านั้น เมื่อมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิด และมีความรักแด่พระองค์ผู้เดียวมากยิ่งกว่าชีวิตของพระนางเอง พระนางไม่มีความประสงค์ที่จะกลับมาเป็นพระชายาของพระองค์ หรือ ต้องการสิ่งหนึ่งสิ่งใดอื่นอีกจากพระองค์ เว้นเสียแต่พระองค์เองผู้เดียวเท่านั้น เพราะการเสียสละปราศจากความเห็นแก่ตัว และการมอบกายและถวายใจอย่างสมบูรณ์แบบของพระนาง พระนางราธาจึงได้รับการกราบไหว้บูชา พร้อมกับพระกฤษณะเสมอ และไม่มีชายาองค์หนึ่งองค์ใดอีก พระรูปของพระกฤษณะกับพระนางราธา ย่อมเป็นการสอนให้เรารู้ว่า ผู้ภักดีทั้งหลายเหล่านี้ ผู้กราบไหว้บูชาพระเป็นเจ้า เพื่อให้ได้มาซึ่งความสุขความสบายทางโลก พระองค์ย่อมประทานสิ่งอย่างเดียวกัน (ตามที่เขาต้องการ) แต่บุคคลทั้งหลายเหล่านั้น ผู้มีความประสงค์เพื่อการเข้าถึงพระเป็นเจ้า พระองค์ย่อมจัดการให้พวกเขาได้สิ่งที่ประสงค์ตลอดไป และประทานสถานที่เท่าเทียมกับพระองค์แก่พวกเขา จาก - ศรีมณเฑียร ทรรศน์ ขอขอบคุณ - สมาคมฮินดูสมาช http://wongmalatorn-say.exteen.com/20071115/entry |
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) | Powered by Discuz! X3.2 |