Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
ตำนานของ กาฬ หรือ เกียรติมุข
[สั่งพิมพ์]
โดย:
Marine
เวลา:
2016-4-29 06:17
ชื่อกระทู้:
ตำนานของ กาฬ หรือ เกียรติมุข
กาฬ หรือ เกียรติมุข หลายคนมักอาจสับสนกับราหู
แท้ที่จริงแล้วหน้ากาล มีตำนานที่เป็นผู้ปราบราหู
[attach]13236[/attach]
เ
กียรติมุข หรือหน้ากาฬ เป็นลวดลายปูนปั้นที่ใช้ประ
ดับซุ้มหน้าบันของโบราณสถาน
โดยทั่วไปมักทำคู่กับลายมกร
โดยทำลายมกรออกมาทั้งสองข้า
งของเกียรติมุข ลักษณะของเกียรติมุขจะทำเป็
นรูปหน้ายักษ์ปนหน้าสิงห์ หรือใบหน้าของอสูรที่ดุร้าย
คิ้วขมวด นัยน์ตากลม และถลน ปากกว้างเห็นฟันและเขี้ยว ไม่มีฟันล่าง ไม่มีลำตัว มีแขนออกมาจากด้านข้างของศี
รษะ
ตำนานอินเดียเล่าถึงกำเนิดของหน้ากาฬนี้ว่า ครั้งหนึ่งมีพญายักษ์ชื่อชลันธรบำเพ็ญตบะแก่กล้า จนได้รับพรจากพระศิวะไม่ให้ผู้ใดต่อกรด้วยได้จึงเกิดความลำพองทำร้ายข่มเหงทั้งยักษ์ เทพ และมนุษย์ ต่อมา ยักษ์ชลันธรได้ให้พระราหูไปบอกพระศิวะให้มารบกับตน หากพระศิวะแพ้จะริบตัวนางปารพตีมเหสีเป็นของตน
พระศิวะได้ฟังดังนั้นก็พิโรธเกิดมียักษ์หน้าสิงห์โตกระโดดออกจากหว่างพระขนงจะกินพระราหู พระราหูเห็นดังนั้นก็ตกใจขอให้พระศิวะช่วย พระศิวะทรงห้ามยักษ์ไม่ให้ทำร้ายพระราหู
ยักษ์กล่าวว่าถ้าอย่างนั้นขอให้กินสิ่งอื่นแทนพระราหู พระศิวะตรัสให้ยักษ์นั้นกินแขนขาของตัวเอง ด้วยความหิวโหยยักษ์ได้กัดกินแขนขาของตนหมดแล้วยังไม่อิ่ม จึงกัดกินท้องและอกจนหมดสิ้นเหลือเพียงส่วนหัว
พระศิวะเห็นเช่นนั้นก็เกิดความสงสาร ตรัสให้พรยักษ์นั้นให้อยู่ที่ประตูวิมานของพระองค์ตลอดไป ผู้ใดไม่เคารพจะไม่ได้รับพรจากพระองค์ หลังจากนั้นพระองค์เสด็จไปปราบยักษ์ชลันธรได้สำเร็จ
สมัยโบราณถือว่าหน้ากาฬนี้เป็นสัญลักษณ์ของเวลาที่กินทุกสิ่งแม้แต่ตัวเอง รวมทั้งเป็นผู้ที่คอยดูแลฝูงปศุสัตว์เนื่องจากพระศิวะได้รับการยกย่องเป็นปศุบดี ผู้เป็นใหญ่ในฝูงสัตว์ หน้ากาลอันเปรียบเสมือนบุตรของพระองค์คงจะมีฤทธิ์ปกป้องสัตว์เลี้ยงได้ ลายหน้ากาลนี้สามารถพบเห็นได้ทั้วไปในเทวสถานของฮินดู และนิยมสร้างกันอย่างแพร่หลายในอินโดนีเซีย
[attach]13237[/attach]
โดย:
oustayutt
เวลา:
2016-4-29 09:37
เเจ่ม ครับ
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2016-4-29 18:19
แจ่มจันทร์
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2016-5-13 08:01
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2