Baan Jompra
ชื่อกระทู้: สี่ตีนเดินมา... นำพาโชคลาภ [สั่งพิมพ์]
โดย: oustayutt เวลา: 2016-4-2 17:32
ชื่อกระทู้: สี่ตีนเดินมา... นำพาโชคลาภ
ประวัติพญาเต่าเรือน
เมื่อครั้งอดีต ตอนที่พระโพธิสัตว์เจ้า เสวยพระชาติเป็นพญาเต่าเรือนคือมีตัวใหญ่อย่างเรือนหรือบ้านเล็กๆ มีนามว่า “มหาจิตรจุล” อาศัยอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่มาไม่นานเกิดเหตุการณ์พายุเข้าบริเวณเกาะ จึงเป็นเหตุให้เรือสำเภาที่ผ่านบริเวณนั้นอับปางเกาะดังกล่าวมีผู้คนว่ายน้ำ หนีตายมาอาศัยที่เกาะ เป็นจำนวนมากต่างขาดอาหารและน้ำ ชาวบ้านต่างจึงคิดที่ทำร้ายกันพญาเต่าโพธิสัตว์ ในครั้งนั้นพญาเต่าโพธิสัตว์จึงคิดว่า ในเมื่อชาวบ้านต่างเดือดร้อน ถึงขนาด ต้องคิดฆ่าตัวเราเพื่ออยู่รอด พญาเต่าโพธิสัตว์มีจิตอนุเคราะห์ จึงกลิ้งตัวจากภูเขา หมายที่จะบริจาคทานด้วยเลือดและเนื้อของตน ในที่สุดเมื่อ ตกลงมาถึงตีนเขาก็ถึงกาลกิริยาแตกดับ ผู้คนเหล่านั้นก็ได้อาศัยเนื้อพระโพธิสัตว์พญาเต่าเรือนบริโภคเป็นอาหาร แล้วเอากระดอง ทำเป็นพาหนะ กลับสู่บ้านเมืองอย่างปลอดภัย ภายหลังผู้คนเหล่านั้นได้ระลึกนึกถึงบุญคุณของพญาเต่าเรือน จึงได้วาดภาพไว้สักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล และต่อมาจึงได้มีการสร้างเป็นวัตถุมงคลรูปเต่าลงอักขระเลขยันต์ปลุกเสกไว้ บูชาสืบทอดมาถึงปัจจุบันด้วยอานุภาพแห่งมหาทานอันยิ่งใหญ่ในครั้งนั้น
ดังนั้นครูบาอาจารย์ในสมัยโบราณ จึงได้สร้างวัตถุมงคลเป็นรูปพญาเต่าเรือน ด้วยเชื่อว่าจะทำให้ทำมาค้าขายดี เพราะถือว่าพญาเต่าเรือนอยู่ในชาติหนึ่ง ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั้น พระองค์เคยเสวยชาติเป็นพญาเต่าเรือน ได้สละเลือดเนื้อชีวิตเพื่อเป็นทานแก่สัตว์ผู้ยากไร้ เกจิอาจารย์ต่างๆ ในอดีตจึงมีการสักยันต์ตามตัวและทำเครื่องรางเพื่อไว้ใช้ ด้วยเหตุที่ว่าสารพัดใช้ ตามอธิษฐาน วิเศษนักเป็นได้ทุกอย่าง เช่นทำให้มีโชคลาภ เงินทองหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ค้าขายจะเจริญก้าวหน้า และเป็นมงคลแก่ผู้บูชายิ่งนัก การทำเครื่องรางพญาเต่าเรือนในสมัยโบราณนั้น มักนิยมใช้ กระดองเต่าตายซากหรือตายเองซึ่งถือเป็นหลักโดยห้ามฆ่าจากนั้นก็จะ นำกระดองเต่ามาลงอักขระหัวใจพญาเต่าเรือน(นาสังสิโม)และอักขระ พระเจ้าห้าพระองค์ (นะโมพุทธายะ)จากนั้นนำไปปลุกเสก ซึ่งถือเป็นของดีที่หายากและมีความสำคัญประจำบ้าน เรือน และป้องกันภัยพิบัติอันตรายทุกประการจากโจรภัย วาตภัย อัคคีภัย ฯเรียกว่าหากใครมีไว้บูชาถือว่าเป็นแก้วสารพัดนึกเลยก็ว่าได้ แต่ปัจจุบันกระดองเต่าที่ตายซากหรือตายเองหาได้ยาก เกจิอาจารย์จึงใช้วิธีเขียนอักขระ บนแผ่นโลหะหรือผ้ายันต์เป็นรูป “พญาเต่าเรือน” แล้วนำมาปลุกเสก
โดย: oustayutt เวลา: 2016-4-2 17:33
หลวงปู่หลิว ปณฺณโก
ถ้าพูดถึงพญาเต่าเรือนแล้ว เกจิอาจารย์ที่ถูกกล่าวขวัญถึงมากที่สุดย่อมไม่พ้นหลวงปู่หลิว แห่งวัดไร่แตงทอง ตำบลลูกนก อ.กำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ท่านได้เดินทางฝ่าป่าดงดิบซึ่งถือว่าอันตรายมากในสมัยนั้นไปเรียนวิชากับอาจารย์ชาวกะเหรี่ยงเป็นเวลา 3 ปี เมื่อได้วิชาติดตัวกลับมาแล้วได้กลับมาช่วย ที่บ้านปราบโจรขโมยวัวจนราบคาบ วิชาเต่าเรือนนั้นท่านได้เรียนมาจาก หลวงพ่อย่น วัดฆ้องใหญ่ จ.ราชบุรี นอกจากนี้ท่านยังได้ศึกษาจากอาจารย์อีกหลายท่าน อาทิเช่ หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช และ หลวงพ่ออุ้ม จ.นครสวรรค์ วิชาที่ท่านศึกษาจาก หลวงพ่ออุ้มคือ ท่านให้ลป.หลิวนำกระดาษฟูลสแก็ปไปไว้อีกฟากของภูเขาที่อยู่ห่างออกไป 10 กิโลเมตร จากนั้นหลวงพ่ออุ้มได้นำ เหรียญบาทขึ้นมา ลงอักขระอาคมแล้วโยนขึ้นไปในอากาศ ปรากฎว่าเหรียญสามารถลอยข้ามภูเขาไปตกยังกระดาษได้ ท่านสนใจวิชานี้มากได้ศึกษาจนสำเร็จ
พญาเต่าเรือนรุ่นแรก 2516 วัดสนามแย้
หลวงปู่หลิว เป็นนักพัฒนาท่านได้บูรณะวัดสนามแย้ ซึ่งได้ออกวัตถุมงคลคือพญาเต่าเรือนรุ่นแรก เมื่อปี 2516 เต่ามีตัวผู้ตัวเมียด้วยนะครับ จะูดูได้ยังไง ก็ต้องดูแถวๆก้นเต่า ตัวผู้จะมีอะไรยื่นๆนิดนึง ไม่ได้ทะลึ่งนะ ผมหมายถึงตัวผู้จะมีเนื้อเกินออกมานิดนึง ตามลูกศรชี้ รุ่นนี้เน้นเรื่องคงกระพันหนังเหนียว มีประสบการณ์รถคว่ำไม่ตาย
http://salaya.sc.mahidol.ac.th/putthasilp/tao/liew.html
โดย: oustayutt เวลา: 2016-4-2 17:34
พญาเต่าเรือน รุ่นปลดหนี้ 2536 วัดไร่แตงทอง
หลวงปู่หลิว ใช้เวลา 5 ปีในการสร้างและพัฒนาวัดไทรทองพัฒนา ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ในปีพศ. 2523 ขณะที่หลวงปู่จำพรรษาอยู่ ณ วัดไทรทองพัฒนา ท่านได้เก็บสะสมเงินจากการรับบริจาค มาซื้อที่ดินเพื่อก่อตั้งวัดไร่แตงทองขึ้น ณ ตำบล ลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และได้พัฒนาจนมีความเจริญรุ่งเรืองตามลำดับ หลังจากรุ่นแรกที่ดังแล้วก็ห่างมาหลายรุ่นจนถึงรุ่นปลดหนี้ ปี 2536 สร้างเนื้อเงินเท่าจำนวนพศ.พอดีคือ 2536 องค์ รุ่นนี้เน้นทางโชคลาภ ค้าขายดี มีประสบการณ์เช่นกันครับ ว่าแล้วผมก็นิมนต์มาขึ้นคอ 1 องค์ ดังรูป ราคาตอนนี้ขยับตามรุ่นแรกไปสบายๆ
จริงๆแล้วห้อยรุ่นไหนก็ได้แหละครับ ขอให้ทันท่านปลุกเสกก็ใช้ได้ (ก่อนกลางปี 2543) ของแปลกๆก็มีนะครับ เช่นจิ้งจกสองหาง หรือผ้ายันต์ประกันชีวิต ฟังชื่อแล้วสงสัยพวกโทรมาขายประกันขายไม่ออกกันเป็นแถว ที่วัดยังมีของที่ทันท่านปลุกเสกราคาไม่แพงจำหน่ายอยู่ ว่าแล้วก็พาไปเที่ยววัดกันดีกว่า
โดย: oustayutt เวลา: 2016-4-2 17:35
[youtube]OdDnxhMJXZA&feature[/youtube]
โดย: oustayutt เวลา: 2016-4-2 17:37
http://www.pramuangnue.com/page/product-detail-26014-%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B2.html
พญาเต่าเรือน ยุคล้านนา องค์ใหญ่กว้าง 7 เซ็นติเมตร ยาว 10 เซ็นติเมตร เนื้อหินทรายแกะมีจารเก่ามาก
โดย: oustayutt เวลา: 2016-4-2 17:38
[url=][/url] |
[url=][/url] |
http://www.zoonphra.com/shop/catalog.php?storeno=c004&idp=3488
พญาเต่าเรือน หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย จ.นครนายก เนื้อหินสบู่เลือด[size=13.3333px] | |
โดย: oustayutt เวลา: 2016-4-2 17:40
http://www.panchart.99wat.com/pr ... 5%E0%B8%B2%E0%B8%99
โดย: oustayutt เวลา: 2016-4-2 17:40
โดย: oustayutt เวลา: 2016-4-2 17:42
\
โดย: Sornpraram เวลา: 2016-4-3 06:31
โดย: oustayutt เวลา: 2016-4-3 10:14
ของดีตามธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งให้กับท่านผู้อ่านนั่นก็คือ “เต่าคงกระพัน” หรือเต่าตายซาก (ไม่ใช่เต่าที่เอาไปฆ่าแล้วฝังเหลือแต่ซากนะครับ อันนั้นมันบาปกรรมนะจะบอกให้) ผมขอเข้าเรื่องต่อนะ อันเต่านี้เวลาจะตายแล้วเนื้อหนังของมันไม่เน่ากลับจะแห้งกรอบคงรูป มันจะไปตายซุกตายซ่อนอยู่ในป่าหรือตามโพรงไม้ หากท่านผู้อ่านไปพบเห็นเข้าที่ไหน จงเอาไปเก็บไว้ที่บ้าน แต่ก่อนจะเอาไปไว้ให้พลีเสียก่อน การพลีก็ไม่มีอะไรมาก เพียงเด็ดดอกไม้อะไรก็ได้ที่อยู่แถวนั้น (อย่าเอาดอกไม้ที่ไม่พึงประสงค์ล่ะ) เอามาบูชาเต่าแล้วก็พูดเองเออเองว่า “พ่อเต่าทอง แม่เต่าเงิน ขออัญเชิญไปกับตัวข้า มามะแม่มามามะพ่อมา มาอยู่กับข้าเถอะเอย” แล้วก็เออเองว่า “จ๊ะ! ฉันจะไปอยู่ด้วย จะทำให้รวยดังใจ”
หลังจากที่ได้เต่ามาแล้วก็เอามาเช็ดล้างให้สะอาด เอาของหอมประพรมแล้วก็เอาไปให้พระเกจิอาจารย์ที่ท่าน พอมีความรู้ทางด้านคาถาอาคมให้ท่านลงอักขระหัวใจเต่าเลือนว่า “นาสังสิโม” ที่อกเต่า แล้วปลุกเสกกำกับและพรมน้ำมนต์แล้วเจิมให้ เมื่อเสร็จพิธีจึงนำกลับมาเข้าที่บูชา แล้วก็ให้หาภาชนะปากกว้างไม่ต้องลึกมาก เอาน้ำเติมลงไป แล้วเอาเสาหินจำลองหรือเสาที่เป็นแก้วหรือวัสดุใดก็ได้มาวางไว้ตรงกลางให้พ้นผิวน้ำแล้วค่อย ๆ บรรจงเอาเต่ามาวางไว้ข้างบนวัสดุให้มั่นคงและหมั่นบูชาด้วยดอกมะลิลอยลงไปในน้ำแล้วอย่าปล่อยให้น้ำเหม็นสกปรก เมื่อน้ำพร่องก็หมั่นเติมอย่าให้แห้งเหือดไปได้ถือกันว่า ถ้าน้ำแห้งลาภก็จะแห้งตามไปด้วยแหละครับ เท่าที่ได้เคยสอบถามผู้ที่บูชา
เต่าอย่างถูกวิธีมักจะมีผลในด้านโชคลาภ และเป็นศิริมงคลแทบจะทุกราย
โดย: oustayutt เวลา: 2016-4-3 10:18
https://sites.google.com/site/ra ... -la-bawlxy-nkhrnayk
โดย: oustayutt เวลา: 2016-4-3 10:28
สำหรับการตั้งบูชาพญาเต่าเรือนนั้น ท่านว่าให้ตั้งไว้สูงกว่าเทพยดาทั่ว ๆ ไป เพราะพญาเต่าเรือนเป็นพระโพธิสัตว์และเป็นชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้า แต่ต้องต่ำกว่าพระพุทธรูป การบูชานั้นหลายๆที่มักนำน้ำมาหล่อเอาไว้ พร้อมทั้งมีผักบุ้งลอยเอาไว้ หรือดอกมะลิ กลีบกุหลาบลอยไว้ด้วย คอยเติมน้ำให้เต็มเสมอๆ เพราะเชื่อกันว่า หากน้ำลดจะทำให้โชคลาภหดเหือดหายตามไปด้วย และต้องทำน้ำให้สะอาดเสมอๆ จะได้มีความสดใสและชุ่มเย็นในชีวิต ถ้าเป็นพญาเต่าเรือนขนาดเล็ก บางคนถือเคล็ดเอาไว้ในที่เก็บเงิน หรือตั้งไว้ที่ตู้เซฟ ส่วนคาถาบูชานั้นท่านว่ามีหลายคาถาด้วยกัน แต่ที่นิยมใช้คือ หัวใจพญาเต่าเรือน ท่องว่า“นาสังสิโม สังสิโมนา สิโมนาสัง โมนาสังสิ” เป็นพระคาถาที่เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก
จากพระคาถานี้ ครูบาอาจารย์นำมาเขียนลงในช่องตารางที่มีลักษณะคล้ายกระดองเต่า เติมหัวเติมหางลงไป จนเป็นภาพเต่าขึ้นมา ถือกันว่าเป็นพระยันต์ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ติดไว้กับบ้านก็ทำให้ร่มเย็นเป็นสุข ติดไว้กับร้านค้าก็ค้าขายดีมีกำไร หากติดตัวเอาไว้เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม นอกจากนี้ยังมีการทำรูปยันต์เป็นพญาเต่าเรือนน้อยเต่าเรือนใหญ่ ที่มีอานุภาพในการระงับคดีความ ซึ่งครูบาอาจารย์เล่าว่าหากเกิดคดีความอันเป็นการใส่ร้ายป้ายสี ให้ทำการท่องพระคาถาพญาเต่าเรือนและบูชาพญาเต่าเรือน โทษทัณฑ์ที่มีอยู่ คดีความที่กำลังเป็นปัญหา ก็จะสูญสิ้นไปเป็นอัศจรรย์
โดย: oustayutt เวลา: 2016-4-3 10:32
ด้วยอานุภาพนี้ จึงเรียกพญาเต่าเรือนอีกนัยหนึ่งว่า "พญาเต่าเลือน" ซึ่งหมายถึง การลบเลือนคดีความที่มีอยู่นั่นเอง การทำวัตถุมงคลพญาเต่าเรือนก็จะทำการปั้นหุ่นทั้งจากดิน จากปูน หรือหล่อโลหะเป็นรูปเต่า ที่กระดองจะลงอักขระคาถาเอาไว้ รวมทั้งที่ใต้ท้องเต่าเรือนด้วย ถ้าเป็นผง ครูบาอาจารย์จะหาว่านเต่านำโชค ซึ่งถือว่าเป็นว่านที่มีฤทธิ์ทั้งทางโชคลาภและคงกระพันในตัวมาเป็นมวลสารสำคัญ จากนั้นทำการปลุกเสกจนกระทั่งเต่าเรือนนั้นเคลื่อนตัวได้ ท่านว่าเต่าเรือนดังกล่าวจะมีอานุภาพทางเมตตามหานิยม และนำพาโชคลาภได้ดีที่สุด ครูบาอาจารย์บางท่านมีการใช้วิชาพญาเต่าเรือนอีกรูปแบบหนึ่ง เรียกกันว่า วิชาพญาเต่าคำ นอกจากนี้ยังมีวิชาเต่าเงินเต่าทอง ซึ่งเป็นสายวิชาทางพญาเต่าเรือนด้วยกันทั้งสิ้น มีอานุภาพสำคัญทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม แต่ต้องมีพญาเต่าอยู่คู่กัน ตัวหนึ่งเป็นเต่าเงินตัวหนึ่งเป็นเต่าทอง ถือว่าเป็นของขลังประจำบ้านหรือร้านค้าได้อย่างดีอีกชนิดหนึ่งเช่นกัน การอาราธนาพญาเต่าเรือนนั้นผู้ที่พกพาหรือบูชาควรหมั่นทำการฝึกฝนสมาธิจิตด้วย เพราะหากทำสมาธิจิตดี ย่อมทำให้การท่องคาถาพญาเต่าเรือนมีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ผู้ที่หมั่นฝึกภาวนาท่องพระคาถาพญาเต่าเรือนจนได้สมาธิจิตชั้นสูงนั้น ท่านว่าขนาดยื่นมือไปตบหัวเด็ก เด็กยังไม่โกรธเลย และแน่นอนว่าหากภาวนาคาถานี้เป็นอารมณ์ในใจเสมอๆ บุคคลผู้นั้นย่อมเป็นเมตตามหานิยมอย่างสูงส่ง และมีโชคลาภไม่ขาดสายโดยไม่ต้องสงสัยเลย เพราะหากใครก็ตามที่มีวัตถุมงคลพญาเต่าเรือนบูชาประกอบกับการท่องพระคาถาเป็นประจำเสมอๆ อยู่แล้ว ย่อมเกิดฤทธิ์ทางเมตตามหานิยมสูงส่งมีโชคลาภถึงขนาดที่ว่า ยาจกกลายเป็นเศรษฐีได้ เพราะเรื่องของอำนาจจิตผนวกกับอำนาจของคุณพระรัตนตรัยและคุณพระโพธิสัตว์พญาเต่าเรือนนั้น ย่อมเป็นพลังงานที่มีอานุภาพมหาศาลสามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตภูมิชีวิตของผู้ที่ศรัทธาได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ทั้งนี้บุคคลผู้นั้นต้องมีศรัทธาอย่างแน่วแน่ในความศักดิ์สิทธิ์ถึงจะได้ผล
ที่มาภาพ : http://pralanna.com/boardpage.php?topicid=49734
โดย: oustayutt เวลา: 2016-4-3 10:34
http://board.palungjit.org/f127/ ... B8%B2-14905-54.html
โดย: oustayutt เวลา: 2016-4-3 10:34
http://board.palungjit.org/f127/ ... B8%B2-14905-54.html
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) |
Powered by Discuz! X3.2 |