ไปงาน 'มหกรรมหนังสือระดับชาติ' ครั้งที่ 20 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 21 ตุลาคม-1 พฤศจิกายน 2558 มาหรือยัง นอกจากหนังสือดีที่มาร่วมกันอย่างมากมาย เมื่อเกิดงานใหญ่ๆ จะมีเรื่องที่ทุกคนมองข้าม หรือมีเสียงหัวเราะดัง หรือเสียงดังออกจากลำคอ ทำนองเป็นตลกร้าย...
ปีนี้ก็เช่นกันไทยรัฐออนไลน์รวม 9 เรื่องมีทั้งเรื่อง ที่คุณมองข้าม เรื่องตลกเอิ๊กอ๊าก เรื่องตลกร้าย กระทั่งความประทับใจเรื่องสุดท้ายที่เรารับประกัน รวมให้ลองไปดูกัน.
[url=]1. หลายคนที่เห็นบรรจงเอาฟันหน้ากัด 'อ้อยควั่น' หรือ เห็นคนแปรงฟันเสียงดังแกร๊กๆ แล้วขนลุกขนชันด้วยอารามจั๊กจี้ อาจจะไม่ชอบเสียงดังแควกๆ จากการแพ็กหนังสือลงกล่องใน 'บูธไปรษณีย์' เป็นสิ่งที่เราเห็นได้เจนตาทุกปี โดยเฉพาะปีนี้ถือว่ามีปริมาณคนที่เข้ามาใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ
เอาเป็นว่าอยากซื้อฝากคนที่รักไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกประเทศ ที่นี่เขาก็รับส่งในราคาย่อมเยา หรือ หากคุณบรรดาหนอนๆ ซื้อมากหลายเล่ม ขี้เกียจถือก็สามารถส่งไปรษณีย์ได้เช่นกันเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สะดวก ซึ่งหลายคนมองข้ามไป อ่านตรงนี้แล้วก็เข้าไปใช้บริการซะ
2.เซเลบนักเขียน หาได้เกลื่อนในงานหนังสือแทบทุกปี ปีนี้ก็เช่นกัน ถ้าจะไปให้ตรงวันก็แนะนำว่าให้ไปวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ส่วนคนที่ไม่รู้ว่าใครเป็นเซเลบนักเขียน มีวิธีที่นาซาไม่ได้แนะนำมา แต่เราใช้ประสบการณ์เดา ตรงไหนคงมุง หรือแถวยาวๆ นั่นแหละตรงดิ่งไปเลย อ้อ ถ้าจะต่อแถวให้คนนั้นเซ็นแนะนำนิดว่า ควรเป็นหนังสือของนักเขียนคนนั้นๆ เพราะเซเลบ
นักเขียนเคยแอบบ่นกับเราเบาๆ ว่า หนังสือที่ให้เซ็นเป็นของนักเขียนท่านอื่น ส่วนคนเดินก็ฝากไปยังเซเลบ นักเขียนคนดังว่า แถวยาวๆ ของพี่ทำให้การเดินเลือกซื้อหนังสือหนังหาลำบาก ยังไงก็ช่วยๆ จัดระเบียบคนต่อแถวล่าลายเซ็นหน่อยก็ดี
[url=]3.น่าดีใจ ปีนี้ก็น่าดีใจมากมาย อย่างที่เราเคยเจาะไปแล้ว (อ่านเพิ่ม : รู้แล้วจะอึ้ง! คุณรู้ไหมว่าสาว 'พริตตี้' สัปดาห์หนังสือ รายได้เท่าไร ?) ปีนี้บรรดาคอสเพลย์ ไม่ว่าจะเป็นแต่งตัวให้เข้ากับตัวละครหนังสือ (แฟนตาซี เซ็กซี่ น่ารัก) หรือแต่งเป็นมาสคอตมีคนแห่ถ่ายรูปกันคับคั่งมากมาย โดยเฉพาะเด็กๆ บรรยากาศแบบนี้ก็น่ารัก เป็นอีกหนึ่งสีสันที่สร้างรายได้ให้กับหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่ใฝ่ดี ไม่เกี่ยงงาน ก็อย่าว่างานสุจริตใครๆ เห็นก็ชื่นชม
[url=]4.ปีนี้โดดเด่นกว่าปีไหนๆ สำหรับการครีเอตตกแต่งบูธหนังสือ อีกหนึ่งสีสันที่หลายค่ายหนังสือแข่งกันโชว์ไอเดียอย่างสนุกสนาน อย่างบูธ DEAR DEER Publishing ก็สร้างสวรรค์เตะตาหลายคน เพราะปีนี้วาดภาพการ์ตูนเป็นฉากตกแต่งทั้งร้าน บางบูธใช้กระดาษลังมาดีไซน์เป็นชั้นวางหนังสือ บางบูธใส่จินตนาการ ใส่ความน่ารัก น่าหยิก น่ากอดอย่างบูธ Bear Publishing ก็น่ารักเห็นแต่ไกลเพราะวาดหมีสีสดใสบนพื้นขาวทำให้โดดเด่น
ปีนี้บูธอะเดย์ก็ครีเอตเจ๋งๆ เหมือนทุกปีปีนี้เน้นแฟชั่นกับฟังก์ชั่นโดนใจวัยรุ่น บางร้านก็ตกแต่งด้วยถุงผ้าที่หลายปีแล้วเป็นเทรนด์ ก็เท่จนยอดขายถุงผ้าพุ่งพอๆ กับหนังสือ เป็นอีกหนึ่งปีที่ความครีเอตบูธโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดเจน
[url=]5.นี่ก็เป็นอีกหนึ่งที่เห็นเจนตา แต่ไม่ค่อยได้ใช้บริการ เพราะจำนวนคนที่เมื่อยมหาศาลทำให้เก้าอี้กระดาษของ SCG ซึ่งใช้กระดาษรีไซเคิลที่มีคุณภาพมาผลิตเป็นกระดาษลูกฟูก และใช้หมึกพิมพ์ที่มีน้ำเป็นตัวทำละลาย สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ 100% ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ว่ากันว่าครั้งแรกที่ได้เห็นโฉมหน้าก็คือในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2549
คุณสมบัติก็เหลือรับประทานรับน้ำหนักได้มาก กว่า 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เห็นบ่อยๆ แต่ไม่ค่อยได้นั่ง ดังนั้นถ้าจะให้เสนอขอเพิ่มอีกสัก 2-3 เท่าตัวจะดีมากๆ คนจะได้ไม่ต้องไปนั่งทางเดินหรือตรงบันไดให้เกะกะ
พูดย้ำกันไว้เพราะไม่อยากเห็นหลายคนอาจจะเดินสะดุดคนที่นั่งแชร์อยู่บนขั้นบันไดตกลงมาจากบันไดขาหัก แล้วจะหาว่าหล่อไม่เตือน
[url=]6.พูดเรื่องนี้ก็ดี 'ป้ายห้ามนั่ง' อย่างที่เราเคยบอก เอาไว้ว่าป้ายห้ามนั่ง แต่เมื่อเมื่อยและไม่มีที่ ตรงไหนก็กลายเป็นที่นั่งได้ แม้จะมีป้ายห้ามอย่างชัดเจน เท่าที่เดินสำรวจอยู่หลายรอบ ปีนี้ก็เช่นกัน ระหว่างขั้นบันไดทางลงมักจะมีหนอนหนังสือนั่งพัก นั่งอ่านหนังสือที่ซื้อมากันอยู่ หนักไปกว่านั้น บางคนก็ซื้ออาหาร หยิบขนมมานั่งกิน แถมกินแล้วทิ้งไม่เป็นที่
เอ้อ...นิสัยของคนกลุ่มเล็กๆ (เราเชื่อแบบนั้น) หวังว่าเหลืออีกไม่กี่วันคงดีขึ้นนะจ๊ะ
7.เหมือนเส้นผมบังภูผา ว่าแต่คุณเคยมองขึ้นไปบนฟ้าบ้างไหม โดยเฉพาะในบรรดาฮอลล์ใหญ่ๆ ถ้าคุณหาสำนักพิมพ์ไม่ถูก ขี้เกียจไปค้นในคอมพิวเตอร์ที่เขาจัดให้ หรือพวกมือใหม่ในการมางานดูการประมวลผลเท่าไหร่ก็ยังไม่รู้เรื่อง หรือจำชื่อสำนักพิมพ์ไม่ได้ เราแนะนำให้มองขึ้นไปข้างบน ก็จะพบกับป้ายสำนักพิมพ์ เสมือนเป็นการบอกทางว่า สำนักพิมพ์ที่คุณต้องการอยู่ตรงไหน บอกแล้วเรื่องเล็กๆ ที่ช่วยคุณได้เหมือนกัน
[url=]8.โหวกเหวกออกมาจากลำโพงข้อความเตือนภัยระวังโจรร้ายภายในงาน ซ้ำไปซ้ำมาแหกปากเสียงดังเกินเดซิเบลหูคนรับได้ ฟังนานๆ มีเวียนหัวแน่นอน เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เตือนภัยที่เรามักจะพบเห็นกระจัดกระจายตามจุดต่างๆ ของงานมหกรรมหนังสือ มันยังทำให้เราสงสัยว่า ถ้ามีการจัดอันดับประเทศไทยน่าจะมีขโมยมากที่สุดในโลก หรือคุณว่าไม่จริง
[url=]9.ตบท้ายด้วยเรื่องประทับใจ มันเจ๋งตรงวิธีนำเสนอ แก้ปัญหาข้อ 8 ได้อย่างหมดจด ร้อยตำราจตรี ปรีชา นักงาน หรือหมวดเตื่อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจากรถวิทยุสายตรวจกองปราบปราม ซึ่งเป็นนโยบายของท่านผู้การกองปราบฯขับรถตระเวนตามที่ผู้คนพลุกพล่าน พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระวังตัวจากมิจฉาชีพกระชาก กรีดกระเป๋า ถือว่าเป็นพระเอกของเราในปีนี้
เรียกว่าหากใครไปงานสัปดาห์หนังสือแล้วเดินทางกลับด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ไม่ประทับใจลีลาให้เตะก้นคนเขียน 2 ที ด้วยภาษาเตือนภัยที่น่ารัก ปลายเสียงใส่สำเนียงของนักร้องเพื่อชีวิต (ใช่, ไอดอลของเขาคือ แอ๊ด คาราบาว) ประกาศผ่านโทรโข่ง ท่าทางยิ้มแย้มใจดี นอกจากจะทำให้เราอมยิ้ม เสียงโทรโข่งโด่งดังยังทำให้เราระวังตัวพวกกรีดกระเป๋าเป็น 2 เท่าตัว ของคุณหมวดปรีชา เจอท่านก็แวะเอาน้ำเอาท่าไปให้ดื่มหน่อยก็ไม่ผิดกฎกติกาอะไร
"ผมมาทำหน้าที่นี้ก็ดีใจ ที่มาบริการให้กับคนที่ใฝ่จะเรียนรู้ ผมชอบงานบริการประชาชน ชอบพบปะพูดคุยกับผู้คน 2-3 ปีที่มาทำงานเตือนภัยให้ ณ จุดนี้ มีเรื่องประทับใจมากมาย มีคนเอาน้ำ เอาขนมมาให้ มาขอถ่ายรูป เท่านี้ก็ชื่นใจหายเหนื่อย"
[url=]หมวดปรีชาบอกว่า เขามาทำงานทุกๆ วัน ตั้งแต่เวลา 12.00 น. จนถึง 19.00 น. แม้จะบ่นว่าปวดเมื่อย แต่เห็นคนมางานหนังสือมากขึ้นทุกปี และมิจฉาชีพน้อยลงทุกปี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ช่วยก็ดีใจ
"คนสมัยนี้ฉลาด ระวังตัว พวกมิจฉาชีพไม่ใช่น้อยขึ้น แต่ก่อเหตุได้น้อยขึ้น เพราะเรามีความรู้และระมัดระวังตัวกันมาก อย่างงานที่ขอหน่วยงานให้ผมไปช่วย เช่น สวนจตุจักร หรืออนุสาวรีย์ เวลาคนขึ้นรถเมล์คนขึ้นเยอะๆ หรือเดินๆ กันแน่นๆ คนพวกนี้ก็จะก่อเหตุง่าย พอเราประกาศให้ระวังพวกมิจฉาชีพ แล้วก็ใส่ลีลาไป คนก็สนใจ เยาวราชก็เคยขอกำลัง หัวหน้าก็ส่งผมไปพอเสร็จงาน ปีนี้เขาขอจองตัวผมไป เพราะพูดเก่งได้สาระและมีความฮาจากการใส่มุกเข้าไป"
ลีลาแบบนี้เขาฝึกฝนเอง ฝึกพูดต่อที่สาธารณะมากๆ ฟังมากๆ ที่สุดมันก็ตกผลึกเป็นแนวเรา
สุดท้าย หมวดปรีชาย้ำทิ้งท้ายว่า ตนเองประจำอยู่ประตูใกล้ๆ กับรถไฟฟ้าใต้ดิน เจอกันได้ยินเสียงกันก็เข้ามาทักทายถ่ายรูปกันได้ อีกอย่างก็อยากให้คนมางานหนังสือให้มากๆ อ่านให้มากๆ ประเทศชาติเราจะได้เจริญ.
[url=]อ้อ ทิ้งท้ายเรื่อง 'รถเข็นหนังสือ' ที่หลายคนบ่นยิกๆ มามากทุกปี ปีนี้ยิ่งบ่นมากเข้าไปใหญ่ เพราะมันมักจะสร้างปัญหาให้กับ โป้ง ชี้ กลาง นาง ก้อย รวมๆ แล้วเรียกว่านิ้วเท้า หรือหัวเข่า แข้งขา ของผู้ที่ไม่ได้เป็นญาติของคนลากรถที่ว่าแต่ประการใด ก็อย่างว่าส่วนใหญ่อยู่ข้างหลังคนเข็นจะไม่เห็นคนที่เดินแซง หรือเดินสวนกันหลายเห็นเป็นเรื่องสุดวิสัย แต่ถ้าริจะใช้รถก็ระมัดระวังให้ดีๆ เตรียมคำขอโทษไว้ให้มากๆ ไม่เช่นนั้นมางานหนังสือเข็นรถชิลไปมาอาจจะได้แผลกลับไป เตือนด้วยหัวใจเพราะหวังดี.
[url=]ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) | Powered by Discuz! X3.2 |