ประวัติย่อพระธาตุหัวใจนักบุญคามิลโล
หลังจากนักบุญคามิลโลได้ถึงแก่มรณกรรมเมื่อวันจันทร์ที่ 14 กรกฏาคม ค.ศ.1614 เวลาประมาณ 21.30น รวมสิริอายุ 64 ปี คุณพ่อ ชิคาเตลลี เลขานุการและนักประวัติศาสตร์คนแรกของคณะ ในหนังสือชีวประวัตินักบุญคามิลโล ซึ่งได้เขียนไว้ในปี ค.ศ.1627 ได้บรรยายภาพของหัวใจนักบุญคามิลโลว่า”หัวใจนักบุญคามิลโล ดูคล้ายกับทับทิมสีแดงและใหญ่โตผิดปกติ ซึ่งทุกคนที่ได้เห็นรู้สึกแปลกใจมาก” ซึ่งทำให้เรารู้ว่ามีการนำเอาหัวใจคามิลโลออกมาหลังจากที่ท่านได้เสียชีวิต



ในวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ.1742 พระคาร์ดินัลโจเซฟ สปีเนลลี ได้ให้การรับรองแลออกเอกสารต่างๆที่ได้พิสูจน์ว่า เป็นหัวใจของบุญราศีคามิลโลอย่างแท้จริง และขอให้คุณพ่อเจ้าคณะแขวงคามิลเลียนแห่งเมืองเนเปิล คืนหัวใจคามิลโลแก่ศูนย์กลางคณะที่อยู่ที่กรุงโรม และให้ถือเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ในวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ.1754 นักบวชคามิลเลียนแขวงเมืองเนเปิ้ลได้เก็บหัวใจบุญราศี คามิลโลไว้กลางหน้าอกของรูปแกะสลักนักบุญคามิลโลอีกรูปหนึ่ง และตั้งไว้ในที่ทุกคนสามารถมาแสดงความนับถือและเคารพได้ นอกนั้น นักบวชคามิลเลียนแห่งเมืองเนเปิ้ลได้เก็บสำเนาเอกสารแห่งกระบวนการการพิสูจน์ว่าเป็นหัวใจบุญราศีคามิลโลที่แท้จริง ซึ่งยังอยู่ในห้องเอกสารของคุณพ่อเจ้าคณะที่เมืองเนเปิ้ล ในปี ค.ศ.1807 เกิดเหตุการณ์เบียดเบียนนักบวช โดยพี่ชายของนาโปลีเลียนที่ประเทศอิตาลีและเมืองเนเปิ้ล และในปี ค.ศ.1809 ยออากิม มูระ ออกคำสั่งให้ยุบคณะนักบวชต่างๆ ในแขวงเนเปิ้ลและให้ปิดวัดต่างๆ และสั่งให้นักบวชทุกคนออกจากอารามกลับบ้าน เพราะเหตุนี้นักบวชที่แขวงเนเปิ้ลจึงอัญเชิญหัวใจนักบุญคามิลโลย้ายไปที่กรุงโรม ที่เป็นสถานที่ปลอดภัยกว่า และประดิษฐานที่บ้านนักบุญมักดาเลนาจนถึงปัจจุบัน ในปี ค.ศ. 1925 คุณพ่อมหาธิการของคณะนักบวชคามิลเลียน คุณพ่อปิโอ โฮลเซอร์ ได้ปฏิรูปห้องมรณภาพของนักบุญคามิลโลให้เป็นวัดเล็กๆ และได้เก็บหัวใจของนักบุญคามิลโล อันเป็นที่เคารพและนับถือในวัดนั้นเป็นอย่างดี วัดเล็กๆนี้ได้เป็นที่นักบวชและผู้มีใจศัทธาต่อนักบุญคามิลโลบุรุษที่ยิ่งใหญ่แห่งความรัก ซึ่งได้กระตุ้น “หัวใจนั้น” เหนือความสามารถของมนุษย์ ในการับใช้พระคริสตเจ้าผู้รับความทุกข์ทรมารในพี่น้องที่เจ็บป่วย ที่นักบุญคามิลโลรับใช้ผู้ป่วยเป็นเวลา 40 ปี สามารถถ่ายทอดแด่ผู้ที่อยากจะติดตามท่าน ตามพระพรพิเศษซึ่งพระเยซูเจ้าเองจากบนไม้กางเขน ได้มอบให้ท่านนักบุญคามิลโล ด้วยคำพูดที่ว่า “ ต่อไปคนขี้ขลาด อย่ากลัวข้าพเจ้าจะช่วยท่าน จะอยู่กับท่านและจะบังเกิดผลมากมายจากกิจการของท่าน” “ จงมุมานะต่อไป นี่ไม่ใช่กิจการของเจ้า แต่เป็นกิจการของเราเอง”| ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) | Powered by Discuz! X3.2 |