Baan Jompra
ชื่อกระทู้: พระแสน (เชียงแตง) [สั่งพิมพ์]
โดย: oustayutt เวลา: 2016-1-11 15:01
ชื่อกระทู้: พระแสน (เชียงแตง)
พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ นวโลหะเรียกกันว่า “หลวงพ่อแสน”
เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิราบปรางมารวิชัย หน้าตักประมาณ ๒ ศอกเศษ
หรือประมาณ ๒๕ นิ้วครึ่ง เป็นโลหะเนื้อสัมฤทธิ์สีทองต่างกันเป็น ๔ชนิดดังนี้
เบื้องพระศอตอนบนจนถึงพระเศียรและพระพักตร์สีทองเป็นนวโลหะสัมฤทธิ์แก่
เบื้องพระศอตอนล่างลงมาจนถึงพระองค์
และฐานรองสีทองสัมฤทธิ์เนื้ออ่อนกว่าตอนพระเศียรและพระพักตร์
เนื้อทองจีวรเป็นอีกสีหนึ่งเข้มกว่าเนื้อทองส่วนพระองค์
แต่ไม่เข้มกว่าตอนพระพักตร์และพระเศียร
ส่วนผ้าทาบสังฆาฏิก็เป็นเนื้อทองอีกชนิดหนึ่ง แตกต่างจากจีวรและสีพระองค์
พระพักตร์และพระเศียร
แต่เป็งสังฆาฏิชนิดยาวทาบลงมาถึงพระนาภีแบบลังกาวงศ์พระเกตุมาลาหรือพระรัศมีเป็นเปลวยาวขึ้นแบบลังกาวงศ์o
รอบฝังแก้วผลึก ๑๕ เม็ดนิ้วพระพัตถ์ไม่เสมอกันแบบพระเชียงแสน
และสุโขทัยยุคแรก พระเศียรโตเขื่องกว่าส่วนพระองค์จนสังเกตเห็นชัด
พระเนตรฝังแก้วผลึกในส่วนสีขาวและฝั่งนิลในส่วนสีดำฐานรองเป็นแบบบัวคว่ำบัวหงายประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถเบื้องหน้าพระองค์พระประธานออกมา>
จัดเป็นพระพุทธรูปสำคัญและงามเป็นพิเศษแตกต่างจากบรรดาพระพุทธรูปอื่น ๆ
มีลักษณะเป็นชนิดหนึ่งหาเหมือนพระพุทธรูปในที่อื่นไม่เป็นพระเก่าโบราณ
หลวงพ่อแสนองค์นี้เป็นพระที่ขึ้นชื่อลือชาเป็นที่นับถือชาวบ้านวัดถิ่นนี้ทั่วกันก
และถือว่าศักดิ์สิทธิ์นัก
อำนวยความสำเร็จให้แก่ผู้ปรารถนาได้นานาประการและเป็นอัศจรรย์ยิ่งนัก
จนเป็นนิยามเล่ากันปรัมปราสืบ ๆ
มาว่าหลวงพ่อแสนองค์นี้จะลอยน้ำมามีคนอัญเชิญขึ้นหลายแห่ง
ถึงกับใช้แรงคนดึงลากขึ้นเป็นจำนวนแสนคนก็ไม่เสด็จขึ้นเมื่อลอยมาถึงวัดหงส์
ฯนี้ แล้ว เพียงอาราธนาอัญเชิญก็เสด็จขึ้นด้วยกำลัง ๔ – ๕คนเท่านั้น
ดังนั้นหลวงพ่อองค์นี้จึงมีนามว่า “หลวงพ่อแสน”
คือคนเป็นแสนแสนดึงไม่ขึ้นนั่นเอง
ก็อัศจรรย์อยู่ถึงกับมีเรื่องอัศจรรย์ปรัมปราเป็นนิยายประจำพระพุทธรูปองค์นี้
ทั้งนี้เห็นจะเนื่องด้วยหลวงพ่อแสนองค์นี้ศักดิ์สิทธิ์มีฤทธาศักดานุภาพเป็นที่ประจักษ์ทั่วไปนั่นเองุ
ตามตำนานสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ทรงจัดไว้ในประเภทพระพุทธรูปสำคัญทรงพระนิพนธ์ประวัติไว้ในตำนานจองพระองค์ท่านดังนี้ฐ
“พระแสน”(เมืองเชียงแตง) พระพุทธรูปองค์นี้
เชิญมาแต่เมืองเชียงแตงเมื่อปีมะเมีย พ.ศ. ๒๔๐๑
ประดิษฐานไว้ในอุโบสถวัดหงส์รัตนาราม” คิดเป็นเวลาขวบปีได้๑๐๐ ปี
แล้วจนบัดนี้
อนึ่งหลักฐานการอัญเชิญมาก็เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นมูลเหตุน
ดังพระบรมราชาธิบาย ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ในหนังสือชุมชนพระบรมราชาธิบายในพระองค์ท่าน
เพื่อให้ผู้อ่านทราบเรื่องเกี่ยวกับหลวงพ่อแสน
ซึ่งมีพระราชดำรัสเป็นลักษณะทรงโต้ตอบกับพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
ใจความว่า “ถ้าฉันพอใจจะให้มีพระพุทธรูปสำคัญมีชื่อที่คนนับถือ
อยู่ที่วัดหงส์ ฯเป็นของสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ให้เป็นพระเกียรติยศแล้ว
พระชื่อพระแสนอยู่เมืองเชียงแตงอีกพระองค์หนึ่งงามนักหนา
ถ้าฉันจะมีตราไปเชิญมาท่านจะให้พระยาราชโยธาที่ครั้งนั้นเป็นพระยาสุเรนทร์ใช้คนให้นำไปชี้องค์พระให้ร
ฉันเห็นว่าท่านประสงค์ดังนั้น ไม่มีเหตุที่ควรจะขัดฉันก็ไม่ได้ขัด
ฉันก็ได้ให้มหาดไทยมีตราไปเชิญพระนั้นลงมา
พระยาสุเรนทร์ใช้พระลาวรูปหนึ่งเป็นผู้รับอาสานำไป
ฉันก็ได้ให้ผ้าไตรไปถวายพระสงฆ์ลาวรูปนั้นหนึ่งไตร แล้วก็ให้นำทองตราไป
ได้เชิญพระแสนลงมาถึงกรุงเก่าแล้ว ฉันก็ได้บอกถวายวังหน้า
ให้ท่านจัดการไปแห่รับมาไว้วัดหงส์ทีเดียว แลฐานที่จะตั้งพระนั้น
ฉันให้ท่านทำเป็นการช่างในพระบรมราชวัง ฉันจะเป็นแต่รับปิดทอง
ฐานพระนั้นก็ยังทำค้างอยู่บัดนี้ก็ยังไม่ได้ปิดทอง
ว่ามาทั้งนี้เป็นการเล่าถึงเหตุที่เป็นแลถ้อยคำที่ได้พูดกันแล้วแต่ก่อนนี้ไป
ให้ท่านทั้งปวงทราบ” ดังนี้
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) |
Powered by Discuz! X3.2 |