Baan Jompra

ชื่อกระทู้: เรื่อง "หลวงปู่ให้ชีวิตแม้แต่ในความฝัน" [สั่งพิมพ์]

โดย: oustayutt    เวลา: 2015-12-7 11:59
ชื่อกระทู้: เรื่อง "หลวงปู่ให้ชีวิตแม้แต่ในความฝัน"

เรื่องเล่าขานตำนานพระเกจิฆราวาสจอมขมังเวทรย์

อานุภาพอานิสงส์ของบทสวดนี้
เล่าโดย อ.สาโรจน์ วงษ์ศรี
ณ กระท่อมป่ามัน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ 3 วัน 3 คืน หลวงปู่อดข้าวไม่มีอาหารฉัน ลูกศิษย์ก็อดไปด้วย ตกดึกในคืนที่ 3 หลวงปู่สวดบทสวด ว่า โยโส ภะคะวา อะระหัง สัมมา กันตุยธูป กันตุยเตียน กันตุยมะมาย อากู อากู ท่านสวดย้ำ คำว่า อากู อากู ไม่ถึง 15 นาที คณะแม่ชีจากสกลนคร พร้อมรถตู้ 1 คัน นำอาหารเสบียงมาถวายเต็มที่โดยไม่คาดคิด
บางครั้งหลวงปู่ได้สวดด้วยสำเนียง คำว่า สามมาสามพุธ เลขก็ออกสามแปด คนก็ฮือฮาท่านมากในช่วงนั้น

ประสบการณ์โดยคุณ Euro Fifa

เรื่อง "หลวงปู่ให้ชีวิตแม้แต่ในความฝัน"

ตอนนั้นไม่สบาย ป่วยแต่ไม่ทราบสาเหตุคะ ไปหาหมอตรวจทุกอย่างก็ปกติหมด จนเหลืออย่างเดียวคือ x-ray คะ เลยตัดสินใจ x-ray สมองดูว่าเป็นอะไรรึป่าว เพราะถ้าไม่มีสาเหตุเราจะป่วยมีอาการได้ไง สรุปตรวจไม่เจออะไรทั้งนั้น หมดเงินไปเยอะเลย หมอบอกว่าอาจเครียด ให้ไปหาหมอทางจิตดู เราก็คิดในใจว่าเค้าคงคิดว่าเราจิตไม่ปกติแน่เลย หมอก็ให้แต่ยาวิตามินมากินจนอ้วนเลย พอเป็นทีก็ไม่กล้าไปหาหมออีกเพราะหมอช่วยอะไรเราไม่ได้ เลยคิดว่าตายก็ตาย เริ่มปลงและไปทำประกันชีวิตไว้ให้ลูก ตอนนั้นยังไม่รู้จักหลวงปู่ มีแต่แฟนเล่าให้ฟังว่ามีพระอยู่ที่ศรีสะเกษชื่อหลวงปู่สรวงคนนับถือมากเลยนะ คนไปกราบไหว้ขอพรเยอะ เราก็เลยมาเปิดดูใน กูเกิล แล้วก็ได้อธิฐาน่ขอหลวงปู่ว่าขอให้หายป่วยด้วยเถอะแล้วจะไปกราบท่านที่ศรีสะเกษ หลังจากนั้นเดือนนึงเราฝันว่า หลวงปู่มาเข้าฝันบอกว่าจะมารักษาโรคให้ เราก็มองว่าเอะพระมาจากไหนนะหน้าตาคุ้นๆ ตอนนั้นคือลืมเรื่องหลวงปู่ไปแล้ว พอตื่นมาก็มานั่งคิดแล้วก็นึกได้ว่าหน้าตาเหมือนหลวงปูสรวงเลยเพียงแต่อายุน่าจะประมาณ 40 หน้าตายังไม่แก่ผิวพรรณยังดูหนุ่มเลยไม่นึกว่าเป็นหลวงปู่ พอมาเปิดดูใน กูเกิล เลยแน่ใจหน้าตาเหมือนกันเปะเลยหลังจากนั้นอาการก็ดีขึ้นจากที่ เป็นวันเว้นวันก็ อาทิตย์ เดือน ห่างออกเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ไม่มีอาการแล้ว เลยเอารูปหลวงปู่มาติดไว้บนหัวนอนค่ะ สาธุ

ชาวโลกกำลังจดจำรอยยิ้มของหลวงปู่สรวง ผู้ได้รับการขนานนามว่า เทวดาเดินดิน เพราะเหตุใดหลวงปู่สรวงเป็นที่ศรัทธาของคนจำนวนมาก และคนเหล่านั้นกำลังมุ่งเข้ามาศึกษาเรื่องราวประวัติของท่าน จนบัดนี้ได้กลายเป็นตำนานที่เล่าขานกันไม่จบสิ้น แม้ว่าหลวงปู่สรวงจักได้ละสังขารไปแล้ว เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2543 ก็ตาม รวมระยะเวลา 10 กว่าปีแล้ว คิดว่าคงไม่ใช่เพียงแค่รอยยิ้มหลวงปู่สรวงที่ปรากฏในภาพ ที่ทำให้คนทั้งหลายจำจดท่านได้ แต่คงเป็นเพราะปฏิปทา จริยวัตร ของท่าน ที่ทำให้คนจดจำท่าน ที่สำคัญท่านเป็นผู้ที่มีความเมตตาต่อเหล่าสรรพสัตว์เท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ เทวดา หรือสัตว์เดรัจฉาน ท่านเคยฉุดช่วยเหลือเหล่าสัตว์ทั้งหลายให้ได้พ้นจากทุกข์ยากลำบากทั้งทางกายทางใจมามากต่อมาก และที่สำคัญท่านก็เป็นที่พึ่งให้คนป่วยและคนเหล่านั้นก็หายป่วยประหนึ่งว่าได้ชีวิตใหม่ ได้รอยยิ้มแห่งสันติสุข รอยยิ้มแห่งผาสุขขึ้นมาใหม่






ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2