Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
เพื่อนบ้านและบ้านเรา
[สั่งพิมพ์]
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2015-7-24 06:22
ชื่อกระทู้:
เพื่อนบ้านและบ้านเรา
ที่มา..
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1437638499
"เพื่อนบ้านและบ้านเรา
"
คอลัมน์ หลอน โดย นทธี ศศิวิมล
ตอนนั้นเราเพิ่งแต่งงานกัน ผ่อนบ้านจัดสรรแถวชานเมือง เช้ามาเราสองคนก็ขับรถเข้าทำงานในกรุงเทพฯ ตกเย็นก็กลับด้วยกันเพราะที่ทำงานใกล้กัน บางวันก็กินข้าวนอกบ้าน บางวันก็ดูหนังโรงก่อนกลับ ชีวิตดำเนินผ่านไปอย่างมีความสุขดี แต่ที่เราต้องย้ายบ้านก็เพราะเพื่อนบ้าน!
ด้วยความที่เช้าไปทำงานเย็นกลับก็ดึก เสาร์อาทิตย์ก็แทบไม่อยู่บ้าน จึงแทบไม่เคยพบเพื่อนบ้าน อย่าว่าแต่คุยกันเลย
เสาร์ นั้นเราได้คุยกับเพื่อนบ้าน เรียกว่าน่าจะเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้ปะหน้ากัน ผมกับภรรยาก็มักจะได้แต่ยิ้ม บอกตามตรงจำเพื่อนบ้านไม่ได้สักคน ใครอยู่หลังไหน ซอยไหนไม่รู้เลย
เช้า วันนั้นเราเห็นว่ามีร้านอาหารเปิดใหม่จึงเข้าไปแวะชิม พี่คนนั้นกำลังกินอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง พอดีโต๊ะแกทิชชู่หมด เดินมาขอแบ่งจากโต๊ะผม ผมก็ยื่นให้ แกถามว่าอยู่ในหมู่บ้านหรือ ผมตอบว่าใช่ แล้วก็ไม่ได้คุยกัน จนกลับเข้าบ้านระหว่างรอภรรยาเปิดประตูรั้ว ปรากฏว่าบ้านแกติดกันกับผม แกถามผมเรื่องต้นไม้ทำนองชวนคุยมากกว่า ผู้หญิงน่าจะเป็นภรรยายืนยิ้มให้ใกล้ๆ
ตกค่ำได้ยินเสียงเด็กวิ่งเล่นเจี๊ยวจ๊าวกันเป็นครั้งแรก ภรรยายังพูดเลยว่า "อยู่มาตั้งนาน เพิ่งได้ยินเสียงเด็กๆ"
"ใช่ๆ บ้านนี้มีลูกหลายคนเสียด้วย" ผมตอบภรรยายังจำได้เลยว่าแซวเธอว่าเรามามีลูกเหมือนเขาไหม
หลัง เที่ยงคืนมีเสียงผู้ชายโวยวายดังมาก สลับกันกับเสียงเด็กร้องเป็นอย่างนี้ตลอดช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์สี่วัน จนผมกับภรรยาคุยกันว่าเราน่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันแต่แรก แต่น่าแปลกที่ผมกลับไม่เจอพี่คนนั้นในทุกๆ เช้าจนกระทั่งวันพุธที่เราต้องไปทำงานกัน เจอแกเปิดประตูรั้วคงจะไปทำงานด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก เมื่อสบตากันแกเดินตรงมาหาผม "บ้านคุณหนวกหูมาก ผมแทบไม่ได้นอนเลย"
ผมงุนงงอยู่ เราอ่านแต่หนังสือกัน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเปิดเพลงดังหรือตอกอะไรดัง
เขายังไม่หยุด "ผมว่าจะโทร.แจ้งความด้วยซ้ำ แต่ยังเกรงใจอยู่"
ผม ชักฉุนจึงตอบโต้ไป "บ้านคุณนั่นแหละ เด็กวิ่งเล่นเจี๊ยวจ๊าว บางทีคุณเองก็โวยวายเสียงดัง ผมก็ทนคุณไม่ได้เหมือนกันนะ ไม่ใช่คุณฝ่ายเดียว"
แต่แกไม่ยอมผม "อะไร! ผมน่ะหรือ ผมไม่มีลูก"
"ตลกน่า ถ้าไม่ใช่ลูกก็หลานคุณแหละ อย่ามาเล่นลิ้นเลย" พูดแล้วจ้องหน้าแกเขม็ง มีเรื่องก็มีเรื่องสิ ไม่ไหวแล้ว
"นี่คุณ ผมอยู่คนเดียวนะ"
ผมหัวเราะ "ถ้างั้นผมจะบอกอะไรให้ แบบนี้ผมก็พูดได้ คุณจะเชื่อไหม ผมอยู่สี่วันนี้ไม่เคยส่งเสียงดังเลย ผมนี่แหละพูดความจริง"
"คุณโกหก ผมต่างหากที่พูดจริง" แกเถียงเสียงดัง จนภรรยาผมต้องออกมาดึงผมไว้ ตลอดเวลาผมเห็นฝ่ายภรรยาเขานั่งอยู่แต่ในรถ เอาแต่ยิ้ม
คืนนั้นไม่มีเสียงดังใดๆ จนผมพูดกับภรรยาว่า เห็นไหม ถ้าไม่โวยวายใส่บ้างก็คงหนวกหูอีกแน่
แต่ คืนต่อมาสิ กลับเป็นเหมือนเก่าอีก จนผมไม่คิดจะทนแล้ว ออกไปเคาะประตูบ้านเขากลางดึก แกเดินสะลึมสะลือออกมาเหมือนถูกปลุก "มีอะไรหรือ"
"บ้านคุณหนวกหูมาก ผมทนไม่ไหวแล้ว"
"อะไรของคุณ บ้านคุณนั่นสิหนวกหูจนผมต้องนอนคลุมโปง ผมขี้เกียจทะเลาะกับคุณแล้ว กลับไปเถอะ ไม่งั้นผมจะแจ้งตำรวจ" เขาสวน
ผมมองเห็นภรรยาเขายิ้มให้อยู่ด้านหลัง "คุณโชคดีที่มีภรรยาใจเย็น"
"คุณรู้ได้ไงว่าแฟนผมใจเย็น"
"ก็ยืนอยู่ด้านหลังคุณไง ไม่เคยทำเสียงเดือดร้อนคนอื่น แถมดูเป็นมิตร"
"นี่คุณ เธอตายมาสองปีแล้ว"
"ว่า ไงนะ แล้ว.." ผมมองข้ามไหล่เขา เธอค่อยๆ ก้าวถอยจนถึงบันไดแล้วเดินขึ้นไปผูกคอกับผ้าปูที่นอนก่อนจะทิ้งตัวลงมา ผมตกใจแทบหงายหลัง หน้าตาที่ตื่นคงทำให้เขาตกใจเช่นกัน
"คุณเห็นแฟนผมหรือ" เขาร้อง
"ก็ ก็นั่นไง ที่บันได"
คืน นั้นเขานั่งร้องไห้ให้ผมฟังว่าแฟนเขาท้องสี่เดือนตอนฆ่าตัวตายในบ้าน ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวมาเกือบสองปีแล้ว "ผมผิดเอง ไม่เคยมีเวลาให้เธอ ทำแต่งาน" เขาเฝ้าร้องแต่เรื่องนี้ ทว่าสักพักเหมือนนึกได้หันมาพูดกับผม "แต่บ้านคุณ ทางโครงการไม่ได้บอกคุณหรือว่าเคยมีคนอยู่ก่อนหน้า"
ผมส่ายหัว เขาพูดต่อ "มีโจรขึ้นบ้าน ฆ่าตายทั้งบ้าน แต่ผมเข้าใจนะทำไมเขาไม่บอกคุณ เป็นใครก็คงกลัว"
พอ ทราบผมกับภรรยาก็ถึงกับโทร.ไปหาเพื่อนสนิทขอนอนค้างด้วย อีกหลายวันเมื่อเราตั้งหลักได้ ผมกลับมาตั้งใจขนของหลังจากเราตัดสินใจขายบ้าน ผมก็พบกับเพื่อนบ้านและคนในหมู่บ้านอีกหลายคน ผมพยายามสอบถามเรื่องนี้ จนได้พบกับความจริงที่ทำให้หวาดกลัวไปหลายปี
"ผู้ชายคน นั้นกลับมาเห็นเมียผูกคอตาย แกก็เลยผูกคอตายตาม คุณไม่สังเกตหรือ ซอยที่คุณอยู่เงียบมาก ความจริงแล้วคุณอยู่แค่หลังเดียวเอง"
โดย:
ธี
เวลา:
2015-7-24 15:49
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2