จะขอตัดภาพกลับมาที่วัดตาก้อง พอสิบตรีฉกาจเข้าไปกราบหลวงพ่อที่กุฏิ หลวงพ่อแช่มก็บอกสิบตรีฉกาจว่า
''ไอ้กาจ มึงรีบกลับบ้านเร็ว ลูกสาวมึงกำลังมีเคราะห์หนัก แต่ไม่ต้องกลัวมึงไปทันแน่ กูทำให้น้ำมันในถังน้ำมันเป็นน้ำท่าไปแล้ว มันไปไหนไม่รอดหรอก เรื่อบุญมึงพักไว้ก่อน''
ทาง ร.ต.ต.สกนธ์ พอลูกน้องได้ตัวสาวงามตามาขึ้นรถเเล้ว ก็สตาร์ทรถแล่นออกไปห่างจากบ้านไม่ไกลนักเครื่องก็ดับ สตาร์ทเท่าไหร่ก็ไม่ติด ร.ต.ต.สกนธ์ที่มีความรู้ด้านเครื่องยนต์ก็เปิดฝา
กระโปรงรถเพื่อตรวจดูเครื่องยนต์ แต่ไม่พบความผิดปกติ ทันใดก็ได้ยินเสียงลูกน้องร้องบอกว่า
''นาย...พ่อนางนี่มันวิ่งหน้าตั้งมาแล้วจะทำอย่างไรดี''
ร.ต.ต.สกนธ์สั่งให้เอาสาวงามตาซึ่งตอนนี้ถูกมัดมือมัดปากไว้เเล้วลงจากรถไปไว้ข้างทาง ด้วยเกรงว่าหากเกิดยิงกันจะถูกลูกหลง
สิบตรีฉกาจมองเห็นรถจิ๊ปจอดอยู่ไม่ไกลจากบ้านนักก็วิ่งขึ้นไปบนบ้าน หยิบปืน พาลาเบลลั่มคู่มือติดมือลงมากระชากลูกเลื่อนขึ้นลำ ระลึกถึงหลวงพ่อเเช่มวัดตาก้องให้คุ้มครอง วิ่งลงจากบ้านไปที่รถ ปากก็ร้องตะโกนว่า
''ไอ้พวกหมาลอบกัด เล่นทีเผลอตอนกูไม่อยู่บ้าน มาเล่นงานลูกสาวกู คืนลูกสาวกูมา กูจะไม่เอาเรื่องพวกมึง''
ลูกน้องของ ร.ต.ต.สกนธ์ ยิงปืนสกัด แต่อานุภาพแห่งเหรียญหลวงพ่อแช่มวัดตาก้องก็สำแดงบารมีทำให้เเคล้วคลาด ลูกปืนไม่ถูกร่างกายของสิบตรีฉกาจแม้เเต่นัดเดียว พอได้ระยะฉกรรจ์ การดวลปืนระหว่างลูกน้องของ ร.ต.ต.สกนธ์กับสิบตรีฉกาจยังคงดำเนินต่อไป ลูกน้อง ร.ต.ต.สกนธ์สิบตำรวจเอก ถูกยิงตายคาที่สองศพ
สิบตรีฉกาจถูกยิงเข้าที่สำคัญหลายนัด แต่กระสุนไม่ระคายผิว มีเเต่รอยจ้ำเขียวที่ตัวและรอยเสื้อขาดเป็นรูบริเวณที่กระสุนทะลวงเข้าไป ศพลูกน้องเตือนสติ ร.ต.ต.สกนธ์ว่า ศัตรูมีดีให้หนีเอาชีวิตรอด
ประกอบกับว่าตอนนั้นมีชาวบ้านวิ่งออกมาดูกันมากขึ้น หากไม่เผ่นมีหวังถูกรุมประชาทัณฑ์ตายคาเท้า ร.ต.ต.สกนธ์กับลูกน้องที่เหลือต่างเผ่นกันป่าราบ ผู้ใหญ่บ้านมาเห็นสิบตรีฉกาจยืนถือปืนรอมอบตัว โดยมีศพของลูกน้อง ร.ต.ต.สกนธ์นอนตายอยู่สองศพ ชาวบ้านไปช่วยแก้มัดให้กับสาวงามตา เธอโผเข้ากอดพ่ออย่างดีใจ ร้องไห้ด้วยความดีใจ บอกว่าหนูเป็นหนี้ชีวิตพ่อ ชาตินี้ใช้ไม่หมด สิบตรีฉกาจบอกว่าไม่ใช่พ่อหรอกลูก หลวงพ่อแช่มท่านบอกพ่อให้มาช่วยต่างหาก
หลังมอบตัวแล้วทางตำรวจท้องที่ได้ทำสำนวนส่งฟ้องศาลในข้อหาฆ่าคนโดยเจตนาแต่สิบเอกฉกาจได้ตั้งทนายสู้ว่าเป็นการป้องกันตัว ศาลสั้งสืบพยาน ทางจำเลยอ้างหลวงพ่อเเช่มเป็นพยาน ศาลจึงให้ออกหมายเรียกหลวงพ่อเเช่มมาเป็นพยาน อัยการนมัสการถามหลวงพ่อแช่มว่ารู้ได้อย่างไรว่าเกิดเหตุมีคนมาฉุดลูกสาวสิบตรีฉกาจ หลวงพ่อแช่มตอบว่า
''เพราะอาตมาศึกษาวิชาที่เรียกว่าสมถกรรมฐานได้ฌานสามารถรู้เหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาปัจจุบันและอนาคต หากอัยการสงสัยก็ให้ไปเปิดพระไตรปิฏกดู หรือนมัสการถามพระเถระผู้ใหญ่ดูก็ได้ว่าจริงไหม''
ครั้นหลวงพ่อเเช่มวัดตาก้องเบิกความเสร็จเเล้วก็เดินทางกลับวัด ศาลได้สืบพยานสองฝ่ายเเล้วนัดตัดสิน สิบตรีฉกาจถูกตัดสินประหารชีวิตในฐานะฆ่าคนตายโดยเจตนา เพราะทางผู้ตายเป็นตำรวจที่มาราชการ ส่วนที่อ้างว่าป้องกันตัวนั้นศาลเห็นว่าเกินกว่าเหตุ
สิบตรีฉกาจถูกส่งมาไว้ที่แดนประหารเรือนจำบางขวาง ได้รู้จักกับข้าพเจ้าที่เป็นพี่เลี้ยงนักโทษข้าพเจ้าฟังเรื่องเเล้วก็เห็นใจ จึงช่วยเหลือทำเรื่องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาจากคำอุทธรณ์ที่ข้าพเจ้าช่วยทำ มีการสืบพยานเพิ่มตามคำอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์จึงกลับคำตัดสินว่าจำเลยกระทำเพื่อการป้องกันตัวสมควรเเก่เหตุให้ปล่อยตัวจำเลยอัยการยื่นฏีกาศาลพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ สิบตรีฉกาจจึงเป็นอิสระ
พอญี่ปุ่นมาขึ้นไทยสิบตรีฉกาจก็เข้าร่วมกับขบวนการเสรีไทย รบกับญี่ปุ่นแบบใต้ดินจนทำให้ประเทศไทยพ้นจากข้อกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรสงคราม และไม่ต้องเสียค่าปฏิกรณ์สงคราม
นี่แหละครับอภินิหารเหรียญปืนไขว้ของหลวงพ่อเเช่มวัดตาก้อง พระเกจิอาจารย์ชาวนครปฐมที่มีผู้คนนับถือมาก แม้มรณภาพแล้ว รูปหล่อของท่านที่วัดก็ยังมีผู้ไปปิดทองจนหนาเป็นนิ้วด้วยความศักดิ์สิทธิ์
สำหรับตอนนี้ขอมอบ◎พระคาถาแคล้วคลาด◎
ของหลวงพ่อแช่มวัดตาก้อง
''อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นะอัต โมอุต พุทหยุดดินปืน ธาปิต ยะพระพุทธเจ้าแผลงฤทธิ์ ผุดผัดผิดสวาหะ''