Baan Jompra

ชื่อกระทู้: >> ตะกรุดสามพันตึง << [สั่งพิมพ์]

โดย: Admin    เวลา: 2015-6-17 00:10
ชื่อกระทู้: >> ตะกรุดสามพันตึง <<


หลวงปู่หล้า อุตฺตโม (วาจาสิทธิ์)

           หลวงปู่หล้า วาจาสิทธิ์ เทพเจ้าแห่งตำบลเกาะแก้ว แดนแห่งไกปืนเทียงในสมัยนั้น เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นป่าดงดิบมีทั้งเสือสิงห์กระทิงช้างและสัตว์นานาชนิด อาศัยอยู่มากมาย ในน้ำก็มีจระเข้ซึ่งเป็นสัตว์ใหญ่แห่งสายน้ำ ดังคำที่ว่าจระเข้เจ้าแห่งนที อินทรีเจ้าแห่งเวหา พยัคฆาเจ้าแห่งพงษ์ไพร ในเขตตำบลเกาะแก้วมีลำน้ำอันเกิดจากธรรมชาติอยู่สายหนึ่ง เรียกชื่อว่าลำน้ำห้วยใหญ่ ลำห้วยสายนี้มีวังลึกอยู่ที่หนึ่ง ชุมชนในย่านนี้ เรียกวังน้ำแห่งนี้ว่า วังโพรงตะเข้ เพราะมีจระเข้อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก


           ประมาณปี พ.ศ.๒๕๔๐ มีผู้คนกลุ่มหนึ่งซึ่งอพยพมาจากตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ มาตั้งรกรากประกอบสัมมาอาชีพ อยู่ข้างวังน้ำแห่งนี้ และตั้งชื่อชุมชนของตนเองว่า บ้านวังโพรงตะเข้ ต่อมาคำว่า ตะ หายไป ปัจจุบันจึงเรียกว่าวังโพรงเข้เท่านั้น เมื่อชุมชนใหญ่ขึ้นเป็นธรรมดาของชาวไทยที่นับถือพระพุทธศาสนา สิ่งที่เป็นฉัตรแก้วของชุมชน ก็คือวัดราวปี พ.ศ. ๒๔๕๐ ผู้นำชุมชน คือนายชื่น ได้เป็นผู้นำในการสร้างวัด และเรียกวัดตามชื่อของหมู่บ้าน เมื่อสร้างเสนาสนะบางส่วนสำเร็จแล้ว ก็ได้ไปนิมนต์พระจากวัดแห่งหนึ่ง ในตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่สองรูป ชื่อพระโฮม กับพระหนอมมาจำพรรษา วัดของชุมชนบ้านวังโพรงเข้ก็เจริญตามสภาพมาโดยลำดับ

           จนกระทั่งปี พ.ศ.๒๔๖๔ หลวงปู่หล้า อุตฺตโม ก็มาจำพรรษาเป็นเจ้าอาวาส จนมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๙
ดังกล่าวมาแล้วในฉบับก่อน



           หลวงปู่หล้าตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ ท่านเปรียบเสมือนเทพเจ้าของประชาชนชาวตำบลเกาะแก้ว เพราะในสมัยนั้นทางการแพทย์ยังเข้าไปไม่ถึง เมื่อยามเจ็บป่วยไข้ชาวบ้านในย่านนั้น ก็ได้อาศัยยาสมุนไพร น้ำมนต์ เวทมนต์หลวงปู่เป็นที่พึ่งแทนหมอ ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อไม่ถึงที่ตายก็หายจากโรคภัยไข้เจ็บที่มาเบียดเบียนหลวงปู่จึงเป็นที่เคารพนับถือของชุมชนสำหรับเป็นที่พึ่งทางใจ


          ในยุคแรกหลวงปู่หล้าทำ ตะกรุดสามพันตึง แจกประชาชนเมื่อมีผู้ต้องการเป็นจำนวนมากจนหาโลหะทำตะกรุดไม่ทัน หลวงปู่จึงทำผ้ายันต์สามพันตึง ซึ้งวัตถุดิบหาง่ายกว่าแจกจ่าย จนพอเพียงแก่ความต้องการ ในปีต่อ ๆ มาเมื่อประชาชนต่างถิ่นได้ยินกิติศัพท์ของหลวงปู่หล้า และอภินิหารของตะกรุดสามพันตึง ประชาชนจึงพากันมาขอ หลวงปู่บอกว่าสร้างได้หนเดียว สร้างอีกไม่ได้ อาจารย์ห้าม แต่ผู้ที่ต้องการก็อ้อนวอนขอ หลวงปู่ทนอ้อนวอนไม่ได้ จึงสร้าง ตะกรุดหกพันตึง และ เก้าพันตึง แจกจ่ายตามลำดับ

โดย: Admin    เวลา: 2015-6-17 00:12
>> ตะกรุดสามพันตึง <<
...หนึ่งในวัตถุมงคลชุด " แสนตรีเวทย์ "
ที่อาจารย์สรายุทธ สร้างขึ้นตามตำราหลวงปู่หล้า โดยมีสองแบบคือ แบบผอกผง และไม่ผอกผง

โดย: Admin    เวลา: 2015-6-17 00:45
ปกป้องคุ้มภัย เมตตามหาเสน่ห์
โดย: Metha    เวลา: 2015-6-17 01:21

มีแค่ดอกเดียว อยากได้เพิ่ม
โดย: majoy    เวลา: 2015-6-17 01:22
โชคดีมีแบบพอกผงหนึ่งดอก เดี๋ยวไว้หาเวลาไปเลี่ยมลองใช้
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-6-24 15:34
ดีเหลือหลาย พลิกแพลงใช้ตามความจำเป็น
โดย: majoy    เวลา: 2015-6-24 15:50
LightGuardian ตอบกลับเมื่อ 2015-6-24 15:34
ดีเหลือหลาย พลิกแพลงใช้ตามความจำเป็น

มาแบบนี้อีกละ มาเฉลยเลย

ลั้นลายังไง
กันคุณกันของยังไง
คุ้มครองตัวยังไง

ให้ไวๆ
โดย: Metha    เวลา: 2015-6-25 03:20
LightGuardian ตอบกลับเมื่อ 2015-6-24 15:34
ดีเหลือหลาย พลิกแพลงใช้ตามความจำเป็น

ดียังไงบ้างหน่อ...ขยายความหน่อย
โดย: Nujeab    เวลา: 2015-6-25 08:24
รอฟังด้วยคน
โดย: majoy    เวลา: 2015-6-25 15:41
อีตาแชป์ ถ้าไม่แถลงออกมา วันอาทิตย์จับล็อกปล้นของ
โดย: LightGuardian    เวลา: 2015-6-25 15:49
เฮือกกกกกก
โดย: majoy    เวลา: 2015-6-26 06:52
LightGuardian ตอบกลับเมื่อ 2015-6-25 15:49
เฮือกกกกกก

ยัง  ยังทำเป็นลีลา ติดนิสัยเสี่ยเมธ เจอตัวนี่ปล้นเลย
โดย: majoy    เวลา: 2015-8-4 06:59
ใครได้ลองแล้วบ้าง
โดย: oustayutt    เวลา: 2015-9-10 17:32
วางตะกรุดพระกาฬ ลองตะกรุดสามพันตึง
โดย: majoy    เวลา: 2015-9-11 07:05
oustayutt ตอบกลับเมื่อ 2015-9-10 17:32
วางตะกรุดพระกาฬ ลองตะกรุดสามพันตึง

เป็นเยี่ยงไร โปรดบอก
โดย: oustayutt    เวลา: 2015-9-12 10:31
majoy ตอบกลับเมื่อ 2015-9-11 07:05
เป็นเยี่ยงไร โปรดบอก

รอก่อนคร๊าบบบ
โดย: majoy    เวลา: 2015-9-13 16:57
oustayutt ตอบกลับเมื่อ 2015-9-12 10:31
รอก่อนคร๊าบบบ

ปูเสื่อรอ
โดย: Metha    เวลา: 2015-9-15 08:02
พี่มาด บอกว่าจะแจกน้องๆๆในวันที่ไปถวายรูปหล่อ
ไม่รู้ว่ายังจำได้หรือเปล่าหน่อ
โดย: majoy    เวลา: 2015-9-27 09:49
Metha ตอบกลับเมื่อ 2015-9-25 18:45

อะไร ตาวิ้งๆ มีแล้วนี่นา

ตามความคิด จะทำแบบประมาณ ใส่หลอดคู่กับสาริกาจำปาลิ้นทอง แบ่งใส่สร้อยคนละข้าง ตรงกลางก็พระอาจารย์หรือหลวงปู่ สลับกันไป
โดย: Metha    เวลา: 2015-9-27 14:30
majoy ตอบกลับเมื่อ 2015-9-27 09:49
อะไร ตาวิ้งๆ มีแล้วนี่นา

ตามความคิด จะทำแบบประมาณ  ...

อยากได้สัก 108 ดอก
โดย: majoy    เวลา: 2016-1-27 08:14
ขึ้นรถลงเรือ ไปเหนือล่องใต้ ใช้ได้ทั่วไทย
โดย: Nujeab    เวลา: 2016-1-27 11:02
Metha ตอบกลับเมื่อ 2015-9-27 14:30
อยากได้สัก 108 ดอก

จัดไปครับ จัดไป
โดย: majoy    เวลา: 2016-1-28 08:08
คาถากำกับ เลือกใช้ได้ตามสถานการณ์ ทั้งเมตตา ปกป้องคุ้มครอง กันคุณกันของ

กรณีของจอย ถ้ายใช้นี่สวดครบสามบทเลยดีกว่า สบายใจ กิกิกิ
โดย: oustayutt    เวลา: 2016-1-29 20:50
majoy ตอบกลับเมื่อ 2016-1-28 08:08
คาถากำกับ เลือกใช้ได้ตามสถานการณ์ ทั้งเมตตา ปกป้องค ...

ผมขอเมตตานำบทเดียวก่อนที่เหลือท่องไม่ทัน^^
โดย: majoy    เวลา: 2016-1-30 09:11
oustayutt ตอบกลับเมื่อ 2016-1-29 20:50
ผมขอเมตตานำบทเดียวก่อนที่เหลือท่องไม่ทัน^^

ได้ผลต่อเนื่องยังไงมั่งหนอ กิกิกิ
โดย: majoy    เวลา: 2016-7-30 10:40
ใครลองยังครับ
โดย: touch-578    เวลา: 2022-5-11 09:28
หลวงปู่หล้า อุตฺตโม (วาจาสิทธิ์)

หลวงปู่หล้า วาจาสิทธิ์ เทพเจ้าแห่งตำบลเกาะแก้ว แดนแห่งไกปืนเทียงในสมัยนั้น เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นป่าดงดิบมีทั้งเสือสิงห์กระทิงช้างและสัตว์นานาชนิด อาศัยอยู่มากมาย ในน้ำก็มีจระเข้ซึ่งเป็นสัตว์ใหญ่แห่งสายน้ำ ดังคำที่ว่าจระเข้เจ้าแห่งนที อินทรีเจ้าแห่งเวหา พยัคฆาเจ้าแห่งพงษ์ไพร ในเขตตำบลเกาะแก้วมีลำน้ำอันเกิดจากธรรมชาติอยู่สายหนึ่ง เรียกชื่อว่าลำน้ำห้วยใหญ่ ลำห้วยสายนี้มีวังลึกอยู่ที่หนึ่ง ชุมชนในย่านนี้ เรียกวังน้ำแห่งนี้ว่า วังโพรงตะเข้ เพราะมีจระเข้อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

ประมาณปี พ.ศ.๒๕๔๐ มีผู้คนกลุ่มหนึ่งซึ่งอพยพมาจากตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ มาตั้งรกรากประกอบสัมมาอาชีพ อยู่ข้างวังน้ำแห่งนี้ และตั้งชื่อชุมชนของตนเองว่า บ้านวังโพรงตะเข้ ต่อมาคำว่า ตะ หายไป ปัจจุบันจึงเรียกว่าวังโพรงเข้เท่านั้น เมื่อชุมชนใหญ่ขึ้นเป็นธรรมดาของชาวไทยที่นับถือพระพุทธศาสนา สิ่งที่เป็นฉัตรแก้วของชุมชน ก็คือวัดราวปี พ.ศ. ๒๔๕๐ ผู้นำชุมชน คือนายชื่น ได้เป็นผู้นำในการสร้างวัด และเรียกวัดตามชื่อของหมู่บ้าน เมื่อสร้างเสนาสนะบางส่วนสำเร็จแล้ว ก็ได้ไปนิมนต์พระจากวัดแห่งหนึ่ง ในตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่สองรูป ชื่อพระโฮม กับพระหนอมมาจำพรรษา วัดของชุมชนบ้านวังโพรงเข้ก็เจริญตามสภาพมาโดยลำดับ

จนกระทั่งปี พ.ศ.๒๔๖๔ หลวงปู่หล้า อุตฺตโม ก็มาจำพรรษาเป็นเจ้าอาวาส จนมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๙
ดังกล่าวมาแล้วในฉบับก่อน


หลวงปู่หล้าตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ ท่านเปรียบเสมือนเทพเจ้าของประชาชนชาวตำบลเกาะแก้ว เพราะในสมัยนั้นทางการแพทย์ยังเข้าไปไม่ถึง เมื่อยามเจ็บป่วยไข้ชาวบ้านในย่านนั้น ก็ได้อาศัยยาสมุนไพร น้ำมนต์ เวทมนต์หลวงปู่เป็นที่พึ่งแทนหมอ ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อไม่ถึงที่ตายก็หายจากโรคภัยไข้เจ็บที่มาเบียดเบียนหลวงปู่จึงเป็นที่เคารพนับถือของชุมชนสำหรับเป็นที่พึ่งทางใจ


ในยุคแรกหลวงปู่หล้าทำ ตะกรุดสามพันตึง แจกประชาชนเมื่อมีผู้ต้องการเป็นจำนวนมากจนหาโลหะทำตะกรุดไม่ทัน หลวงปู่จึงทำผ้ายันต์สามพันตึง ซึ้งวัตถุดิบหาง่ายกว่าแจกจ่าย จนพอเพียงแก่ความต้องการ ในปีต่อ ๆ มาเมื่อประชาชนต่างถิ่นได้ยินกิติศัพท์ของหลวงปู่หล้า และอภินิหารของตะกรุดสามพันตึง ประชาชนจึงพากันมาขอ หลวงปู่บอกว่าสร้างได้หนเดียว สร้างอีกไม่ได้ อาจารย์ห้าม แต่ผู้ที่ต้องการก็อ้อนวอนขอ หลวงปู่ทนอ้อนวอนไม่ได้ จึงสร้าง ตะกรุดหกพันตึง และ เก้าพันตึง แจกจ่ายตามลำดับ

และต่อมาไม่ทราบปี พ.ศ. นายสำราญ เครือนิล ไม่ทราบยศตำแหน่งและปลัดแสวงไม่ทราบนามสกุล ได้รับคำสั่งจากเบื้องบน ให้มาปราบเสือขาวและสมุน นายร้อยสำราญ เครือนิล และปลัดแสวงได้นำไก่ฟ้าสีขาว มาถวายหลวงปู่คู่หนึ่ง และขอตะกรุดหลวงปุ่ พร้อมเล่าเรื่องที่เบื้องบนสั่งให้มาปราบเสือขาว ให้หลวงปู่ฟัง จึงมาขอของขลังไปคุ้มครองตัว หลวงปู่จึงทำ ตะกรุดโทนพญาไก่แก้ว ให้ท่านทั้งสอง และคนอื่น ๆอีกไม่ทราบจำนวน หลังจากได้ตะกรุด จากหลวงปู่ไปแล้วนาน นายร้อยสำราญ เครือนิล และ ปลัดแสวงพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ก็ปะทะกับเสือขาวและสมุน ที่ป่าข้างคลองแห่งหนึ่งห่างจากตัวอำเภอโคกสำโรงไปทางทิศเหนือ ประมาณสามกิโลเมตร เสียงปืนการปะทะกันระหว่างขุนโจรกับเจ้าหน้าที่ดังสนั่นหวั่นไหวได้ยินไกลหลายกิโล ทั้งสองฝ่ายยิงต่อสู้กันประมาณ ๒๐ นาที ฝ่ายโจรก็ล่าถอย เมื่อเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่เข้าเคลียพื้นที่ ปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายไม่มีใครเสียชีวิตและบาดเจ็บ เลือดสักหยดก็ไม่มีให้เห็นเมื่อข่าวการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่บ้านเมืองและขุนโจรชื่อดัง แพร่สพัดไปว่าไม่มีใครเป็นอะไรและมา รู้ว่าทั้งสองฝ่ายต่างเคยมาเอาวัตถุมงคลจากหลวงปู่หล้า ผู้คนที่ทราบข่าวนี้ต่างแห่กันมาขอวัตถุมงคลจากหลวงปู่เป็นจำนวนมาก หลวงปู่จึงสร้าง ตะกรุดมหารูดพญาไก่แก้ว แจกจ่ายแต่ผู้ที่ต้องการตะกรุดมีมากแต่ตะกรุดทำได้ช้าจึงไม่ทันแก่ความต้องการ หลวงปู่จึงให้พระจำปีแกะพิมพ์พระขุนแผนด้วยหินลับมีดโกน และสร้าง พระขุนแผนประจัญบาน แจกจ่ายให้กับประชาชนที่ต้องการอย่างทั่วถึง

หลังจากหลวงพ่อสร้างพระขุนแผนประจัญบานแล้วก็ไม่สร้างอะไรอีกหลายปีและก็ไม่รับแขกด้วย หลวงพ่อเข้าไปอยู่ในป่าห่างวัดหลายร้อยวา พระกับชาวบ้านต้องตามไปสร้างกุฏิให้ท่านที่ในป่าและผัดกันเอาข้าวปลาอาหารไปถวาย

ปี พ.ศ.๒๔๙๐ หลวงพ่อก็ออกจากป่ามาอยู่วัดตามปกติหลังจากหลวงพ่อออกจากป่ามาแล้วท่านก็เปลี่ยนแนวการสร้างวัตถุมงคลทางคงกระพันชาตรี มาเป็นทางเมตตา ในปีดังกล่าวหลวงพ่อได้ทำ สีผึ้งสัมพันธ์ตึง และสร้าง พระขุนแผนไก่แม่ปลาช่อน แจกจ่าย

เวลามีคนมาขอหรือบูชา สีผึ้งสัมพันธ์ตึงกับหลวงพ่อ ผู้หญิง หลวงพ่อจะให้รับสีผึ้งมือซ้าย ผู้ชายจะให้รับมือขวา เมื่อรับแล้วจะให้ยื่นมือข้างที่รับออกไปจนสุดแขน และให้ดมที่มืออีกข้างหนึ่งถ้าใครไม่ได้กลิ่นสีผึ้งหอมผ่านมาที่มืออีกข้างหนึ่งไม่ต้องเอาไป แต่ก็ปรากฏว่าทุกคน ที่ได้รับสีผึ้งก็จะได้กลิ่นหอม ผ่านมือผ่านแขน มาอีกข้างหนึ่ง

หลังจากหลวงพ่อแจกสีผึ้งสัมพันตึง และพระขุนแผนไก่แก่แม่ปลาช่อนได้ไปประมาณสองเดือน ก็เริ่มมีญาติโยมมาต่อว่าหลวงพ่อ ถึงอภินิหารสีผึ้งสัมพันตึง และพระขุนแผนไก่แก่แม่ปลาช่อน ซึ่งก้มีการต่อว่าซึ่งไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก โดยเฉพาะโยมผู้หญิงซึ่งไม่ชอบใจเลยกับสีผึ้งสัมพันตึง และขุนแผนไก่แก่แม่ปลาช่อน มีโยมผู้หญิงหลายคนที่แอบขโมยสีผึ้ง และขุนแผนดังกล่าวของโยมผู้ชายมาคืนหลวงพ่อ และยิ่งนานวันก้อมีโยมผู้หญิงมาต่อว่ามากขึ้น จนวันหนึ่งคุณนายของท่านสำราญ เครือนิล และคุณนายปลัดแสวง นำภัตตาหารเพลมาถวายหลวงพ่อ และก้อต่อว่าหลวงพ่อถึงเรื่องความขลังของสีผึ้งสัมพันตึง กับพระขุนแผนไก่แก่แม่ปลาช่อน เมื่อคุณนายทั้งสองกลับไปแล้ว หลวงพ่อก้อพูดกับผมว่า

"คือสิบ่เข้าท่าแล้วละ เจ้าจำปีเอ๊ย บ่คึดว่ามันสิขลังปานนี่หน่ะ"
<คงไม่ได้การแล้วนะเจ้าจำปี ไม่คิดว่ามันจะขลังขนาดนี้>

และคืนวันนั้นหลังจากพระลูกวัดเข้าห้องจำวัดกันหมดแล้ว หลวงพ่อท่านก้อนั่งสมาธิหน้าพระประธานที่ใช้ทำวัดสวดมนต์ประจำ ผมรู้สึกแปลกใจเหมือนกันที่เหนหลวงพ่อนั่งสมาธิตรงนั้น เพราะปกติหลวงพ่อจะนั่งสมาธิในห้องของท่าน

พอตีสี่ผมก้อตื่นขึ้นมาตีระฆังทำวัตรเช้าตามกิจวัตรที่เคยปฏิบัติมา เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก้อมาจุดเทียนหน้าพระประธานที่ทำวัตรสวดมนต์ พอแสงไฟจาเเปลวเทียนสว่างขึ้น ผมต้องแปลกใจเมื่อเหนตลับสีผึ้งหลากหลายรูปแบบ และพระขุนแผนกองอยู่บนเสื่อ หน้าพระประธ่นที่หลวงพ่อนั่งสมาธิเมื่อคืนนี้เปนจำนวนมาก ผมจึงพูดกับพระลูกวัดด้วยกันว่า "หลวงพ่อเอาสีผึ้งกับพระขุนแผนมาจากไหนอีก ก้อแจกจ่ายไปหมดแล้วนี่นาทำไมเหลือมากขนาดนี้" แต่พอพิจารณาดูก้อรู้ว่าเปนสีผึ้งและพระขุนแผนที่แจกญาติโยมไปแล้วนั่นเอง ผมขนลุกไปทั้งตัวจนต้องยกมือขึ้นกุมหัว

เหมือนคนหวาดเสียวสุดขีด<ขนลุกขนชัน>แม้ตอนเสือขาวยกปืนยิงใส่หลวงพ่อก้อไม่รู้สึกอย่างนี้ ตอนหลวงพ่อเรียกงัวโยมโสมขึ้นจากหล่มก้อไม่รู้สึกอย่างนี้ ตอนเอาไม้เท้าหวายทิ่มพุงโยมลาให้ฟื้นจากงูจงอางกัดก้อไม่รู้สึกอย่างนี้ ตอนช้างพวกอโยธยาจับควนฟาดกับพื้นและกระทืบซ้ำก้อไม่รู้สึกอย่างนี้ ตอนเรียกจระเข้ขึ้นจากสระก้อไม่รู้สึกอย่างนี้





โดย: touch-578    เวลา: 2022-5-11 09:29
               เมื่อหลวงพ่อออกจากห้องทำวัตรเช้าผมก็ถามหลวงพ่อว่า ทำไมหลวงพ่อเรียกของกลับคืนมาหมด ทำไมไม่ถอนอาคมเฉย ๆ หลวงพ่อตอบว่า วิชาอาคมที่ทำลงไปแล้วเขาไม่ถอนกันดอก ถ้าถอนของที่ทำไปแล้วทำครั้งต่อไปก็จะไม่ขลัง หรือของที่ทำแล้วและให้เขาไปหมดแล้ว
ก็ไม่ต้องกลับไปทำซ้ำอีก ต้องทำอย่างอื่นไปเรื่อย ๆ ดัดแปลงเอาอันเก่านั่นแหละแต่ไม่ทำแบบเก่า ทำของพวกนี้มีพลังเท่าไหร่ต้องอักใส่ให้หมด หมดแล้วหมดเลย กลับไปทำอีกมันก็ไม่ขลัง เพราะมันหมดแล้วในจุดนั้น ๆ อย่าคิดกลับไปทำอีก นี้คือเคล็ดลับในการทำของขลัง
(เคล็ดลับของแต่ละรูปอาจไม่เหมือนกัน * วินัยธร)

เมื่อทำวัตรสวดมนต์เช้าเสร็จแล้วหลวงพ่อก็ให้ผมกับพระเอาสีผึ้งสัมพันธ์ตึงและพระขุนแผนไก่แก่แม่ปลาช่อนไปฝัง พอได้อ่านบันทึกเรื่องนี้แล้ว พระครูวินัยธรจึงสืบหาพระจำปีและได้ทราบจากนายบุญมี บุญเกตุ อดีตเจ้าอาวาสวัดวังโพรงเข้ปี พ.ศ.๒๕๐๙ – พ.ศ.๒๕๑๓ ว่าพระจำปีได้ลาสิกขาไปเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๙ ปัจจุบันไปอยู่ที่บ้านหินตุ้ม อำเภอบ้านไร่จังหวัดอุทัยธานี พระครูวินัยธรจึงไปสืบหาและได้พบอดีตพระจำปีซึ่งมีอายุถึง ๘๒ ปี พระครูวินัยธร จึงถามถึงเรื่องสมุดบันทึกประวัติหลวงปู่หล้า ซึ้งปู่จำปียังจำได้ดีว่าท่านเคยบันทึกไว้จริง เมื่อถามถึงเรื่องหลวงปู่หล้าให้ฝังสีผึ้งกับพระขุนแผนปู่จำปีตอบว่าจริงและบอกสถานที่ฝังคือโคนต้นมะขามที่เสือขาวทดลองยิงหลวงปู่หล้า พอกลับมาวัดพระครูวินัยธรจึงให้พระลูกวัดช่วยกันขุดดู ขุดลึกลงไปประมาณ ๖๐ เซนติเมตรก็พบพระขุนแผนและตลับสีผึ้งเป็นจำนวนมาก พระขุนแผนเกือบจะทั้งหมดแตกหักและเปื่อยยุ่ย ที่ยังสมบูรณ์อยู่มีเพียง ๓๔ องค์เท่านั้น ส่วนพระที่แตกหักรวมได้ประมาณสี่บาตร พระครูวินัยธรเอาฝังไว้ที่ฐานพระประธานโบสถ์รวมทั้งตลับสีผึ้งซึ้งเนื้อในมีสภาพเป็นดินหมดฝังรวมไว้ด้วยกัน ในโอกาสต่อไปอาจจะได้นำเอาพระขุนแผนที่สมบูรณ์ทั้ง ๓๔ องค์ขึ้นมาให้เช่าบูชา และพระขุนแผนที่แตกหักขึ้นมาบดทำใหม่ รวมทั้งจะกลั่นกรองเอาเศษสีผึ้งมาเป็นมวลสารในการทำสีผึ้งสัมพันธ์ตึงขึ้นใหม่อีกด้วยหลังจากหลวงปู่หล้าได้เรียกของคือพระขุนแผนไก่แก่แม่ปลาช่อน และสีผึ้งสัมพันธ์ตึงกลับคืนมาเพราะเหตุแห่งปาฏิหาริย์ของวัตถุมงคลดังกล่าวสร้างความไม่สบายใจให้กับผู้เป็นพ่อเป็นแม่ที่มีลูกหญิงลูกชายที่ยังไม่ควรแก่การมีครอบครัว โดยเฉพาะคุณแม่บ้านที่มีอุดมการณ์อย่างหนึ่งที่เหมือน ๆ กันทั้งโลกคือ เสียทองท่วมหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใคร ต่างก็โล่งใจที่ได้ทราบข่าวนี้ ผู้คนก็ต่างพากันก็อัศจรรย์ใจในคุณวิเศษของหลวงปู่ ที่เรียกของคือพระขุนแผนไก่แก่แม่ปลาช่อนและสีผึ้งสัมพันธ์ตึงนับพันชิ้นซึ่งตกอยู่ทั่วสารทิศกลับคืนมาได้หมด การสร้างปาฏิหาริย์ของหลวงปู่หล้าในครั้งนี้ ทำให้ชื่อเสียงเกียรติคุณของหลวงปู่แผ่กระจายไปทั่วเขตอำเภอโคกสำโรง แม้วัดหลวงปู่หล้าจะอยู่กลางป่าไม่มีถนนสำหรับวิ่งแต่ผู้คนในตัวอำเภอโคกโรง และอำเภอใกล้เคียงต่างก็ดั้นด้นเดินเท้า เพื่อมานมัสการขอของดีกับหลวงปู่เสมอตลอดมา



โดย: touch-578    เวลา: 2022-5-11 09:48
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2022-5-11 09:54

>> ตะกรุดสามพันตึง <<
...หนึ่งในวัตถุมงคลชุด " แสนตรีเวทย์ "
           ที่อาจารย์สรายุทธ สร้างขึ้นตามตำราหลวงปู่หล้า โดยมีสองแบบคือ แบบผอกผง และไม่ผอกผง  ของขลังของดีพิธีปลุกเสกใหญ่อีกรุ่นหนึ่งที่ควรหาไว้บูชา หาตะกรุดดีๆไว้ติดตัวแนะนำเป็นรุ่นนี้ไม่ผิดหวัง
ในปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงปู่หล้าก็หายากยิ่ง  และราคาก็ไปไกลเกินเอื้อมถึง   อีกทั้งผู้สืบทอดวิชาของท่านเท่าที่ทราบ  ก็มีเพียง  หลวงพ่อโทน  และอาจารย์สรายุทธเท่านั้น  หลวงปู่หล้าตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ ท่านเปรียบเสมือนเทพเจ้าของประชาชนชาวตำบลเกาะแก้ว เพราะในสมัยนั้นทางการแพทย์ยังเข้าไปไม่ถึง เมื่อยามเจ็บป่วยไข้ชาวบ้านในย่านนั้น ก็ได้อาศัยยาสมุนไพร น้ำมนต์ เวทมนต์หลวงปู่เป็นที่พึ่งแทนหมอ ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อไม่ถึงที่ตายก็หายจากโรคภัยไข้เจ็บที่มาเบียดเบียนหลวงปู่จึงเป็นที่เคารพนับถือของชุมชนสำหรับเป็นที่พึ่งทางใจ
ในยุคแรกหลวงปู่หล้าทำ ตะกรุดสามพันตึง แจกประชาชนเมื่อมีผู้ต้องการเป็นจำนวนมากจนหาโลหะทำตะกรุดไม่ทัน หลวงปู่จึงทำผ้ายันต์สามพันตึง ซึ้งวัตถุดิบหาง่ายกว่าแจกจ่าย จนพอเพียงแก่ความต้องการ ในปีต่อ ๆ มาเมื่อประชาชนต่างถิ่นได้ยินกิติศัพท์ของหลวงปู่หล้า และอภินิหารของตะกรุดสามพันตึง ประชาชนจึงพากันมาขอ หลวงปู่บอกว่าสร้างได้หนเดียว สร้างอีกไม่ได้ อาจารย์ห้าม แต่ผู้ที่ต้องการก็อ้อนวอนขอ หลวงปู่ทนอ้อนวอนไม่ได้ จึงสร้าง ตะกรุดหกพันตึง และ เก้าพันตึง แจกจ่ายตามลำดับ
             มาในปี พ.ศ.2558 นี้ ทางวัดโพรงเข้ ลพบุรี โดยหลวงพ่อโทนเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันได้อนุญาตให้สร้างตะกรุดสามพันตึงนี้ขึ้นโดยจัดพิธีปลุกเสกจัดขึ้นอย่างเข้มขลังเพื่อให้เป็นยอดวัตถุมงคลโดยจัดพิธีกรรมปลุกเสกที่วาระต่างๆดังต่อไปนี้
พิธีปลุกเสกวาระที่ 1 พิธีพุทธาภิเษกวันที่ 6 ธันวาคม 2557 ณ สำนักติคญาโณ อาจารย์ ทำพิธีพุทธาภิเษกมวลสาร สำหรับสร้าง ” วัตถุมงคลรุ่นแสนตรีเวทย์ ” รวมกับพิธีพระศรีรามลงทรงในวันที่ 6 ธันวาคม 2557  และพิธีกวนสีผึ้งสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียว ในวันออกพรรษา 2557

พิธีปลุกเสกวาระที่ 2 พิธีพุทธาภิเษกวันที่ 22 พฤศจิกายน 2557 ณ วัดดอนทอง  ได้นำวัตถุมงคลรุ่นแสนตรีเวทย์ เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดดอนทอง ซึ่งมีหลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว และหลวงพูนวัดบ้านแพน เป็นประทานในพิธีพุทธาภิเษก

พิธีปลุกเสกวาระที่ 3 พิธีพุทธาภิเษกวันที่ 12 มีนาคม 2558 เวลา 15.39 น. ณ วัดหนองอีดุก ชัยนาท ได้นำวัตถุมงคลรุ่นแสนตรีเวทย์ ร่วมพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดหนองอีดุก ชัยนาท  วันที่ 12 มีนาคม 2558 เวลา 15.39 น. ซึ่งมีพระเกจิคณาจารย์ ร่วมพุทธาภิเษกดังนี้
1.หลวงพ่อพร้า วัดโคกดอกไม้
2.หลวงพ่อเกาะ วัดท่าสมอ
3.หลวงพ่อวิจิตร วัดพระแก้ว
4.พระครูณัฐพล วัดหนองอีดุก

พิธีปลุกเสกวาระที่ 4 พิธีพุทธาภิเษกวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558 ณ วัดวังโพรงเข้  พิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคลรุ่นแสนตรีเวทย์ รูปหล่อปู่ศรีสุทธรรมนาคราช วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558 ณ วัดวังโพรงเข้  หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี  หลวงพ่อโทน วัดวังโพรงเข้ จ.ลพบุรี  หลวงพ่อเผชิญ วัดขนอนเหนือ จ.อยุธยา  เมตตาอธิฐานจิตปลุกเสก ขุนแผนแสนตรีเวทย์ รูปหล่อปู่ศรีสุทธรรมนาคราช

วาระที่ 5 พิธีพุทธาภิเษกและเทวาภิเษกวันที่ 21 มีนาคม 2558 ณ สำนักติคญาโณ ในงานวันไหว้ครูประจำปี พ.ศ.2558

ตะกรุดสามพันตึง อิทธิคุณอำนาจ ดังต่อไปนี้
1.ใช้ในทางเรียกข้าวของเงินทอง เสน่หาเมตตาใช้ทำสีผึ้งดีนักแล
2.ใช้ในทางขับไล่ภูตผีปีศาจ นกหนูปูปีกคุณไสยมนต์ดำเขียนใส่กระดาษหรือผ้าดีนักแล
3.ใช้ในทางป้องกันปืนผาหน้าไม้คุฯไสยผีร้ายทุกอย่างใช้ทำตะกรุดอุดปืนอยู่แล เสกด้ายสวมคอกันคุณไสยภูตผีดีนัก

ขอขอบคุณ...ข้อมูลดีๆ  จาก  เหล่าสานุศิษย์ และ อ.สรายุทธ และ เวปฯบ้านจอมพระ








ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2