Baan Jompra

ชื่อกระทู้: สายพระหมอ สายวิชาอีกสายที่อยู่คู่เมืองกรุงเก่า [สั่งพิมพ์]

โดย: morntanti    เวลา: 2015-4-21 00:44
ชื่อกระทู้: สายพระหมอ สายวิชาอีกสายที่อยู่คู่เมืองกรุงเก่า
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย morntanti เมื่อ 2015-4-21 00:46




พระเกจิอยุธยา
4 ชม. ·




สายพระหมอ สายวิชาอีกสายที่อยู่คู่เมืองกรุงเก่า ตราบจนปัจจุบัน
สายวิชาที่เป็นดั่งเทวดา ของคนเดินดิน
พระหมอนั้นไม่ได้มีเฉพาะในอยุธยา แต่มีแทบทุกจังหวัดในสมัยก่อน เพราะการคมนาคมยังไม่ทันสมัย การแพทย์ยังไม่เจริญเหมือนสมัยนี้ พระหมอในสมัยก่อนจึงเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านมาก ถึงขนาดยกให้เป็นเทพเจ้า เทวดา
อย่างหลวงพ่ออินทร์ วัดเกาะหงษ์ (อาจารย์หลวงพ่อเอียด หลวงพ่อเมี้ยน) ชาวบ้านจะเรียกท่านว่า "หลวงพ่ออินทร์ เทวดา"
พระหมอสมัยก่อน คือ ผู้ให้ชีวิต บางคนจะตายแหล่ ไม่ตายแหล่ ชีวิตคนจะอยู่จะไปขึ้นอยู่กับพระหมอ คนสมัยก่อนจึงนับถือ พระหมอมาก เปรียบเสมือนกับ เทวดาที่ให้ชีวิต ของคนที่เกือบไปเฝ้ายมบาล อาจะด้วยโรคภัย ต่างๆ
หลวงพ่อสุ่น ยังเคยพูดกับหลวงพ่อปานว่า
"ปานอยากจะเรียนหมออย่างหลวงพ่อไหมล่ะ เรียนหมอนี่มันดีนาลูก เราได้มีโอกาสสังเคราะห์คน"
การรักษาบางอย่างอาจดูไม่ทันสมัย แต่กลับได้ผลกว่า การแพทย์ยุคใหม่ อย่างหลวงพ่อเมี้ยน ท่านเคยพูดถึงการรักษาของท่านว่า
“พวกที่เข้าเฝือกปูนมาจากโรงพยาบาล ถ้าให้ฉันรักษา ต้องตัดเฝือกปูนออก..
เพราะการเข้าเฝือกปูนจะทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา ที่ร้ายแรงคือแผลเน่าข้างใน ทำให้บางคนกลายเป็นเนื้อร้าย อาจถึงกับต้องตัดขาก็มี..
ฉันต้องตัดเฝือกปูนออกแล้วใช้เฝือกไม้ไผ่ยึดกระดูกแทน มันก็แน่นดีไม่แพ้เฝือกปูนแต่รักษาง่ายกว่า เอาน้ำมันหยอดชโลมได้ แผลก็แห้งเร็ว ไม่อบ ไม่ร้อน จะคันตรงไหน ก็เกาพอให้บรรเทาได้...”
‪#‎สายวิชา‬ พระหมอของอยุธยา ก็ต้องยกให้สายหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ
โดยหลวงพ่อสุ่น ท่านถ่ายทอดให้หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
หลวงพ่อปาน ถ่ายทอดให้หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา
หลวงพ่อเมี้ยน ถ่ายทอดให้ หลวงพ่อเสงี่ยม (แก่) วัดใหม่กบเจา ซึ่งเป็นผู้สืบสายวิชาพระหมอในปัจจุบัน
ถึงแม้ในปัจจุบัน การแพทย์จะพัฒนาไปมาก แต่ก็ไม่อยากสายวิชานี้สาบสูญไป เพราะเป็นวิชาที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ






โดย: morntanti    เวลา: 2015-4-21 00:47
พระเกจิอยุธยา
10 เมษายน เวลา 21:34 น. ·





เราบวชจากเพศฆราวาสมาสู่เพศบรรพชิตแล้วอย่าหวังรวย ถ้ารวยแล้วไม่ใช่พระ พระต้องรวยด้วยบุญญาบารมี เงินที่ได้มาอย่าติด จงทำสาธารณประโยชน์เสียให้สิ้น เหลือกินเหลือใช้แต่พอเลี้ยงอาตมา
อย่าหวังในยศ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่รับยศไม่ได้แล้ว ก็อย่าเมายศฐาบรรดาศักดิ์ มันเป็นเครื่องถ่วงกิเลส ยศ ลาภ สรรเสริญ ความสุขในกามารมณ์ มันเป็นตัวกิเลส มันเป็นโลกธรรม ต้องตัดออกให้หมด ถ้าพอใจในสี่สิ่งนี้ก็ไม่ใช่พระ จะพาให้สู่ห้วงนรก
จงระลึกอยู่เสมอว่า เราบวชเพื่อนิพพาน อย่างที่กล่าวในตอนขออุปสมบทครั้งแรกว่า “นิพพานัสสะ สัจฉิกิริยายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตะวา” อันหมายความว่า เราขอรับผ้ากาสาวพัสตร์เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.อยุธยา





โดย: Sornpraram    เวลา: 2016-10-10 07:03
“นิพพานัสสะ สัจฉิกิริยายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตะวา”

อันหมายความว่า เราขอรับผ้ากาสาวพัสตร์เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน









ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2