Baan Jompra

ชื่อกระทู้: เชื่อสุวรรณภูมิเป็นเมืองพญานาค [สั่งพิมพ์]

โดย: morntanti    เวลา: 2015-2-19 12:02
ชื่อกระทู้: เชื่อสุวรรณภูมิเป็นเมืองพญานาค









สกู๊ปพิเศษ: ผู้ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายเชื่อรอบสนามบินสุวรรณภูมิ เคยเป็นเมืองพญานาคมาก่อน พร้อมตั้งศาล 4 ทิศ ย้ายยักษ์ให้นักท่องเที่ยวได้ยลโฉม
วันเสาร์ 21 กันยายน 2556 เวลา 20:28 น.


ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่ ตั้งอยู่ที่ถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 15 อยู่ใน ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 ก.ย.2549 ตลอดระยะเวลาของการก่อสร้างสนามบินหนองงูเห่า หรือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
รวมถึงหลังจากสร้างเสร็จแล้ว มีเรื่องเล่าลือในการก่อสร้างสนามบินอันโด่งดังนี้ว่า อาถรรพณ์เจ้าที่เฮี้ยนมาก เพราะสถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่อยู่อาศัยของบรรดาสัตว์นานาชนิด ส่งผลให้มีเจ้ากรรมนายเวรมาเอาชีวิตของผู้คนไปแล้วส่วนหนึ่ง มีเรื่องราวเร้นลับเหลือเชื่อ ที่เกิดขึ้นระหว่างพิธีทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนมีพิธีเปิดสนามบินสุวรรณภูมิอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 ก.ย.2549 สร้างความตื่นตะลึงแปลกประหลาดใจให้แก่ผู้พบเห็นและร่วมอยู่ในเหตุการณ์
หลังจากที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ได้นิมนต์พระสงฆ์ จากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดอรุณราชวราราม และวัดราชวรมหาวิหาร 99 รูป มาสวดพระปริตรและสวดกัมมวาจา 8 ทิศ คือทิศตะวันออก บริเวณอาคารเอเอ็มเอฟ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ บริเวณสถานีกรมอุตุนิยมวิทยา ทิศใต้ บริเวณรันเวย์ตะวันออกและสถานีดับเพลิง ทิศตะวันตกเฉียงใต้ บริเวณทางต่างระดับถนนกิ่งแก้ว ทิศตะวันตก บริเวณรอบเขื่อน และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ บริเวณรอบเขื่อนด้านบน ทิศเหนือ บริเวณสถานีไฟฟ้าย่อยและทิศตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณบัสเทอร์มินอล เพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลให้แก่สนามบินฯ ปัดเป่าสิ่งไม่ดีและให้แคล้วคลาด
จากภยันอันตรายรวมถึงเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณของเจ้าที่เจ้าทางต่างๆ ที่อยู่รอบบริเวณสนามบินฯ เนื่องจากความเชื่อที่มีมากันแต่โบร่ำโบราณว่า ในช่วงที่มีการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิอาจมีบุคคลเข้ามาล่วงเกินและทำสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นภายในสนามบินฯ ระหว่างที่พระสงฆ์กำลังสวดพระพุทธมนต์ โดยมีผู้ร่วมงานเป็นจำนวนมาก ได้เกิดเหตุการณ์เร้นลับและไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อจู่ๆนายขวัญชัย ทับโต พนักงานตรวจค้นวัตถุระเบิดของบริษัท ล็อกซเล่ย์ ที่ได้รับสัมปทานงานตรวจค้นวัตถุระเบิดในสนามบินสุวรรณภูมิ เกิดอาการตัวสั่นเหมือนผีเข้าในช่วงที่ก้มลงกราบพระ ใบหน้าบิดเบี้ยวพร้อมกับร้องห่ม ร้องไห้
จากนั้นก็นั่งหลังงองุ้มเหมือนคนแก่ดวงตาก็เหลือกกลับขึ้นข้างบนจนแทบไม่เห็นตาดำ พร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ว่าเป็นพ่อปู่ชื่อมิ่ง และบอกว่ากูเป็นเจ้าของที่ดินสุวรรณภูมิ ไม่เคยมีใครสนใจตนเลย ตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิและขอให้ตั้งศาลเพียงตาให้เพราะไม่มีที่อยู่ จะตั้งตรงจุดใดก็ได้ นอกจากนี้ ยังได้ขอหมากพลูจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และยื่นคำขาดว่าถ้าไม่ตั้งศาลให้ จะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายปั่นป่วนมากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่นายขวัญชัยมีอาการผิดปกติคล้ายผีเข้านั้น พระรูปหนึ่งที่ทำพิธีสวดมนต์อยู่ ได้มาพูดคุยซึ่งนายขวัญชัยก็ได้พูดตอบด้วยน้ำเสียงที่ผิดปกติ ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจมาลบหลู่ แต่อยากมาดูพิธีว่าทำอะไรกันบ้าง และหลังจากที่พระรูปนั้นรับปากว่าจะให้เจ้าหน้าที่ตั้งศาล ถวายสิ่งของและอุทิศ ส่วนกุศลให้กับพ่อปู่มิ่ง ชายคนดังกล่าวก็เป็นลมหมดสติล้มลง พอพระเข้ามาสวดแผ่เมตตา และเอามือลูบศีรษะ ตัวนายขวัญชัยกลับสงบนิ่งและก้มลงกราบ อ้างด้วยน้ำเสียงที่เบาลงว่าชื่อพ่อปู่มิ่ง บอกว่าอยู่ที่นี่มานานแล้วทำไมถึงมาไล่เขาไป และได้ขอให้ตั้งศาล เพื่อมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ถ้าไม่ทำจะอาละวาด หลวงพ่อที่มาสวดพระพุทธมนต์ได้บอกให้เจ้าหน้าที่ช่วย หลังเจ้าหน้าที่รับปากและหลวงพ่อสวดมนต์แผ่เมตตาก็กลับ สงบลงอย่างน่าประหลาด
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว น.ส.วิไลวรรณ นัดวิไล โฆษกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ตั้งศาลเจ้าที่ประจำสนามบินสุวรรณภูมิเอาไว้แล้วทั้งสิ้น 6 ศาล ประกอบด้วย 1.ศาลพญาอนันตนาคราช 2.ศาลพญามุจลินท์นาคราช3.ศาลท่านท้าววิรุปักเขมมหานาคราชเจ้า 4.องค์นาคาธิบดี  "ศรีสุทโธ" วิสุทธิเทวา 5.ศาลพระเจ้าตากล 6.ศาลพ่อแก่มิ่ง ทุกอย่างจึงราบรื่นปัจจุบันได้มีการทำพิธีบวงสรวงเป็นระยะๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลขวัญกำลังใจกับผู้ปฏิบัติงาน คณะทำงาน พนักงานผู้มาใช้บริการ มีผู้ที่ให้ความเคารพศรัทธานำเครื่องไหว้บูชาเข้าไปกราบไหว้กันอย่างต่อเนื่อง
ส่วนเรื่องของการตั้งศาลพญานาคราชนั้นจากเดิมมีความเชื่อกันว่าพื้นที่ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเดิมนั้นเป็นพื้นที่ลุ่มและเป็นที่อาศัยของพญานาคจนมีตำนานบอกกล่าวเล่าขานกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณว่าหากผู้ใดจะมาอยู่อาศัยหรือประกอบกิจการใดก็ควรที่จะต้องมีการศักการะท่านพญานาคอีกทั้งยังมีความเชื่ออีกด้วยว่าบริเวณที่ดินโดยรอบของสนามบินสุวรรณภูมิในเนื้อที่ 2,000ไร่แห่งนี้ ในอดีตเคยเป็นหัวเมืองของพญานาค 4 หัวเมืองมาก่อน ดั้งนั้นจึงได้มีการตั้งศาลพญานาคขึ้นทั้ง 4 ทิศดังกล่าว
อย่างไรก็ดี น.ส.วิไลวรรณ ยังกล่าวด้วยว่า ภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขาออกชั้น 4 ปัจจุบันยังได้มีการติดตั้งประติมากรรมรูปหล่อยักษ์ ผลงานศิลปะไทยทั้ง 12 ตน มูลค่ากว่า 48 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกสิ่งหนึ่ง ซึ่งได้จำลองมาจากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม งานประติมากรรมยักษ์เหล่านี้ แสดงถึงความสวยงาม ความยิ่งใหญ่ดูน่าเกรงขาม เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจในบรรยากาศประเทศไทย ด้วยการสะท้อนความงามของศิลปะและวัฒนธรรมไทย รวมทั้งเป็นการเชื้อเชิญต้อนรับผู้มาเยือนทุกคน อีกทั้งยังเป็นการนำเสนอศิลปกรรมจากเรื่อง รามเกียรติ์ เพื่อเชิญชวนให้ผู้พบเห็นไปเยี่ยมชมรูปปั้นยักษ์แม่แบบที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามด้วย
ส่วนรูปปั้นยักษ์ 12 ตนนี้ มีนามว่า1.มังกรกัณฐ์ 2.อินทรชิต 3.จักรวรรดิ 4.อัศกรรณมารา 5.สหัสเดชะ 6.ทศกัณฐ์ 7. ไมยราพ 8.สุริยาภพ 9. ทศคีรีวัน 10. ทศคีรีธร 11. วิรุฬจำบัง และ12. วิรูฬหก ส่วนเหตุผลในการย้ายที่ตั้งประติมากรรมรูปเดิมประติมากรรมรูปยักษ์ทั้ง 12 ตนตั้งอยู่บริเวณโถงทางเดิน และบริเวณด้านหน้าทางเข้าพื้นที่ตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ภายในอาคารเทียบเครื่องบิน D บริเวณชั้น 2 ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นจุดที่ไม่ดึงดูดความสนใจ และไม่สะดุดตา เพราะส่วนมากผู้โดยสารขาเข้ามักจะรีบร้อน จึงไม่มีเวลาในการชื่นชมความงามของประติมากรรมรูปยักษ์
นอกจากนั้นผู้ที่ได้เห็นจะเป็นเฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศเท่านั้น ดังนั้นเพื่อให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มาใช้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ชื่นชมกับศิลปะความงดงามของประติมากรรมรูปยักษ์ จึงมีแนวคิดที่จะย้ายตำแหน่งที่ตั้งของยักษ์ทั้ง 12 ตน ขึ้นไปอยู่ที่ห้องโถงผู้โดยสารขาออกชั้น 4 บริเวณหลังเคาน์เตอร์เช็คอินระหว่างแถว D-R ซึ่งจะทำให้ประติมากรรมยักษ์มีความโดดเด่น ดึงดูดสายตา จัดเป็น Landmark จุดใหม่ที่สร้างความสวยงามให้กับตัวอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานได้เป็นอย่างดี
หลังจากย้ายประติมากรรมยักษ์ 12 ตน มาที่ชั้น 4 อาคารผู้โดยสาร กลายเป็นมุมที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจถ่ายภาพ เนื่องจากยักษ์เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของประเทศไทย ซึ่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดให้ประติมากรรมยักษ์ 12 ตน เป็น 1 ใน 5 สถานที่น่าสนใจ ในกิจกรรม 5 POWER 5@Suvarnabhumi Airport  ซึ่งแผนการเคลื่อนย้ายประติมากรรม เริ่มดำเนินการเคลื่อนย้ายประติมากรรมรูปยักษ์ประมาณกลางเดือน พ.ย. 2552 ใช้เวลา 3 เดือน และได้มีการว่าจ้าง บริษัท อาคารไทย จำกัด เป็นผู้ดำเนินการเคลื่อนย้ายประติมากรรมรูปยักษ์ ในวงเงิน 1.712 ล้านบาท ทั้งนี้ ทางสุวรรณภูมิได้ประกอบพิธีบวงสรวงเทพเทวาเพื่อเคลื่อนย้ายประติมากรรมยักษ์ ในวันที่ 9 พ.ย.52 ที่ผ่านมาด้วย.





โดย: majoy    เวลา: 2015-2-19 14:02
เพิ่งทราบนะครับเนี่ย ขอบคุณครับ
โดย: morntanti    เวลา: 2015-2-21 06:57
majoy ตอบกลับเมื่อ 2015-2-19 14:02
เพิ่งทราบนะครับเนี่ย ขอบคุณครับ

ว่างๆจะหา คลิปรายการ The shock มาให้ฟังมีคืนหนึ่ง คนที่ทำงานในสนามบินมาคุยเรื่องผีคุยไปคุยมามีคุยเรื่อง หลุมพญานาคที่สนามบินสุวรรณภูมินี้ด้วย ...บอกว่ามีคนเห็นพญานาคจะหลุมนี้หลายคนด้วย แต่จำไม่ได้วันไหนต้องฟังย้อนหลังไล่หาก่อน...
โดย: Metha    เวลา: 2015-2-21 08:18

โดย: Metha    เวลา: 2015-2-21 08:28

โดย: ปุจฉา    เวลา: 2015-5-9 16:45
สาธุค่ะท่าน




ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2