Baan Jompra

ชื่อกระทู้: องคุลีมารฆ่าคนทำไมบรรลุอรหันต์... [สั่งพิมพ์]

โดย: ธี    เวลา: 2015-2-13 10:50
ชื่อกระทู้: องคุลีมารฆ่าคนทำไมบรรลุอรหันต์...
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ธี เมื่อ 2015-2-13 10:51

หลายคนรู้เกี่ยวกับองคุลีมารว่าเป็นพระอรหันต์ แต่ก่อนบวชองคุลีมารเป็นผู้คนกลัว เพราะฆ่าคนแล้วตัดนิ้วมือ
แต่การฆ่าคนขององคุลีมารมีสาเหตุมาจากความเชื่อและถูกอาจารย์สอนในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง องคุลีมารจึงเป็นผู้ที่ฆ่าคน
จากประวัติก่อนฆ่าคน องคุลีมารเป็นคนดี เชื่อฟังบิดามารดา ครูอาจารย์

หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมคนที่ฆ่าคนจึงบรรลุอรหันต์ ผมก็เป็นผู้หนึ่งที่หาคำตอบนี้ แต่ก็ไม่เจอ ได้แต่เก็บไว้เพื่อสอบถามผู้ที่รู้
ผมได้รับคำตอบนี้จากผู้ชรา ซึ่งผู้ชราเล่าว่า เจ้าอาวาสวัด(แห่งหนึ่ง) ท่านพูดถึงกรรมที่ทำให้องคุลีมารฆ่าคน แต่สามารถบรรลุอรหันต์ได้
ผู้ชราบอกผมว่า ....ในอดีตชาติขององคุลีมาร เกิดเป็นเต่าทะเล(ยักษ์) ไม่เบียดเบียนสัตว์กินแต่พืช วันหนึ่งชาวประมงจับได้ เต่าทะเลร้องขอชีวิต แต่ชาวประมงไม่ยอมจะฆ๋าเพื่อนำเนื้อไปขาย เต่าทะเลก็ตั้งสัจจะอธิฐานว่า "ตั้งแต่เกิดมาเราไม่เคยเบียดเบียนแก่ชีวิตสัตว์ ด้วยสัจจะนี้ ผู้ใดกินเนื้อของเรา เราจะตามฆ๋าคนเหล่านั้น" หลังจากฆ๋าเต่าทะเลแล้วชาวประมงก็นำเนื้อไปขายให้ผู้คนตามเมืองต่างๆ ในชาติที่เป็นองคุลีมารจึงเป็นฆ๋าคนที่เคยกินเนื้อเต่าทะเลเป็นผลกรรมที่ผูกพันกันมา องคุลีมารจึงสามารถบรรลุอรหันต์

ในขณะที่บวชองคุลีมารพบหญิงท้องแก่แต่ไม่สามารถคลอดบุตร พระพุทธองค์จึงให้คาถาคลอดบุตรแก่องคุลีมารแปลได้ว่า "นางหญิงตั้งแต่เราบวชเป็นบรรพชิต ไม่ทำให้สัตว์เสียชีวิต...ด้วยสัจจะนี้ ขอให้เธอจงคลอดบุตรโดยสวัสดิภาพ" (คล้ายกับสัจะของเต่าทะเล)

เรื่องเป็นเรื่องเล่าของผู้ชรา....ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่...ตรงตามหนังสือหรือไม่....หากใครรู้ขอความรู้ด้วยครับ...

การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือการกินเนื้อสัตว์ ควรเลือกกิน...เพื่อไม่ให้มีเวรกรรมต่อกัน...
โดย: Nujeab    เวลา: 2015-2-13 11:44
เพราะพระพุทธองค์ทรงมีพระเมตตาอย่างประมาณมิได้ องคุลีมารเดิมเป็นคนดี เป็นคนที่สอนได้ เพียงพลาดทำผิดไปเพราะความเข้าใจผิด ทำตามคำสั่งอาจารย์ ไม่ได้มีเจตนาแต่แรก
โดย: Nujeab    เวลา: 2015-2-13 11:45
เนื้อเต่าผมว่าไม่ควรกินนะ เต่าเป็นสัตว์อายุยืน และไม่ได้เป็นอาหารของมนุษย์

โดย: ธี    เวลา: 2015-2-13 14:51
พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ที่ตรัสรู้ในภัทรกัปปัจจุบันนี้
ในสมัยต้นปฐมกัป มีพญากาเผือก 2 ตัวผัวเมียทำรังอยู่ที่ต้นมะเดื่อริมฝั่งแม่น้ำคงคา อันเป็นธรรมชาติสถานที่รื่นรมย์ ในเวลาต่อมาพระโพธิสัตว์ได้ทรงปฏิสนธิเกิดในครรภ์ แม่พญากาเผือกพร้อมกันถึง 5 พระองค์ เมื่อครบทศมาสแม่กาเผือกก็เกิดออกไข่ ณ ที่รัง ต้นมะเดื่อจำนวน 5 ฟอง (สถานที่นี่ในกาลต่อมาเรียกชื่อว่า วัดพระเกิด ) แม่กาเผือกคอยเฝ้าฟักดูแลรักษาไข่ด้วยความทะนุถนอมเป็นอย่างดี ครั้นอยู่มาวันหนึ่งพญากาเผือก ได้ออกไปหากิน ถิ่นแดนไกล ได้ไปถึงสถานที่ หนึ่งอันอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณธรรมชาติ พืชพรรณธัญญาหาร แม่กาเผือกได้เพลิดหากินอาหาร ชื่นชม ธรรมชาติอันรื่นรมย์จนมืดค่ำ พอดีฝนตกฟ้าคะนองพายุใหญ่พัดกระหน่ำทำให้มืดครึ้มทั่วไปหมด ทำให้พญากาเผือก
หาหนทางออกไม่ถูกจึงหลงในบริเวณสถานที่นั้นๆ ( สถานที่นั้นต่อมา จึงได้ชื่อว่า เวียงกาหลง ) แม่กาเผือกได้พักอยู่ที่เวียงกาหลงคืนหนึ่ง รุ่งอรุณเบิกฟ้า แม่กาเผือกจึงรีบถลาบินกลับสถาน ที่พัก ณ ที่รังต้นมะเดื่อริมฝั่งแม่น้ำ แต่ปรากฏว่ากิ่งไม้มะเดื่อ ที่ทำรังอยู่ได้ถูกลมพายุใหญ่ พัดหักล้มลงไปในแม่น้ำ แม่กาเผือกตกใจรีบบินถลาหาลูกไข่ทั้ง ๕ ในแม่น้ำ แต่ อนิจจาหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ แม่กาเผือกพยามหาไข่ลูกของตนไปในทุกสถานที่ ตามลำน้ำจนเหนื่อยอ่อนเมื่อยล้า ด้วยความ
โศกเศร้าเสียใจในความรักลูกอย่างสุดซึ้ง จึงไม่สามารถระงับความอาลัยทุกข์ได้ในที่สุดก็สิ้นใจ ไปอย่างน่าสงสาร ด้วยอานิสงส์ที่มีความเมตตารักลูกอันบริสุทธิ์ กับทั้งทิ่ลูกของแม่กาเผือก เป็นโพธิ์สัตว์ถึง ๕ พระองค์ จึงเป็นบุญกุศลหนุนส่งให้แม่กาเผือกตายไปเกิดอยู่แดนพรหมโลก ชั้นสุธาวาสมีวิมานทองคำสดใสบริสุทธิ์ งดงามตระการตา ได้พระนามชื่อว่า “ ฆติกามหาพรหม” จักได้เป็นผู้ถวายอัฏฐะบริขารบวชแก่ลูกทั้ง ๕ พระองค์ เมื่อได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ส่วนไข่ทั้ง ๕ ได้ถูกลมพัดตกน้ำไหลไปในสถานที่ต่างๆ
ไข่ฟองที่ ๑ มีไก่เก็บไปดูแลรักษา ไข่ฟองที่ ๒ แม่นาคราชเก็บไปดูแลรักษา ไข่ฟองที่ ๓ แม่เต่าเก็บไปดูแลรักษา
ไข่ฟองที่ ๔ แม่โคเก็บไปดูแลรักษา ไข่ฟองที่ ๕ แม่ราชสีห์เก็บไปดูแลรักษา

ครั้งในกาลเวลาต่อมา พระโพธิสัตว์ ทั้ง ๕ ก็ประสูติออกจากไข่ทั้ง ๕ ปรากฏเป็นมนุษย์ รูปร่างสวยสดงดงาม ทั้ง ๕ พระองค์ ในเวลาเดียวกันตามลำดับของแม่เลี้ยงทั้ง ๕ ที่นำไข่ไปเก็บ ดูแลรักษา พระโพธิสัตว์ทั้ง ๕ ได้เจริญเติบโตอยู่กับแม่เลี้ยงดัวยความกตัญญู จึงรู้ทำหน้าที่ ทุกอย่างทดแทนบุญคุณแม่เลี้ยงเป็นอย่างดีจนถึงอายุได้ ๑๒ ปี ด้วยบุญกุศลเก่าหนุนส่ง ก็มีจิตคิด ที่จะออกบวชเนกขัมบารมี เป็นฤาษีอยู่ในป่าจึงได้อำลาแม่เลี้ยงของตนเหมือนกันทั่ง ๕ พระองค์ฝ่ายแม่เลี้ยงถึงจะมีความรักความอาลัยในลูกสักเพียงใด แต่ก็ไม่ขัดความประสงค์เจตนาที่เป็น บุญกุศลอันยิ่งใหญ่ของลูกจึงได้ อนุญาตให้ลูกไปบวชเป็นฤาษีบำเพ็ญบารมีอยู่ในป่าด้วยความ อนุโมทนา ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ของพระโพธิ สัตว์ทั้ง ๕ พระองค์ ที่มุ่งมั่นจะบำเพ็ญบานมี พระโพธิญาณ เพื่อเป็นพระพุทธเจ้าโปรดสัตว์โลก ให้พ้นจากกองทุกข์ภัยในวัฏฏะสงสาร แม่เลี้ยง ทั้ง ๕ เห็นปณิธาน อย่างนั้นจึงฝากนามของแม่เลี้ยง ไว้กับลูกเพื่อเป็นอนุสรณ์ ตำนานไว้แก่โลกต่อไปในภาคหน้าเมื่อลูกได้ตรัสรู้เป็นพุทธเจ้าโปรดโลกแล้วตามลำดับ พระนามดังนี้

1. องค์ที่ ๑ มีพระนามว่า พระกกุสันโธ เพราะตามนามแม่เลี้ยงที่เป็นไก่
2. องค์ที่ ๒ มีพระนามว่า พระโกนาคมโน เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นนาค
3. องค์ที่ ๓ มีพระนามว่า พระกัสสโป เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นเต่า
4. องค์ที่ ๔ มีพระนามว่า พระโคตโม เพราะตามนามแม่เลี้ยงเป็นโค
5. องค์ที่ ๕ มีพระนามว่า พระศรีอริยเมตไตรโย เพราะตามนามแม่เลี้ยงที่ เป็นราชสีห์

ในกัปป์นี้ได้ชื่อว่าภัทรกัปเป็นกัปที่เจริญที่สุดเพราะมีพระพุทธเจ้า
เกิดขึ้นในโลกนี้ถึง๕ พระองค์มีพระนามตามที่กล่าวมาแล้วนั้นทั้ง ๕ พระองค์ จึงเป็นที่มาของคำว่า “ นโมพุทธายะ”
นะ คือ พระกกุสันโธ โม คือ พระโกนาคมโน พุทธ คือ พระกัสสะโป
ธา คือ พระโคตโม ยะ คือ พระศรีอริยเมตไตยโย

จนเป็นคาถาสืบต่อกันมาเป็นพุทธบูชาแก่พระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์

ผู้ที่นับถือพระเจ้าทั้ง 5 จะไม่กินเนื้อสัตว์ดังกล่าว

โดย: majoy    เวลา: 2015-2-13 17:37
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2015-2-13 11:45
เนื้อเต่าผมว่าไม่ควรกินนะ เต่าเป็นสัตว์อายุยืน และไ ...

หอยตลับนี่ อายุได้เกินร้อยนะ เรากินกันไปเพียบ
โดย: oustayutt    เวลา: 2015-2-13 20:54

โดย: Nujeab    เวลา: 2015-2-13 22:37
majoy ตอบกลับเมื่อ 2015-2-13 17:37
หอยตลับนี่ อายุได้เกินร้อยนะ เรากินกันไปเพียบ  ...

อ่ะจริงดิ่ เพิ่งทราบ เมื่อก่อนผมก็กินไปเยอะ เวลาไปกินบุฟเฟ่เห็นบางตัวยังไม่ตาย ยังดิ้นอยู่เลย ตั้งแต่นั้นผมไม่กินหอยตลับอีกเลย

โดย: majoy    เวลา: 2015-2-13 22:45
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2015-2-13 22:37
อ่ะจริงดิ่ เพิ่งทราบ เมื่อก่อนผมก็กินไปเยอะ เวลาไปก ...

เดี๋ยวหามาลงให้ สิบอันดับสัตว์ทะเล อายุยืน
โดย: majoy    เวลา: 2015-2-13 22:45
แต่สรุปคือ ไม่ผูกเวรใหม่ ย่อมถึงที่สุดแห่งกองทุกข์ได้
โดย: Nujeab    เวลา: 2015-2-13 22:48
majoy ตอบกลับเมื่อ 2015-2-13 22:45
เดี๋ยวหามาลงให้ สิบอันดับสัตว์ทะเล อายุยืน  ...

ขอบคุณครับพี่
โดย: Sornpraram    เวลา: 2020-2-10 11:44






ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2