Baan Jompra

ชื่อกระทู้: ~ หลวงปู่สรวง ปริสุทฺโธ วัดถ้ำขวัญเมือง ~ [สั่งพิมพ์]

โดย: kit007    เวลา: 2013-6-10 10:56
ชื่อกระทู้: ~ หลวงปู่สรวง ปริสุทฺโธ วัดถ้ำขวัญเมือง ~
อัตตชีวประวัติพระครูภาวนาภิรมย์
(พระอาจารย์สรวง  ปริสุทฺโธ)
วัดถ้ำขวัญเมือง อ.สวี จ.ชุมพร


[attach]3399[/attach]

ประวัติ

นามเดิม สรวง นามสกุล เกษธำรง
เกิดเมื่อวันที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๒ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ปีระกา
ณ บ้านนาคราม ตำบลนาโพธิ์ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
บิดาชื่อนายหวั่นเซี่ยว มารดาชื่อนางลิ่น มีน้องสองคน ชาย ๑ หญิง ๑

ประวัติการศึกษา

พ.ศ. ๒๔๖๒ เรียนจบชั้นประถม ๔ ที่โรงเรียนประชาบาลตำบลสวี
พ.ศ. ๒๔๖๓ เรียนจบมัธยม ๑ ที่โรงเรียนรัฐบาล อำเภอสวี
พ.ศ. ๒๔๗๑ จบโรงเรียนฝึกหัดครู อำเภอรัตภูมิมณฑลนครศรีธรรมราช

ประวัติการทำงาน

พ.ศ. ๒๔๖๘ เป็นครูประชาบาลโรงเรียนรัฐบาลหัวเขา (วัดโพธิเกษตร ปัจจุบัน)
พ.ศ. ๒๔๗๒ เป็นครูใหญ่โรงเรียนประชาบาล ตำบลทุ่งระยะ
พ.ศ. ๒๔๗๒ เป็นครูใหญ่โรงเรียนประถมการช่าง จังหวัดชุมพร (ปัจจุบัน คือวิทยาลัยเทคนิคชุมพร)
พ.ศ. ๒๔๘๒ ออกจากราชการ เป็นช่างรับเหมาก่อสร้างทำเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ต่างๆ

ทางด้านครอบครัว

พ.ศ. ๒๔๗๓ ได้สมรสกับนางสาวผาย ทองคำ มีบุตรธิดา ๔ คน คือ
๑. ด.ช. อนุ แซ่ลิ่น (ถึงแก่กรรม)
๒. ด.ญ. สุดา แซ่ลิ่น (ถึงแก่กรรม)
๓. นางอุษา เกษธำรง
๔ นายวีระ เกษธำรง
พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้สมรสกับ นางสาวสมศรี อนุเผ่า มีบุตร ๑ คน ธิดา ๑ คน คือ
๑. นายชัชวาล เกษธำรง
๒. นางฤดี แจ้งใจ

โดย: kit007    เวลา: 2013-6-10 10:56
การอุปสมบท

[attach]3400[/attach]

๑) ครั้งแรก ที่วัดดอนสะท้อน ตำบลปากแพรก อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๑ บวชนาน ๑๙ วัน
โดยมีพระครูสุวีราสัยคุณ (แม้น) เป็นพระอุปัชฌาย์

๒) ครั้งที่สอง ที่วัดโพธิเกษตร ตำบลนาโพธิ์ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๐
มีพระครูวิจิตรกรณีย์ (ยิ่ง สุวโจ) เป็นพระอุปัชฌาย์
พระเพชร ปญฺญาทีโป เป็นพระ กรรมวาจาจารย์

[attach]3401[/attach]

ตำแหน่งทางการคณะสงฆ์

พ.ศ. ๒๕๑๒ รักษาการเจ้าอาวาส วัดถ้ำขวัญเมือง
พ.ศ. ๒๕๑๙ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดถ้ำขวัญเมือง

สมณศักดิ์

พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ พัดยศ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์
ชั้นโท ฝ่ายวิปัสสนา (จร.ช.ท.วิ)

โดย: kit007    เวลา: 2013-6-10 10:57
รางวัลที่ได้รับ

[attach]3402[/attach]

พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้รับประกาศนียบัตร จากสมาคมผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศ
ไทย สาขาพระนักพัฒนา
พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับประกาศนียบัตร จากจังหวัดชุมพร เป็นพระอนุรักษ์มรดกไทย
พ.ศ. ๒๕๓๖ ได้รับพระราชทานเสมาธรรมจักร เพื่อประกาศเกียรติคุณ ผู้ทำคุณประโยชน์
ต่อพระศาสนา สาขาส่งเสริมผู้ปฏิบัติธรรม จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี


การอาพาธ

เข้ารับการรักษาตัว ที่โรงพยาบาลศิริราชครั้งแรก โดยได้รับการนิมนต์จาก พันโทหญิงท่านผู้หญิงอภิรดี ยิ่งเจริญ และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคระห์ เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๘หลังจากนั้นกลับมาพักฟื้นที่วัด เป็นเวลา ๑๒ วัน จึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นครั้งที่ ๒ ตั้งแต่วันที่ ๒ สิงหาคม ถึงวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๓๘ ละสังขาร เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๓๘ เวลา ๐๓.๐๐ น. ณ ตึก ๘๔ ปี พรรษา ๒๗

โดย: kit007    เวลา: 2013-6-10 10:57
ปัจฉิมกาล

ได้ทำพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ๗ วัน นับจากวันที่เคลื่อนศพจากโรงพยาบาลศิริราชมายังวัด
และรอพระราชทานเพลิงศพอีก ๘ เดือนต่อมา
การเตรียมการพระราชทานเพลิงศพ บรรดาศิษยานุศิษย์ได้เตรียมเมรุ
และเรือที่ทำด้วย สแตนเลส พร้อมด้วยรางที่ทำด้วยเหล็กหล่อเพื่อใช้ในพิธีพระราชทานเพลิง
ซึ่งในพิธีนี้มี ฯพณฯ นายจุลนภ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา องคมตรี มาเป็นประธาน
เมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙ เวลา ๑๕.๐๐ น.
และมีการสุมเพลิง (เผาจริง) เมื่อเวลา ๒๒.๐๐ น. โดยมีพระครู สุธรรมวีราจารย์ (สมใจ ธมฺมสโร)
เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน เป็นผู้จุดฝักแค

ใช้เวลาในการเผาไหม้อยู่ ๓ วัน จึงเก็บอัฐิธาตุ เมื่อวันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙
และบรรจุอัฐิธาตุไว้ในองค์พระเจดีย์บนยอดเขาขวัญเมือง ท่ามกลางฝนตกฟ้าร้องฟ้าผ่า
เมื่อวันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙ เวลา ๑๓.๐๐ น.

สำหรับการเตรียมการนั้น ได้ห่อสรีระของหลวงพ่อ ด้วยผ้าขาวบุด้วยสำลี อย่างละ ๑๒๐ ชั้น
และใช้น้ำมันจันทร์ผสมน้ำมันขาวจำนวน ๙ ปี๊บ

มรดกธรรม

ถึงแม้ว่าหลวงพ่อได้ละจากพวกเราไปแล้ว แต่หลวงพ่อได้ฝากมรดกอันล้ำค่าไว้ให้แก่บรรดาศิษย์ทั้งหลาย คือธรรมะอันลึกซึ้ง เพื่อให้ผู้ใฝ่ธรรมทั้งหลายได้ปฏิบัติสืบต่อกันไป เพื่อความเจริญงอกงามไพบูลย์แห่งตน และท่านยังได้ประพันธิ์ กาพย์ ฉันท์ โคลง กลอน ไว้เป็นจำวนวนมาก อาทิเช่น
นิราศพุทธศาสน์ ซึ่งเป็นธรรมอันลึกซึ้งที่ท่านได้ร้อยกรองไว้ ตั้งแต่แรกการปฏิบัติคือการรักษาศีล และฝึกสมาธิให้มีรูปฌาน ๔ จนถึงวิปัสสนาญาณชั้นสูงโดยนำโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ มาเป็นองค์ภาวนา เพื่อให้ธรรมทั้งหลายเกิดขึ้นในตน ก็อยู่ในนิราศพุทธศาสน์นี้ทั้งสิ้น ดังเช่นตอนท้ายของคำกลอนหลวงพ่อฝากศิษย์ทั้งหลายไว้

ที่มา http://www.wattham.org/wattham_laungPorSaung_his.php

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-11 18:29

กราบนมัสการครับ

ขอบพระคุณข้อมูลครับ





ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2