Baan Jompra

ชื่อกระทู้: พระธาตุดุม.....ในอีกมุมมอง [สั่งพิมพ์]

โดย: oustayutt    เวลา: 2015-1-8 14:12
ชื่อกระทู้: พระธาตุดุม.....ในอีกมุมมอง
ผมสงสัยมานานแล้วว่า....ทำไมพระธาตุดุม (ปราสาทขอม) ที่อำเภอเมืองสกลนครจึงมีรูปร่างแปลกไปจากพระธาตุองค์อื่นๆในจังหวัดสกลนคร แถมยังใช้วัสดุก่อสร้างส่วนใหญ่ของตัวห้องเป็น "อิฐเผา" และเสริมด้วยหินทรายและศิลาแลงในบางส่วน   

ผมพยายามหาหนังสือและข้อมูลจากหลายแหล่งมาอ่านก็ยังไม่มีใครวิจารณ์ในประเด็นนี้ ในฐานะที่เป็น "นักพิภพวิทยา" ซึ่งมองมนุษยชาติในมุมที่หลากหลายโดยผสมผสานระหว่างแขนงวิชาต่างๆตั้งแต่จุลชีวันยันต่างดาว จึงจำเป็นต้องออกมาวิเคราะห์ในมุมมองใหม่ ก็เป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่าเวลานักโบราณคดีให้ความเห็นเกี่ยวกับความเป็นมาของโบราณสถานต่างๆ ท่านเหล่านั้นมักไม่ได้ฟันธงแบบตรงๆแต่ใช้วิธีพูดแบบกึ่งแทงกั้ก เช่น คาดว่า น่าจะ เชื่อว่า สัณนิษฐานว่า มีความเห็นว่า อาจเป็นไปได้ว่า ฯลฯ เนื่องจากท่านก็ไม่ได้เกิดในยุคนั้น ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตาตนเอง ไม่มีผู้ใดเป็นประจักษ์พยาน จึงจำเป็นต้องใช้วิธีประมวลและศึกษาข้อมูลตามหลักวิชาการที่น่าจะสอดคล้องแล้วมาสร้างบทสรุปที่มีความเป็นไปได้ ผมเองไม่เคยเรียนวิชาโบราณคดีแต่ก็อาศัยความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคนิคการหาข้อมูลแบบพนักงานสอบสวนที่ต้องทำสำนวนส่งอัยการ เริ่มต้นจากการตั้งสมมุติฐานแล้วไปหาข้อมูลทั้งเรื่องราวและวัตถุพยานมาประมวลว่า "น่าเป็นไปได้ไม้" ส่วนจะถูกหรือผิดก็ให้เป็นดุลพินิจของท่านผู้อ่าน จากประสบการณ์ที่ผ่านการทำงาน ดูงาน ฝึกอบรม มาจากประเทศต่างๆสามสิบประเทศ ได้พบปะพูดคุยกับนักวิชาการที่รู้เรื่องโบราณคดีหลายท่าน ท่านเหล่านั้นพูดตรงกันว่า "ห้ามเถียงกันในเรื่องความเห็นที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์" ทุกคนมีสิทธิให้ความเห็นและมุมมอง ไม่งั้นจะต้องต่อยปากกันแตกไปข้างนึง เมื่อสามสิบปีที่แล้วผมอยู่ที่ประเทศอิสราเอลดินแดนแห่งพระคำภีร์ไบเบิ้ล มีโอกาสพูดคุยกับนักโบราณคดีหลายคนที่กรุงเยรูซาเลม ทุกคนล้วนยอมรับว่า "เราสรุปความเห็นตามวัตถุพยาน และเรื่องราวที่ประมวลจากจารึก บันทึก เท่าที่ค้นพบ" หากได้ข้อมูลใหม่หรือค้นพบหลักฐานใหม่ก็สามารถเปลี่ยนข้อสรุปใหม่ได้....ไม่ว่ากันครับ
พระธาตุดุม (ปราสาทขอม) ในมุมมองของผม
1.ยังไม่มีข้อมูลว่าปราสาทหลังนี้มีชื่อจริงๆว่าอะไร ชื่อพระธาตุดุม เอามาจากนิทานที่ว่า "ดุมล้อเกวียน" มาหักตรงนี้พอดี เช่นเดียวกับปราสาทขอมจำนวนมากที่ได้ชื่อใหม่ตามเรื่องราวในตำนาน นิทานพื้นบ้าน หรือตั้งชื่อตามสถานที่ในปัจจุบัน นักโบราณคดีเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปราสาทหลังนี้หรือปราสาทหลังนั้นมีชื่อจริงๆว่าอะไร เพราะหลายแห่งไม่มีการบันทึกไว้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว หรือไม่ก็ตั้งชื่อตามความนิยมในยุคปัจจุบัน เช่น ปราสาทนครวัด เป็นชื่อใหม่เนื่องจากมีการนำพระพุทธรูปเข้าไปไว้ในนั้นมากมายจนดูเหมือนว่าเป็นวัด ในความเป็นจริงปราสาทหลังนี้สร้างตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ในสมัยพระเจ้าสุริยะวรมันที่ 2 มีชื่อในยุคนั้นว่า "บรมวิษณุโลกา" เพราะเป็นการสร้างถวายแด่พระวิษณุ   
2.ปราสาทหลังนี้ผมดูแล้วน่าจะเก่าแก่กว่าปราสาทหลังอื่นๆในจังหวัดสกลนคร ด้วยเหตุผลของรูปร่าง และวัสดุก่อสร้างที่เป็นอิฐเผา เนื่องจากในยุคทวาราวดีและอาณาจักรขอมตอนต้นใช้วัสดุก่อสร้างด้วยอิฐเผา เช่นปราสาทวัดภู ที่จำปาสัก สปป.ลาว ปราสาทพระโค ที่ตำบลโรโล่ย เสียมราช ประเทศกัมพูชา

ปราสาทวัดภูที่แขวงจำปาสัก สปป.ลาว ก่อสร้างในยุคอาณาจักรเจนละ (Pre-Angkor) ก่อนสมัยอาณาจักรขอม จึงใช้วัสดุอิฐเผาเป็นหลักแต่ต่อมาถูกดัดแปลงเพิ่มเติมในยุคขอมเรืองอำนาจจึงมีหินทรายและศิลาแลงเข้ามาเสริม

ภาพนี้เปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนถึงการดัดแปลงและก่อสร้างเพิ่มเติมของปราสาทวัดภูดั่งเดิมจากอิฐเผาเป็นหินทราย  


ปราสาทพระโค ที่ตำบลโลโล่ย เมืองเสียมราช ประเทศกัมพูชา ก่อสร้างก่อนอาณาจักรขอม ก็ใช้อิฐเผาเป็นหลัก


เปรียบเทียบรูปร่างระหว่างปราสาทพระธาตุดุม กับปราสาทในยุคก่อนอาณาจักรขอม มีความคล้ายคลึงกันมาก
3.หรือว่าเป็นศาสนสถานดั่งเดิมในยุคทวาราวดี แล้วต่อมาถูกดัดแปลงเป็นปราสาทฮินดูในยุคขอมเรืองอำนาจ





สิ่งก่อสร้างในยุคทวาราวดีล้วนก่อสร้างด้วยอิฐเผาเพราะได้รับอิทธิพลจากอินเดีย
จากมุมมองและข้อมูลดังข้างต้น ผมจึงมีความเห็นว่า "พระธาตุดุม" น่าจะมีอายุเก่าแก่กว่าที่เราเคยทราบ และอาจจะเป็นปราสาทหลังแรกในจังหวัดสกลนครก็ได้

โดย: sritoy    เวลา: 2015-1-8 15:01
ขอบคุณครับ...ไปกราบมาแล้ว
โดย: 9chain9    เวลา: 2015-1-8 15:51





ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2