Baan Jompra

ชื่อกระทู้: พระนารายณ์ ปางที่ 6 ปรศุรามาวตาร [สั่งพิมพ์]

โดย: Metha    เวลา: 2014-12-10 12:41
ชื่อกระทู้: พระนารายณ์ ปางที่ 6 ปรศุรามาวตาร
ปางที่ 6 ปรศุรามาวตาร (อวตารเป็นพราหม์ผู้ใช้ขวานเป็นอาวุธ)เพื่อปราบกษัตริย์(ผู้เป็นมนุษย์)นาม “พระเจ้าอรชุน” หรือ “พระเจ้าสหัสอรชุน” ผู้มีใบหน้า 1พันหน้า ผู้ก่อยุคเข็ญและทำลายล้างศาสนา



โดย: Metha    เวลา: 2014-12-10 12:42
“ปรศุรามาวตาร (परशुराम अवतार – PARASHURAMA AVATAR)”
อวตารปางที่ 6 ของพระนารายณ์อันมีชื่อว่า “ปรศุรามาวตาร” อันถือว่าเป็นปางแรกของทวาปรยุค ซึ่งเป็นยุคที่ 3 จากทั้งหมด 4 ยุคตามความเชื่อในศาสนาฮินดู โดยชื่อของปางนี้ที่เรียกว่า “ปรศุรามาวตาร” นั้นก็มาจากคำ 3 คำมารวมกันคือคำว่า “ปรศุ” ที่หมายถึงขวาน กับ คำว่า “ราม” ที่หมายถึง อันต้องอารมณ์, อันเป็นที่รักยิ่ง, งาม, ในที่นี้จะหมายถึงชื่อของอวตารปางที่ 6 และคำว่า “อวตาร” ที่แปลว่า การเคลื่อนลงมา, การจุติของเทวดา, สูงศักดิ์ ดังนั้นในที่นี้ชื่อปาง “ปรศุรามาวตาร” จึงหมายถึง การเคลื่อนลงมาจุติของพระนารายณ์ในรูป รามถือขวานนั่นเอง
“ปรุศุราม” คือพระนารายณ์ทรงอวตารมาเป็นพราหมณ์ถือขวานเพชรเพื่อสังหาร “พระอรชุน” หรือ “การตวีรยะ อรชุน” (कार्तवीर्य अर्जुन) กษัตริย์มนุษย์ผู้หยาบช้า แต่ภาคนี้มีความพิเศษและดูไม่น่าจะมาเป็นภาคอวตารของพระนารายณ์ได้เพราะปรศุรามอุดมไปด้วยความแค้นผิดกับปางอวตารอื่น ๆ ทั้งเมื่อเสร็จภารกิจก็ไม่ยอมกลับไปรวมภาคกับพระนารายณ์ เรียกว่าดื้อรั้นความคิดเป็นของตนมาก ยังอยู่บนโลกและไล่ล่าสังหารเหล่ากษัตริย์จนเกือบหมด ทำให้นางกษัตริย์หมายต้องมาร้องขอให้เหล่าพราหมณ์ช่วยเหลือบังเกิดประเพณีโยนินั้นเอง เรื่องราวมีอยู่ดังนี้
แคว้นกานยสุภชะ มีพระราชาพระองค์หนึ่งนาม “คาธิราชนรินทร์” มีพระธิดาสวยงามมากมีพระนามว่า “สัตยวดี” วันหนึ่งฤๅษีเฒ่าอยู่ตนหนึ่งชื่อ ฤจิก (ऋचीक) ได้มาสู่ขอ ซึ่งนางสัตยวดีได้ตอบตกลง แต่พระราชาทรงไม่ยอม ได้ตั้งเงื่อนไขว่า ให้ฤๅษีฤจิกไปนำม้าขาวที่มีหูเป็นสีดำหนึ่งพันตัวมาเป็นสินสอด ฤๅษีฤจิกจึงบวงสรวงพระวรุณเทพเจ้าแห่งน้ำและขอประทานม้าขาวที่มีหูเป็นสีดำ หนึ่งพันตัวซึ่งพระวรุณก็ประทานให้ ฤๅษีฤจิกจึงได้อภิเษกกับนางสัตยวดีและกลับเข้าป่าไปวันหนึ่งนางสัตยวดีต้องการมีบุตร ฤๅษีจึงกวนข้าวทิพย์ขึ้นมาสองจาน จานหนึ่งให้นางสัตยวดีทานซึ่งจะให้กำเนิดบุตรชายที่มีใจกุศล รักสันโดษ เพื่อมาเป็นพราหมณ์ที่มีศีลธรรม อีกจานหนึ่งให้พระมารดาของนางสัตยวดีซึ่งจะให้กำเนิดบุตรชายที่มีฤทธิ์เดช จิตใจกล้าหาญ และมีอำนาจ เมื่อฤๅษีเข้าไปบำเพ็ญตบะ พระมารดาจึงบอกให้สลับจานข้าวทิพย์เพราะพระมารดาต้องการให้พระธิดาไม่ต้อง อับอายที่มีลูกเป็นพราหมณ์ทั้งที่อยู่ในวรรณะกษัตริย์มาก่อน แต่พระมารดามีบุตรชายที่มีความสามารถอยู่แล้วจึงไม่เป็นอะไรที่จะให้กำเนิด ลูกชายอีกองค์เป็นพราหมณ์ เมื่อได้ฟังนางสัตยวดีจึงยอมเปลี่ยนจานข้าว เมื่อฤๅษีฤจิกกลับมาทราบเรื่องก็โกรธที่นางสัตยวดีไม่ทำตามที่สั่ง จนนางสัตยวดีต้องไปกราบขอโทษ ฤๅษีฤจิกทำพิธีกรรมให้กลับเป็นอย่างเดิมที่ตนตั้งใจไว้ตั้งแต่คราวแรก และเลื่อนให้การมีบุตรที่มีฤทธิ์เดชเกิดในคราวหลานไปต่อมานางสัตยวดีก็ให้ กำเนิดบุตรชายรูปงามชื่อว่า ชมทัคคี (जमदग्नि) ซึ่งได้บวชเป็นพราหมณ์และถือว่าเป็นยอดแห่งพราหมณ์ และได้ไปสู่ขอนางเรณุกา (रेणुका) จากพระเจ้าปเสนชิต และได้มีบุตรชายด้วยกันห้าคน ซึ่งคนสุดท้ายมีชื่อว่า “ราม” หรือ “รามฤทธิรุทร” ซึ่งก็คือองค์พระนารายณ์อวตารนั่นเอง






ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2