Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
~ พระมงคลสิทธิคุณ(ลำใย ปิยวณฺโณ) วัดทุ่งลาดหญ้า ~
[สั่งพิมพ์]
โดย:
kit007
เวลา:
2014-12-4 12:47
ชื่อกระทู้:
~ พระมงคลสิทธิคุณ(ลำใย ปิยวณฺโณ) วัดทุ่งลาดหญ้า ~
พระมงคลสิทธิคุณ (ลำใย ปิยวณฺโณ)
เกิดเมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๘
มรณภาพ เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๖
ปกครองวัดตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๙-๒๕๔๖
ท่านอาจารย์ลำใย หรือหลวงพ่อลำใย แห่งวัดทุ่งลาดหญ้า ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรีท่านเป็นพระเถระที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา มีกิจวัตรอันประเสริฐยิ่ง ตลอดชีวิตแห่งการดำรงเพศพรหมจรรย์ นับตั้งแต่บรรพชาเป็นสามเณรจวบจนกระทั่งอุปสมบทเป็นพ ระภิกษุในพระพุทธศาสนา ยาวนานกว่า 60 ปี
คุณงามความดีที่ท่านได้สร้างสมไว้แก่พระพุทธศาสนา และสังคมประเทศชาติ มากมาย จนมิอาจจะกล่าวได้หมดในเวลาอันสั้นนับแต่ได้รับภาระเป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งลาดหญ้า เป็นเจ้าคณะตำบล เป็นเจ้าคณะอำเภอศรีสวัสดิ์ และเป็นพระอุปัชฌาย์ นอกจากจะพัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรือง ได้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างของกรมการศาสนาแล้ว
ท่านยังสร้างวัดและร่วมพัฒนาวัดทั้งในเขตปกครองและนอกเขตปกครองอีกกว่า 200 วัด เป็นประธานหาทุนทรัพย์สร้างโบสถ์ ศาลาการเปรียญ อีกกว่า 100 วัด สร้างโรงเรียน ทั้งมัธยม-ประถม (รวมที่ดินและอาคารเรียน) กว่า 10 แห่ง (โรงเรียนมัธยมวัดทุ่งลาดหญ้า-หลวงพ่อลำใย อุปถัมภ์ ได้รับการยกระดับเป็นโรงเรียนมัธยมระดับตำบลเป็นแห่ง แรกของประเทศไทย)
หลวงพ่อสร้างสถานีอนามัยมอบให้แก่ทางราชการทั้งอาคาร และที่ดินนับได้ประมาณ 20 แห่ง ครั้งหลังสุดเพิ่งสร้างสถานพยาบาลบ้านพักคนชรา บนเนื้อที่ราว 70 ไร่ สิ้นค่าก่อสร้างประมาณ 100 ล้านบาท มอบให้แก่กรมประชาสงเคราะห์ และห้องสมุดประชาชนกาญจนาภิเษก ต.ลาดหญ้า พร้อมที่ดิน มูลค่ากว่า 20 ล้าน(ที่ดินติดถนนใหญ่)
มอบให้แก่กรมการศึกษานอกโรงเรียนหลวงพ่อสร้างระบบประปา มอบให้แก่หมู่บ้านต่างๆหลายสิบแห่ง และสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแคว ตรงด้านหน้าวัดทุ่งลาดหญ้า มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท และอีกแห่งตรงช่วงที่ผ่านตำบลหนองบัว มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท มอบให้เป็นสาธารณะประโยชน์ ในส่วนของการสงเคราะห์ผู้ยากไร้
หลวงพ่อได้กระทำอย่างต่อเนื่องนับเป็นเวลาหลายสิบปี ท่านเป็นธุระจัดหาข้าวสารอาหารแห้งให้แก่สถานสงเคราะ ห์คนชราที่ท่านสร้างขึ้น และทุกวันที่ 14 เมษายน หลวงพ่อจะจัดงานเทกระจาด แจกข้าวสารอาหารแห้ง รวมถึงเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นแก่ผู้ยากไร้ เป็นงานประจำปีที่วัดทุ่งลาดหญ้าในเขตปกครองของท่าน คืออำเภอศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นอำเภอติดชายแดน มีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
ทั้ง มอญ กระเหรี่ยง และกระหร่าง เป็นอำเภอที่ทุระกันดานมาก ในช่วงเข้าพรรษา ท่านก็จะนำข้าวสารอาหารแห้ง รวมถึงสิ่งของจำเป็น ไปแจกจ่ายแก่พระสงฆ์ตามวัดต่างๆอย่างทั่วถึงนับเป็นร ัอยวัด ทำให้เขตปกครองของท่านมีความสงบเรียบร้อยมาก ซึ่งเป็นผลดีต่อบ้านเมืองจากผลงานและจริยาวัตรอันประ เสริฐของท่าน ทำให้ท่านได้การยกย่องเชิดชูจากสถาบันต่างๆมากมาย รวมถึงได้รับพระราชทาน เสมาธรรมจักรในฐานะคนดีศรีสังคม จากสมเด็จพระเทพฯ
โครงการที่ท่านกำลังดำเนินงานอยู่ในขณะนี้ คือการสร้างพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ภายในบริเวณวัดทุ่งลาดหญ้า ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วน น่าเสียดายที่ท่านด่วนจากไป ด้วยความดีอันมากล้นของหลวงพ่อ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระมงคลสิทธิคุณ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2539 คนๆหนึ่ง พระสงฆ์รูปหนึ่ง เกิดมามีชีวิตที่ไม่สูญเปล่า สร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมประเทศชาติมากมาย
ตลอดชีวิตของท่านมีแต่การให้และการเสียสละโดยไม่เห็น แก่ความเหนื่อยยากลำบากกายใดๆ ท่านได้ทำหน้าที่ "พระสงฆ์" ที่สมควรกราบไหว้จนถึงนาทีสุดท้ายแห่งชีวิต สมควรที่เราทั้งหลายจะยกย่องเชิดชูให้เป็นปูชนียบุคคลอันประเสริฐยิ่ง
หลวงพ่อลำใย ขึ้นชื่อลือนามในเรื่องวัตถุมงคลของขลัง สิ่งที่ท่านสร้างขึ้นแต่ละอย่าง ล้วนเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ มีประสบการณ์ให้เป็นที่เลื่องลือทุกร่นทุกพิมพ์ จนผู้ที่มีไว้บูชาต่างเชื่อมั่นในอานุภาพสรรพคุณอย่างสนิทใจ และท่านก็เป็นพระเกจิอาจารย์ที่สร้างกุมารทอง ท่านคือเกจิกุมารทองที่ทรงไว้ ด้วยวิชามหามนต์อันเปี่ยมล้นด้วยความเข้มขลังอีกท่านหนึ่ง
..............................................................................................
ที่มา
http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=6549
โดย:
kit007
เวลา:
2014-12-4 12:49
เกจิดังแห่งวัดทุ่งลาดหญ้า (หลวงพ่อลำใย ปิยวัณโณ หรือ พระมงคลสิทธิคุณ)
“เกจิกุมารทอง” คือเป็นครูบาอาจารย์ที่ เชี่ยวชาญชำนาญในการทำกุมารทองซึ่งเมื่อทำแล้วก็มีฤทธิ์เดชปรากฏ เป็นที่อัศจรรย์อีกท่านหนึ่งก็คือ...พระมงคลสิทธิคุณ หรือหลวงพ่อลำใย ปิยวัณโณ พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังลือลั่น ในฐานะ ยอดพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวท...พระนักบุญผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองกาญฯ อันเป็นที่เคารพศรัทธาของมวลชนทั้งหลาย
ความเป็นผู้เรืองเวทวิทยาคมในด้านการเป็น “เกจิกุมารทอง” ของหลวงพ่อลำใย ถ้าจะว่ากันไปตามความสัตย์จริงแล้ว ผู้เขียน ยอมรับว่าไฝเคยล่วงรู้มาก่อนว่าท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญชำนาญการทาง การสร้างกุมารทองด้วยทั้งๆ ที่เคยมีโอกาสไปกราบนมัสการ มีโอกาส ได้สนทนากับหลวงพ่อลำใยอย่างใกล้ชิดเป็นหลายครั้งหลายคราว ในหลายๆ โอกาส แต่ที่ได้รู้มาก็ด้วยความกรุณาของ “ไทยดำ” นักเขียน เรื่องราวธรรมะรุ่นลายครามประจำสำนักพิมพ์นิตยสารโลกทิพย์ซึ่ง ในอดีตเมื่อ ๒๐-๓๐ ปี ก่อนท่านเป็นนักแกะสลัก นักประติมากรรมที่มี สีไม้ลายมือเป็นที่เลื่องลือก็ไม่น้อย มีผู้มาว่าจ้างให้ทำงานด้านนี้ให้ชนิด งานไม่เคยขาดมือ
ท่านเปิดเผยให้ได้ทราบถึงความเป็นผู้ทรงเวทวิทยาคมในการ สร้าง “กุมารทอง” ของหลวงพ่อลำใย แห่งวัดทุ่งลาดหญ้า ที่ได้รับรู้ มาจากประสบการณ์ชีวิตที่ให้ผู้เขียนทราบดังนี้
เหตุที่ได้รู้ว่าหลวงพ่อลำใยท่านมีการสร้างกุมารทองนั้น ก็ เพราะมีนายตำรวจท่านหนึ่งจ้างให้ไปแกะพระพุทธรูปที่ได้ตั้งใจสร้าง ด้วยไม้ตะเคียนทอง เป็นพระพุทธรูปปางเปิดโลกขนาดใหญ่สูงถึง ๘ ศอกทั้งฐานบัว ซึ่งต้องใช้ไม้ตะเคียนทองทั้งต้นมาทำการแกะและต้อง แกะอยู่นานถึง ๓ เดือนจึงสำเร็จ เวลานี้พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวตั้ง อยู่หน้าโบสถ์วัดลาดหญ้า ชาวบ้านเขาเรียกว่า “หลวงพ่อตะเคียนทอง, เขาว่าศักดิ์สิทธิ์ไม่เบา บนบานศาลกล่าวอะไรก็ได้ผล ขอหวยก็ถูกบ่อย การที่เกิดความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมานี้
หลวงพ่อลำใยท่านจะปลุกเสกอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะท่านทำพิธีของท่านภายหลัง แต่ที่ทราบ แน่ๆ ก็คือก่อนทำการแกะสลักตอกสิ่วลงไปบนท่อนไม้ตะเคียนทอง ได้มีการตั้งศาลเพียงตาบวงสรวงโดยพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งซึ่งเป็น ผู้ชำนาญในพิธีกรรมพร้อมเครื่องสังเวย มีบายศรี หัวหมู เป็ดไก่ ปลาช่อนแป็ะซะ กุ้งพล่า ปลายำ แกงบวดต่างๆ ทั้งขนมต้มแดงต้มขาว ผลไม้ ๕ อย่าง เหล้า ๑ ขวด
เมื่อบวงสรวงแล้ว ท่านก็ทำน้ำมนต์ธรณีสารไว้ให้ ๑ บาตร เอาไว้ประพรมทุกวันก่อนจะทำการแกะสลักองค์พระ เพราะเห็นว่า ไม้ตะเคียนทองมีนางไม้ศักดิ์สิทธ์นักอารักขา ไม่ระมัดระวังตัวอาจ เป็นอันตรายได้ คนเก่าแก่เขาถือกันแต่โบราณแล้ว เคยปรากฏผล มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนราย
เวลาโค่นไม้ตะเคียนล้มลงใหม่ๆ ห้ามขึ้นไปนั่งบนลำต้น คนที่ ชะล่าใจไม่เคารพนับถือเจ้าแม่ตะเคียนทอง เคยถูกท่านถีบหัวทิ่มลงดิน คอแทบหักบางต้นมีอำนาจมากทำให้คนโค่นไม้ถึงตายก็มี
เมื่อพระเกจิอาจารย์ท่านทำพิธีบวงสรวงแล้ว ลุง(ไทยดำ) ก็เข้า ไปจุดธูปเทียนตั้งนะโม ๓ จบ สวดบทสัคเค ชุมนุมเทวดา อ่านโองการ ไหว้ครู ขออโหสิกรรมต่อเจ้าแม่ตะเคียนทอง มิได้มีเจตนาลบหลู่ ดูแคลน การสร้างพระพุทธรูปปางเปิดโลกนี้ขอเจ้าแม่จงสถิตอยู่ดูแล รักษา ให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ด้วยฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เป็นประโยชน์สุขแก่ มหาชน เป็นกุศลยิ่งแก่เจ้าแม่ด้วย
ตามแบบแผนโบราณกาลมาก็ต้องทำกันอย่างนี้ชาวบ้านเขาจึง ได้ผลจากความศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวมาแล้ว ว่าถึงการทำกุมารทองของหลวงพ่อลำใยตามที่ได้รับรู้มาใน คราวที่ทำการแกะพระพุทธรูปปางเปิดโลกดังกล่าว รายละเอียด ของพิธีกรรมว่าท่านทำของท่านอย่างไรไม่มีโอกาสทราบ ที่เห็นก็คือ หลวงพ่อลำใยท่านเอากุมารทองที่ปันด้วยปูนปลาสเตอร์ เขียนหน้า แต่งตัวสวยงามเสร็จแล้วมาตั้งไว้หน้าโต๊ะบูชา แล้วเอาด้ายสายสิญจน์ วนรอบ เวลาพระภิกษุสามเณรมาสวดมนต์ทำวัตรก็ให้จับสายสิญจน์เอาไว้ด้วยทุกรูปทั้งเวลาทำวัตรเช้าและทำวัตรเย็นเริ่มตั้งแต่วันเข้าพรรษาจนถึงวันออกพรรษา ทำอย่างนั้นตลอด ๓ เดือนจึงเป็นอันว่า ใช้ได้
ในส่วนประสบการณ์อันเป็นความศักดิ์สิทธิ์ฤทธิ์ขลังของ กุมารทองที่เกิดจากการสร้างการทำของหลวงพ่อลำใยนั้น ก็มีสตรี ท่านหนึ่งได้บูชากุมารทองจากหลวงพ่อลำใยไปไว้ที่บ้าน โดยไปตั้งบูชาไว้หลังตู้เย็น เลี้ยงดูตามแบบที่เขาเลี้ยงกุมารทองกันโดยทั่ว ๆ ไป ทีนี้เมื่อนำกุมารทองจากหลวงพ่อลำใยไปเลี้ยงแล้ว เวลาที่สตรี ท่านนั้นเดินทางไปไหนพบคนรู้จักก็มักจะถูกทักว่าเอาลูกมาด้วยหรือ... น่ารักจริง ถูกทักอย่างนั้นทั้งๆ ที่เธอเดินไปลำพังคนเดียว
นับตั้งแต่มีกุมารทองมาอยู่ด้วย โชคลาภก็มีมาเรื่อยๆ จะเกิด เหตุการณ์อะไรขึ้นก็เหมือนมีผู้มากระซิบบอกให้รู้ล่วงหน้า “ไทยดำ” นักเขียนเรื่องราวธรรมะชื่อดัง ได้ให้ข้อสังเกต ในเรื่องความขลังความศักดิ์สิทธิ์ในกุมารทองของหลวงพ่อลำใยว่า จาการที่ท่านได้ไปเห็นการทำพิธีของหลวงพ่อลำใยอย่างนั้น เชื่อว่า หลวงพ่อลำใยคงปลุกเสกกุมารทองของท่านด้วยอำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย
โดยอาจเชิญจิตวิญญาณที่อาศัยท่องเที่ยวล่องลอยอยู่ในโลกวิญญาณเข้ามาสิ่งสถิตอยู่ในรูปหล่อรูปปัน วิญญาณที่เชิญเข้ามานั้นก็อาจจะเป็นวิญญาณเด็กที่เกิดมาเป็น มนุษย์แล้วต้องตายไปตั้งแต่ยังเป็นเด็กไร้เดียงสา ไม่ทันได้สร้างเวร สร้างกรรมอะไร ไม่เคยได้ทำบุญทำบาปอะไร นอกจากกรรมในอดีต เมื่อตายแล้วก็คงอยู่ในลักษณะที่ว่ากันว่า “บุญไม่พอไปสวรรค์ บาป ไม่พอไปนรก เป็นวิญญาณเร่ร่อนน่าสงสารไม่มีที่อยู่ที่กิน เมื่อถูกเรียก ถูกเชิญให้มาอยู่ในรูปหล่อรูปปันและให้การเลี้ยงดูเป็นที่สุขสบายขึ้น เมื่อเขาอยู่สุขสบายเขาก็ย่อมตอบแทนให้ผู้ที่เลี้ยงดูเขาแคล้วคลาด ปลอดภัยให้มีโชคลาภเท่าที่ฤทธิ์ของเขาจะทำได้ ทำนอง “ผู้ไหว้ย่อม ได้รับการไหว้ตอบ”
จากเรื่องราวที่ได้รับทราบมาจากนักเขียนอาวุโสที่ได้เปิดเผยให้ ทราบนั้น ก็เป็นที่ยืนยันได้ว่าหลวงพ่อลำใยซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ ขึ้นชื่อลือนามในเรื่องวัตถุมงคลของขลัง สิ่งที่ท่านสร้างขึ้นแต่ละอย่าง ล้วนเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ มีประสบการณ์ให้เป็นที่เลื่องลือทุกร่นทุกพิมพ์ จนผู้ที่มีไว้บูชาต่างเชื่อมั่นในอานุภาพสรรพคุณอย่างสนิทใจ และท่านก็เป็นพระเกจิอาจารย์ที่สร้างกุมารทอง ท่านคือเกจิกุมารทองที่ทรงไว้ ด้วยวิชามหามนต์อันเปี่ยมล้นด้วยความเข้มขลังอีกท่านหนึ่ง
ว่ากันไปแล้วครูบาอาจารย์ท่านผู้มีวิชาแก่กล้ามหาอาคมในการ สร้างๆกุมารทองให้เกิดมีฤทธิ์มีเดชเป็นที่เลื่องลือในยุคนี้มีมากหลายรูป หลายท่านด้วยกัน มีมากจนไม่อาจนำมากล่าวถึงในที่นี้ได้ครบถ้วนได้ แต่ละท่านล้วนมีวิธีการพิธีกรรมที่เป็นเอกแตกต่างกันไปตามมหาเวท ที่แต่ละท่านร่ำเรียนมาจนชำนาญ
................................................................................
ที่มา
http://www.kumarntalk.com/topic/402
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2