Baan Jompra

ชื่อกระทู้: " ข้อห้ามในการแขวนพระ " สิ่งสำคัญที่ควรศึกษา จากคุณ ...รณธรรม ธาราพันธุ์ [สั่งพิมพ์]

โดย: oustayutt    เวลา: 2014-11-22 11:26
ชื่อกระทู้: " ข้อห้ามในการแขวนพระ " สิ่งสำคัญที่ควรศึกษา จากคุณ ...รณธรรม ธาราพันธุ์
ข่าวคนที่ถูกยิง ถูกแทง ถูกตีจนตาย ทั้งที่มีพระเต็มคอ ตะกรุดเต็มเอว พบเห็นได้ดาษดื่น บ่อยครั้งเป็นเหตุให้คนที่มีศรัทธาในของขลังเริ่มคลอนแคลน ที่ไม่ศรัทธาอยู่แล้วก็หยิบยกมาโจมตีว่า ไม่เห็น “วิเศษ” ดังคำคุย
เป็นเพราะอะไร
จะมีสักกี่คนที่คิดเจาะลึกลงไปถึงเบื้องหลังของสาเหตุว่า ทำไมวัตถุมงคลเหล่านั้นจึงไร้ “ประสิทธิภาพ” คิดแบบตื้นๆก็ต้องว่า ของขลังเหล่านั้นไม่ขลังจริง คิดให้ลึกไปอีกหน่อยก็ต้องว่า ของนั้น “เคยขลัง” แต่ต้องมาเสื่อมเพราะใครคนนั้นเอง คิดแบบลึกสุดใจก็ว่า “กรรม”
“กรรม” แปลว่าการกระทำ ซึ่งมีทังทำดี-ทำชั่ว พูดถึงตรงนี้ก็มีเสียงค้านกัน “ตึม” ว่า แล้ว “ไอ้เสือ” ที่ปล้น ฆ่าชิงทรัพย์ในยุคเก่าก่อนเล่า เหตุใดจึง “หนังดี” ทั้งๆที่เขาเหล่านั้นก็ทำชั่ว แต่ความขลังก็ยังคงอยู่ ทำไมไม่เสื่อม
ผมตอบทันที เพราะไม่ผิดครู...!!
ใช่ว่าผมจะไม่เชื่อกรรม ไม่เชื่อผลของกรรม แต่กรรมบางอย่างก็ไม่อาจให้ผลได้ในปัจจุบัน ทั้งคนที่เป็นเสือและคนที่เป็นเจ้าทรัพย์ ก็ล้วนแล้วแต่สร้างกรรมมาร่วมกัน เป็นเหตุให้ต้องมาพบกันในลักษณะนั้น เรื่องกรรมมันลึกซื้งซับซ้อนยากจะอธิบาย ต้องคุยกับระดับพระมหาเถระอาจกระจ่างได้บ้าง
แต่เรื่อง “แรงครู” คุยกับผมก็ได้
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา เคยเล่าให้ผมฟังว่า ท่านมีลูกศิษย์ผู้ชายอยู่ 2 คน สมมตินามว่า “ยอด” กับ “ยิ่ง” ทั้งสองเป็นคนใจถึง เข้าทำนอง “ใจนักเลง” (ไม่ใช่อันธพาล) เขา 2 คนนับถึงหลวงพ่อพุธมาก เคยมาขอพระจากท่าน ท่านก็ให้เหรียญ รุ่นดีเซลราง ซึ่งเป็นเหรียญรุ่นสองในชีวิตท่าน แต่เป็นรุ่นแรก ขณะที่มาเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน แก่เขาไปคนละเหรียญ เขาก็แขวนคอทันที
แขวนไม่นาน ยอดก็ประคองยิ่งมาต่อว่าหลวงพ่อเป็นการใหญ่ว่า พระรุ่นเดียวกัน รับพร้อมกัน แต่ทำไมไม่ขลังเลย เจ้ายิ่งโดนยิงทะลุไส้แตก เพราะอะไร หลวงพ่อเงียบไปในทันที ไม่ใช่เงียบในลักษณะ “จน” แต่เป็นการ “ตรวจสอบ” บางอย่างโดยวิธีของท่าน สักพักท่านก็พูดเย็นๆ ขึ้นว่า
“เพราะเพื่อนคุณไปเปิดประตูทอง”

สองคนนั้นงง อะไรคือประตูทอง ท่านเฉลยต่อ “ก็คุณ” ชี้ไปที่คนถูกยิง “ไปด่าแม่เขาเข้านะสิ นั่นละเปิดประตูทอง” สองหนุ่มก็กระจ่างใจในบัดดล จึงขอขมาหลวงพ่อแล้วเล่าถวายว่า
เขาไปดื่มสุราในร้านอาหารแห่งหนึ่ง พบกับคู่อริที่ไม่ชอบหน้ากันเลยเกิดตะลุมบอนขึ้น เขามีกันสองคน แต่พวกนั้นมีเกือบสิบ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ถอย วาดลวดลายจนนักเลงมวยหมู่ตั้งตัวไม่ติด 1 ใน 10 นั่นก็เลยชักปืนขึ้นมาแล้วกระโดดเข้าล็อกคอหนุ่มยอด เอาปืนกดขมับแล้วลั่นไกทันที
เล่าถึงตอนนี้หลวงพ่อทำมือทำไม้ประกอบ พลางว่า “มันยิงดัง..แต๊บ...แต๊บ...แต๊บ...สามนัดแต่ไม่ออก” ข้างหนุ่มยิ่งเห็นคู่อริเอาปืนจ่อหัวเพื่อนก็เข้าใจว่า “ข้างหนุ่มยิ่งเห็นคู่อริเอาปืนจ่อหัวเพื่อนก็เข้าใจว่า “ขู่” ให้กลัวเท่านั้น จึงร้องตะโกนออกไปว่า “...แม่! แน่จริง***อย่าใช้ปืนสิวะ” ไอ้คนยิงฉุนกึก ใจกะจะฆ่าอยู่แล้วไม่ใช่แค่ขู่ เลยเบนกระบอกปืนไปที่คนปากเก่งแล้วลั่นไก
“ปัง”
แม่นยังกับจับไปวาง กระสุนทะลุท้องทันที หนุ่มยิ่งถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้น
คู่อาฆาตเห็นท่าไม่ดี เลยเผ่นตะโพงกันไปหมด ทั้งสองจึงมีเรื่องมาต่อว่าหลวงพ่อด้วยประการฉะนี้
ก็เหรียญรุ่นเดียวกันรับพร้อมกัน อันหนึ่งยิงออก อันหนึ่งไม่ออก ทำไมจะไม่แปลกใจ เดชะบุญว่าหลวงพ่อมี “จิตรู้” ที่แจ่มใส ท่านจึงทราบความเป็นมาเป็นไปของคนทั้งสอง แล้วตอบ “เคลียร์” ให้เข้าใจหาไม่แล้วหลวงพ่อคงถูกให้ร้ายว่าไม่เก่งจริง
ได้โอกาสผมจึงเรียนถามว่า “แสดงว่าพระของหลวงพ่อห้ามคนแขวนด่าพ่อด่าแม่ใช่ไหมครับ” ท่านตอบว่า “ไม่ใช่แต่ของหลวงพ่อดอก ของใครก็ห้ามเหมือนกัน เพราะพระสงฆ์เวลาปลุกเสกพระ ท่านก็เชิญคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ มาเหมือนๆกัน ฉะนั้นเมื่อไปลบหลู่คุณของท่านเหล่านั้น มันก็เท่ากับเราลบหลู่ครูบาอาจารย์ของเราด้วย”
“สรุปว่าพระของหลวงพ่อห้ามอะไรบ้างครับ”
ท่านยิ้มแล้วว่า
“พระของหลวงพ่อห้ามคนแขวนลบหลู่บุพการี (คือพ่อแม่) ของตัวเอง และคนอื่น ห้ามลบหลู่ครูบาอาจารย์ของคนอื่น ถ้าทำได้อย่างนี้พระนั้นขลังจริง”
นั่นเป็นข้อห้ามที่ฟังมาจากท่าน






โดย: oustayutt    เวลา: 2014-11-22 11:27
อาจื๊อ (คุณเพียรวิทย์ จารุสถิติ) เคยเล่าให้ผมฟังว่าคนแขวนพระหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ตั้ง 3 องค์ แต่ถูกยิงตาย ประดาศิษย์มาซักไซ้เอากับหลวงปู่ถึงกุฏิ เพราะพระที่แขวนก็แท้ แต่ถูกยิงเข้า หมายความว่าอย่างไร เรื่องนี้มันสั่นประสาท “คนเป็น” ที่ยังแขวนพระท่านเสียจริง จึงต้องถาม
ทำไมเป็นอย่างนั้น?
ท่านเงียบไปอึดใจ ก่อนตอบว่า

“พ่อแม่มัน มันยังไม่เอา จะให้พระเอามันได้อย่างไร”
สืบไป สืบมา ได้ความว่า เขาคนนั้นเป็นคนขี้เหล้า ขี้พนัน เมื่อขอเงินพ่อแม่ไม่ได้ก็ประเคนให้ด้วยแข้ง เข่า ไม่เอาพ่อเอาแม่จริงๆ
นี่ถ้าหลวงปู่ไม่แจ่มแจ้งในเชิง “ฌาน” ต้องจนแต้มอย่างไม่ต้องสงสัย
นั่นเป็นเรื่องที่สองพระเถระต่างวัยต่างยุคสมัยบอกเล่าได้ตรงกัน แสดงถึงข้อห้ามอย่างชัดเจนว่า พ่อ-แม่ เป็นของสูง จะนำมาพูดจาบจ้วงล่วงเกินไม่ได้เลย มิฉะนั้นจะมีผลดังที่เล่ามา

โดย: oustayutt    เวลา: 2014-11-22 11:28
เพื่อนผมคนหนึ่งแขวนเหรียญ “พ.ฆ.อ.” เนื้อเงิน เป็นรูปสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) พระอุปัชฌาย์ของท่านเจ้าคุณนรฯอยู่ เหรียญนี้ท่านเจ้าคุณนรฯ ได้ทำการอธิษฐานจิตให้ถึง 2 ครั้ง 2 คราว เรียกว่า “ขลัง” พอดู


เมื่อผมพบเขาเรื่องที่คุยก็ไม่พ้นพระ ตอนหนึ่งผมถามว่ามีภรรยามาแล้วตั้ง 2 คน เวลาหลับนอนแบบนั้นถอดพระบ้างไหม เขาตอบอย่างมั่นใจ “ไม่ถอด” ผมตกใจมาก แต่ก็ทำหน้าให้เป็นปกติ ถามต่อว่า แล้วไปเที่ยวสถานบริการที่มีผู้หญิงแบบนั้น ถอดไหม “ไม่เคยถอด” หนำซ้ำเขายังถามคืนว่า “ถอดไปทำไม พระอยู่ที่ใจ”
เออ ! คนเรานี่ก็แปลก ถ้าว่าพระอยู่ที่ใจจริง แล้วจะแขวนพระเครื่องไปทำไมเล่า แล้วพระอะไรหนอที่เข้าไปสิงใจเพื่อนผมแล้วชวนมันไปเที่ยวที่อย่างว่า ชวนมันไปกินเหล้า ถ้าพระชนิดที่มันบอกมีจริง โปรดอย่ามา “อยู่ที่ใจ” ผมเลย
ผมเสียว !
แล้ววันแห่งความพลิกผันในชีวิตของเขาก็มาถึง เมื่อวันหนึ่งเพื่อนเอาปืนมาหยอก แล้วลั่นไกแบบหยอกๆ ลูกปืนก็เลยออกแบบหยอกๆ แต่ผลของมัน “ไม่ใช่หยอก”
เพราะมันทะลุปอดซ้าย แล้วไปหยุดอยู่ที่กระดูกสันหลัง เมื่อแพทย์โรงพยบาลสมิติเวชดึงหัวกระสุนปืนออก น้ำไขสันหลังก็เยิ้มหนืบตามลูกกระสุนออกมาราวกับเยลลี่ ผลของมันก็คือทำให้เพื่อนของผมเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงไปสุดปลายเท้าตลอดชีวิต
สังเวยความดื้อ ด้วยวัยเพียง 24 ปี
เมื่อผมไปเยี่ยม เขารำพึงว่า “เชื่อนายเสียก็ดี” ผมมาคิดดูว่าถ้าเขาต้องมีอายุขัยสัก 70 ปี เขาต้องทรมานอย่างนี้ไปอีกตั้งเท่าไหร่ มันไม่คุ้มเลยกับที่เราเชื่อความเห็นของตนเองชนิดที่ไม่ยอมรับครูบาอาจารย์ เรื่องทำนองนี้ยังมีอีก
รุ่นน้องของผมคนหนึ่งชื่อ “จุ๊” มาขอพระหลวงปู่ทิม อิสริโก จากผม เพราะรู้ว่าผมมีเยอะ ผมก็ให้เหรียญห่วงเชื่อม 8 รอบไป เขาก็รีบนำไปเลี่ยมพลาสติกแขวนคอ วันหนึ่งเกิดอยากเที่ยวที่แบบนั้นประสาหนุ่มน้อย ก็ชวนน้องชายขี่มอเตอร์ไซค์ไปที่โรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่งในตัวเมืองชลบุรีแต่ทว่า

โดย: oustayutt    เวลา: 2014-11-22 11:30
ด้วยความที่ผมย้ำ “ข้อห้ามสากล” สำหรับพระทุกชนิดว่า
1. ห้ามด่าแม่
2. ห้ามเป็นชู้ลูกเมียเขา
3. ห้ามใส่พระเข้าสถานบริการทางเพศ หรือใส่มีเพศสัมพันธ์เด็ดขาด



ถ้าฝ่าฝืน พระต้องเสื่อมแบบถาวรอย่างไม่ต้องสงสัย หนุ่มจุ๊ก็ได้คิด ก่อนจะเข้าไปเลยถอดพระออกจากคอไปสวมให้น้องชาย นาม “โจ้” ไว้แทน และกำชับว่าให้คอยอยู่นอกรั้วนี้ ห้ามเข้าไปเด็ดขาด พี่จะเข้าไปคุยกับเพื่อนเดี๋ยวออกมา ว่าแล้วก็จ้ำอ้าวเข้าไป ปล่อยให้น้องโจ้คอยอยู่นอกรั้ว
ข้างหนุ่มโจ้รออยู่ครึ่งชั่วโมง พี่ชายก็ไม่ยอมออกมา แดดก็ร้อน เลยคิดว่าขอเข้าไปหลบแดดที่ชายคาบ้านคงไม่เป็นไร คิดแล้วก็ล็อกมอเตอร์ไซค์ พลางเดินมุ่งตรงไปที่ตึก เพียงแค่หนุ่มโจ้เดินผ่านประตูรั้วเหล็กเข้าไปเท่านั้นเขาก็ต้องตกใจชะงักอยู่กับที่เมื่อได้ยินเสียงวัตถุบางอย่างแตกดัง “เปรี๊ยะ”
เสียงนั้นอยู่ใกล้เหลือเกิน โจ้จึงก้มลงมองหารอบๆเท้า ด้วยเข้าใจว่าคงเหยียบเศษอะไร แต่ก็ไม่พบ ครู่เดียวก็เกิดเอะใจจึงล้วงสร้อยคอออกมาดู ปรากฏว่าพลาสติกที่เลี่ยมเหรียญหลวงปู่ทิมเกิดการ “ระเบิด” ย่อยๆ จนพลาสติกแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เฉพาะตรงด้านหน้าที่เป็นรูปท่านเท่านั้นที่คงสภาพเดิม
น่าอัศจรรย์จริงๆ

โจ้ยืนงงคิดไม่ตกอยู่กับที่เป็นนานสองนาน เมื่อพอจะเข้าใจได้ลางๆ ก็เผ่นพรวดออกมายืนข้างมอเตอร์ไซค์ พอพี่ชายตัวดีเดินตัวลอยกลับมาก็ฉะเสียยกใหญ่ คาดคั้นว่าที่เข้าไปไม่ใช่บ้านเพื่อนใช่ไหม พี่ก็โวยวายว่ารู้ยังไง อย่ามามั่ว โจ้จึงงัดพระออกมาให้ดู
เลยเงียบไปอีกคน
แล้วสารภาพเสียงอ่อย “เออ! นั่น...ซ่อง...” จากนั้นก็ตรงมาหาผม 2 คนนั่นเลยได้ฟังเทศน์เสีย 3 ชั่วโมงรวด ก็ผมเสียดายของผมนี่นา
ผมเก็บเหรียญนั้นไว้ถึง 3 ปี เพื่อเป็นตัวอย่างบอกเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง จนพระหลวงปู่หายากเข้า คุณป๊อบ เจ้าของร้านข้าวมันไก่โอเชี่ยนจึงมาออดอ้อนขอเอาไป ไม่อย่างนั้นผมจะมีรูปเหรียญทั้งพลาสติกเดิมมาให้ชม
เห็นไหมเรื่อง “มาตุคาม” กับพระเข้ากันได้เมื่อไร กรณีหนุ่มจุ๊ถือว่าโชคดีที่หลวงปู่ทิมท่านเมตตา “แสดง” ให้รู้ว่าอาตมาไม่อยู่ด้วยละ แต่กรณีท่านเจ้าคุณนรฯท่านไปแบบเงียบๆ คนแขวนเลยไม่ทันระวังตัว อันตรายจริงๆ
พูดเรื่องนี้มีอีกเยอะ เพื่อนบางคนแขวนเหรียญหลวงปู่แช่ม วัดฉลอง จ.ภูเก็ต เข้าสถานบริการกลับออกมาเหลือแต่ตลับ เหรียญข้างในหายจ้อย สร้อยก็อยู่กับคอ ตลับก็ไม่ได้เปิด พระไปได้อย่างไร

(รูปหลวงปู่แช่ม)

อีกคนใส่ตะกรุดหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เกิดหักโป้งเป็น 2 ท่อน ทันทีที่เข้าใต้ชั้น 2 ของที่อย่างว่า( สถานที่ให้บริการทางเพศน่ะครับ)

ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่
เดี๋ยวจะเหมือนเพื่อนผมที่เอาอนาคตมาดับเพราะความดื้อรั้นของตัวเอง ด้วยข้อห้ามสากลทั้งหมดนั้นใช่ว่าผมจะบัญญัติขึ้นมาเองเสียเมื่อไร ผมก็ถามไถ่เอาจากครูบาอาจารย์เสียทั้งนั้นแหละครับ ทุกองค์บอกเหมือนกันเดี๊ยะ ผมก็ไม่กล้าดื้อกับท่านดอก
เพราะยังเสกเองไม่เป็น


โดย: oustayutt    เวลา: 2014-11-22 11:31
ทั้งหลายทั้งปวงที่เล่ามานั้นเป็นเรื่องของข้อห้ามสากล ทีนี้ก็เป็นเรื่องของ “ข้อห้ามเฉพาะ” บ้างละ ข้อห้ามเฉพาะ คือ พระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังประดามีที่ครูบาอาจารย์แต่ละองค์ แต่ละสำนักจะบัญญัติเอาไว้ว่า ห้ามอย่างนั้น อย่างนี้ หากว่าไม่ยอมทำตาม ผลน่ะหรือ...
เสื่อมสนิท
เช่น พระหลวงพ่อมุม อินทปัญโญ
วัดปราสาทเยอร์ จ.ศรีสะเกษ มีข้อห้ามเฉพาะ ดังนี้
1. ห้ามลอดไม้ค้ำต้นกล้วย
2. ห้ามใช้มือทั้งสองกอบน้ำในบึง หนอง คลอง ที่ตนลงเล่นมาดื่มกิน
นี่คือข้อห้ามเฉพาะที่จำเป็นต้อง “ถือ” ต่อท้ายข้อห้ามสากล คนชอบซื้อพระเคยฉุกคิดบ้างไหม หรือสนแต่ซื้อขายอย่างเดียว ถ้าเป็นดังนั้น อย่าแปลกใจเลยหากจะมีข่าวคนถูกยิงทะลุทั้งๆที่ใส่พระหลวงพ่อมุม
โทษท่านได้ไหมว่า “ไม่ขลัง”
หรือ แหวนมหาสัตตโลหะของหลวงพ่ออั้น คันธาโร วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ห้ามแกว่งมือจุ่มนิ้ว ลงในแม่น้ำลำคลอง หรือแหล่งน้ำธรรมชาติทั้งหลาย มิฉะนั้นชักขึ้นมาจะเหลือแต่มือเปล่า
แหวนไปไหน?
ข้อนี้ไม่ทราบ ทราบแต่ว่าไปขอคืนได้ที่กฏิ เพียงแต่ทนฟังท่านดุด่าเสียหน่อยเป็นค่าแหวน นี่ลุงผมเจอมากับตัว

รูปหลวงพ่ออั้น คันธาโร
หรือตะกรุดมหาจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก ที่มีข้อห้ามว่า “อย่าพกพาต่ำกว่าเอว” เพราะของๆท่านสำเร็จขึ้นด้วยบารมีของพระพุทธเจ้าเอาพระพุทธเจ้าไว้ต่ำได้หรือ!


เหล่านี้คือสิ่งที่ควรศึกษาให้รู้ก่อนแขวน
ยังมีอีกเยอะแยะ มากมายครับ เขียนมากไปก็เกรงจะเป็น “สอนพระสังฆราช” อีก จึงได้แต่วิงวอนผู้เลื่อมใสในพระเครื่องของขลังจงระวังระไว จะแขวนจะคาดสิ่งใดโปรดตรวจสอบที่มาที่ไปก่อนเถิด อย่าตามใจตัวเองจนเก่งเกินครู ไม่อย่างนั้นท่านอาจจะต้องเสียใจในภายหลัง
ขอให้จงรู้แจ้งเห็นจริงทุกท่าน สวัสดี
http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=610.0


โดย: armklugklig    เวลา: 2014-11-22 23:05
สาธุ
โดย: majoy    เวลา: 2014-11-24 05:46
ขอบคุณครับ
โดย: ธี    เวลา: 2014-11-25 09:35
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ธี เมื่อ 2014-11-25 09:37

ขอบคุณครับ ....
ผมไดยินมาเหมือนกัน
1. ห้ามลอดราวตากผ้า
2. ห้ามลอดสะพาน
3. ห้ามลอดไม้ค้ำเรือน
4. ห้ามลอดต้นไม้ที่ล้มพิงกัน
5. ห้ามลอดราวพระธรรม(เพื่อนเอาแขนค้ำอะไรไว้แล้วลอดแขนเพื่อน ถือว่าแขนเป็นราวตากผ้า)
6. ห้ามเข้าไปในสถานที่อัปมงคล (ซ่อง) เพราะมันมีสิ่งไม่ดีทำใหเเสื่อม
7. ห้ามกินกับข้าวที่ห้อยติดจาน(ไม่อยู่ในจานข้าว (ล้นจนห้อย-ส่วนที่ห้อยไม่กิน)
8. ห้ามด่าแม่(เวลาเกิดเหตุ)
9. ห้ามทาทาย (ทายิง ทาแทง)
10. ห้ามลอดใต้ถุนบ้าน

ข้อห้ามเยอะมาก แต่ข้อห้ามบางอย่างของครูบางคนก็ให้ศิษย์ทำสิ่งที่ผิดคุณธรรม เช่น ห้ามร่วมงานศพพ่อแม่ เรื่องนี้ได้ยินมาจากคนชรา เล่าว่า มีอาจารย์ทางใสเวทย์ท่านหนึ่งให้ของลูกศิษย์แล้วห้ามเข้าร่วมงานศพพ่อแม่ ของที่ได้ขลังมาก แต่เมื่อแม่ตาย ลูกศิษย์ก็ทำตามอาจารย์สั่ง หลังจากงานศพ ปรากฎว่า ของที่ขลังกลับไม่มีผลใดๆ ลูกศิษย์ถูกแทงต้องหามเข้าโรงพยาบาล ผู้ชราบอกว่า พ่อแม่มันยังไม่เอาแล้วของขลังอะไรจะคุ้มครองมัน คนโบราณยังว่าไว้ ผ้าถุงแม่แม้จะไม่ลงอาคมก็ขลังกว่าของอาจารย์ใดๆ แล้ว มีคนถูกไล่ยิ่ง เขาเอาผ้าถูกแม่ใส่หัวแล้ววิ่งหนี กระสุนปืนไม่ถุงกแม้นัดเดียว คุณของแม่รักษาลูก แม่นี้พระพุทธเจ้ายกเป็นพระอรหันต์ของลูก
โดย: ธี    เวลา: 2014-11-25 09:42
บางคนมีของขลัง ฟันแทงไม่เข้า แต่เมื่อถูกฟันมันเจ็บ นิสัยเดิมก็ออกมา คือ ด่าแม่ ทันทีที่เจ็บ เลยถูกฟันยับเลย

แต่บางคนก็ดวงถึงที่ตาย อะไรก็เอาออกหมด มีเรื่องเล่าของเสือผาดเสือเหลียวสองฟี่น้อง ออกปล้นทุกครั้ง ตำรวจมาจะหนีโดยให้ลูกน้องวิ่งก่อนตนเองวิ่งตามหลังสุด ตำรวจยิงไม่โดนเลย วันที่ถึงที่ตาย บอกว่าร้อน ถอดของขลังออกจากตัวจนหมดใส่ผ้าขาวม้ามานั่งนอกชานเรือน ตำรวจยิงตาย คนที่ถึงที่ตาย ก็มีเหตุให้ละทิ้งของที่ตนใช้คุ้มครอง ความตายหนีไม่พ้นครับ


โดย: ธี    เวลา: 2014-11-25 09:44
บางอาจารย์บอกแตกต่างครับ บอกว่าพระที่เราห้อยแขวน คนโบราณเขาไม่ได้เลี่ยมพลาสติก ของเขาจึงขลัง ถ้าเลี่ยมพลาสติกมันปิดมิด ของอาคมก็ไม่มีทางออก มันจะไม่มีผล ต้องเจาะรูไว้เท่าปลายเข็มก็ยังดี
...... เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลครับ
โดย: Nujeab    เวลา: 2014-11-25 12:01
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
โดย: ahiu    เวลา: 2014-11-25 14:26
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ahiu เมื่อ 2014-11-25 14:27

กระทู้ดีๆงี้ต้องดันให้อ่านกันนานๆ
ว่าแต่อยากทราบครับ ถ้าเกิดไปพลาดข้อห้าม เกิดทำให้ของเสี่อม
ด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์จะมีทางแก้ กันมั๊ะครับ
อยากทราบครับ
โดย: Nujeab    เวลา: 2014-11-25 15:59
เพื่อความสบายใจก็จัดขันธ์ห้าเพื่อขอขมาครูบาอาจารย์ครับ เราไม่ได้มีเจตนา ของไม่น่าเสื่อมครับ มีสติอยู่เสมอจะได้ไม่ผิดพลาด อย่างของหลวงปู่ท่านเน้นเรื่องห้ามอกตัญญูเป็นหลักครับ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2015-7-17 05:19
   **อย่าลืมนะครับว่า งูเห่า มันลอดที่ต่ำ ลงที่สกปก มันยังกัดคนตาย นั้นหมายถึง พระเครื่อง หรือของขลัง ถึงแม้จะ ติดตัวไปลอดที่ต่ำ ที่สกปก ก็ยังขลังเหมือนเดิม นั้นถูกต้องครับ แต่....... ไม่ได้หมายความว่า พกพาพระเครื่องหรือของขลัง ไปทำชั่ว เช่น ด่าบุพการี ของตนเอง หรือ ผู้อื่น หรือ ไปข่มเหงรังแกคนอื่น แล้วไม่เป็นไร ยังขลังเหมือนเดิม สิ่งนี้ไม่ถูกต้องนะครับ ถ้าทำแบบนั้น ทุกอาจารย์ครับ ของหลวงพ่อเดิมเอง ก็ไม่เว้น โป้งเดียว ตายครับ พระพุทธคุณท่านไม่คุ้มครองครับ ถ้าปฏิบัติตัวเช่นนั้น  ....... ตัวอย่างเช่น สมัยหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง *สมัยออกเหรียญกงจักรใหม่ๆ มีการดวลปืนกันระหว่างคนสองคน คนนึง ไปฉุดลูกสาวเขามา อีกคน ตามไปช่วย ทั้งคู่ห้อยเหรียญหลวงพ่อแช่ม องค์เดียวกัน ยังรมดำเดิมๆ คนนึง ตายคาที่ อีกคนปืนยิงไม่ออก

คนตายคือคนที่ไปฉุดลูกสาวเขา ผมกรรมที่ทำชั่ว ขมเหงผู้อื่น พระพุทธคุณไม่คุ้มครอง จึงโดนยิงตาย ส่วนอีกคน เป็นคนดีพระพุทธคุณของพระเครื่องจึงคุ้มครอง ปืนที่ยิงเข้าใส่จึงยิงไม่ออก เป็นต้นครับ
ดังนั้นถ้าจะเชื่ออะไร ให้วิเคราะห์คำพูด และเจตนา ของครูอาจารย์ท่านให้ดีก่อนครับ เดี๋ยวจะเข้าใจผิด พกพาพระเครื่องของขลัง ไม่ระวังตัว และสำรวมวาจา หากเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น อาจเป็นอันตรายได้ครับ

หรือเอาตัวอย่าง เช่น ศิษย์หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง มีความคงกะพัน
เลยไปเป็นเสือ ลูกปืนยิงไม่เข้า เลยลำพอง วันนึง ขาดสติเพราะกินเหล้าเข้าไป มาเจอตำรวจล้อมจับ ถือดีว่าตัวเองหนังเหนียว ไม่กลัวใคร + เมาขาดสติ จึงร้องท้า ด่าบุพการี ฝ่ายตรงข้ามไป* โดนตำรวจยิงเข้าให้* หนังยุ่ยเลือดสาด หมดความคงกะพันครับ

อีกเรื่องสมัยปีสามกว่า เรื่องนี้ดังอยู่ครับ คนขับรถร่วม ย่านฝั่งธน ไปงาoทำบุญบ้านแถวนั้น งานนั้นเค้านิมนต์หลวงพ่อเปิ่น ไปด้วย และในงานเค้าไปรับแจกพระผงจากหลวงพ่อเปิ่น จึงได้คล้องคออยู่ แต่หลังจากนั้น ก็ดืมสุรา ขาดสติ จึงทำให้มีปากเสียงกับคนในงาน ขณะกลับ ได้มีวัยรุ่นตามมาแล้ว ยิง อยู่หลังครั้ง แต่ปืนไม่ลั่น แทนที่จะวิ่งหนีหรือ เข้าไปสู้ ด้วยความเมาและฮึกเหิมว่า มันยิงเราไม่ออก ก็ได้ร้องท้าด่าบุพการีมือปืน ด่าปุ๊บ เปรี๊ยงเดียวเลือดกระจายกลบปาก ยังโชคดีที่ไม่ตาย เพราะกระสุนวิ่งเข้าไปปะทะกับแนวฟันทั้งแถวแล้ว หยุดอยู่ที่ซอกฟัน ยังดีแค่ฟันหัก แต่ไม่ตาย แต่เกือบตายเพราะขาดสติ เผลอด่าบุพการีครับ

ยังไงก็ขอให้สำรวจกาย สำรวมวาจา กันไว้นะครับผม**

โดย: ธี    เวลา: 2015-7-25 17:02
ผู้ชราเคยเล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับทางแก้ในสถานการณ์บางอย่าง เช่น
1. ลอดราวตากผ้า ก็ให้ยกแขวนปิดศีรษะแล้วพูดว่า "ลอดแขนไม่ได้ลอดราว"
2. ลอดใต้สะพาน ถ้านั่งเรื่อที่มัหลังคา ...ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะเราไม่ได้ลอดโดยตรง มีสิ่งที่กันไว้ คงเหมือนบ้านชั้นบนชั้นล่าง
เป็นความเชื่อครับ....แต่ถ้าพลาดไป...ก็นำเครืองรางไปใส่ในบาตรพระในพิธีบวชพระ(ในโบสถ์) เพราะพระที่ถือว่าสมมุติสงฆ์จะสวดมนต์บทต่างๆ ในขณะบวช ถือเป็นการปลุกเครื่องรางที่เสื่อมให้มีพลังเหมือนเดิม.....เป็นความเเชื่อ...พิจารณษครับ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2015-7-26 07:44

โดย: Sornpraram    เวลา: 2015-7-28 18:32
คนแขวนพระหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ตั้ง 3 องค์ แต่ถูกยิงตาย ประดาศิษย์มาซักไซ้เอากับหลวงปู่ถึงกุฏิ เพราะพระที่แขวนก็แท้ แต่ถูกยิงเข้า หมายความว่าอย่างไร เรื่องนี้มันสั่นประสาท “คนเป็น” ที่ยังแขวนพระท่านเสียจริง จึงต้องถาม
ทำไมเป็นอย่างนั้น?
ท่านเงียบไปอึดใจ ก่อนตอบว่า

“พ่อแม่มัน มันยังไม่เอา จะให้พระเอามันได้อย่างไร”
สืบไป สืบมา ได้ความว่า เขาคนนั้นเป็นคนขี้เหล้า ขี้พนัน เมื่อขอเงินพ่อแม่ไม่ได้ก็ประเคนให้ด้วยแข้ง เข่า ไม่เอาพ่อเอาแม่จริงๆ
นี่ถ้าหลวงปู่ไม่แจ่มแจ้งในเชิง “ฌาน” ต้องจนแต้มอย่างไม่ต้องสงสัย
นั่นเป็นเรื่องที่สองพระเถระต่างวัยต่างยุคสมัยบอกเล่าได้ตรงกัน แสดงถึงข้อห้ามอย่างชัดเจนว่า พ่อ-แม่ เป็นของสูง จะนำมาพูดจาบจ้วงล่วงเกินไม่ได้เลย มิฉะนั้นจะมีผลดังที่เล่ามา







ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2