Baan Jompra

ชื่อกระทู้: ประวัติรถราง [สั่งพิมพ์]

โดย: kit007    เวลา: 2014-10-7 08:35
ชื่อกระทู้: ประวัติรถราง
ประวัติรถราง
                                                                                        

รถราง (tram) เป็นพาหนะที่วิ่งบนรางชนิดหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคล้ายรถค่ะ แต่จะสั้นกว่าและมีน้ำหนักที่เบากว่า รถรางส่วนมากจะใช้ไฟฟ้าจากสายไฟด้านบน (pantograph) แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ใช้ดีเซลอยู่ ในปัจจุบันนิยมนับรถรางเป็นประเภทหนึ่งของรถไฟรางเบาด้วย (light rail)
ในอดีตประเทศไทยก็เคยมีการใช้รถรางครั้งแรกเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2431 เริ่มแรกใช้กำลังม้าลากรถไปตามราง แต่มาภายหลัง ได้เปลี่ยนมาใช้กำลังไฟฟ้า เมื่อพฤษภาคมพ.ศ. 2437 และจนถึงปี พ.ศ. 2511 ได้ยกเลิกการเดินรถทุกเส้นทางอย่างถาวร

คำว่า "รถราง" ในภาษาไทยปัจจุบัน ถูกใช้ในความหมายของ รถชมเมืองที่วิ่งโดยไม่ใช้ราง แต่ด้วยล้ออีกด้วย
ข้อดี
1.ไม่ปล่อยมลพิษเพราะใช้ไฟฟ้า มลภาวะทางเสียงน้อยกว่า
2.สามารถเข้าถึงสถานีรถรางได้ง่ายกว่าการคมนาคมประเภทอื่น ๆ เช่น รถไฟใต้ดิน เพราะอยู่กลางถนน
3.ใช้ราง เวลานั่งจึงรู้สึกสบายกว่ารถเมล์ที่กระเด้งมากกว่า
4.มีประสิทธิภาพทางพลังงานสูงกว่าขนส่งมวลชนประเภทอื่น ๆ และค่าใช้จ่ายน้อยกว่า
ข้อเสีย
1.กินพื้นที่ถนนบางส่วน
2.ทุนตั้งต้นสูงกว่ารถเมล์ (ถึงแม้ว่าในระยะยาวจะประหยัดมากกว่า)
3.สำหรับผู้ที่ขี่จักรยาน ล้ออาจติดอยู่ในร่องของรถรางได้

ปล.สำหรับเมืองไทย การยกเลิกกิจการรถรางในประเทศ ถือเป็นความผิดพลาดครั้งสำคัญของประเทศไทย








โดย: kit007    เวลา: 2014-10-7 08:36










โดย: kit007    เวลา: 2014-10-7 08:37



แบบติดแอร์






เนื้อหาโดย: Nightingale

......................................................................

ที่มา http://board.postjung.com/812999.html



โดย: morntanti    เวลา: 2014-10-7 09:22
ชิงกันเซ็ง[size=0.875em]จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี



ชิงกันเซ็งซีรีส์ N700



ชินคันเซน (ญี่ปุ่น: 新幹線 shinkansen ?) เป็นเครือข่ายของรถไฟความเร็วสูงในญี่ปุ่นซึ่งดำเนินการโดย 4 กลุ่มบริษัทรถไฟญี่ปุ่น นับตั้งแต่ได้เปิดใช้โทไกโด ชิงกันเซ็ง ในปี ค.ศ. 1964 รถไฟคันนี้สามารถวิ่งด้วยความเร็ว 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากนั้น เครือข่ายของระบบรถไฟนี้ก็ได้ขยายออกไปจนครอบคลุมพื้นที่สำคัญต่าง ๆ ของประเทศตามเมืองใหญ่ ๆ ในเกาะฮนชู เกาะคีวชู ความยาวเส้นทางรวม 2,459 กิโลเมตร โดยสามารถวิ่งด้วยความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้จะเกิดแผ่นดินไหวหรือพายุไต้ฝุ่น ก็สามารถวิ่งได้ตามปกติ ในรางปกตินั้นรถไฟสามารถเร่งความเร็วได้ถึง 443 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ทำการทดสอบในปี 1996) แต่สามารถเร่งความเร็วได้ถึง 581 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งเป็นความเร็วสถิติโลกเมื่อวิ่งด้วยรางรถไฟแม่เหล็ก (แมกเลฟ) ในปี 2003
ชิงกันเซ็ง มีความหมายว่า "ทางรถไฟสายใหม่" ดังนั้น ตามความหมายอย่างเป็นทางการ ชิงกันเซ็ง จะเป็นชื่อที่ใช้เรียกระบบรางรถไฟเท่านั้น ส่วนตัวรถไฟจะมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "รถไฟความเร็วสูง" หรือ "รถไฟซูเปอร์เอกซ์เพรส" (超特急, chō-tokkyū) อย่างไรก็ตาม ทั้งสองชื่อก็ไม่ได้ทำให้เกิดความสับสนแต่อย่างใด สามารถเรียกใช้แทนกันได้แม้แต่ในญี่ปุ่นก็ตาม
เมื่อเปรียบเทียบกับทางรถไฟสายเก่าแล้ว ชิงกันเซ็งจะมีความแตกต่างตรงที่รางรถไฟจะมีความกว้างเป็นแบบมาตรฐาน และมีการขุดอุโมงค์เข้าไปหรือสร้างสะพานข้ามเมื่อเจอสิ่งกีดขวางแทนที่จะอ้อมไปแบบแต่ก่อน ทำให้เส้นทางรถไฟของชิงกันเซ็งจะมีความคดเคี้ยวน้อยกว่า และช่วยร่นระยะทางให้ไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีเส้นทางเดินรถที่ใหญ่และไกล แต่ชิงกันเซ็งนั้นก็เป็นเส้นทางที่ใช้เชื่อมตามมหานครใหญ่ ๆ ในญี่ปุ่นเท่านั้น








ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2