Baan Jompra

ชื่อกระทู้: ทรายเสก [สั่งพิมพ์]

โดย: Sornpraram    เวลา: 2014-6-25 14:27
ชื่อกระทู้: ทรายเสก
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-6-25 16:23

หลวงพ่อกวยท่านทำทรายเสกได้ขลังนัก




ทรายเสกของท่าน มีอานุภาพครบทุกด้าน ทั้งป้องกันภูตผี วิญญาณร้าย มนต์ดำ คุณไสยต่างๆ ดีทางกำบังแคล้วคลาดและท่านยังลงมหาอุดไว้ให้ด้วย

สมัยที่หลวงพ่อยังอยู่ ท่านจะเสกทรายเสกมาโปรยในบริเวณวัด เวลาที่วัดมีงาน ท่านลงอาถรรพ์ไว้ ไม่ให้พวกวัยรุ่นตีกัน เพราะแถวนั้น ย่านนั้น งานวัดที่ไหน ต้องมีเรื่องตีกันที่นั่น เพราะมีแต่ดงนักเลง ทั้งทางสรรค์บุรี สิงห์บุรี สุพรรณ อ่างทอง แถวนั้น มีแต่คนจริงและใจนักเลง

ทุกวันนี้ แม้หลวงพ่อจะมรณภาพไปนานแล้ว เวลาที่วัดบ้านแคมีงาน ท่านเจ้าอาวาสก็จะเอาทรายเสกเก่าของหลวงพ่อกวย มาผสมกับทรายแล้ว เอามาโปรยในบริเวณวัด บอกกล่าวหลวงพ่อ ก็ปรากฏว่า ไม่มีเหตุการณ์ของพวกวัยรุ่นเกิดขึ้นในเขตของวัดบ้านแคเลย

ทรายเสกเก่าของหลวงพ่อ ค้นพบเมื่อปี ๒๕๓๗  ตอนที่ทางวัดได้เปิดกรุพระสมเด็จ หลวงพ่อท่านได้เอาทรายเสกโรยทับพระไว้ในกรุ เมื่อตอนแรกที่ค้นพบ คิดว่าเป็นทรายธรรมดา แต่พอสังเกตดีๆ สันนิษฐานกันว่า น่าจะเป็นทรายเสกของหลวงพ่อมากกว่า

ผมได้ขอแบ่งทรายเสกนี้มาจากท่านเจ้าอาวาส เก็บไว้และแจกจ่ายให้ศิษย์หลวงพ่อบ้าง เคยมีเพื่อนเอาทรายนี้ ไปให้คนมีสมาธิจับพลังดู เขาบอกว่า ทรายนี้ดีมาก แรงมากๆ เรื่องจับพลังนี้ ผมฟังได้ แต่ก็ยังห้าสิบห้าสิบ

เรื่องต่อมาคือ มีบ้านพี่ที่ผมรู้จักอยู่ท่านนึง ในจังหวัดพะเยา เป็นบ้านสองชั้น หลังใหญ่ ชั้นบนเป็นไม้ ข้างบนกว้างมาก มีสองห้องนอน และเป็นเรือนชานขนาดกว้าง เจ้าของไม่กล้านอนข้างบนเลย บ้านนี้ กลางคืนไม่จะลั่นเป็นประจำ บางครั้ง ดังมาก ผมเคยไปนอนข้างล่าง กลางคืนลั่นเหมือนคนเอาไม้มาฟาด จนทำให้ตกใจตื่น บางคืนเด็กน้อยเข้าไปนอนด้วย กลางคืนมีเสียงไม้ลั่น เด็กตกใจตื่น ร้องไห้แล้วชี้ไปนอกห้อง ร้องว่ากลัวๆ ไม่เอา กลัวๆ

เจ้าของทำบุญบ้านทุกปี นิมนต์พระมาสวดและทำพิธีก็ไม่หาย ตามหลักวิทยาศาสตร์ เขาว่า เป็นเรื่องการหดและขยายตัวของไม้บวกกับความร้อนเย็นของอากาศที่แตกต่างกันระหว่างกลางวันและกลางคืน แต่ความเชื่อของชาวบ้านและตามหลักไสยศาสตร์ ก็คิดไปอีกแนว คิดคนละแบบแตกต่างกันไป

เจ้าของบ้าน เคยท้าผมให้ขึ้นไปนอนคนเดียวที่ชั้นบน ผมก็รับคำท้า เพราะกลัวเขาดูถูกว่า เป็นคนกลัวผี ผมรับคำท้า ขึ้นไปนอนคนเดียว ก่อนนอน สวดมนต์แผ่เมตตา บอกกล่าว หลวงพ่อกวยและครูบาอาจารย์ของท่าน เอามีดหมอหลวงพ่อกวยไว้ที่หัวนอน เป็นมีดนาคเกี้ยวลายอาจารย์ทรง เล่มที่เคยใช้ไล่ผีปอบที่เคยลงให้ชมในเวป ชักมีดออกจากฝักนิดๆ กว่าจะข่มตาหลับได้จนเกือบเที่ยงคืน ยอมรับว่า กลัวอยู่เหมือนกัน เพราะบรรยากาศ น่ากลัว วังเวงท่ามกลางความเงียบและความมืด อดทน ข่มใจให้นอนจนหลับไป คืนนั้น ผมหลับได้สบาย ไม่มีเสียงรบกวนเลยสักนิด

ผมให้มีดหมอหลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญไว้กับเจ้าของบ้าน เผื่อเอาไว้ใช้ยามจำเป็น เพราะรู้มาว่า มีดหลวงปู่เย็น ศักดิ์สิทธิ์มาก ดีไม่แพ้มีดของหลวงพ่อกวย หลวงปู่เย็น เป็นเกจิสายหลวงพ่อศรีที่เก่งมาก แต่ค่อนข้างเก็บตัว อยู่แบบสงบ เน้นทางสมาธิและกรรมฐาน ก้านธูป ท่านยังเสกให้ขลัง และใช้สร้างวัดได้ ในใจอยากให้มีดหลวงพ่อกวย แต่ให้ไม่ได้ เพราะหวง หายาก ราคาก็แพง

คืนวันนึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ไม้ลั่นดังมาก เจ้าของบ้านโมโหสุดขีด เอามีดหมอหลวงปู่เย็นมา ชักออกจากฝักแล้วแทงไปตามไม้ที่มีเสียงลั่น ท้ายสุด เอามีดหมอปักไว้ที่เสาเอกกลางบ้าน คืนต่อมา ก็นอนกันได้ หลับสบาย ไม่มีเสียงรบกวน  อีกไม่กี่วันต่อมา ผมไปที่บ้านหลังนี้ เพื่อความแน่นอน บอกกล่าวหลวงพ่อกวยและได้เอาทรายเสกหลวงพ่อกวย ไปโปรยไว้รอบบ้าน เอารูปหลวงพ่อเฒ่าและผ้ายันต์หลวงพ่อกวยไปติดที่กลางบ้าน ตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่มีเสียงไม้ลั่นอีกเลย จนถึงทุกวันนี้

เรื่องทรายเสกของหลวงพ่อกวย ยังไม่จบ มีอีกเรื่องนึงที่จะเล่าให้ฟัง ไม่นานมานี้เอง ผมแบ่งทรายเสกให้น้องคนนึงเป็นนักศีกษาราชภัฏเชียงราย เล่นพระด้วย น้องคนนี้ ได้ทรายไป ก็เลยอยากลองว่า ขลังแค่ไหน

ในหมู่บ้านที่น้องคนนี้อยู่ มีศาลาประจำหมู่บ้านอยู่หลังนึง อยู่ตรงทางสามแพร่งพอดี เค้าว่า ผีมันชอบมาอยู่ และเคยมีคนมากินยาตายที่นี่ด้วย จึงลือกันว่า ศาลาหลังนี้ น่าจะมีอาถรรพ์และมีผีมาอาศัย น้องคนนี้ อยากลองทรายเสกหลวงพ่อกวยว่า ขลังแค่ไหน จึงให้เพื่อนอีกคน เอาทรายหลวงพ่อกวยที่ผมให้ไป เอาไปโปรยรอบๆศาลาตรงทางสามแพร่งนั้น

ไม่นานนักแม่ของเด็กที่เอาทรายไปโปรย เกิดอาการถูกผีเข้า จึงพากันไปตามตุ๊เจ้า(หลวงพ่อ)ที่วัดมาดู ผีมันบอกตุ๊ว่า เขาอาศัยที่อยู่ที่ศาลามานาน แต่เด็กที่เป็นลูกของผู้หญิงคนนี้(ที่ถูกผีเข้า) เอาอะไรไม่รู้มาโรยไว้ที่ศาลา มันร้อนมากๆ ตนเลยอยู่ไม่ได้ จึงมาเข้าแม่ของเด็ก บอกให้ทำศาลให้ด้วย เพราะไม่มีที่อยู่ กลับไปที่ศาลาไม่ได้แล้ว ตุ๊และชาวบ้านก็เลยต้องสนองตามความต้องการของผีตนนั้นไป

ผมเจอน้องคนนี้ ก็ติไปว่า ทรายเสกของหลวงพ่อกวย ศักดิ์สิทธิ์มากๆ ทีหลัง อย่าเอาไปเล่นแผลงๆอีก จะเป็นบาป แต่ก็นึกอยู่ในใจว่า ทรายของหลวงพ่อนั้น เป็นของดีมากจริงๆ

เขียนเรื่องโดย คุณ เฒ่า สุพรรณ


โดย: Sornpraram    เวลา: 2014-6-25 14:29
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-6-25 16:26

ทรายเสก หลวงปู่ฟัก พระพุทธบาทวัดเขาวงพระจันทร์ ลพบุรี


หลวงปู่ท่านเป็นพระที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือมาก ท่านมุ่งมั่นในพุทธศาสนา ไม่ทานเนื้อสัตว์ ไม่เบียดเบียนชีวิต ไม่ปฏิบัติตนให้อยู่ในความสบาย และจะทำให้หลงไหล ไม่ปฏิบัติธรรม พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกรูปหนึ่งครับ น่าบูชาจริงๆ


เมื่อหลวงปู่ฟัก ภททจารี(วัดเขาวงพระจันทร์)ถอดจิต!!!

หลวงปู่ท่านเล่าให้ฟัง ว่า ในครั้งแรกที่"ถอดจิต"ได้ในวันหนึ่ง ขณะที่หลวงปู่นั่งปฏิบัติเจริญสติอยู่นั้น พอจิตสงบเข้าที่ กายละเอียดของหลวงปู่ ก็ถอดออกจากกายหยาบ เมื่อถอดออกแล้ว กายละอียดของหลวงปู่ ยืนมองดูกายหยาบ ที่นั่งหลับตาขัดสมาธิอยู่ ท่านพิจารณาดูกายหยาบที่นั่งอยู่ กายหยาบนี้ มันไม่ผ่องใส มันมัวๆ ไม่สดใส ไม่สวยไม่งาม แต่กายละเอียดที่ยืนอยู่นี่ มันสง่า มันใสงามเป็นแก้วใส สวยงามเหมือนหนึ่งแก้วผลึก เมื่อจิตคิดรู้เช่นนั้น จิตบอกตัวเองว่า เออดีเหมือนกันนะ กายนี้ก็แปลกดีเหมือนกัน แล้วหลวงปู่ท่าน จึงจากกายหยาบ ที่นั่งอยู่นั้น ไปเที่ยวยังที่ต่างๆ......

มันช่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง ทุก เมืองที่หลวงปู่ได้ไปพบไปเห็นนั้น ไม่เหมือนเมืองมนุษย์เราเลย เพราะไม่มีต้นไม้ ไม่มีภูเขา ไม่มีบ้านคน เป็นเมืองที่พื้นที่ราบเสมอกันหมด ไม่มีสูง ไม่มีต่ำ แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็เห็นแต่ความโปร่งใสสว่าง และเย็นสบาย ความเย็นนั้น เย็นมากๆ แต่ไม่ใช่ว่าเย็นจนหนาว แต่เป็นเย็นสบายๆ

ทุกย่างก้าวที่ก้าวไป หลวงปู่บอกว่า มีแต่ความสุข นับเป็นสุขอย่างยิ่ง หลวงปู่เดินเที่ยวอยู่นาน จิตท่านคิดว่า เออ....เป็นเช่นนี้ อยู่เช่นนี้ก็ดีนะ ไม่มีทุกข์ มีแต่สุข ไม่ลำบาก มีแต่สบาย ใน ขณะกำลังเพลิดเพลินกับการชมสิ่งต่างๆอยู่นั้น จิตของหลวงปู่ ก็หวนคิดถึงคำพูดของโยมคนหนึ่ง ที่เคยพูด และเป็นคำสัญญา ซึ่งโยมคนนี้มีความสนิทกับหลวงปู่มาก โยมคนนี้กล่าวกับหลวงปู่ขึ้นว่า ท่านอาจารย์ ถ้าท่านปฏิบัติได้เหตุได้ผลอย่างไร ท่านอย่าเพิ่งด่วนหนีโยมไปผู้เดียวนะ ท่านต้องกลับมาเล่า มาบอกโยมก่อนนะ รับปากกับโยมซิ ......ได้โยมได้ ถ้าฉันปฏิบัติรู้เห็นอย่างไร ฉันจะยังไม่ไปไหน ฉันจะมาเล่าให้โยมฟังก่อน พอจิตของหลวงปู่คิดถึงคำสัญญาเช่นนั้น ปรากฏว่ารู้สึกตัวอีกที ก็มานั่งอยู่ในกายหยาบแล้ว เมื่อออกจากสมาธิ หลวงปู่ท่านคิดในใจว่า คำสัญญานี่สำคัญมาก ไปไหนไม่ได้ เพราะติดคำสัญญานี่เอง

หลวงปู่เล่า ให้ฟังถึงตรงนี้ ท่านหันหน้ามาหาผู้เขียนและบอกว่า นี่เธอ อย่าเที่ยวไปสัญญากับใครเขาง่ายๆนะ เดี๋ยวจะไปไหนไม่ได้อย่างเรา แต่ ผู้เขียนแย้งท่านว่า หลวงปู่ครับ เพราะคำสัญญานะครับ กระผมจึงมีวาสนาได้มารับใช้หลวงปู่ ถ้าหลวงปู่ไม่ติดคำสัญญา กระผมคงไม่มีวาสนา แม้แต่จะได้รู้จักหลวงปู่เป็นแน่ ฉะนั้น กระผมขอขอบคุณคำสัญญาขอรับหลวงปู่ครับ

หลวงปู่ท่านบอกว่า บนยอดภูเขาวงพระจันทร์นี้ ให้ท่านทุกอย่าง เจริญ พระธรรมกรรมฐาน ก็ทำจนได้จิตละเอียด ได้สัมผัสสิ่งต่างๆได้ บางอย่างก็บอกได้ เล่าได้ บางอย่างก็บอกไม่ได้ เล่าไม่ได้ ไม่เหมาะสมที่จะเล่า

สรุปแล้ว หลวงปู่ท่านสำเร็จคุณวิเศษ ณ บนยอดภูเขาวงพระจันทร์นี่เอง......

ขอบคุณข้อมูลของคุณเตวิชโชและเวบพุทธะ-ธรรมะ
โดย: oustayutt    เวลา: 2014-6-25 16:31
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ[attach]7980[/attach]
โดย: sriyan3    เวลา: 2014-6-26 08:28
ขอบคุณคร้าบ
โดย: kit007    เวลา: 2014-6-27 08:53
ขอบคุณครับ
โดย: รามเทพ    เวลา: 2014-7-4 23:35
ทรายเสกถ้าทำเป็น สำคัญนะ ไม่ควรมองข้าม
บอกใบ้ ให้นิด ทรายในกระถางธูปในพิธีไหว้ครู
ดีจริงๆ หลวงปู่ชื่นท่านลงมาทำให้ ใครไม่มีให้รีบไปขอ
โดย: bigbird    เวลา: 2014-7-5 01:21
อยากทราบว่าแบ่งเอาไปโรยที่ดินที่อยากจะขายได้มั้ยก๊าบ
โดย: wind    เวลา: 2014-7-5 02:07
รามเทพ ตอบกลับเมื่อ 2014-7-4 23:35
ทรายเสกถ้าทำเป็น สำคัญนะ ไม่ควรมองข้าม
บอกใบ้ ให้นิด ...

หมดยังครับ
โดย: oustayutt    เวลา: 2014-7-5 22:00
เสียดายไม่ได้เก็บ สงสัยปีหน้าไหว้ครูทรายหมดกระถางแน่
โดย: รามเทพ    เวลา: 2014-7-8 08:29
wind ตอบกลับเมื่อ 2014-7-5 02:07
หมดยังครับ

เห็นยังมีคนเข้าไปเอาเรื่อยๆ คิดว่ายังไม่หมดนะ
โดย: Nujeab    เวลา: 2014-7-8 11:23
ได้มาละ 1 ถุง ต้องรีบไปขอเพิ่มซะแล้ว
โดย: Nujeab    เวลา: 2018-2-9 09:58

โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-1-28 08:03

โดย: Nujeab    เวลา: 2019-1-28 10:05

โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-1-29 12:09
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2019-1-28 10:05


โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-2-25 06:16
เรื่องราวทรายเสก หลวงพ่อโบ วัดโคกหิรัญ

ครั้งหนึ่งลูกศิษย์ ของท่านถูกรังแก ก็มาฟ้องหลวงพ่อ ท่านเมตตาก็ทำทรายเสกไปให้ บอกให้ไปโรยรอบบ้าน เสร็จแล้วก็รดน้ำมนต์ให้ไป ลูกศิษย์คนนี้ก็กลับไปก็เอาทรายไปโรย ไว้รอบบ้านตามที่ท่านบอก
ต่อมาไม่นาน ก็มีกลุ่มคนที่คอยข่มเหง จะทำร้ายเอาปืนมายิงถึงบ้านสรุปปืนระเบิดยิงไม่ออก คนร้ายก็ถอยกลับไป อยู่มาได้ไม่นานก็มาอีกที่นี้ตั้งใจจะมาทำร้ายถีงในตัวบ้าน เพราะไปยืนยิงนอกบ้านปืนยิงไม่ออก ก็เข้ามาจะทำร้ายถึงในตัวบ้าน
ตอนเข้ามานั้นเป็นตอนมืดดึกสงัด ก็รอบเข้ามาในตัวบ้าน แต่ผลปรากฏว่าตอนเช้า เจ้าของบ้านตื่นมาเจอ พวกเดิมที่มาทำร้ายนอนอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน โดยที่เจ้าของบ้านก็รู้ว่าพวกนี้มีเจตนาจะมาทำร้าย แต่ก็ถามไปว่า
” มานอนทำไมที่นี้ ” แต่สิ่งที่ได้ยินคำตอบกลับมาคือ ” หลงอยู่ในป่า หาทางออกไม่เจอ” เสร็จแล้วก็วิ่งกระเจิงหนีไปจากใต้ถุนบ้าน หลังจากนั้นพวกนี้ก็ไม่กลับอีกเลย

โดย: Nujeab    เวลา: 2019-2-26 09:30

โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-4-30 15:34
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2019-2-26 09:30


โดย: Nujeab    เวลา: 2019-5-3 10:00

โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-5-6 06:28
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2019-5-3 10:00

ทรายเสกมนต์พระกาฬ

ทรายเสก ในพิธีบรวงสรวงตะกรุดมนต์พระกาฬไชยศรี

ได้ไปหรือยัง ฮับ เจ๊หนู  
โดย: Nujeab    เวลา: 2019-5-7 09:30
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2019-5-6 06:28
ทรายเสกมนต์พระกาฬ

ทรายเสก ในพิธีบรวงสรวงตะกรุดมนต ...

ยังไม่ได้เลยครับกัปตัน ยังพอมีเหลือแบ่งมั๊ยครับ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-5-8 05:43
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2019-5-7 09:30
ยังไม่ได้เลยครับกัปตัน ยังพอมีเหลือแบ่งมั๊ยครับ


โดย: Nujeab    เวลา: 2019-5-8 10:15
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2019-5-8 05:43


โดย: kit007    เวลา: 2019-5-9 10:44

โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-5-22 11:41

โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-8-13 07:36
ทรายเสก น้ำมนต์
ที่มา : เรื่องเล่าขานตำนานทัองถิ่น
เรื่องราวทรายเสก หลวงพ่อโบ วัดโคกหิรัญ ...
(อาจารย์ของหลวงพ่อโก๊ะ วัดเก้าห้อง)




ครั้งหนึ่งลูกศิษย์ ของท่านถูกรังแก ก็มาฟ้องหลวงพ่อ ท่านเมตตาก็ทำทรายเสกไปให้ บอกให้ไปโรยรอบบ้าน เสร็จแล้วก็รดน้ำมนต์ให้ไป ลูกศิษย์คนนี้ก็กลับไปก็เอาทรายไปโรย ไว้รอบบ้านตามที่ท่านบอก
ต่อมาไม่นาน ก็มีกลุ่มคนที่คอยข่มเหง จะทำร้ายเอาปืนมายิงถึงบ้านสรุปปืนระเบิดยิงไม่ออก คนร้ายก็ถอยกลับไป อยู่มาได้ไม่นานก็มาอีกที่นี้ตั้งใจจะมาทำร้ายถีงในตัวบ้าน เพราะไปยืนยิงนอกบ้านปืนยิงไม่ออก ก็เข้ามาจะทำร้ายถึงในตัวบ้าน
ตอนเข้ามานั้นเป็นตอนมืดดึกสงัด ก็รอบเข้ามาในตัวบ้าน แต่ผลปรากฏว่าตอนเช้า เจ้าของบ้านตื่นมาเจอ พวกเดิมที่มาทำร้ายนอนอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน โดยที่เจ้าของบ้านก็รู้ว่าพวกนี้มีเจตนาจะมาทำร้าย แต่ก็ถามไปว่า
” มานอนทำไมที่นี้ ” แต่สิ่งที่ได้ยินคำตอบกลับมาคือ ” หลงอยู่ในป่า หาทางออกไม่เจอ” เสร็จแล้วก็วิ่งกระเจิงหนีไปจากใต้ถุนบ้าน หลังจากนั้นพวกนี้ก็ไม่กลับอีกเลย
อีกวิชาของท่าน คือ การทำผงแป้งผัดหน้า (เป็นผงที่ท่านใช้ทำพระ และใช้ผสมแป้งทาหน้า เวลาเข้าหาคน จะเป็นเมตตาชั้นสูง) เป็นเมตตา มหานิยม ซึ่งท่านใช้ผงนี้ใส่ในพระผงของท่าน เชื่อกันว่า ใครได้ผงแป้ง หลวงพ่อโบ หรือ มีพระผงหลวงพ่อโบ จะมีเมตตา มหานิยม เป็นที่รักใคร่ เมตตา ของคนทั้งหลาย
มีลูกศิษย์ของท่าน ทั้งเจ้าชู้ เป็นหลานแท้ๆของหลวงพ่อโบ วัดโคกหิรัญ หลวงพ่อโบให้คาถาขุนแผนชมตลาด ที่ไว้เสกแป้งผัดหน้าหนะ ตอนเรียนได้สาวหน้าแฉล้มๆเปลี่ยนหน้าทุกวัน ได้งานเข้าเป็นช่างที่การบินไทย ๔-๕ปีต่อมารวย ไม่แน่ใจว่าจากงาน หรือ แม่ยกสาวๆรวยๆก็ไม่รู้
มนต์จินดามณี
ศาสตร์วิชามนต์จินดามณี เป็นวิชาที่หลวงพ่อโบ ท่านจะใช้สำหรับทำน้ำมนต์ ของท่าน (ส่วนผงแป้งผัดหน้า ท่านจะใช้ปลุกเสกด้วยมนต์ ขุนแผนชมตลาด)
วิชาจินดามณี หลายท่านคงเคยได้ยินคุ้นหูสมัยเด็ก ในหนังสือ วรรณคดีเรื่องเงาะป่า เป็นวิชาที่เอามาจากเรื่องจริง ที่ครูบาอาจารย์ สืบทอดวิชากันมา เป็นวิชา ทางมหาลาภ เรียกคน เรียกเงิน เรียกทอง ทรัพย์สิน
หรือที่คนโบราณ เรียกกันว่า "...วิชาต่อลำไส้..." มีกินมีใช้ไม่มีหมด ไม่อดตาย ซึ่งส่วนใหญ่ในสมัยก่อน จะสืบทอดกันในสายฆราวาส เป็นส่วนใหญ่ ถูกจริตกับฆราวาส เพราะเกี่ยวกับ เรียกเงิน เรียกทอง เรียกคน เรียกของ เป็นวิชาให้คุณทางด้าน โภคทรัพย์
ลูกศิษย์ของโบ จะเป็นพวกธุรกิจ ค้าขาย เจ้าสัว นายห้าง เถ้าแก่โรงสี พ่อค้าแม่ขาย ซะเยอะ น้ำมนต์จินดามณีของท่าน ทำให้พ่อค้า แม่ค้าธรรมดาๆ รวยเป็นเศรษฐี เป็นเจ้าสัว มานัก ต่อนักแล้ว
ชาวบ้านแถววัดสมัยก่อน หรือชาวเรือ ที่ใช้ น่านน้ำเจ้าพระยา ผ่านแถววัดโคกหิรัญ ในการสัญจร ไปมา (สมัยก่อนนิยมใช้เรือเดินทาง) เวลาใครจะล่องเรือผ่านหน้าวัด จะต้องหันหน้าไปทางกุฏิหลวงพ่อโบ พนมมือยกมือไหว้
พร้อมวักน้ำหน้าวัด มารดหัวเรือ ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวบ้านแถบนั้น ในสมัยก่อน ชาวบ้านจะนับถือท่านมาก
ช่วงก่อนที่ท่านจะมรณะภาพ ชาวบ้านต่างพากันไปนิมนต์ท่าน ให้มาทำน้ำมนต์ กันทุกบ้าน บางบ้านขอให้ท่านทำน้ำมนต์เก็บไว้เป็นโอ่งๆ เพราะชาวบ้านต่างนับถือในคุณวิเศษน้ำมนต์ของท่านมาก .....
กลัวว่าวันหนึ่งหากท่านไม่อยู่ จะไม่มีน้ำมนต์ของท่านไว้ใช้ บางบ้านทุกวันนี้ก็ยังเหลือน้ำมนต์ของท่านอยู่ก็มี เพราะขอให้ท่านทำให้หลายโอ่งมาก เก็บไว้เป็นตุ่มๆ เลย เก็บไว้กันอย่างดี
จนชาวอยุธยา ตั้งสมญาให้ว่า ” เจ้าตำรับน้ำมนต์เดือด เมืองกรุงเก่า ”
#หลวงพ่อโบ #เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อโก๊ะ วัดเก้าห้อง







ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2