Baan Jompra
ชื่อกระทู้: อย่าเพิ่งคิดละกิเลสเลย [สั่งพิมพ์]
โดย: รามเทพ เวลา: 2013-5-5 13:56
ชื่อกระทู้: อย่าเพิ่งคิดละกิเลสเลย
เราทุกคนต่างมีความทุกข์ แต่แค่กับสิ่งที่ต่างกัน
เราควรทำอย่างไรถ้าอยากจะละความอยาก และหันมารู้จักคำว่า พอ
ผู้ที่จะละโลภะ (ความอยาก) ได้เป็นสมุจเฉท ผู้นั้นต้องเป็นพระอรหันต์
การจะเป็นพระอรหันต์ได้ ต้องอบรมเจริญปัญญา ปัญญาเท่านั้นที่จะละโลภะได้
ถ้าเพียงความอยากละ หรือรู้จักพอ ไม่สามารถละกิเลสได้ มีหนทางเดียว คือ ต้อง
อบรมเจริญปัญญา จนอรหัตตมรรคญาณเกิดขึ้น จึงละโลภะได้
อย่าเพิ่งคิดละกิเลสเลย ยังห่างไกลอยู่มาก ขอเพียงแค่ รู้ตัวว่า การกระทำ แต่ละ
ครั้ง ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นเหรือไม่ ไม่ไปสร้างทุกข์เขา ทุกข์เรา ก็เพียง
พอแล้ว แต่ยุคสมัยนี้ต้องบอกว่าหนาแน่นด้วยกิเลสจริงๆ ฟังพระธรรม คงเป็นหน
ทางที่ดี ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจ และ ละในสิ่งที่ไม่ดี
โดย: รามเทพ เวลา: 2013-5-5 13:57
การละความอยาก และการรู้จักพอ เวลามีความอยากเกิดขึ้น ให้พิจารณาถึงคุณ
และโทษของสิ่งนั้น การได้เห็นโทษจะทำให้ลดความอยากลงได้
กิเลส เป็นเรื่องยากที่จะละ เพียงแค่ละการเห็นผิด ก็ยากเหลือเกินแล้ว ค่อยๆ ฟังธรรม
และ พิจารณาไตร่ตรองด้วยความอดทน คงเป็นหนทางที่ดีที่สุด ทวารทั้ง 6 เป็นต้น
เหตุของเรื่องราวอย่างมากมาย และ ทุกข์ สุข ก็มาจาก ทวารทั้ง 6 นี่แหละ
พระอรหันต์ท่านก็มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แต่ท่านไม่สุข ไม่ทุกข์ เพราะท่านไม่มี
กิเลส เมื่อยังมีกิเลสก็ย่อมกระทำกรรม เมื่อกระทำกรรมก็ย่อมรับผลของกรรม ทั้งใน
ปฏิสนธิกาลและในปวัตติกาลทางทวารต่างๆ ความสุขและความทุกข์จึงมาจากความ
เห็นผิด ความติดข้องและความไม่รู้ในสิ่งที่กำลังปรากฎ
โดย: รามเทพ เวลา: 2013-5-5 14:01
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รามเทพ เมื่อ 2013-5-5 14:04
ต้องการละ "ความอยาก" และมีความรู้จัก "พอ" ก็คือ ต้องการหมดกิเลส นั่นเอง
ซึ่งเป็นคุณธรรมของพระอรหันต์ พระอริยบุคคล (ผู้ละกิเลสได้เป็นลำดับ อย่างเป็น
สมุทเฉท) มี ๔ ขั้น คือ...
พระโสดาบัน
พระสกทาคามี
พระอนาคามี
และพระอรหันต์ซึ่งดับ
อนุสัยกิเลสได้ทั้งหมด (๗ชนิด)
ขั้นแรก คือพระโสดาบัน ซึ่งละได้ ๓ ชนิด คือ
สักกายทิฏฐิ(ความเห็นผิดว่ามีตัวตน) วิจิกิจฉาและสีลัพพตปรามาส ดังนั้นเราคือ
ปุถุชน (ผู้มีกิเลสหนา) จะบรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคลขั้นแรกได้ ต้องละกิเลส ๓
ประการดังกล่าวได้ก่อนที่สำคัญอันดับแรก คือ การเข้าใจถูกว่า ไม่มีเรา ซึ่งจะมีได้
ต้องอาศัย "การฟัง"จึงยังไม่ต้องไปห่วงไปกังวลถึง "ความอยาก" ที่เกิดขึ้น ตราบใดที่
ยังมีความเห็นผิดเข้าใจผิดว่า มีตัวตน มีสัตว์บุคคล มีเรามีเขาอยู่ ก็ย่อมมีเหตุปัจจัยให้
ความอยาก เกิดขึ้นได้อยู่ แม้พระโสดาบันก็ยังละไม่ได้ แต่เบาบางลงจนไม่เกิดการทำ
ให้เกิดอกุศลกรรมที่นำไปสู่อบายภูมิ (นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัถฉาน) จึงควรศึกษา
ธรรมะให้เข้าใจก่อนว่า ทุกอย่างเป็นเพียงสภาพธรรมแม้ ความอยากที่เกิดขึ้นก็เพราะ
เหตุปัจจัย และความอยากนั้นก็ไม่ใช่เราที่อยากนั่นเองและความพอก็เป็นสภาพธรรม
ไม่ใช่ เราที่พอ เช่นกัน
"การละความอยาก" ..... เราจะไม่อยากก็เพราะเห็นทุกข์,เห็นโทษ,เห็นภัย .....
เห็นความไม่มีสาระแก่นสารในสิ่งที่อยาก .... แต่การเห็นเหล่านี้เห็นได้นั้นยาก เพราะ
เรามี...อวิชชา.... คือ ความไม่รู้ตามสภาวธรรมตามความเป็นจริง .....การจะละอวิชชา
ได้ก็ต้องอบรมเจริญปัญญาเพื่อให้เกิดวิปัสสนาปัญญา เห็นธรรมทั้งหลายตามสภาว
ธรรมที่เป็นจริง ก็จะละคลายความยึดมั่นถือมั่น ตัวตน เรา เขา หญิง ชาย จะเห็น
เป็นเพียงเรื่องของเหตุ และปัจจัยที่ประกอบกัน หรือเห็นเป็นเพียงแค่การกระทบกัน
ของธาตุ ไม่เข้าไปปรุงแต่งว่า เป็นตัวตน เรา เขา งาม หรือไม่งาม เป็นต้น
ความอยาก( ตัณหา ) เป็นอกุศล ก็ต้องขัดเกลาด้วยกุศล ได้แก่ ทาน, ศีล,
และภาวนา (สมถ และวิปัสสนา) ควรเจริญกุศลทุกๆอย่างเพราะกุศลแต่ละอย่างก็
เป็นอุบายในการขัดเกลากิเลส แต่ละชนิดตามความหยาบ และละเอียดของกิเลส
แต่ละอย่าง ๆ
โดย: รามเทพ เวลา: 2013-5-5 14:02
การละกิเลสต้องเป็นไปตามลำดับขั้นนะครับ ขั้นแรกยังไม่ได้ให้ละโลภะ โทสะ
โมหะ เพราะปุถุชนเป็นผู้หนาแน่นด้วยกิเลส ท่านแสดงไว้ว่า ขั้นแรกให้ละความ
เห็นผิดก่อนคือ ละความเห็นผิดว่าเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด แม้เรื่อง
การละความเป็นผิดก็เป็นเรื่องยาก การศึกษาและปัญญาต้องเป็นไปตามลำดับขั้น
นะครับ เป็นไปไม่ได้ที่จะข้ามขั้น
โดย: อัปสรา เวลา: 2013-5-5 16:17
ขอบคุณค่ะ (-/\-)
โดย: bigbird เวลา: 2013-5-5 19:19
กิเลสยังหนาแน่นก๊าบ แถมออกแนวๆกระเสือกกระสนหาลู่ทาง
สนองกิเลสของตัวเองอีกตะหาก คำว่าพอยังปิดไม่ได้ก๊าบ
โดย: Metha เวลา: 2013-5-6 07:50
ยังอยากได้ อยากมี และอยากเป็น
โดย: oustayutt เวลา: 2013-5-6 08:31
ขอบคุณครับ
โดย: sriyan3 เวลา: 2013-5-9 16:02
ขอบคุณครับ
โดย: TATIE เวลา: 2013-5-9 16:26
ไม่ละกิเลสครับ ขอยังกิเลสให้ถึงที่สุดก่อน
โดย: sritoy เวลา: 2013-5-9 17:05
เรื่องปกติของมนุษย์
โดย: รามเทพ เวลา: 2013-5-15 10:27
มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์
แต่ถ้ามากไปมันเป็นกิเลส
และอาจจะไปสร้างความเดือนร้อนให้คนอื่น
โดย: Nujeab เวลา: 2013-5-15 11:25
พอดีๆไว้ก่อน เพราะเรามันคนธรรมดา
โดย: ยักษา เวลา: 2013-5-15 13:51
ขอเป็นแค่คนธรรมดา ที่รู้จักควบคุมตัวเองในบางเวลาครับ _/\_
โดย: อัปสรา เวลา: 2013-5-16 20:05
ยังอยากเป็นคนธรรมดาอยู่ค่ะ
สนใจพระธรรม แต่ไม่ใช่เพราะอยากบรรลุหรือนิพพานอะไร
แค่อยากใช้ชีวิตอย่างเข้าใจ รู้เท่าทันอารมณ์ตนเอง และไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครก็พอค่ะ :)
โดย: ยักษา เวลา: 2013-5-16 21:16
อัปสรา ตอบกลับเมื่อ 2013-5-16 20:05
ยังอยากเป็นคนธรรมดาอยู่ค่ะ
สนใจพระธรรม แต่ไม่ใช่เพ ...
โดย: อัปสรา เวลา: 2013-5-16 21:51
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย อัปสรา เมื่อ 2013-5-16 21:54
ยักษา ตอบกลับเมื่อ 2013-5-16 21:16
อ้าว เพิ่งเห็นว่าพี่ยักษ์ก็ตอบด้วย
แต่เค้าอ่านแค่หน้าแรกแล้วก็ตอบเลย ไม่ได้ก๊อปคำตอบนะ อิอิ
โดย: Metha เวลา: 2013-12-14 11:30
แบบนี้คงต้องยั่งกิเลสให้ถึงที่สุด
โดย: lnw เวลา: 2013-12-18 21:48
รามเทพ ตอบกลับเมื่อ 2013-5-15 10:27
มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์
แต่ถ้ามากไปมันเป็นกิเลส
แล ...
ชอบๆๆ
โดย: Nujeab เวลา: 2013-12-19 09:27
ขอบคุณครับ
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-12-19 10:23
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-12-14 11:30
แบบนี้คงต้องยั่งกิเลสให้ถึงที่สุด
...
ได้ยั่ง บ้างแล้วหรือยังครับ
โดย: Metha เวลา: 2013-12-19 14:54
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-12-19 10:23
ได้ยั่ง บ้างแล้วหรือยังครับ
ไม่มีผู้นำทางเลยไม่กล้า
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-12-19 16:07
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-12-19 14:54
ไม่มีผู้นำทางเลยไม่กล้า
ถ้าพาไปชี้เป้า แล้วเสี่ยเมธ จะกล้าหรอ
โดย: Metha เวลา: 2013-12-19 16:16
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-12-19 16:07
ถ้าพาไปชี้เป้า แล้วเสี่ยเมธ จะกล้าหรอ ...
[youtube]-KEeem3lRzA[/youtube]
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-12-19 18:11
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-12-19 16:16
โดย: Metha เวลา: 2013-12-19 18:19
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-12-19 18:11
โดย: Nujeab เวลา: 2013-12-19 18:32
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-12-19 18:19
พี่เมธมีลายแทงหรือยังครับ
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-12-19 18:36
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-12-19 18:32
พี่เมธมีลายแทงหรือยังครับ
จะมีลาย หรือ ไม่มีลาย พี่เมธก็ไม่กล้า แทงครับ
โดย: Metha เวลา: 2013-12-19 18:44
[youtube]BaIifYKhMuM[/youtube]
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-12-19 19:00
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-12-19 14:54
ไม่มีผู้นำทางเลยไม่กล้า
ละออทม
[youtube]vrFvmZJv1X4[/youtube]
โดย: Metha เวลา: 2013-12-19 19:05
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-12-19 19:00
ละออทม
ปะแล้ววว
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-12-19 19:57
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-12-19 19:58
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-12-19 19:05
ปะแล้ววว
อย่างนี้ มันต้องเป่ากระหม่อน
[youtube]GD-O8DEDBPw[/youtube]
โดย: Nujeab เวลา: 2013-12-19 22:42
ทมๆ ชอบๆ
โดย: Metha เวลา: 2013-12-20 08:29
โดย: Nujeab เวลา: 2013-12-20 11:34
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-12-19 18:19
ส่งลายแทงมาให้พี่เมธครับ
http://baanjompra.com/webboard/f ... thread&tid=1979
โดย: Metha เวลา: 2013-12-20 18:21
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-12-20 11:34
ส่งลายแทงมาให้พี่เมธครับ
http://baanjompra.com/webboard/forum.php?mod=vie ...
ลายแทงมีแล้ว..ขาดแต่คนนำทาง
โดย: รามเทพ เวลา: 2013-12-20 18:25
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-12-20 18:21
ลายแทงมีแล้ว..ขาดแต่คนนำทาง
แนะนำ พี่ต้อย เขต10 ครับ
โดย: Metha เวลา: 2013-12-20 18:27
โดย: Nujeab เวลา: 2013-12-23 09:20
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-12-20 18:21
ลายแทงมีแล้ว..ขาดแต่คนนำทาง
ถ้างั้นต้องให้ท่านผู้นำ คิม จ้อง อึ๊บ จัดให้แล้วล่ะ
โดย: Metha เวลา: 2013-12-23 10:01
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-12-23 09:20
ถ้างั้นต้องให้ท่านผู้นำ คิม จ้อง อึ๊บ จัดให้แล้วล่ะ ...
เยี่ยม
โดย: Sornpraram เวลา: 2014-3-16 10:02
เราทุกคนต่างมีความทุกข์ แต่แค่กับสิ่งที่ต่างกัน
เราควรทำอย่างไรถ้าอยากจะละความอยาก และหันมารู้จักคำว่า พอ
ผู้ที่จะละโลภะ (ความอยาก) ได้เป็นสมุจเฉท ผู้นั้นต้องเป็นพระอรหันต์
การจะเป็นพระอรหันต์ได้ ต้องอบรมเจริญปัญญา ปัญญาเท่านั้นที่จะละโลภะได้
ถ้าเพียงความอยากละ หรือรู้จักพอ ไม่สามารถละกิเลสได้ มีหนทางเดียว คือ ต้อง
อบรมเจริญปัญญา จนอรหัตตมรรคญาณเกิดขึ้น จึงละโลภะได้
อย่าเพิ่งคิดละกิเลสเลย ยังห่างไกลอยู่มาก ขอเพียงแค่ รู้ตัวว่า การกระทำ แต่ละ
ครั้ง ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นเหรือไม่ ไม่ไปสร้างทุกข์เขา ทุกข์เรา ก็เพียง
พอแล้ว แต่ยุคสมัยนี้ต้องบอกว่าหนาแน่นด้วยกิเลสจริงๆ ฟังพระธรรม คงเป็นหน
ทางที่ดี ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจ และ ละในสิ่งที่ไม่ดี
โดย: bigbird เวลา: 2014-3-16 11:54
ถ้าคิดว่าจะเจอแต่ผู้หญิงแบบนี้ก้อพอเถ้อะ กิเลสเรื่องผู้หญิงทำไมมันเปนแบบนี้ทุกทีสิน่า
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) |
Powered by Discuz! X3.2 |