Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวราราม วรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา
[สั่งพิมพ์]
โดย:
kit007
เวลา:
2014-6-10 15:49
ชื่อกระทู้:
หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวราราม วรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา
หลวงพ่อโสธร หรือ “หลวงพ่อพุทธโสธร”
ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าพระประธานในพระอุโบสถ
วัดโสธรวราราม วรวิหาร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
ประวัติความเป็นมา
“หลวงพ่อพุทธโสธร”
หรือที่ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า
“หลวงพ่อโสธร” แห่งแม่น้ำบางปะกง ประดิษฐานอยู่หน้าพระประธานภายในพระอุโบสถ วัดโสธรวราราม วรวิหาร
ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
สำหรับประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อโสธรนั้น มีผู้เล่าสืบกันมาหลายกระแส บ้างว่า
ท่านมีพี่น้องที่ลอยน้ำมาพร้อมกัน ๓ องค์ คือ หลวงพ่อบ้านแหลม หลวงพ่อโตบางพลี และหลวงพ่อโสธร
ส่วนอีกตำนานหนึ่งบอกว่า
ท่านเป็นพี่น้องกับหลวงพ่อบ้านแหลมและหลวงพ่อวัดไร่ขิง
และก็ยังมีนิยายปรัมปราที่เล่าสืบมาว่า
ท่านลอยน้ำมาพร้อมกับหลวงพ่อบ้านแหลม และหลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา
อย่างไรก็ตาม
ตำนานที่เล่าขานกันมานี้ก็มีความคล้ายคลึงกันว่า พระพุทธรูป ๓ องค์พี่น้องลอยน้ำมาจากทางเมืองเหนือ จนกระทั่งมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยาตรงบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่า “สามเสน” จึงได้แสดงอภินิหารลอยให้ชาวเมืองเห็น ชาวบ้านจึงได้ทำการฉุดพระพุทธรูปทั้งสามองค์ โดยใช้เวลา ๓ วัน ๓ คืนก็ฉุดไม่ขึ้น กล่าวกันว่าครั้งนั้นใช้ผู้คนเป็นแสนๆ ก็ไม่สำเร็จ
ตำบลนั้นจึงได้ชื่อว่า
“สามแสน”
ต่อมาจึงเพี้ยนเป็น
“สามเสน”
พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ก็จมน้ำลง
จากนั้นก็ลอยล่องเข้าสู่คลองพระโขนงลัดเลาะไปสู่แม่น้ำบางปะกง และได้ลอยผ่านคลอง ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า คลองชักพระ พระพุทธรูปได้แสดงอภินิหารลอยขึ้นให้ชาวบ้านเห็น ชาวบ้านจึงพากันมาชักพระขึ้นจากน้ำ แต่ไม่สำเร็จ จึงเรียกคลองนี้ว่า
“คลองชักพระ”
แล้วทั้งสามองค์ก็ได้ลอยทวนน้ำขึ้นไปทางหัววัดอีก สถานที่นั้นจึงเรียกว่า “วัดสามพระทวน” และเรียกเพี้ยนเป็น “วัดสัมปทวน” ทั้งสามองค์ได้ลอยตามแม่น้ำบางปะกงเลยผ่านหน้าวัดโสธรไปถึงคุ้งน้ำใต้วัดโสธร และแสดงอภินิหารให้ชาวบ้านเห็นอีก ชาวบ้านได้ช่วยกันฉุดแต่ไม่ขึ้น จึงเรียกหมู่บ้านและคลองนั้นว่า
“บางพระ”
มาจนทุกวันนี้ พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ได้ลอยทวนน้ำวนอยู่ที่หัวเลี้ยวตรงกับกองพันทหารช่างที่ ๒ ณ สถานที่ลอยวนอยู่นั้นเรียกว่า
“แหลมหัววน”
โดย:
kit007
เวลา:
2014-6-10 15:50
หลวงพ่อโสธร (องค์จำลอง) ปิดทองที่องค์พระได้
อัญเชิญหลวงพ่อโสธรขึ้นจากน้ำ
หลังจากนั้นพระพุทธรูปองค์หนึ่ง คือ
หลวงพ่อโสธร
ได้แสดงอภินิหารลอยมาขึ้นที่หน้าวัดโสธรวราราม ซึ่งแต่เดิมเรียกว่า
วัดหงษ์
ชาวบ้านช่วยกันยกและฉุดองค์พระพุทธรูปขึ้นจากน้ำ แต่ไม่สามารถนำขึ้นได้ จนกระทั่งมีอาจารย์ผู้หนึ่งรู้วิธีอัญเชิญ โดยตั้งพิธีบวงสรวงใช้สายสิญจน์คล้องกับพระหัตถ์ จนสามารถอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานในพระวิหารได้สำเร็จ ในราวปีพุทธศักราช ๒๓๑๓
ในการนี้จึงจัดให้มีการสมโภชฉลององค์หลวงพ่อ หลังจากท่านได้ประทับที่วัดหงส์เรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านยังไม่รู้ว่าจะขนานนามชื่อของหลวงพ่อว่าอย่างไร แต่เข้าใจว่าท่านคงต้องการชื่อเดิมของท่าน คือ “พระศรี” เพราะเป็นชื่อดั้งเดิมขณะประทับที่วัดศรีเมือง ทางภาคเหนือ ประกอบกับมีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้ชาวบ้านเข้าใจว่าหลวงพ่อมีความประสงค์จะใช้นามว่า “หลวงพ่อพุทธศรีโสธร” เพราะได้เกิดพายุพัดเอาหงษ์ที่ตั้งอยู่บนยอดเสาหักลงมา ชาวบ้านจึงเปลี่ยนหงษ์เป็นเสาธง แล้วเรียกชื่อ
วัดหงษ์
เป็น
วัดเสาธง
ต่อมาไม่นานก็เกิดพายุพัดเสาธงหักทอนลงอีก ชาวบ้านจึงเรียก
วัดเสาธง
ว่า “วัดเสาธงทอน” ภายหลังเห็นว่าไม่ไพเราะ จึงได้พร้อมใจกันเปลี่ยนชื่อวัดเป็น
“วัดโสธร”
และเรียกนามหลวงพ่อว่า “หลวงพ่อโสธร” ต่อมาวัดโสธรได้รับการเสนอแต่งตั้งให้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า
“วัดโสธรวรารามวรวิหาร”
และขนานนามหลวงพ่ออย่างเป็นทางการว่า
“หลวงพ่อพุทธโสธร”
โดย:
kit007
เวลา:
2014-6-10 15:51
ความศักดิ์สิทธิ์
ความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อโสธร เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนมากมายที่มีจิตศรัทธา และเชื่อมั่นในบุญกุศลที่หลั่งไหลมากราบไหว้สักการบูชา และขอพรบารมีจากหลวงพ่อ จนเป็นที่กล่าวขานบอกเล่าต่อๆ กันมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางค้าขาย ทางคงกระพัน ทางแคล้วคลาด ทางรักษาโรค โดยใช้ขี้ธูป ดอกไม้บูชาที่แห้งเหี่ยวแล้ว และอธิษฐานหยดเทียน ขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อมาทำยา
ดังมีเรื่องเล่าว่า สมัยหนึ่งชาวบ้านโสธรเกิดทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง ฝนก็แล้ง จนเกิดโรคระบาด ทั้งคนและสัตว์ล้มตายไปมาก มีครอบครัวหนึ่งป่วยเป็นไข้ทรพิษ เมื่อหมดทางรักษาก็ไปนมัสการอธิษฐานขอความคุ้มครองจากหลวงพ่อ และนำเอาขี้ธูปและดอกไม้แห้งที่บูชาหลวงพ่อ และหยดน้ำตาเทียนที่ขอน้ำมนต์ แล้วเอามาต้มกิน ปรากฏว่าโรคหาย กิตติศัพท์หลวงพ่อจึงได้โด่งดังไปทั่ว ถึงกับมีการสมโภชและแก้บนกันตราบทุกวันนี้
แม้กระทั่งชาวต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศฮ่องกง, ไต้หวัน, มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นต้น ก็มากราบไหว้บูชาบนบานไม่ขาดสาย และบางรายมาแก้บนเช่นเดียวกับคนไทยอีกด้วย การแก้บนหลวงพ่อโสธรที่นิยมกัน คือ ละครชาตรี ไข่ต้ม ผลไม้ และพวงมาลัย
เรื่องที่ห้ามบนบาน
มีเรื่องเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่สืบมาว่า เรื่องที่ห้ามบนบานกับหลวงพ่อโสธร คือ เรื่องขอไม่ให้เป็นทหาร กับเรื่องขอบุตร ทั้งนี้เพราะหลวงพ่อท่านชอบให้คนเป็นทหารเพื่อจะได้ปกปักรักษาบ้านเมือง และคนที่เป็นทหารก็เป็นเสมือนลูกหลานของท่าน ดังนั้นใครที่มาขอไม่ให้โดนเกณฑ์ทหาร เป็นต้องถูกเกณฑ์ทุกราย ! และคนที่มาขอบุตร ก็มักจะได้บุตรที่มีอาการไม่ครบ ๓๒ เนื่องจากว่าท่านได้ส่งลูกหลานซึ่งเป็นทหารที่บาดเจ็บล้มตายมาให้นั่นเอง ! เรื่องนี้เท็จจริงประการใดคงต้องพิจารณากันเอาเอง
โดย:
kit007
เวลา:
2014-6-10 15:52
งานนมัสการหลวงพ่อโสธร
ในแต่ละวันจะมีผู้คนหลั่งไหลไปนมัสการกันอย่างเนืองแน่น โดยเฉพาะในงานนมัสการประจำปีหลวงพ่อโสธร ซึ่งมีปีละ ๓ ครั้ง คือ ครั้งแรก ในกลางเดือนห้า ซึ่งถือเป็นงานวันเกิดหลวงพ่อโสธร มีงานฉลอง ๓ วัน ๓ คืน ครั้งที่สอง ในงานกลางเดือน ๑๒ มีงาน ๕ วัน ๕ คืน และครั้งที่สาม ในเทศกาลตรุษจีน มีงาน ๕ วัน ๕ คืน
โดย:
kit007
เวลา:
2014-6-10 15:52
“หลวงพ่อโสธร”
ประดิษฐานอยู่หน้าพระประธานภายในพระอุโบสถ
วัดโสธรวราราม วรวิหาร
ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
พระอุโบสถ วัดโสธรวราราม วรวิหาร
คัดลอกเนื้อหาบางตอนมาจาก...
หนังสือพุทธปัญจภาคีวารีปาฏิหาริย์
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19593
ขอขอบพระคุณที่มาของรูปภาพ
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=91015.0
http://panawat2008.multiply.com/photos/album/76/76
.........................................................................
ที่มา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=38565
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2