Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
หลวงพ่อมาลัย อุทโย วัดบางหญ้าแพรก
[สั่งพิมพ์]
โดย:
Metha
เวลา:
2014-6-3 18:12
ชื่อกระทู้:
หลวงพ่อมาลัย อุทโย วัดบางหญ้าแพรก
ประวัติ หลวงพ่อมาลัย
อุทโย
วัดบางหญ้าแพรก
จังหวัดสมุทรสาคร
โดย:
Metha
เวลา:
2014-6-3 18:13
"
หลวงพ่อมาลัย อุทโย
" หรือ "
พระครูอุทัยธรรมสาคร
" พระเกจิชื่อดังแห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน เป็นเจ้าคณะตำบลท่าฉลอม และเจ้าอาวาส
วัดบางหญ้าแพรก
ปัจจุบัน สิริอายุ 73 ปี พรรษา 47 เป็นเจ้าคณะตำบลท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
มีนามเดิมว่า มาลัย แตงอ่อน เกิดวันอาทิตย์ที่ 8 ก.ย.2483 ณ บ้านเลขที่ 63 หมู่ 8 ต.แสมดำ อ.บางขุนเทียน กรุงเทพฯ มีพี่น้องร่วมกัน 6 คน
ในช่วงวัยเยาว์ท่านมีความผูกพันกับพระพุทธศาสนา ด้วยมีจิตใจเอนเอียงเข้าวัดฟังธรรม ทำให้ได้รับการปลูกฝังให้ใกล้ชิดกับพระศาสนาไปในตัว
ครั้นเมื่ออายุ 21 ปี ได้เข้ารับราชการทหาร ได้รับตำแหน่งนายสิบกองประจำการ
ต่อมาเข้ารับพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2509 เวลา 13.00 น. ณ พัทธสีมาวัดบางกระดี่ บางขุนเทียน กรุงเทพฯ มีพระเทพญาณมุนี วัดราชโอรสาราม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์สง่า การวิโก วัดบางกระดี่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูสงวน อาสโภ วัดกำพร้า เป็นพระอนุสาวนาจารย์
เป็นพระที่มีความมุมานะ อุตสาหะ ฝักใฝ่เรียนรู้ พรรษาแรกก็สามารถสวดบทสวดพระปาฏิโมกข์เป็นแบบภาษารามัญได้อย่างชัดเจน
กล่าวกันว่าในสมัยนั้นที่วัดบางหญ้าแพรก มีพระจำพรรษาอยู่ไม่มากนัก พื้นที่ของวัดรกร้างเต็มไปด้วยป่าโกงกาง ต่อมาเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2517 ตรงกับข้างขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ปีขาล พระเทพสาครมุนี (หลวงปู่แก้ว) วัดสุทธิวาตวราราม (ช่องลม) มอบหมายให้เป็นเจ้าอาวาส
จากนั้นจึงเริ่มบูรณปฏิสังขรณ์วัดบางหญ้าแพรก มาโดยตลอด สมกับที่ชาวบ้านกล่าวขวัญยกย่องให้ท่านเป็นพระนักพัฒนาจนเป็นที่เลื่องลือ
โดย:
Metha
เวลา:
2014-6-3 18:14
ปีพ.ศ.2523 หลวงพ่อมาลัยเดินทางไปงานมุทิตาสักการะหลวงพ่ออุตตมะที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
ครั้นเมื่อไปถึง
หลวงพ่อมาลัย
ได้พบสิ่งแปลกประหลาดคือ มีกอไผ่ที่ไฟไม่ไหม้ มีอยู่เพียง 1 กอเท่านั้น ที่บริเวณวัดของหลวงพ่ออุตตมะ ส่วนกอไผ่กออื่นๆ ล้วนโดนไฟไหม้หมด
สิ่งนี้เองทำให้หลวงพ่อเกิดประหลาดใจ จึงได้ขอไผ่กอนั้นจากหลวงพ่ออุตตมะ และได้นำไผ่กอนั้นกลับมาที่วัดบางหญ้าแพรกเพื่อที่จะเอาเนื้อของไผ่ชนิดนี้มาบรรจุผสมเข้าเพื่อจัดสร้างวัตถุมงคลอันประกอบไปด้วยไผ่มงคลทั้ง 9 ชนิด ซึ่งเป็นที่มาของ "สมเด็จไผ่" ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและมีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี
ส่วน
ตะกรุด
ตี๋ใหญ่เป็น
เครื่องรางของขลัง
ที่ได้รับกล่าวขวัญมากเช่นกัน มีที่มาคือ ในยุคที่จอมโจรชื่อดังตี๋ใหญ่เดินทางมาที่ท่าฉลอมเข้ามาขอพึ่งใบบุญจากหลวงพ่อมาลัย
สมัยนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะพูดว่า ตี๋ใหญ่เป็นผี ไม่ใช่คนธรรมดา เพราะสามารถหายตัวล่องหนได้ แต่ความจริงตี๋ใหญ่มีวิชาคาถามหากำบัง
หลังจากนั้นประมาณ 3 ครั้ง ตี๋ใหญ่เข้ามาขอ
เครื่องรางของขลัง
จากหลวงพ่อมาลัย และฝากตัวเป็นศิษย์ อีกทั้งยังได้รับปากกับหลวงพ่อว่าจะกลับตัวเป็นคนดี หลวงพ่อจึงได้มอบตะกรุดผงว่านใบลาน ซึ่งเป็นตะกรุดซึ่งคลึงจากมือของหลวงพ่อมาลัย
ทำให้ตี๋ใหญ่รอดพ้นแคล้วคลาดจากการถูกจับกุมอย่างเหลือเชื่อ จนเป็นที่มาของตะกรุดที่ชาวบ้านขนานนามว่า "ตะกรุดตี๋ใหญ่"
ชาวจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดใกล้เคียงต่างเชื่อกันว่า หากให้หลวงพ่อมาลัยได้ประพรมน้ำมนต์และเป่ายันต์เกราะเพชรแล้วจะทำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆ
หลวงพ่อมาลัย
มักจะปลุกเสกเดี่ยวเนื่องจากท่านได้ร่ำเรียนวิชาต่างๆ มาจากครูบาอาจารย์หลายท่านด้วยกัน อาทิ หลวงปู่แก้ว หลวงพ่อสุด และอาจารย์ศิลป์ วัดบางกระดี่
นำวิชาความรู้ด้านวิทยาคมเป็นกุศโลบายสำคัญในการอบรมประชาชนทั่วไปได้ยึดหลักธรรมน้อมนำจิตใจ เข้าถึงธรรมะได้อย่างง่ายดาย
โดย:
Metha
เวลา:
2014-6-3 18:16
ปีพ.ศ.2523 หลวงพ่อมาลัยเดินทางไปงานมุทิตาสักการะหลวงพ่ออุตตมะที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
ครั้นเมื่อไปถึง
หลวงพ่อมาลัย
ได้พบสิ่งแปลกประหลาดคือ มีกอไผ่ที่ไฟไม่ไหม้ มีอยู่เพียง 1 กอเท่านั้น ที่บริเวณวัดของหลวงพ่ออุตตมะ ส่วนกอไผ่กออื่นๆ ล้วนโดนไฟไหม้หมด
สิ่งนี้เองทำให้หลวงพ่อเกิดประหลาดใจ จึงได้ขอไผ่กอนั้นจากหลวงพ่ออุตตมะ และได้นำไผ่กอนั้นกลับมาที่วัดบางหญ้าแพรกเพื่อที่จะเอาเนื้อของไผ่ชนิดนี้มาบรรจุผสมเข้าเพื่อจัดสร้างวัตถุมงคลอันประกอบไปด้วยไผ่มงคลทั้ง 9 ชนิด ซึ่งเป็นที่มาของ "สมเด็จไผ่" ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและมีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี
ส่วน
ตะกรุด
ตี๋ใหญ่เป็น
เครื่องรางของขลัง
ที่ได้รับกล่าวขวัญมากเช่นกัน มีที่มาคือ ในยุคที่จอมโจรชื่อดังตี๋ใหญ่เดินทางมาที่ท่าฉลอมเข้ามาขอพึ่งใบบุญจากหลวงพ่อมาลัย
สมัยนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะพูดว่า ตี๋ใหญ่เป็นผี ไม่ใช่คนธรรมดา เพราะสามารถหายตัวล่องหนได้ แต่ความจริงตี๋ใหญ่มีวิชาคาถามหากำบัง
หลังจากนั้นประมาณ 3 ครั้ง ตี๋ใหญ่เข้ามาขอ
เครื่องรางของขลัง
จากหลวงพ่อมาลัย และฝากตัวเป็นศิษย์ อีกทั้งยังได้รับปากกับหลวงพ่อว่าจะกลับตัวเป็นคนดี หลวงพ่อจึงได้มอบตะกรุดผงว่านใบลาน ซึ่งเป็นตะกรุดซึ่งคลึงจากมือของหลวงพ่อมาลัย
ทำให้ตี๋ใหญ่รอดพ้นแคล้วคลาดจากการถูกจับกุมอย่างเหลือเชื่อ จนเป็นที่มาของตะกรุดที่ชาวบ้านขนานนามว่า "ตะกรุดตี๋ใหญ่"
ชาวจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดใกล้เคียงต่างเชื่อกันว่า หากให้หลวงพ่อมาลัยได้ประพรมน้ำมนต์และเป่ายันต์เกราะเพชรแล้วจะทำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆ
หลวงพ่อมาลัย
มักจะปลุกเสกเดี่ยวเนื่องจากท่านได้ร่ำเรียนวิชาต่างๆ มาจากครูบาอาจารย์หลายท่านด้วยกัน อาทิ หลวงปู่แก้ว หลวงพ่อสุด และอาจารย์ศิลป์ วัดบางกระดี่
นำวิชาความรู้ด้านวิทยาคมเป็นกุศโลบายสำคัญในการอบรมประชาชนทั่วไปได้ยึดหลักธรรมน้อมนำจิตใจ เข้าถึงธรรมะได้อย่างง่ายดาย
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2