Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
~ พระพรหมจริยาจารย์(สมุท รชตวณฺโณ) วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ~
[สั่งพิมพ์]
โดย:
kit007
เวลา:
2014-5-20 13:04
ชื่อกระทู้:
~ พระพรหมจริยาจารย์(สมุท รชตวณฺโณ) วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ~
[attach]7426[/attach]
ประวัติและปฏิปทา
พระพรหมจริยาจารย์
(สมุท รชตวณฺโณ)
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
๏ อัตโนประวัติ
พระพรหมจริยาจารย์ (สมุท รชตวณฺโณ)
มีนามเดิมว่า สมุท รัชฏาวรรณ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พุทธศักราช 2463 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 7 ปีวอก ณ บ้านเลขที่ 74 หมู่ที่ 4 ต.บางระกำ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายฟอง และนางแก้ว รัชฏาวรรณ
๏ การศึกษาเบื้องต้น
ในช่วงวัยเยาว์ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมบริบูรณ์ ณ โรงเรียนประชาบาลวัดโบสถ์ราษฎร์ศรัทธา ต.บางระกำ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
เมื่อสมัยเป็นเด็ก ได้เข้ามาอยู่วัดเบญจมบพิตรฯ เป็นศิษย์วัดเรียนบาลี ซึ่งเป็นศิษย์วัดรุ่น “ราชปะแตน” คือ นุ่งผ้าโจงกระเบน เสื้อราชปะแตนขาวอย่างชาววัง
โดย:
kit007
เวลา:
2014-5-20 13:05
๏ การบรรพชา
กระทั่งอายุได้ 16 ปี ได้เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ.2479 ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ปลด กิตฺติโสภโณ ป.ธ.9) ครั้งดำรงพระสมณศักดิ์ที่พระธรรมโกศาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์
สามเณรสมุท มีความมุ่งมั่นในการศึกษาพระปริยัติธรรมเป็นอย่างสูง พ.ศ.2479 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.2480 สอบได้นักธรรมชั้นโท และสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค
พ.ศ.2481 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค
พ.ศ.2482 สอบได้นักธรรมชั้นเอกและสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค จากสำนักเรียนวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ)
โดย:
kit007
เวลา:
2014-5-20 13:07
๏ การอุปสมบท
ต่อมาเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2483 ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม อุปสมบทในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ปลด กิตฺติโสภโณ ป.ธ.9) ครั้งดำรงพระสมณศักดิ์ที่พระพรหมมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมงคลวัตรกวี (คอน นนฺทิโย ป.ธ.3) ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระสรภาณกวี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระราชเวที (ดอกไม้ อุตฺตรภทฺโท ป.ธ.6) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า
“รชตวณฺโณ”
พ.ศ.2485 สอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค ณ สำนักเรียนคณะจังหวัดเชียงใหม่
พ.ศ.2490 สอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยค ณ สำนักเรียนคณะจังหวัดเชียงใหม่
โดย:
kit007
เวลา:
2014-5-20 13:08
๏ ลำดับงานด้านการศึกษา
พ.ศ.2486 เป็นกรรมการตรวจข้อสอบธรรมและบาลีสนามหลวง
พ.ศ.2488 เป็นอาจารย์สอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดพระสิงห์และวัดพันอ้น จังหวัดเชียงใหม่
พ.ศ.2490 เป็นพระอาจารย์สอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
พ.ศ.2495-2537 เป็นเลขานุการแม่กองบาลีสนามหลวง
โดย:
kit007
เวลา:
2014-5-20 13:08
๏ ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์
พ.ศ.2489 เป็นเลขานุการคณะกรรมการสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่
พ.ศ.2496-2516 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
พ.ศ.2505 เป็นผู้รักษาการเจ้าคณะอำเภอบางเขน และเป็นพระอุปัชฌาย์วิสามัญ
พ.ศ.2507-2508 เป็นรองเจ้าคณะภาค 11
พ.ศ.2508-2516 เป็นเจ้าคณะภาค 11
พ.ศ.2516 เป็นเจ้าคณะภาค 5
พ.ศ.2516-2537 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวานาราม
พ.ศ.2537-2538 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
พ.ศ.2538 เป็นเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
พระพรหมจริยาจารย์ (สมุท รชตวณฺโณ)
โดย:
kit007
เวลา:
2014-5-20 13:08
๏ ลำดับสมณศักดิ์
พ.ศ.2493 เป็นพระครูปลัดสัมพิพัฒนสุตาจารย์ ฐานานุกรมในสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ปลด กิตฺติโสภโณ ป.ธ.9)
พ.ศ.2496 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระอมรเมธี
พ.ศ.2501 เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชกิตติเวที
พ.ศ.2506 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพกิตติเวที
พ.ศ.2517 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ในราชทินนามที่ พระธรรมกิตติโสภณ
พ.ศ.2533 ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็นรองสมเด็จพระราชาคณะชั้นหิรัญบัฏ ในราชทินนามที่ พระพรหมจริยาจารย์
โดย:
kit007
เวลา:
2014-5-20 13:09
๏ งานด้านกวีนิพนธ์
พระพรหมจริยาจารย์ (สมุท รชตวณฺโณ) ฉายแววอัจฉริยะในด้านกวีนิพนธ์ จนได้รับการยกย่องเป็น
“รัตนกวี”
รูปหนึ่งของวงการคณะสงฆ์ไทยและชาวพุทธทั่วไป ด้วยมีผลงานร้อยกรอง กาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ที่รวมบทกวีตีพิมพ์ออกมา อาทิ คาถาพระธรรมบทคำกลอน เบญจมราชาสดุดี เบญจวรรณ (รวมบทกวี กาพย์เห่เรือ กลอน โคลง และฉันท์) เป็นต้น ในโอกาสสำคัญต่างๆ ท่านได้รับมอบหมายจากมหาเถรสมาคมให้เป็นผู้แต่งคำฉันท์ต่างๆ อาทิ
- แต่งบทประพันธ์อาเศียรวาทราชสดุดี ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ พ.ศ.2526
- แต่งบทประพันธ์อาเศียรวาทรัชมังคลาภิเษกสมโภช เนื่องในพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก พ.ศ.2531
- แต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์ กลอนสุภาพ ในพระราชพิธี พิธีสำคัญ หรือโอกาสสำคัญ ตามที่มหาเถรสมาคมมอบหมาย
- แต่งคำฉันท์สดุดี สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส พ.ศ.2533
- แต่งคำฉันท์สดุดี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) เนื่องในมงคลวโรกาสเจริญพระชนมายุ 80 พรรษา พ.ศ.2536
- แต่งคำฉันท์สดุดี พระธรรมิกมหาราชากาญจนาภิเษก เนื่องในการพระราชพิธีกาญจนาภิเษก พ.ศ.2539
- แต่งกาพย์ถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2542
อนึ่ง เมื่อปี พ.ศ.2533 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดท่าสุทธาวาส บ้านบางเสด็จ ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง พระพรหมจริยาจารย์ได้แต่งคำประพันธ์กาพย์เห่เรือ และจัดแห่เรือถวาย
โดย:
kit007
เวลา:
2014-5-20 13:09
สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณ สุวณฺณโชโต)
๏ เป็นสหชาติกับสมเด็จพระพุทธชินวงศ์
วันเดือนปีเกิดของ
พระพรหมจริยาจารย์ (สมุท รชตวณฺโณ)
นั้น ตรงกันกับวันเดือนปีเกิดของ
พระเดชพระคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณ สุวณฺณโชโต)
อดีตเจ้าอาวาสหรืออธิบดีสงฆ์วัดเบญจมบพิตรฯ รูปที่ 3 สมเด็จพระพุทธชินวงศ์กับพระพรหมจริยาจารย์จึงเป็นสหชาติคือเกิดพร้อมกัน ตลอดจนยังได้มาอยู่วัดเดียวกันด้วยคือวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม การศึกษาก็จบ ป.ธ.7 เหมือนกันอีก
โดยขณะที่สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรฯ พระพรหมจริยาจารย์ก็ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าอาวาส สนองงานสมเด็จพระพุทธชินวงศ์อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ครั้นเมื่อสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ได้ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ.2537 พระพรหมจริยาจารย์จึงได้รับบัญชาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสหรืออธิบดีสงฆ์วัดเบญจมบพิตรฯ เป็นรูปที่ 4 มาตั้งแต่บัดนั้น นับว่าเป็นที่น่าอัศจรรย์
โดย:
kit007
เวลา:
2014-5-20 13:10
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน)
๏ สนับสนุนโครงการปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน
นอกจากนี้ พระพรหมจริยาจารย์ได้ให้การสนับสนุนโครงการปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน วัดเบญจมบพิตรฯ ได้ถือเป็นนโยบายหลัก เพราะคู่กับคันถธุระตามหลักฐานพระบาลีที่มีมา และทางวัดได้จัดให้มีกิจกรรมอบรมจิตตภาวนา ทุกวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาได้ต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อพัฒนาจิตใจในการทำงาน และสร้างสมรรถนะจิตใจให้มีความเข้มแข็งและมีคุณค่าสูงขึ้นดีงามต่อไป
ผู้สร้างความดีไว้ในแหล่งหล้า
บุญย่อมพาใจเพลินเจริญศรี
ย่อมเพลิดเพลินคราตายวายชีวี
ทั้งโลกนี้โลกหน้าบุญพาเพลิน
ย่อมเพลิดเพลินว่าฉันสรรค์กุศล
จึงได้ดลแดนสวรรค์น่าสรรเสริญ
ผลของบุญกูลเกื้อดีเหลือเกิน
ให้จำเริญเพลินจิตนิจนิรันดร์
ด้วยภาระหน้าที่อธิบดีสงฆ์วัดเบญจมบพิตรฯ, เจ้าคณะใหญ่หนใต้, กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.), ประธานกรรมการที่ปรึกษาพระธรรมจาริก และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดเบญจมบพิตรฯ พระพรหมจริยาจารย์ได้ทุ่มเทอุทิศงานสนองพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ไทย จวบกระทั่งถึงวาระสุดท้ายที่ท่านเจ้าคุณได้ละสังขารจากไปอย่างสงบ เหลือทิ้งไว้แต่ผลงานอันทรงคุณค่าที่อุทิศให้แด่พระพุทธศาสนา เป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำไว้เบื้องหลัง ชีวประวัติของท่านนับว่าสวยงาม ควรแก่การศึกษาและสักการบูชาเป็นอย่างยิ่ง
โดย:
kit007
เวลา:
2014-5-20 13:12
พระอุโบสถ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
๏ การมรณภาพ
“โอ้กายนี้ ไม่นาน วิญญาณจาก
ต้องทิ้งซาก นอนทับ กับดินหนอ
ดั่งท่อนไม้ ไร้ค่า ล้มคาตอ
ทิ้งท่อนรอ ปลวกไฟ อยู่ในดง”
เป็นคติธรรมคำกลอนที่ประพันธ์โดยท่านเจ้าคุณพระพรหมจริยาจารย์ อันสะท้อนถึงความจริงแห่งชีวิตอย่างยิ่ง
บัดนี้ พระพรหมจริยาจารย์ (สมุท รชตวณฺโณ) ได้ถึงแก่มรณภาพ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อเวลา 20.10 นาฬิกา ของคืนอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2549 ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว สิริรวมอายุได้ 86 พรรษา 66 ภายหลังเข้ารับการผ่าตัดก้อนนิ่วจากคณะแพทย์ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ท่านเจ้าคุณมีอาการอาพาธเป็นประจำ ต้องเดินทางเข้าออกรับการรักษาจากโรงพยาบาลเป็นประจำ และก่อนหน้านี้ยังเคยเข้ารับการผ่าตัดลำไส้ ต่อมาในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2549 ท่านเจ้าคุณมีอาการท้องเสีย แต่ถ่ายปัสสาวะไม่ได้ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียมาก คณะศิษยานุศิษย์จึงได้นำท่านเจ้าคุณส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อรับการรักษาอาการด้วยการผ่าตัด แต่สุดท้ายไม่สามารถยื้ออาการไว้ได้เป็นผลสำเร็จ ท่านเจ้าคุณจึงได้ละสังขารจากไปอย่างสงบ ท่ามกลางความเศร้าสลดอาลัยของบรรดาคณะสงฆ์วัดเบญจมบพิตรฯ คณะศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง
ซ้าย : รูปหล่อสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สุวรรณ สุวณฺณโชโต) อดีตเจ้าอาวาส รูปที่ 3
ขวา : พระรูปหล่อสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ)
ประดิษฐาน ณ พิพิธภัณฑ์พระอนุสรณ์ อปก. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
.............................................................
♥ รวบรวมและเรียบเรียงมาจาก ::
หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้า 1 คอลัมน์ มงคลข่าวสด
วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5890
และข่าวประจำวันจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด
............................................................
ที่มา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=22288
โดย:
oustayutt
เวลา:
2014-5-25 19:02
กราบท่านครับ
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2