Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
ความหมายของ ธูป เทียน ดอกไม้
[สั่งพิมพ์]
โดย:
kit007
เวลา:
2014-5-14 07:34
ชื่อกระทู้:
ความหมายของ ธูป เทียน ดอกไม้
ความหมายของ ธูป เทียน ดอกไม้
เครื่องบูชาสักการะพระรัตนตรัยที่ชาวพุทธทั้งหลายได้เอามาบูชานั้น ล้วนแต่มีความหมายและแฝงไว้ซึ่งปรัชญา แต่ชาวพุทธอีกจำนวนมากไม่ทราบเลยว่า ทำไมจึงต้องมีสิ่งเหล่านี้ และมีไว้เพื่ออะไร ดังนั้น ผู้เขียนจึงขอเข้าเรื่อง
“ความหมายเครื่องบูชาบนโต๊ะหมู่”
เพื่อความเข้าใจอันดีและถูกต้องตามความหมาย จึงใคร่ขอนำมาเสนอแนะดังต่อไปนี้
ธูป
สำหรับบูชาพระพุทธเจ้า นิยมจุดครั้งละ ๓ ดอก หมายความว่า พระพุทธเจ้าของเราทั้งหลายนั้น พระองค์มีพระคุณมากมายสุดที่พรรณนาได้ แต่เมื่อจะย่อลงให้น้อยที่สุดก็เหลือเพียง ๓ ประการ คือ
๑. พระปัญญาคุณ
๒. พระบริสุทธิคุณ
๓. พระมหากรุณาธิคุณ
ธูปที่บูชาบนโต๊ะหมู่ จึงหมายถึงพระคุณทั้ง ๓ ประการนี้ บรรดากลิ่นหอมทั้งหลายที่มีอยู่ในโลก ส่วนใหญ่เป็นกลิ่นที่ยั่วยุกามารมณ์ให้กำเริบ กลิ่นธูปเป็นกลิ่นที่น่าอัศจรรย์ คือเป็นกลิ่นหอมและกลิ่นอันสามารถทำจิตใจให้สงบได้ แต่กลิ่นของศีลนั้น พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า เป็นกลิ่นที่ทวนลมและเป็นกลิ่นตามลม ที่เหล่าเทพยดาทั้งหลายทรงสรรเสริญและยกย่อง แม้พระองค์ทรงเสด็จดับขันธปรินิพพานไปนานกว่า ๒,๕๐๐ ปีเศษ กลิ่นแห่งศีลของพระองค์ก็ยังตรึงใจของเหล่าชาวพุทธอยู่ตลอดเวลา
โดย:
kit007
เวลา:
2014-5-14 07:35
เทียน
เทียนที่นิยมใช้จุดบูชานั้น มี ๒ เล่ม เป็นอย่างน้อย หมายความว่า บรรดาคำสอนที่เป็น
“สัตถุศาสน์”
คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อแยกประเภทออกแล้วมีอยู่ ๒ ประเภทด้วยกัน คือ
๑. พระวินัย สำหรับฝึกหัดกาย วาจา ให้เรียบร้อย
๒. พระธรรม สำหรับฝึกใจให้สงบเพื่อจะได้พบความสุข
ดังนั้น เทียน ๒ เล่ม จึงเป็นเครื่องหมายถึงพระธรรมวินัย หรือที่เราเข้าใจกันว่า ศีลธรรมนั่นเอง จะเป็นศีล ๕, ศีล ๘, ศีล ๑๐, ศีล ๒๒๗, ศีล ๓๑๑ ก็ตาม ล้วนแต่อยู่ในความหมายนี้ และอีกอย่างหนึ่ง เทียนนี้ท่านผู้รู้ได้เปรียบเหมือนมารดาและบิดาผู้ให้กำเนิดแก่บุตรธิดา เพราะเทียนนั้นเมื่อจุดแล้วให้แสงสว่างแก่ผู้จุด แต่เทียนนั้นก็ค่อย ๆ หมดไปเหมือนมารดาและบิดาผู้เลี้ยงดูบุตรธิดาให้เติบโต และให้ได้รับการศึกษาวิชาความต่าง ๆ ส่วนสภาพ ร่างกายนั้นก็เหี่ยวแห้งลงตามลำดับ ฉันใด เทียนที่จุดแล้วให้ความแสงสว่าง และตัวเองก็ค่อย ๆ หมดไปฉันนั้น
พระธรรมไม่ว่าจะเป็นธรรมขั้นพื้นฐาน ขั้นกลาง หรือขั้นสูงสุด ก็รวมอยู่ในความหมายนี้เช่นกัน ผู้ที่จุดเทียนในที่มืดไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตาม ย่อมจะทำที่นั้นให้สว่าง สามารถมองเห็นทางเดินได้อย่างชัดเจน ฉันใด พระธรรมและพระวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ฉันนั้น ผู้ใดทำให้เกิดมีขึ้นในใจมากเท่าใด ก็จะเป็นแสงประทีปนำทางของผู้นั้นให้ได้พบความสว่างและความสงบ มีปัญญาเฉลียวฉลาดอย่างที่ไม่เคยมีปัญญาใด ๆ ในโลกจะมาเทียบได้
ดังนั้น การบูชาทุกครั้งจึงต้องจุดเทียนก่อนเสมอ เพื่อแสดงให้เห็นว่าศีลทุกคนจะต้องรักษาเพื่อดัด กาย วาจา ของตนให้ละเอียดประณีตขึ้น และธรรมทุกคนจะต้องประพฤติเพื่อความอยู่เป็นสุขใจสังคมมนุษย์ อย่างน้อยที่สุดต้องมีความรักความเอ็นดู ความสงสาร และการไม่เบียดเบียนกันและกัน โลกจึงจะสงบสุข พบกับสันติภาพ
โดย:
kit007
เวลา:
2014-5-14 07:37
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kit007 เมื่อ 2014-5-14 07:38
ดอกไม้
การนำดอกไม้มาบูชานั้นมีความหมายว่า อันธรรมดาว่าดอกไม้นานาพันธุ์ที่เกิดอยู่ตามธรรมชาติ ย่อมมีความสวยงามตามสมควรแก่สภาพของมัน แต่พอบุคคลนำมากองไว้ปะปนกัน โดยมิได้จัดให้มีระเบียบ ย่อมไม่สวยงามไม่น่าดูไม่น่าชม แต่ถ้านายมาลาการคือช่างดอกไม้ นำมาร้อยจัดสรรให้เป็นระเบียบเสียบไว้ในแจกัน หรือใส่พานประดับแต่งให้มีระเบียบแล้ว ย่อมจะแลดูสวยงาม น่าดู น่าชม ข้อนี้ฉันใด เหล่าพระสงฆ์สาวกของพระพุทธองค์ คราวที่ท่านอยู่ครองฆราวาส มีกิริยามารยาท ทางกาย วาจาและใจงามเหมาะสมตามควรแก่ตระกูลของตน หยาบบ้าง ประณีตบ้าง ละเอียดบ้างอันไม่เท่ากัน แบ่งชั้นวรรณะกันไปตามตระกูลวงศ์ มีอัธยาศัยต่าง ๆ กันไป เมื่อมีศรัทธาเลื่อมใสเข้ามาบวชรวมกันอยู่ ถ้าไม่มีระเบียบข้อวัตรปฏิบัติให้เป็นอันเดียวกันก็ไม่ต่างอะไรกับดอกไม้ที่ นำมากองไว้ ไม่มีระเบียบ ไม่น่าเลื่อมใส ไม่น่าเคารพบูชาแก่ผู้ที่พบเห็น ครั้นพระพุทธเจ้าผู้เป็นเสมือนนายช่างดอกไม้ผู้ฉลาด พระองค์ได้ทรงวางระเบียบปฏิบัติคือ พระธรรมและพระวินัยไว้เป็นแบบแผนปฏิบัติ จัดสรรพระสงฆ์สาวกเหล่านั้น ให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในระเบียบเดียวกัน จึงเกิดมีระเบียบเรียบร้อย น่าเคารพ น่าเลื่อมใสศรัทธาแก่บรรดาผู้ที่ได้พบเห็นฉันนั้น
ดอกไม้ที่เลือกสรรมาบูชานั้น ชาวพุทธส่วนมากนิยมนำดอกไม้ที่มีคุณลักษณะที่ดีงามมาบูชา คือ
เป็นดอกไม้ที่กำลังแรกแย้ม มีกลิ่นหอม และมีสีสวยสด
ไม่นิยมนำดอกไม้เหี่ยวแห้งมาบูชาหรือดอกไม้ ที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ เช่นดอกไม้ที่ทำด้วยพลาสติกเป็นต้น เพราะเชื่อกันว่าผู้บูชาด้วยดอกไม้ที่มีสีสวยมีกลิ่นหอม และเป็นดอกไม้แรกแย้มแล้ว เมื่อคราวจะได้อะไร ก็จะได้แต่ของที่ใหม่สดเสมอ ไม่เป็นมือสองรองจากใคร ดุจตาชูชกผู้มีอายุแก่คราวปู่ได้นางอมิตตา ซึ่งเป็นสาวแรกรุ่นมาเป็นเมีย ส่วนผู้ที่บูชาด้วยดอกไม้ ที่เหี่ยวแห้ง เช่นดอกไม้ที่ทำด้วยสิ่งประดิษฐ์ด้วยพลาสติก อาจมีสีสวยแต่ไม่มีกลิ่นหอม เข้าทำนองที่ว่าสวยแต่รูปจูบไม่หอม ผู้นั้นเวลาจะได้อะไรก็มักจะได้ของที่ไม่ดี ไม่สวยเป็นที่พอใจ ตัวอย่างนางอมิตตาได้ตาชูชก ซึ่งแก่คราวปู่มาเป็นสามี
อย่างไรก็ตาม การบูชาด้วยดอกไม้นั้นนิยมนำดอกบัวตูมมาถวายพระหรือบูชาพระ เพราะลักษณะคล้ายรูปหัวใจ มีความหมายว่า ดอกบัวนั้น มีถิ่นกำเนิดในเปลือกตมไม่สะอาดแต่พอพ้นน้ำแล้วบาน สะพรั่งสวยงามเปรียบได้กับพระสงฆ์สาวกที่ออกจากเปลือกตม คือ กิเลส เบ่งบานด้วยรสพระธรรม ตัดความอาลัยคือ กามคุณห้าได้แล้ว เป็นพระอริยบุคคล
(การบูชาด้วยดอกบัวนั้น จะให้มีความหมายที่ถูกต้องแล้วต้องบูชาให้ครบ ๘ ดอก ซึ่งหมายถึง พระอริยบุคคล ๘ จำพวก มีพระโสดาบันเป็นต้น)
สรุปได้ความว่า ธูป ๓ ดอกที่จุดบูชานั้น หมายถึง พระพุทธคุณทั้ง ๓ ประการ คือ
๑. พระปัญญาคุณ (ปัญญารู้แจ้งเห็นจริงด้วยพระองค์เองโดยไม่มีใครสอน)
๒. พระบริสุทธิคุณ (ความบริสุทธิ์หมดจด สิ้นราคะ โทสะ และโมหะ)
๓. พระมหากรุณาธิคุณ (มีเมตตาสอนผู้อื่นให้รู้แจ้งตามความเป็นจริง)
เทียน ๒ เล่ม
หมายถึง จุดเพื่อบูชาคุณของศีลและธรรม ซึ่งเป็นคำสอนของพระบรมศาสดาที่พระองค์ทรงค้นพบด้วยปัญญาของพระองค์เอง
๑. เทียนเล่มซ้ายมือผู้จุด หมายถึง พระวินัยคือศีลทั้งหมด
๒. เทียนเล่มขวามือผู้จุด หมายถึง พระธรรมที่พระองค์ทรงค้นพบแล้ว
ทรงสั่งสอนหมู่มนุษย์และเทวดาให้มีจิตใจอ่อนโยน
เวลาจุดเทียนต้องจุดเล่มซ้ายมือของเราก่อน เพราะหมายถึงศีลซึ่งกำจัดกิเลสอย่างหยาบ ปรกติเมื่อจะทำบุญใด ๆ (ทำความดี) ก็ตามจะต้องรับศีล
การจุดเทียนเล่มขวามือของเรานั้น หมายถึง พระธรรมอันเป็นเครื่องกำจัดกิเลสอย่างละเอียด และรักษาผู้ประพฤติปฏิบัติธรรมมิให้ตกไปทางที่ชั่ว
ดอกไม้ที่นำมาบูชาพระบนโต๊ะหมู่นั้น หมายถึง พระสงฆ์ที่ท่านออกจากบ้านเรือนมาบวชแล้วตั้งอยู่ในศีลธรรม ทั้งที่เป็นพระอริยสงฆ์ และพระกัลยาณะ สมมติสงฆ์ เมื่อเราทราบความหมายดังนี้แล้ว จึงควรที่เราทั้งหลายมาช่วยกันรักษาและกราบไหว้ให้ถูกต้อง และสั่งสอนบุตรหลานทั้งหลายให้เขาเข้าใจในความหมายเหล่านี้ เมื่อเขาเข้าใจดีแล้วก็จะได้สืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้ยาวนานสืบต่อไป
กราบขอบพระคุณที่มา ::
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=12412
ขอบคุณที่มา ::
http://www.cosmicnirvana.com/home/modul ... php?id=360
http://www.watgiessen.com/index.php?lay ... 93&Ntype=6
...........................................................................................
ที่มา
http://www.dhammajak.net/forums/viewforum.php?f=23
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2